ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 298 บุคคลลึกลับ
อ“เจ้า…เจ้า…ปฏิเสธการบรรลุ!” เนี่ยชางมองอวิ๋นเจี่ยวด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ มนุษย์มีชีวิตเพียงหลายสิบปี แต่นั่นคือชีวิตที่เป็นอมตะ!” พวกเขาฝึกฝนเพื่อความเป็นอมตะไม่ใช่หรือ
อวิ๋นเจี่ยวปลายตามองเขา ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “การเลือกของมนุษย์ สัตว์เดรัจฉานอย่างท่านจะเข้าใจได้อย่างไร” พูดจบ ดวงตาของเธอหลุบต่ำลง ก่อนจะเรียกพลังภายในร่างกายออกมาอีกครั้ง
“ท่านลงไปได้แล้ว!”
เนี่ยชางเบิกตาโต ราวกับเพิ่งนึกถึงสภาพของตนเองขึ้นมาได้ ภายในดวงตาของเขาฉายแววหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้งจากนั้นร้องเสียงหลงออกมา “ไม่! อย่าฆ่าข้า!” เสียดายที่ไม่ทันเวลา ฝ่ามือของอวิ๋นเจี่ยวสะบัดออกไปแล้ว
เขารับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับความสามารถที่จะบดเขาให้แหลกละเอียด ร่างกายของเขาหนักอึ้ง ในขณะที่การจู่โจมนั้นกำลังจะกระทบเข้ากับเส้นชีพจรหัวใจ ทันใดนั้นเขารู้สึกเพียงตาลาย ลมกลุ่มหนึ่งพัดผ่านด้านหน้าไปก่อน ทันใดนั้นทิวทัศน์ตรงหน้าเปลี่ยนไป ร่างกายของเขาผ่อนคลายลง พลังที่จู่โจมเข้ามาสลายหายไป นาทีถัดมาตัวของเขาถูกพาลอยขึ้นเหนือพื้นดิน ห่างจากอวิ๋นเจี่ยวหลายสิบเมตร
ชายหนุ่มไม่คุ้นหน้าปรากฏขึ้นกลางอากาศ เขาสวมชุดสีฟ้าร่างสูงโปร่ง ทั้งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก แต่คนในเหตุการณ์กลับไม่อาจมองเห็นหน้าตาของเขาได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงอวิ๋นเจี่ยว หากไม่ใช่เพราะในมือของเขายังหิ้วเนี่ยชางเอาไว้ ทุกคนคงไม่อาจรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของเขา พลังรอบตัวเขาอ่อนแออย่างมาก ไม่มีแม้แต่พลังเซียน ชุดสีฟ้านั้นรวมกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับท้องฟ้า
เหล่าเจ้าสำนักล้วนตกตะลึง พวกเขาหันไปมองคนที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันด้วยความระแวง
“เจ้าเป็นใคร” สามารถช่วยเหลือเนี่ยชางจากมือของอาจารย์อวิ๋นไปได้อย่างง่ายดาย อีกฝ่ายคงมีกำลังอยู่เหนือเนี่ยชาง
เนี่ยชางสีหน้าซีดเซียวเจือปนไปด้วยความดีใจที่รอดตาย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายรู้จักคนลึกลับผู้นั้น เขาเอื้อมมือไปจับอีกฝ่ายเอาไว้ “เจ้า! ช่วยข้า…ช่วยข้าเร็วเข้า! อย่าให้นางจับข้าได้!”
ชายผู้นั้นไม่ได้ตอบ ถึงแม้จะมองไม่เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย แต่อวิ๋นเจี่ยวรับรู้ได้ถึงดวงตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องตัวเธออยู่ สักพัก เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น “ทำลายบัญชาสวรรค์ ไม่อาจคงอยู่!”
สิ้นเสียงราวกับมีบางอย่างที่ไร้รูปร่างแผ่ขยายออกมาทันที ก่อนจะพุ่งตรงมาทางอวิ๋นเจี่ยว ลูกศิษย์เสวียนเหมินที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมไปถึงท่านเซียนเนี่ยชางต่างรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก เลือดลมตีขึ้น ราวกับกำลังต้านทานพลังอะไรบางอย่าง ก่อนจะอ้าปากอาเจียนออกมาเป็นเลือด
“อาจารย์!”
“เจ้าหนู!”
