ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 275 เรื่องที่ไม่อาจพูดได้
“อาจารย์อาหลงหมายความว่าเนี่ยชางก่อเรื่องมากมายเช่นนี้ก็เพื่อครอบครองตำแหน่งท่านมหาเทพอีกครั้ง?” ชายแก่ถามด้วยความกังวล “เขายึดครองโลกสวรรค์ไปแล้วหรือไม่ แล้วจะลงมือกับโลกมนุษย์อีกครั้งหรือไม่”
“เขาไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้ง” หลงฉางมองอาจารย์ของตน เว้นเสียแต่เขาอยากไปเกิดใหม่อีกรอบ “อีกทั้งคิดจะยึดครองสวรรค์อีกสามทิศไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องนี้เป็นเรื่องของโลกสวรรค์ไม่เกี่ยวกับโลกมนุษย์และยมโลก แล้วแต่พวกเขาจะทำอะไรกัน”
“เอ๊ะ?” ชายแก่ผงะ ก่อนจะถาม “อาจารย์อาหยวนเป็นคนของบูรพาสวรรค์ไม่ใช่หรือ อาจารย์อาหลงไม่คิดจะช่วยพวกเขา?”
หลงฉางขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดขึ้น “นี่เป็นการตัดสินใจของพวกเขาเอง ตั้งแต่พวกเขาเข้าร่วมบูรพาสวรรค์ก็ควรเตรียมตัวเผชิญหน้ากับสงครามในครั้งนี้ ผลจะเป็นอย่างไรก็เป็นสิ่งที่เกิดการตัดสินใจของพวกเขาเลือก ข้าจะไปแทรกแซงทำไม”
ชายแก่ผงะ ถึงจะรู้สึกไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่เขาพูดก็มีเหตุผล
อวิ๋นเจี่ยวพูดเบี่ยงเบนประเด็น “อาจารย์อาหลง ข้ามีข้อสงสัย ตอนนั้นลั่วคายหยวนถูกส่งไปยังหนองน้ำใต้หุบเหวได้อย่างไร” ถึงเขาบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ข่ายพลังในเมืองหลวงซิวหลิงนางเป็นคนเดินทางไปวางเอง อีกทั้งสำนักเทียนซือและราชาซิวหลิงล้วนเคยไปตรวจดู ไม่ควรมีปัญหาถึงจะถูก ทำไมถึงเกิดการส่งผิดที่
อีกทั้งทำไมถึงเป็นลั่วคายหยวนของเมืองหมิ่นเฟิน แต่ไม่ใช่คนอื่น ตอนแรกนางคิดว่าหวาซูต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสองโลก อีกทั้งตอนที่ท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ดับสูญ ยมราชทั้งเจ็ดเมืองรวมตัวกันร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสำนักเทียนซือ ความสัมพันธ์ไม่ได้ถูกทำลายได้ง่าย
แต่เมืองหมิ่นเฟินไม่ใช่ ลูกศิษย์ในเมืองหมิ่นเฟินมีอำนาจ พวกเขาไม่แทรกแซงเรื่องในเมืองผี อีกทั้งดูแลรักษายมโลกมาเป็นระยะเวลาหลายหมื่นปี สำหรับยมโลกแล้วพวกเขาคือวีรบุรุษที่ไม่อาจย่ำยีได้ ถึงแม้ราชาซิวหลิงจะรู้ว่าเรื่องนี้มีความประหลาด แต่เขาก็ไม่อาจแทรกแซงได้
หากไม่ใช่นางและชายแก่เป็นลูกศิษย์แห่งชิงหยาง อีกทั้งยังหาเศษเสี้ยววิญญาณของลั่วคายหยวนเจอ มิเช่นนั้นหลงฉางคงไม่มีทางปล่อยถังเฉินไปอย่างง่ายดาย ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีความบังเอิญเกินไป บังเอิญราวกับมีคนวางแผนเอาไว้แล้ว
แต่จากที่หลงฉางพูด เรื่องนี้หวาซูไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย หรือพูดได้ว่าการปรากฏตัวของลั่วคายหยวนเป็นสิ่งที่เขาและเนี่ยชางไม่คาดคิดมาก่อน
“นี่เป็นสาเหตุที่ข้ามา” หลงฉางสีหน้าเคร่งเครียด “เรื่องนี้บังเอิญเกินไปจนทำให้คนนึกสงสัย ศิษย์หลานเจ้าเชี่ยวชาญด้านข่ายพลัง ข่ายพลังขนส่งในเมืองหลวงซิวหลิงเป็นฝีมือของเจ้า ดังนั้นข้าอยากให้เจ้าตามข้าไปยมโลกเพื่อดูว่าข่ายพลังนั้นมีความผิดปกติหรือไม่”
“ได้” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า หากข่ายพลังเกิดปัญหา นางควรจะไปดูเสียหน่อย “ข้าจะตามท่านไปดู” พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเตรียมออกเดินทาง
ทันใดนั้นข้อมือของนางแน่นขึ้น เยี่ยยวนที่นั่งอยู่ด้านข้างดึงมือของนางเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างรีบร้อน “ไม่ไป!”
