ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 280 แขกมาเยือนชิงหยาง
หยวนเจียงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะอธิบายต่อ “ถึงแม้เขาจะเป็นบุตรแห่งสิงเหิง แต่เขาก็ไม่ได้ยั้งมือกับประจิมสวรรค์แม้แต่น้อย อีกทั้งยังอ้างตัวเป็นท่านมหาเทพเนี่ยชาง คิดจะรวบรวมแผ่นดินสวรรค์เป็นหนึ่งเดียว ตัดขาดความสัมพันธ์กับสิงเหิง นอกจากนี้ยังมีเหล่าเทพจำนวนไม่น้อยสนับสนุนเขา”
“ฮึ! สิงชางอาศัยโอกาสที่เหล่ามหาเทพลงมายังโลกมนุษย์ ยึดครองพื้นที่ของสวรรค์ทั้งสามทิศไปจำนวนไม่น้อย” เหวินชิงพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง “อีกทั้งยังท้าทายสวรรค์แต่ละทิศบ่อยครั้งในเวลาห้าปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นไม่น้อย หากไม่ใช่เพราะคำมั่นสัญญาร่วมมือกำจัดศัตรูระหว่างแต่ละสวรรค์ เขาคงบุกรุกเข้ายึดครองสวรรค์ทั้งหมดตั้งนานแล้ว”
หยวนเจียงถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง “เวลานี้ทักษิณสวรรค์แข็งแกร่งขึ้น สวรรค์ทั้งสามทิศจำเป็นต้องร่วมมือกัน ถึงจะสามารถรับมือไว้ได้ เพียงแต่…วิธีการนี้คงจะรับมือได้ไม่นานนัก”
“เหตุใด” อวิ๋นเจี่ยวผงะไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามขึ้น
“เฮ้อ ศิษย์หลานไม่รู้อะไร ประจิมสวรรค์และอุดรสวรรค์ไร้ยางอายอย่างมาก” เหวินชิงพูดด้วยความโมโหโกรธา
“ก่อนหน้านี้ไม่นานท่านมหาเทพประจิมสวรรค์ออกเรือนกับเทพท่านหนึ่งในอุดรสวรรค์ สวรรค์ทั้งสองฝ่ายมีท่าทีรวมเป็นหนึ่ง”
“ดังนั้น…” อวิ๋นเจี่ยวมองคนทั้งสอง “พวกท่านถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว?”
หยวนเจียงและเหวินชิงสีหน้าดำทะมึนลงทันที ก่อนจะพยักหน้าด้วยความหนักใจ “จะพูดเช่นนั้นก็ได้”
“เวลานี้ทักษิณสวรรค์จ้องพร้อมตะครุบดั่งพญาเสือ ประจิมสวรรค์และอุดรสวรรค์ร่วมมือกัน ทำให้บูรพาสวรรค์ยิ่งโดดเดี่ยวไร้พรรคพวก อีกทั้งท่านมหาเทพยัง…” หยวนเจียงไม่ได้พูดต่อไป เพียงแต่มือที่วางอยู่ข้างลำตัวกำแน่นขึ้น
ช่างเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายเสียจริง…
อวิ๋นเจี่ยวก็ไม่รู้จะพูดอะไร เธอไม่คิดว่าเวลาเพียงห้าปี แผ่นดินสวรรค์จะเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ บูรพาสวรรค์ที่สามารถรับมือกับสวรรค์ทั้งสามทิศได้ในเดิมทีกลับกลายเป็นฝ่ายที่อ่อนแอมากที่สุดในเวลานี้ ผู้นำยังอยู่ในอาการสลบไร้ทีท่าที่จะฟื้นขึ้นมา แม้แต่วิญญาณก็หายไป
“ศิษย์หลาน เจ้ามีวิธีใดที่สามารถตามหาวิญญาณของท่านมหาเทพได้อย่างรวดเร็วบ้างหรือไม่” เหวินชิงมองคนบนพื้น ก่อนจะถามด้วยความร้อนรน
อวิ๋นเจี่ยวส่ายหัว “พลังชีวิตของเขายังไม่สลายไป เวลานี้ยังคงเป็นวิญญาณคนเป็น พวกท่านจับตาดูวิญญาณเทพที่เข้าสู่ยมโลก ความจริงแล้ววิญญาณคนเป็นจะไม่ออกห่างจากร่างกายไกลมาก ไม่จำเป็นต้องใช้คาถาเรียกวิญญาณก็สามารถกลับมาได้เอง นอกจาก…เขาไม่อยากกลับมา”
หยวนเจียง: “…”
เหวินชิง: “…”
ราชายา: “…”
