ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 289 พวกเรามีเทพเจ้า
เห็นเพียงแต่สองคนที่เหลืออยู่กลางอากาศ หายตัวมาปรากฏข้างตัวของถังเฉิน ในขณะเดียวกันมือทั้งสองข้างปิดผนึก ก่อนที่คาถาหนึ่งจะถูกส่งลงไปภายในหมอกสีฟ้าด้านล่าง
นาทีถัดมา แสงสีขาวของค่ายกลข่ายใหญ่พุ่งทะยานขึ้น ขับไล่หมอกสีฟ้าด้านล่างให้กระจายตัวออกไป พร้อมกับปกคลุมไปยังเหล่าเทพเซียนทั้งหลายของสวรรค์ทั้งสอง ทุกคนรู้สึกเพียงเหมือนถูกสะกดร่างเอาไว้ จากนั้นแสงสีแดงในค่ายกลสว่างขึ้น ทะเลเพลิงขนาดใหญ่พุ่งขึ้นฟ้าพร้อมกับมีดคมทั่วท้องฟ้า
หยวนฉานผงะไป นี่คือ…วิชาเวทที่เขาใช้เมื่อครู่นี้! เพียงแต่แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้นับหลายเท่า ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที ลูกศิษย์เสวียนเหมินผู้นี้จงใจ อีกฝ่ายไม่ได้รับกระบวนท่าวิชาเวทของตนไม่ได้ แต่ที่แสดงออกมาเพียงเพื่อควบคุมเขาเอาไว้ ยื้อเวลาในการวางค่ายกล ส่วนเหล่าคนที่ได้รับบาดเจ็บและร่วงลงไปนั้น…
หางตาของเขาเหลือบมองลงไปด้านล่าง ก่อนที่จะพบว่าเหล่าคนที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านั้นกำลังยืนอยู่ข้างค่ายกล พวกเขาไม่ได้ตาย แต่กำลังวางค่ายกลทั้งที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงเส้นลมปราณแตกสลาย
ค่ายกลนี้คือ…ค่ายกลย้อนกลับ?!
ดูดกลืนการจู่โจมของเขาเมื่อครู่นี้ไปจนหมด อีกทั้งยังย้อนกลับมาจู่โจมพวกเขาด้วยกำลังสิบเท่า ไม่! ร้อยเท่า?! นี่…นี่มันคือค่ายกลย้อนกลับอะไรกัน?!
ในเวลานี้ หยวนฉานเพิ่งเข้าใจ แต่เสียดายที่สายเกินไป ตัวของเขาตกอยู่ใจกลางค่ายกลเสียแล้ว เพียงชั่วเวลาหนึ่ง เขาก็ถูกวิชาเวทที่ตนเองภาคภูมิใจเผาไหม้จนไม่เหลือแม้แต่เศษซาก อีกทั้งยังไม่เพียงเท่านี้ ขอบเขตของค่ายกลกว้างใหญ่มาก แม้แต่ท่านมหาเทพทั้งสองฝ่ายที่กำลังมุงดูสงครามก็ถูกกักขังไว้ภายในค่ายกล ทะเลเพลิงและฝนมีดที่โหมกระหน่ำล้วนพัดพาไปทางพวกเขา
เหล่าเทพเซียนทั้งหลายกลางท้องฟ้าถูกจู่โจมทั้งที่ยังไม่ทันได้วิ่งหนี ทันใดนั้นเสียงร้องโอดครวญดังขึ้นทุกทิศทั่วทาง เหล่าเทพเซียนทั้งหลายถูกกลืนกินไปโดยตรง
ถังเฉินโล่งอกเมื่อค่ายกลสำเร็จ!
ตั้งแต่คนของแดนสวรรค์ปรากฏตัว พวกเขาต่างรู้ดีว่ากำลังของพวกเขาไม่อาจเอาชนะเหล่าเทพเซียนจำนวนมากเช่นนี้ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงวางค่ายกล ส่วนค่ายกลย้อนกลับเป็นเพียงค่ายกลหนึ่งเดียวที่มีโอกาสชนะได้
ดังนั้นในขณะที่ท่านมหาเทพอุดรสวรรค์ส่งท่านเซียนผู้นั้นออกมา เขาจึงมีแผนการปรากฏขึ้นในใจ แต่แผนการเช่นนี้ไม่อาจพูดออกมาได้โดยตรง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงพูดในกระจกพันลี้ “ข้อสอบ!”
โชคดีที่ท่านอาวุโสเหล่านี้ล้วนได้ผ่านการสอบเป็นอาจารย์แล้วทั้งสิ้น ข้อสอบสำคัญของสำนักการศึกษาแห่งเสวียนเหมินคือค่ายกลย้อนกลับที่ใช้ในการกำจัดมังกรหินเมื่อห้าปีก่อน เพียงชั่วพริบตาทุกคนล้วนเข้าใจความหมายของเขา
ทุกคนต่างแสร้งทำเป็นพ่ายแพ้ให้กับศัตรูแล้วตกสู่ใจกลางหมอกสีฟ้า พลางวางค่ายกลย้อนกลับ รอได้รับสัญญาณจากเขา ถึงแม้จะตกลงสู่หมอกสีฟ้าอาจทำให้เส้นลมปราณแตกได้ แต่เพื่อประชาชนภายในเมืองอี้ คุ้มค่าแล้ว!
ทะเลเพลิงและมีดคมในค่ายกลย้อนกลับโหมกระหน่ำราวหนึ่งเค่อจึงหยุดลง แสงเปลวเพลิงทั่วทั้งท้องฟ้าค่อยๆ ถดถอยลงไป เหล่าเทพเซียนที่ยืนอยู่ทั่วทั้งท้องฟ้าร่วงหล่นลงจนไม่เหลือ
ในเวลานี้คนบนท้องฟ้าทั้งสามถึงได้โล่งใจ ในขณะที่กำลังจะใช้โอกาสที่หมอกสีฟ้ากระจายตัวออกไปลงไปช่วยท่านอาวุโสที่อยู่ด้านล่าง ทันใดนั้นมีสายฟ้าสีม่วงพุ่งตรงมายังพวกเขา
“เฉินเอ๋อร์ระวัง!” ถังอี้ผลักถังเฉินที่อยู่ด้านข้างออกไปอย่างไม่คิด
นาทีถัดมา สายฟ้านั้นผ่าเข้าที่ร่างของถังอี้และท่านอาวุโสอีกผู้หนึ่ง
“ท่านพ่อ!” ถังเฉินคิดจะหันกลับไปช่วยคน แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว ทั้งสองคนร่วงลงไปทางด้านล่างโดยตรง
“ร้ายกาจ มนุษย์ต่ำต้อยอย่างพวกเจ้าบังอาจทำให้แดนสวรรค์สูญเสียเหล่าเทพเซียนจำนวนมากเช่นนี้” น้ำเสียงโกรธเคืองของสิงเย่ส่งมาจากกลางอากาศ
ทะเลเพลิงกลางอากาศสลายหายไป แต่ด้านในยังคงมีร่างสองร่างยืนอยู่ ซึ่งก็คือท่านมหาเทพอุดรสวรรค์และท่านมหาเทพประจิมสวรรค์ ค่ายกลย้อนกลับถึงจะมีกำลังมาก แต่มันก็ดูดกลืนไปเพียงการโจมตีของหยวนฉาน มันอาจมีผลต่อเทพเซียนคนอื่น แต่ไม่อาจทำร้ายท่านมหาเทพผู้มีกำลังมากได้
สิงเย่และสิงเหิงมองไปยังถังเฉินที่เหลืออยู่ด้ายความโกรธเคือง ความอาฆาตภายในดวงตาเข้มข้นราวกับจับต้องได้ พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของมนุษย์ธรรมดา อีกทั้งมนุษย์ธรรมดาเพียงสิบกว่าคนนี้จะทำให้เหล่าเทพเซียนของทั้งสองสวรรค์กว่าหลายร้อยได้รับบาดเจ็บ
“เจ้าสมควรตาย!” สิงเย่ถลึงตาใส่ถังเฉิน พลังบนร่างกายกระจายออกมาจากตัวพร้อมพุ่งตรงไปยังอีกฝ่าย “ข้าจะให้แดนมนุษย์ตายพร้อมกับเทพเซียนของข้า”
พูดจบ พลังบนตัวของเขาหลั่งไหลออกมามากขึ้น เขาสะบัดมือเรียกมังกรเพลิงออกมา ก่อนจะพุ่งโจมตีลงไปยังด้านล่าง เมื่อเทียบกับทะเลเพลิงของหยวนฉานก่อนหน้านี้ มังกรเพลิงของสิงเย่ใหญ่โตและแข็งแกร่งกว่ามาก มันเป็นเปลวเพลิงของเผ่าพันธุ์มังกร สามารถแผดเผาสรรพสิ่งทั่วโลกได้ ทันใดนั้นฟ้าดินราวกับถูกจุดติด ในขณะที่รัศมีร้อยลี้กำลังจะถูกแผดเผาจนสิ้นซาก แม้แต่หมอกสีฟ้าด้านล่างก็ถูกกระแทกออกไป เผยให้เห็นค่ายกลคุ้มเมืองในเมืองอี้ด้านล่าง