พวกเขาอยู่ห่างไหลเช่นนี้ยังไม่มีแรงขัดขืน เช่นนั้นอวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ตรงกลาง…
อวิ๋นเจี่ยวสัมผัสได้ถึงพลังขนาดใหญ่กำลังจู่โจมมาทางเธอ ถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่เธอก็ไม่อาจหลบหลีกพลังกลุ่มนั้นได้ร่างกายของเธอหนักอึ้งก่อนจะก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ในขณะที่พลังกลุ่มนั้นกำลังจะกระทบเข้ากับตัวของเธอทันใดนั้นร่างกายของเธอส่องแสงสว่างสีทองออกมาราวกับค่ายกลป้องกัน ต้านทางพลังกลุ่มนั้นและดีดมันกลับไป
ชายหนุ่มกลางอากาศถอยออกไปก้าวใหญ่ เสียงของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“แสงทองคุณงามความดี เหตุใดเจ้าจึงมี”
เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ นาทีถัดมาแสงสีทองบนตัวของอวิ๋นเจี่ยวสว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่แสงสวรรค์ชักนำที่แหลกละเอียดไปล้วนลอยมารวมอยู่ทางอวิ๋นเจี่ยวราวกับได้รับสัญญาณบางอย่าง ก่อเกิดเป็นลูกกลมสีทองขนาดใหญ่ราวกับดวงอาทิตย์ส่องสว่างไปทุกทิศทั่วทาง
อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกแสบตากับแสงสว่างตรงหน้าอย่างมาก เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงกลายเป็นปีศาจพระอาทิตย์
ชายหนุ่มผู้นั้นมองเธออย่างมีนัยยะ แต่ก็ไม่ได้ทำการจู่โจมต่อร่างของเขาค่อยๆ จางลงไปเหมือนดั่งตอนที่มา สักพักเขาก็หายไปพร้อมกับเนี่ยชางที่ได้รับบาดเจ็บ
“…”
ทุกคนถึงได้รับรู้ว่าพลังกลุ่มนั้นหายไปแล้ว เจ้าสำนักสวีและเหล่าเจ้าสำนักล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียด เนี่ยชางจากไป ท่านเซียนที่หลงเหลืออยู่เหล่านี้ล้วนไร้จิตใจต่อสู้ จนสุดท้ายพ่ายแพ้ในมือของพวกเขา เพียงแต่ชายหนุ่มคนนั้นคือใคร ในเวลานั้นทุกคนล้วนมีความรู้สึกว่าเรื่องวุ่นวายกำลังเกิดขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับสิ่งเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือ แสงสีทองบนตัวของอาจารย์คืออะไรกัน
…
ชิงหยาง
“ชาวนาอิ้งๆ…เกิดเรื่องแล้ว! เจ้ารีบมา!” ทันทีที่กลับอาราม ชายแก่รีบพุ่งตัวไปตามหาคนที่หลังเขาทันที
อิ้งหลุนโผล่ร่างออกมาจากซุ้มฟักทอง ก่อนจะจบไหล่ไป๋อวี้ที่กำลังหมุนตัวมองหาจน “อยู่ตรงนี้ๆ! ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลากิน เจ้ามาทำไม ศิษย์ตัวน้อยล่ะนางไปไหน จริงสิครั้งก่อนนางบอกว่าจะให้เมล็ดผักพันธุ์ใหม่แก่ข้า มาแล้วหรือยัง ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วมีที่ดินว่างหลายแปลง เหมาะกับ…”
“ชาวนาอิ้ง! เกิดเรื่องแล้ว!” ชายแก่พูดขัดเขาขึ้นมา ก่อนจะลากเขาลงจากเขาไป “รีบตามข้าไปดูเจ้าหนู!”
สายตาของอิ้งเป็นห่วงเขาไม่ได้สนใจคำเรียกขานของอีกฝ่าย
“ศิษย์ตัวน้อยเป็นอะไร บาดเจ็บหรือ” เจ้าหนูเป็นอะไรไป เยี่ยยวนต้องเป็นบ้าแน่!
“เจ้าตามข้าออกไปดูก็รู้” ชายแก่พลางเดินพลางพูด “เจ้าหนูอยู่โถงด้านหน้า อาจารย์ปู่ไม่อยู่ ข้าจึงมาหาได้แค่เจ้า”
“พาข้าไปดู” อิ้งหลุนลอบลงไปจากเขาอย่างรวดเร็ว ชายแก่รีบแปะยันต์ชั่วขณะตามลงไป พวกเขามุ่งตรงมายังโถงด้านหน้า อิ้งหลุนผลักประตูเข้าไปทันที “ศิษย์ตัวน้อย เจ้า…! ปีศาจคุณงามความดีที่ไหนกัน”
ทันทีที่เขาย่างเท้าเข้าไป เขาก็รีบเดินออกมาอีกทั้งยังปิดตาของตนเองตอนที่ปิดประตูยังไม่รู้สึก แต่เมื่อประตูเปิดออกเห็นเพียงแสงสีทองภายในโถง แสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น ภายในโถงนอกจากแสงสว่างแล้วมองไม่เห็นสิ่งอื่นใด
“อิ้งหลุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นอะไร” เสียงของอวิ๋นเจี่ยวดังขึ้นมาจากด้านใน
“ศิษย์ตัวน้อย?” อิ้งหลุนผงะไป ก่อนจะกระจ่างขึ้นมาว่าคุณงามความดีที่มากมายมหาศาลเช่นนี้มาจากใคร เขาขมวดคิ้วอย่างพูดไม่ออกก่อนจะสะบัดมือขึ้น ทันใดนั้นรอบตัวเต็มไปด้วยพลังหยิน พลังสีดำแพร่กระจายออกไปทุกทิศทั่วทาง เจือจางแสงสว่างภายในห้องโถงเวลานี้เขาถึงได้พบว่าใจกลางโถงคืออวิ๋นเจี่ยวที่ยืนทำหน้าฉงน
“ข้าว่าศิษย์ตัวน้อย เจ้าออกไปครานี้ไปทำอะไรมา เหตุใดบนตัวจึงมีคุณงามความดีมากมายเยี่ยงนี้”
อิ้งหลุนกวาดตามองอวิ๋นเจี่ยวขึ้นลงหลายที ก่อนจะพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ
“แสงทองคุณงามความดีมากมายเช่นนี้ ข้าเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก”