ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 303 เข้าสู่พื้นที่ทับซ้อน
ทั้งสามคนเดินไปครึ่งชั่วยาม ตลอดทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด เนื่องจากแสงสีทองที่ส่องลงมาทำให้ชายแก่และสีฝานไม่รู้ว่าพวกเขาผ่านที่ไหนมาบ้าง แต่ที่แปลกคือ อวิ๋นเจี่ยวดูเหมือนจะรู้ดีอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถเตือนให้พวกเขาระวังใต้เท้าเป็นระยะ ใช้เวลานานกว่าครึ่งวันจึงหยุดลง จากนั้นเตือนขึ้น “ที่นี่น่าจะเป็นศูนย์กลางของหุบเหวอู๋กุยแล้ว น่าจะปลอดภัย แต่พวกเจ้ายังต้องระวัง”
ทันใดนั้น แสงสีทองรอบๆ ตัวก็ค่อยๆ หดกลับไป พวกเขารู้สึกว่าข้างหน้ามืดลง ปรับตัวไม่ได้เล็กน้อย ในเวลานั้นมองเห็นเพียงภาพเบลอ แต่เมื่อเทียบกับความโกลาหลภายนอก บริเวณนี้เงียบสงบกว่ามาก บริเวณรอบด้านไม่มีเสียงใดๆ อีกทั้งมืดกว่าข้างนอกอย่างมาก แต่ไม่มีความรู้สึกที่ทำให้หายใจไม่ออกอีกต่อไป
“บริเวณนี้พลังหยินมาก คงจะมีแต่พืชที่มีพลังหยินมาก พวกเราต้องไปดูบริเวณใจกลาง บริเวณนั้นอาจมีต้นอ่อนแห่งการกลับคืน” อวิ๋นเจี่ยวกำชับทั้งสองคน
“รอเดี๋ยว ข้าขอพักสายตาก่อน” ชายแก่นวดคลึงดวงตาที่เกือบบอดเพราะแสงสีทอง ก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าหนู แสงสีทองของเจ้ามีประโยชน์มากแต่แสบตาเกินไป ไม่รู้ว่าเจ้าแยกแยะทิศทางได้อย่างไร”
อวิ๋นเจี่ยวผงะ ก่อนจะหันกลับไปมองทั้งสองคนที่กำลังขยี้ตา ก่อนจะพูดขึ้นอย่างฉงน “ไม่ใช่เตรียมแว่น…ผ้าปิดตาไว้ให้พวกเจ้าแล้วหรือ ทำไมไม่ใช้”
“ผ้าปิดตา?” ทั้งสองคนผงะ ผ้าปิดตาอะไรกัน
“ก่อนออกเดินทางข้าใส่มันไว้ในถุงเก็บของพร้อมยันต์ต่อหน้าพวกเจ้าไม่ใช่หรือ” นางโบกผ้าสีดำที่เพิ่งหยิบลงมา “เพียงแค่มัดไว้บนตาก็สามารถมองเห็นแล้ว”
ทั้งสองคนถึงนึกขึ้นได้ ก่อนออกเดินทางอวิ๋นเจี่ยวได้นำพวกยันต์และสิ่งต่างๆ ยัดใส่ถุงเก็บของของพวกเขา ภายในนั้นเหมือนมีผ้านี้อยู่ ที่แท้ใช้สำหรับปิดตาหรือ
สีฝาน “…” เขานึกว่าที่คาดผม
ชายแก่ “…” เขานึกว่ายันต์ชนิดใหม่
ทั้งสองคนพักผ่อนอยู่ชั่วครู่ ดวงตาถึงกลับมาเป็นปกติ พวกเขาพบว่าสถานที่แห่งนี้กว้างขวางจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด แต่เห็นได้ชัดว่าสามารถแบ่งออกเป็นสามพื้นที่ที่แตกต่างกัน พื้นที่หนึ่งอบอวลไปด้วยพลังหยิน พื้นที่หนึ่งเต็มไปด้วยพลังเซียน ส่วนอีกพื้นที่หนึ่งที่อยู่ระหว่างกลางอบอวลไปด้วยพลังลมปราณที่พวกเขาคุ้นเคย