…
สิ่งแปลกประหลาดในร่างกายของท่านมหาเทพบูรพาสวรรค์ถูกขับออกมาแล้ว เส้นลมปราณในตัวพักฟื้นอีกสักเล็กน้อยก็จะหายดี ส่วนเรื่องวิญญาณที่หลุดออกจากร่างนั้น ไม่ใช่เรื่องที่อวิ๋นเจี่ยวสามารถแทรกแซงได้ อวิ๋นเจี่ยวกำชับข้อควรระวังอีกเล็กน้อย ก่อนจะออกเดินทางกลับชิงหยาง”
ไม่รู้ว่าอาจารย์อาหยวนต้องใช้เวลานานเพียงใดในการตามหาวิญญาณของสิงซี สถานการณ์ของบูรพาสวรรค์ไม่สู้ดีนัก เพียงแต่ความขัดแย้งของแดนสวรรค์ ไม่ใช่สิ่งที่แดนมนุษย์สามารถแทรกแซงได้”
อวิ๋นเจี่ยวคิดว่าการก่อตั้งเสวียนเหมินเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าในเวลานี้ หากแดนสวรรค์เกิดการปะทะขึ้นมา ใครจะรู้ว่าจะส่งผลกระทบต่อแดนมนุษย์หรือไม่ พวกเธอต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้า
เธอไปหาอาจารย์ปู่ที่บ้านเล็กในป้ายบูชาตามความเคยชิน อีกฝ่ายยังคงไม่มีท่าทีตื่นขึ้นมา
เธอถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนจะนำขนมที่เพิ่งอบเสร็จในมือวางลงด้านข้าง เธอมองไปยังใบหน้าที่งดงามแม้จะอยู่ในยามหลับใหล ทันใดนั้นรู้สึกใจโหวงเหวงอย่างประหลาด เธอกวาดตามองขวดโหลที่วางกองอยู่เต็มห้อง ไม่รู้ว่าอาจารย์ปู่คิดอะไรอยู่ถึงได้พกขนมเหล่านี้มาด้วยทั้งที่กินไม่ได้
อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้นั่งนาน เธอดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้คนบนเตียง ก่อนจะเดินออกจากมิติแห่งนี้ไป
สำนักการศึกษาแห่งเสวียนเหมินอยู่ในช่วงเวลาปิดเทอม เธอจึงมีเวลาพักผ่อนอย่างหาได้ยาก แต่ก่อน อาจารย์ปู่มักจะนำตำราวิชายุทธ์ออกมาให้เธอศึกษามากมาย แต่ตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ในห้วงนิทรา ในเวลานี้เธอจึงรู้สึกไม่มีอะไรจะทำ เมื่อนึกถึงหลายวันก่อนชายแก่บ่นว่าอยากกินเกาลัดคั่วน้ำตาล อีกทั้งยังบอกว่าตนเองมีฟันงอกออกมาใหม่สองซี่ รับรองว่ากัดไหว
ดังนั้นเธอจึงเดินออกไปยังหลังเขาที่มีต้นเกาลัดอยู่ แต่เมื่อเธอเห็นต้นไม่ที่สูงราวเจ็ดแปดเมตรก็ถอนหายใจออกมา เธอวางตะกร้าไม้ไผ่ลง ก่อนจะเดินไปยังหลังเขา ภายในใจกำลังครุ่นคิดหาวิธีสลัดอิ้งหลุนทิ้ง หลอกล่อเฟิงเสี่ยวหวงมา เพราะต้นไม้นั้นค่อนข้างสูง วิญญาณมังกรของเสี่ยวหวงคงจะลอยขึ้นมาได้สะดวกกว่า
แต่ทันทีที่หันหลังไป เสียงชายหนุ่มไม่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง เสียงนั้นตะโกนออกมาราวกับตั้งใจกดต่ำ “แม่หญิง…”
อวิ๋นเจี่ยวผงะ ก่อนจะหันไปมองรอบด้านอย่างรวดเร็ว “ใคร”
“แม่หญิง ทางนี้ๆ!” เสียงนั้นกดต่ำลงกว่าเดิม อีกทั้งยังเจือปนด้วยความตื่นตระหนก
อวิ๋นเจี่ยวเงยหน้าขึ้นมองตามต้นเสียง ก่อนจะพบร่างหนึ่งกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้ของตนเกาลัดด้านขวาดสุดเอาไว้ เขาเกาะกิ่งไม้ไว้แน่นราวกับหมีโคอาล่าราวกับกลัวตกลงมา ขาทั้งสองข้างสั่นเทา อีกทั้งยังกวักมือเรียกเธออย่างร้อนรน “แม่หญิง เร็ว! รีบขึ้นมาอย่าเดินเข้าไป!”
“ท่านคือ?” อวิ๋นเจี่ยวฉงน บริเวณรอบด้านของชิงหยางล้วนมีค่ายกลวางไว้ คนตรงหน้าปีนขึ้นไปบนต้นไม้โดยที่ไม่กระตุ้นค่ายกลได้อย่างไร
“ชู่…” เบาเสียงชายหนุ่มรีบทำท่าให้เธอ สีหน้าของเขาหวาดกลัวยิ่งขึ้น ก่อนจะพูดเสียงเบา “อย่าส่งเสียง! บนเขานั้นมี…มีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่! หากถูกมันพบเข้าต้องไม่รอดแน่! เร็ว รีบปีนขึ้นมา! รอฟ้ามืด พวกเราค่อยหาโอกาสหนีออกไป”
“สัตว์ประหลาด?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ เหตุใดเธอจึงไม่รู้ว่าหลังเขามีสัตว์ประหลาด อีกอย่างอิ้งหลุนยังอยู่ด้านบนไม่ใช่หรือ
เมื่อเห็นเธอยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มผู้นั้นจึงเร่งเร้ามากขึ้น “ข้าเพิ่งเดินเข้าไปในอารามแห่งนี้ พื้นที่กว้างขวางเช่นนี้ แต่ด้านในไม่มีคนแม้แต่คนเดียว ต้องถูกสัตว์ประหลาดนั้นกินลงท้องหมดแล้วเป็นแน่”
อวิ๋นเจี่ยวที่เพิ่งเดินออกมา: “…”
ถึงแม้ชายแก่จะไปสำนักเทียนซือตั้งแต่เช้า แม้จะบอกว่าไปหารือการจัดตารางเรียนเทอมหน้ากับเหล่าเจ้าสำนักสวี แต่ความจริงแล้วไม่รู้ว่าไปตรวจคำตอบหรือลอกการบ้านกันแน่ แต่เธออยู่ในอารามตลอดเวลา เหตุใดจึงบอกว่าไม่มีคนหรือว่า เขาอาศัยเวลาที่เธอไปเยี่ยมอาจารย์ปู่เข้ามา
“แม่หญิงเร็วเข้า รีบปีนขึ้นมา” ชายหนุ่มยื่นมือออกมาข้างหนึ่งจากบนต้นไม่ที่สูงหลายเมตร
“อย่าให้สัตว์ประหลาดนั้นพบพวกเรา”
อวิ๋นเจี่ยวทำหน้าระอา เขามั่นใจในความยาวแขนของตนเองเกินไปหรือ เข้าใจผิดอะไรต่อส่วนสูงของเธอกัน แต่เมื่อเธอครุ่นคิดถึงสัตว์ประหลาดที่อีกฝ่ายพูดถึง อีกทั้งมองไปยังตำแหน่งที่เขาหมอบอยู่ ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจอะไรบางอย่าง
“สัตว์ประหลาดที่ท่านพูดมีลักษณะลำตัวยาวคล้ายงู อีกทั้งยังขดตัวเหมือนยาจุดกันยุง?” เธอถาม
“เอ๊ะ? ท่านรู้ได้อย่างไร” ชายหนุ่มผงะ แต่ว่ายาจุดกันยุงคืออะไร “หรือว่าแม่หญิงก็เคยพบเห็นสัตว์ประหลาดนั้น”
“มันไม่ใช่สัตว์ประหลาด!” อวิ๋นเจี่ยวอธิบาย
“ตัว…ตัวใหญ่เช่นนั้น ยังไม่ใช่สัตว์ประหลาดอีกหรือ” เขามองเห็นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจออกมา ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกขี้เกียจขึ้นไปบนเขา เพียงแต่เลียนแบบวิธีของชายแก่ตะโกนออกมาเสียงดัง “เฟิงเสี่ยวหวง! มานี่หน่อย”
ทันทีที่สิ้นเสียง ยาจุดกันยุงที่ขดตัวอยู่บนแปลงผักขยับตัว ก่อนจะบินลงมาจากบนเขา ร่างมังกรขนาดใหญ่ปรากฏตัวอยู่ข้างตัวของอวิ๋นเจี่ยวในทันที
“ท่านหาข้าเหรอท่านเทพ! จะขนผักหรือไช่เท้าหรือผักกาดขาว” เฟิงเสี่ยวหวงคิดจะใช้หางหยิบตะกร้าใต้ต้นไม้ขึ้นมาอย่างเคยชิน
ชายหนุ่มที่อยู่บนต้นไม้ตกใจอย่างมาก “ปีศาจ!” เขากรีดร้องออกมาเสียงดัง ก่อนจะลื่นตกลงมาจากบนต้นไม้…ลงบนปลายหางของเสี่ยวหวง
แคร่ก...
เสียงบางอย่างแตกหัก ตามมาด้วยเสียงร้องโอดครวญที่ดังกึ่งก้อน
โฮ่!