ถังเฉินพุ่งตัวเข้าไปอย่างไม่สนใจ เขาใช้พลังลมปราณเฮือกสุดท้ายของตนเองต้านมังกรเพลิงตัวหนึ่งที่กำลังจะพุ่งเข้าไปในเมือง ในเวลาเดียวกัน ร่างของเขาถูกเปลวเพลิงกลืนกิน ผิวหนังบนร่างกายดำไหม้อย่างเห็นได้ชัด แต่เขายังคงพยายามต้านทานเอาไว้ จนกระทั่งมังกรเพลิงตัวนั้นถูกจู่โจมจนเบือนทิศทางไป เขาจึงร่วงลงจากกลางอากาศ
“ฮึ! ไม่รู้พลังของตนเอง!” สีหน้าของสิงเย่เย็นชา เขาคิดจะเรียกมังกรเพลิงตัวอื่นกลับมา ทำลายเมืองอี้ด้านล่างทิ้งไป
“สิงเย่” สิงเหิงที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างรำคาญใจ “อย่ารีรอ ตอนนี้การดูดซับพลังดินแดนลับเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”
สิงเย่ส่งเสียงไม่พอใจออกมา ก่อนจะหยุดการโจมตีลง
“ช่วยข้าขับไล่หมอกสีฟ้าเหล่านี้เร็วเข้า” พูดจบนางเรียกเมฆสายฟ้าออกมาอีกครั้งเพื่อเรียกสายฟ้าจิ่วเทียนออกมา สิงเย่เรียกมังกรเพลิงกลับมาในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะทำลายหมอกสีฟ้าและเมืองอี้ด้านล่างไปพร้อมกันนั้น
“หยุด!” ถังเฉินที่ถูกแผดเผาจนกลายเป็นถ่านดำตะเกียกตะกายขึ้นมา เขาใช้ดาบพยุงร่างกายของตนเอง ก่อนจะพูด “พวกท่านคิดว่าเสวียนเหมินไร้ผู้คนแล้วหรือ”
พูดจบเขาหยิบยันต์ใบสุดท้ายข้างตัวออกมา ยันต์ใบนั้นเป็นเพียงยันต์สีเหลืองธรรมดา ไม่เคยถูกใช้ แต่ลูกศิษย์เสวียนเหมินทุกคนมักจะพกเอาไว้อย่างน้อยหนึ่งใบ!
“ยังไม่ตาย?” สิงเย่ขมวดคิ้วเข้ม มนุษย์ธรรมดาสามารถอดทนได้มากเช่นนี้
ถังเฉินสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะมองตรงไปข้างหน้า พร้อมทั้งท่องคาถาออกมา
“เสวียนเหมินฟ้าดิน สรรพสิ่งทั่วหล้า ปราบมารขจัดปีศาจ อัญเชิญเทพเจ้า…”
“ยันต์อัญเชิญเทพ?” สิงเย่ผงะ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าๆๆๆ …น่าขันเสียจริง เจ้าคิดจะอัญเชิญบรรพบุรุษในแดนสวรรค์ของพวกเจ้าหรือ ถึงแม้พวกเทพมนุษย์ในบูรพาสวรรค์เหล่านั้นจะมายืนอยู่ตรงนี้ในเวลานี้ พวกเขาก็ต้องเรียกขานข้าว่าท่านมหาเทพ!”
ถังเฉินไม่ได้สนใจอีกฝ่าย เขายังคงท่องคาถาด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง “ลูกศิษย์เสวียนเหมินถังเฉิน ขออธิษฐานอัญเชิญเทพเจ้า ขออัญเชิญอาจารย์แห่งเสวียนเหมินอวิ๋นเจี่ยวปรากฎกายปราบมารขจัดปีศาจ! รักษาความเที่ยงธรรม!”
ทันทีที่สิ้นเสียง เห็นเพียงแต่แสงสีทองสว่างขึ้นรอบด้าน ภายในแสงสีทองที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า ร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งปรากฏอยู่ข้างกายของเขา ชุดนักพรตสีฟ้าขาวที่เจือปนไปด้วยกลิ่นหอมของหมึก พลังลมปราณที่แข็งแกร่ง สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
“อาจารย์อวิ๋น!”
เสวียนเหมินของพวกเราไม่ต้องอัญเชิญเทพเจ้าแห่งแดนสวรรค์ เพราะพวกเรามีเทพเจ้าของตัวเอง!