“อาจารย์ปู่?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ
เยี่ยยวนกลับกระชับมือแน่นขึ้น เขาลุกขึ้นยืนและดึงนางมาไว้ข้างตัว สายตาดุจมีดกวาดมองไปยังหลงฉาง คิ้วของเขาขมวดมุ่นก่อนจะพูดย้ำอีกครั้ง “เจ้าไม่ไป!”
อวิ๋นเจี่ยวมองไปยังเขา อาจารย์ปู่ไม่เคยคัดค้านการกระทำของนาง แต่ก่อนอย่างมากแค่ขนมพกพาไปมากพอ แต่การห้ามปรามอย่างวันนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก “ทำไม”
เยี่ยยวนขมวดคิ้วมุ่นขึ้น สีหน้าเรียบเฉยของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกระวนกระวาย เขาเงียบลงอย่างกะทันหัน แต่สีหน้าร้อนใจของเขายิ่งมากขึ้น ก่อนจะพูดเน้นย้ำอีกครั้ง “อย่าไป!”
อวิ๋นเจี่ยวมองคนตรงหน้าอย่างฉงน ก่อนจะใจอ่อน “ได้ ไม่ไปยมโลก!” อาจารย์ปู่คัดค้านเช่นนี้ต้องมีเหตุผล นางครุ่นคิดก่อนจะหันไปมองหลงฉาง “อาจารย์อาหลง หรือไม่พวกเราไปดูข่ายพลังทางสำนักเทียนซือ ข่ายพลังตรงนั้นเชื่อมกับยมโลก บางทีอาจมีเบาะแสก็ได้”
“ก็ดี” หลงฉางพยักหน้า ดูสำนักเทียนซือก่อนก็เหมือนกัน “เช่นนั้นไปสำนักเทียนซือ”
ทั้งสองคนกำลังจะออกเดินทาง
“ไม่ได้!” เยี่ยยวนคัดค้านขึ้นมาอีกรอบ เขายังคงขวางทางของนางเอาไว้ ความกระวนกระวายบนตัวของเขาเพิ่มมากขึ้นอีกเล็กน้อย
“แต่ว่าอาจารย์ปู่…” นางคิดจะพูดด้วยเหตุผล
“ไม่ได้” นางยังพูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายออกแรงดึงนางเข้าไปในอ้อมกอดราวกับกลัวว่านางจะจากไป แขนที่กอดเอาไว้แน่นจนทำให้นางรู้สึกเจ็บ
การกระทำของเขาเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้คนที่อยู่ในห้องโถงต่างตกใจ อิ้งหลุนและชายแก่เคยชินแล้ว แต่หลงฉางเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง “อา…อาจารย์?” อาจารย์ไม่ชอบให้คนเข้าใกล้ไม่ใช่หรือ ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น
เยี่ยยวนไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร เพียงแต่พูดออกมาอย่างแน่วแน่ “ออกไป…ไม่ได้!”
อวิ๋นเจี่ยวผงะ ก่อนจะเข้าใจ ที่แท้อีกฝ่ายไม่ใช่ไม่ยอมให้นางไปยมโลก แต่ไม่ยอมให้นางออกไป แต่ว่า…
“ทำไม” นางผลักคนตรงหน้าเล็กน้อยแต่ไร้ผล จึงทำได้เพียงเอนไปด้านหลังเพื่อเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่กำลังทำสีหน้ายุ่งเหยิง สีหน้าเรียบเฉยของเขาแสดงความหงุดหงิดออกมาในเวลานี้ ดวงตาของเขาเปื้อนไปด้วยความน้อยใจและหวาดกลัว?
“อาจารย์…ปู่?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ ความรู้สึกแปลกที่สัมผัสได้จากตัวของอาจารย์ปู่ในระยะเวลานี้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง นางจับแขนของคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างกังวล ก่อนจะเปลี่ยนคำเรียก “เยี่ยยวน หลายวันนี้ท่านแปลกๆ ท่านเป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้น”
“…” เขาไม่ได้ตอบ เพียงแค่ดวงตามองตรงมายังนาง
อวิ๋นเจี่ยวยิ่งเป็นกังวลเข้าไปใหญ่ นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดอย่างใจเย็น “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้าหรือว่าเรื่องของท่าน ท่านเพียงบอกข้ามา เช่นนี้ถึงจะคิดหาทางออกได้”
สายตาที่เขามองมายังนางชะงักไป ก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าจะช่วยข้า?”
“แน่นอน” นางพยักหน้าอย่างไม่ลังเล อาจารย์ปู่ของตนเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตามใจ! “เพียงแค่ท่านพูด!”
“ได้!” ดวงตาของเขา เป็นประกายขึ้น ก่อนจะกระชับมือแน่นอีกเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดออกมา “เจ้านอนกับข้า!”
พู่…
ทันทีที่เขาพูดจบ ชายแก่ที่อยู่ด้านข้างพ่นน้ำชาออกมาทันที น้ำชาที่พ่นออกมาสาดเข้าที่หน้าของหลงฉางเต็มๆ
แต่คนที่รักความสะอาดแม้แต่หลบยังไม่หลบไม่ทัน เขากระแอมไอออกมาอย่างรุนแรง
ชายแก่ “…”
หลงฉาง “…”
อิ้งหลุน “…”
อวิ๋นเจี่ยว “…”
เมื่อครู่พวกเขา…ได้ยินอะไร?!