ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 277 อาจารย์อามาเชิญ
อวิ๋นเจี่ยวไม่คาดคิดว่าอาจารย์ปู่จะเข้าสู่ช่วงแห่งการนิทราอย่างกะทันหันเช่นนี้ อีกทั้งเวลาตื่นยังไม่แน่นอน ทันใดนั้นนางรู้สึกว่าแผนการจำนวนมากล้วนถูกจำกัดเอาไว้ แต่ก่อนมีอาจารย์ปู่อยู่ ถึงแม้เขาจะไม่ยุ่งเรื่องของเสวียนเหมิน แต่เพียงแค่เขาอยู่ในชิงหยางก็เปรียบเสมือนว่ามีเสาค้ำทะเล ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็รู้สึกมีความมั่นใจอย่างประหลาด แต่ตอนนี้เขาหลับแล้ว อวิ๋นเจี่ยวนอกจากรู้สึกใจแป้วแล้ว สิ่งสำคัญคือนางต้องทำการปรับแผนการพัฒนาของเสวียนเหมินใหม่ด้วย
ความจริงแล้วนางแอบหวั่นไหวเล็กน้อยกับคำขอนอนเป็นเพื่อนของอาจารย์ปู่ ตัวนางไม่ใช่คนบนโลกนี้แต่เดิม ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนับร้อยพันปี สำหรับนางแล้วก็เป็นเพียงการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่อีกรอบเท่านั้น
แต่ว่าในฐานะมนุษย์ธรรมดาจะสามารถหลับใหลได้เป็นเวลานานเช่นนั้นได้หรือไม่ยังไม่รู้ อีกทั้งสถานการณ์เสวียนเหมินในตอนนี้ ทำให้นางไม่อาจละมือไปได้ โลกมนุษย์ย่างเข้าสู่ยุคการศึกษาแล้ว หากนางทิ้งไปตอนนี้อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดขึ้นก็ได้ นอกจากนี้ยังมีโลกสวรรค์ที่เปรียบเสมือนระเบิดตั้งเวลา ถึงจะไม่ลงมือกับโลกมนุษย์ในตอนนี้ แต่ไม่มีใครสามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะไม่ลงมือเมื่อสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของเสวียนเหมิน
ดังนั้นเมื่อนางคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ อวิ๋นเจี่ยวจึงปฏิเสธอาจารย์ปู่ นอกจากนี้นางยังหารือกับหลงฉางให้ปิดบังเรื่องการนิทราของอาจารย์ปู่เอาไว้ มีแค่พวกเขารู้ก็เพียงพอ แม้แต่หยวนเจียงยังไม่ต้องบอก ส่วนทางเสวียนเหมินทุกคนไม่รู้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
อวิ๋นเจี่ยวกลับเข้าสู่โหมดทำงานเพื่อให้เสวียนเหมินพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ก่อนอื่นนางร่วมมือกับอาจารย์ห้องเรียนหลอมอาวุธในโรงเรียน ปรับปรุงแก้ไขแท่นหลอมอาวุธให้สมบูรณ์มากขึ้น พร้อมทั้งเผยแพร่ไปทั่วทั้งเสวียนเหมิน ให้เหล่าลูกศิษย์สามารถหลอมอาวุธได้ด้วยตนเอง จากนั้นนางนำเตาอบ…เอ้ย! เตาหลอมยาที่อาจารย์ปู่ไม่ได้ใช้มาไว้ในสำนักเทียนซือ เพื่อให้เหล่าผู้อาวุโสศึกษาและเลียนแบบ ปรับปรุงแก้ไขให้ง่ายต่อการใช้การมากขึ้น
เพื่อสร้างความทันสมัยแห่งเสวียนเหมิน ปลดปล่อยอิสรภาพทางอาวุธและยา พลิกผันสถานการณ์ที่อาวุธและยาหายากเหมือนเมื่อก่อน หลีกเลี่ยงบ่อเกิดแห่งความขาดแคลนทางทรัพยากร และเหตุการณ์แย่งชิงสมบัติ
ดังนั้น ลูกศิษย์เสวียนเหมินพบว่า เดิมทีอาวุธและยาวิเศษชั้นดีที่พบเจอได้ยากสามารถพบเจอได้ง่ายภายในค่ำคืนเดียว มีเงินก็ขาย ช่วงเวลาเทศกาลยังมีราคาพิเศษ อีกทั้งซื้อสองชิ้นแถมหนึ่งชิ้นอีกด้วย
ทุกคนจากความตกตะลึงในตอนแรก กลายเป็นแปลกใหม่ กลายเป็นมีทุกคน จนกระทั่ง…เคยชิน!
╮(╯▽╰)╭
เป้าหมายของอวิ๋นเจี่ยวชัดเจนอย่างมาก เพียงแค่เหล่าลูกศิษย์ตั้งใจฝึกฝน ไม่ว่าอาวุธหรือสมบัติล้วนไม่สำคัญ ภารกิจของนักเรียนคือการเรียน! พยายามพัฒนาความสามารถของตนเองก็เพียงพอแล้ว เพราะความรู้คือพลัง!
อาจเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ปัจจุบันภายในเสวียนเหมิน มีคนจำนวนน้อยมากถกเถียงเรื่องของสมบัติ อาวุธและยา พวกเขาถูกกระตุ้นพลังการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่งออกมา โดยเฉพาะลูกศิษย์ภายในโรงเรียน พวกเขาเดินนำอยู่ด้านหน้าของยุคสมัย เริ่มการคิดค้นอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังพัฒนาแท่นหลอมอาวุธและเตาหลอมยาในหลากหลายรูปแบบ
ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี เสวียนเหมินเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกดิน ทุกอย่างกำลังเป็นไปในทางที่ดี นอกจากโรงเรียนเสวียนเหมินแล้ว ด้านนอกยังเริ่มปรากฏโรงเรียนต่างๆ ขึ้นมา แน่นอนว่าคุณสมบัติของโรงเรียนและอาจารย์ต้องผ่านการตรวจสอบของสำนักเทียนซือก่อน
เวลาห้าปี แผนการสิบปีที่อวิ๋นเจี่ยววางเอาไว้สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว
ส่วนในห้าปีมานี้ โลกสวรรค์เงียบสงบอย่างเกินคาด นอกจากจะได้รับของขวัญจากอาจารย์อาหยวนแล้วก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่น ยิ่งไม่พบว่าอีกฝ่ายจะมีแผนการลับอะไร
ในขณะที่อวิ๋นเจี่ยวคิดว่าโลกสวรรค์จะเงียบสงบเช่นนี้ตลอดไป หยวนเจียงกลับปรากฏตัวขึ้นที่สำนักเทียนซือพร้อมกับใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อยและเป็นกังวลใจ
“อาจารย์อาหยวน?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ท่านมหาเทพทั้งสามของโลกสวรรค์และยมโลกเจรจากัน ห้าปีมานี้เป็นครั้งแรกที่นางพบกับหยวนเจียง ดูจากท่าทางที่คิ้วของเขาขมวดมุ่น หลายปีมานี้โลกสวรรค์คงวุ่นวายอย่างมาก
“ศิษย์หลาน!” เห็นนางเดินเข้ามา หยวนเจียงเผยสีหน้าดีใจก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้ามาหา “เจ้ามาเสียที เรื่องเกิดกะทันหัน เจ้าตามข้ากลับวังจิ่นเฉิงตอนนี้ได้หรือไม่”
“วังจิ่นเฉิง?” คือที่ไหน
“วังบูรพาสวรรค์!”
“วังสวรรค์? โลกสวรรค์!” อวิ๋นเจี่ยวตะลึง ก่อนจะเข้าใจขึ้นได้ “ท่านอยากให้ข้าขึ้นสวรรค์?!”
“ใช่!” หยวนเจียงพยักหน้า
“ทำไม” นั่นคือโลกสวรรค์นะ
สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้น มือที่วางอยู่ข้างตัวกระชับแน่น ก่อนจะพูดออกมาเสียงทุ้ม “ท่านมหาเทพป่วยหนัก!”
“ท่านมหาเทพบูรพาสวรรค์?” อวิ๋นเจี่ยวมองเขาอย่างฉงน “เขาเป็นอะไร”
“สงครามใหญ่เมื่อห้าปีก่อน ท่านมหาเทพรักษาวังสวรรค์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาศัตรูบุกโจมตีหลายครั้งทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อนแม้แต่น้อย เดิมทีท่านมหาเทพคิดว่าเป็นเพียงบาดแผลภายนอกจึงไม่ได้ใส่ใจ แต่นับวันอาการของท่านยิ่งสาหัสมากขึ้น ตอนนี้ท่านมหาเทพตกอยู่ในอาการสลบ”
“ทำไมต้องให้ข้าไป” โลกสวรรค์ไม่มีหมอหรือ ทำไมต้องมาเชิญคนในโลกมนุษย์
สีหน้าของหยวนเจียงกลับเคร่งเครียดมากขึ้น “ราชายาพยายามสุดความสามารถในการรักษาแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย อีกทั้งนับวันยิ่งสาหัสมากขึ้น พวกข้าไม่มีวิธีแล้วจึงหน้าด้านวิ่งลงมาโลกล่าง วิชาของศิษย์หลานได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์ แม้แต่ร่างทองของข้าเจ้ายังรักษาได้ เจ้าลองไปดูเสียหน่อยได้หรือไม่”
อวิ๋นเจี่ยว ขมวดคิ้วเล็กน้อย นางมองอาจารย์อาที่หน้าร้อนใจ ครุ่นคิดอยู่สักพักจึงพยักหน้า “ได้ ข้าตามท่านไปดู” ถึงแม้นางจะไม่อยากแทรกแซงเรื่องของโลกสวรรค์ แต่อันดับแรกคือนางเป็นหมอ ไม่อาจปล่อยคนไข้ไว้ได้ มิเช่นนั้นคงจะผิดต่อจรรยาบรรณในอาชีพของตนเอง
“ขอบใจศิษย์หลาน!” ดวงตาของหยวนเจียงลุกวาว ไร้ซึ่งความวิตกเหมือนก่อนหน้านี้
“ท่านอย่าเพิ่งดีใจไป ข้าไม่รับปากว่าจะรักษาได้ ทำได้แค่พยายาม” นางพูดเสริม
“ศิษย์หลานวางใจ เรื่องนี้ข้าเข้าใจ” เขาพยักหน้า
“ท่านรอเดี๋ยว ข้ากลับไปหยิบกล่องยาที่ชิงหยางก่อน” อวิ๋นเจี่ยวเดินทางกลับไปจัดเตรียมกล่องยาที่ชิงหยาง จากนั้นกำชับชายแก่ให้จุดธูปถวายอาจารย์ปู่ที่กำลังนิทราอยู่ ก่อนจะเดินทางไปหาอาจารย์อาหยวนที่สำนักเทียนซือ
อาจเป็นเพราะรีบร้อนมาก หยวนเจียงพานางขี่ดาบบินขึ้นไปบนฟ้า ไม่ถึงชั่วครู่ก็ออกจากเขตแดนของสำนักเทียนซือแล้ว
อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกถึงก้อนเมฆที่ลอยผ่านไป บริเวณรอบด้านขาวสะอาดตา จากนั้นทั้งสองคนทะลุผ่านชั้นอะไรบางอย่าง กลิ่นในอากาศที่คุ้นเคยเปลี่ยนแปลงไป นางรู้สึกได้ว่ามันคือพลังเทพ
ก้อนเมฆลอยถอยไป ภาพตรงด้านหน้าก็ปรากฏขึ้น…