บนพื้นที่ทั้งสามนี้ล้วนเต็มไปด้วยพืชวิเศษต่างต่างนานาหลากหลายมากสี
ชายแก่เคยพลิกดูตำราวิชาการรักษาของอวิ๋นเจี่ยวในบางครั้ง พืชวิเศษที่เคยเห็นก็มีมากมาย แต่สิ่งที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ เขากลับไม่รู้จักมากกว่าครึ่ง อีกทั้งยังมีบางอย่างที่ไม่มีในตำรา
ต้นอ่อนแห่งการคืนกลับคือพืชวิเศษ ทั้งสามคนมุ่งตรงไปยังพื้นที่สีเทาด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน อวิ๋นเจี่ยวพลางเดินพลางเอ่ยเตือน “จำไว้ว่าเป็นพืชวิเศษลักษณะคล้ายเปลวไฟสีแดง ประมาณนี้” นางหยิบภาพที่วาดก่อนออกเดินทางออกมา จากนั้นส่งไปให้สีฝาน เพราะเขามีอัตราการหาเจอสูงกว่า “ไม่แม่นยำมาก หาที่คล้ายคลึงกันก็พอ”
สีฝานตื่นเต้นอย่างมาก อาจารย์เห็นความสำคัญของเขา จากนั้นเขาจึงพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “ขอรับอาจารย์! ข้าจะตั้งใจหา” พูดจบก็รับภาพไป
“ระวัง พืชประหลาดที่ไม่รู้จักอย่าจับ ระวังถูกพิษ” นางกำชับ
ชายแก่และสีฝานพยักหน้า ก่อนจะแยกย้ายไปหาพืชวิเศษ โดยเฉพาะสีฝานที่คึกคะนองเป็นพิเศษ
อวิ๋นเจี่ยวกวาดตามองบริเวณโดยรอบอย่างละเอียดพบว่าบริเวณนี้ถึงแม้จะมีพลังลมปราณเข้มข้น แต่วัชพืชก็มีมาก อีกทั้งมีบริเวณกว้างขวาง คิดจะหาต้นอ่อนแห่งการกลับคืนจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก โชคดีที่บริเวณแห่งนี้มีการแบ่งแยกพลังทั้งสามโลกอย่างชัดเจน ไม่ได้ปะปนกันเหมือนข้างนอก พวกนางจึงมีเวลาค่อยๆ หา แต่เหมือนกับว่าประเมินความสามารถของหนูค้นหาขุมทรัพย์ต่ำไป
หนึ่งนาทีต่อมา…
“อาจารย์ๆ อันนี้ใช่หรือไม่”
“ไม่ใช่ นี่คือหญ้าจื่อหลิง หลายสิบปีออกดอกหนึ่งครั้ง เป็นพืชวิเศษที่หายากมาก” มูลค่าหนึ่งร้อยตำลึง!
สามนาทีต่อมา…
“อาจารย์ๆ อันนี้ใช่หรือไม่”
“ไม่ใช่ นี่คือไผ่ล้างวิญญาณ ร้อยปีเติบโตหนึ่งนิ้ว”
สามนาทีต่อมา…
“อาจารย์ๆ อันนี้ใช่หรือไม่”
“ไม่ใช่ นี่คือหญ้าวิญญาณสีม่วง พืชวิญญาณหายากที่เบ่งบานทุกสองสามทศวรรษเท่านั้น” มูลค่าหนึ่งร้อยตำลึง!
ห้านาทีต่อมา…
“อาจารย์ๆ ท่านดูอันนี้!”
“ไม่ใช่ นี่คือบัวหมื่นใบ ใช้สำหรับชำระล้างเส้นลมปราณ” มูลค่าหนึ่งหมื่นตำลึง “พวกเรากำลังตามหาต้นอ่อนแห่งการกลับคืน ทั้งต้นเป็นสีแดง เข้าใจหรือไม่ อย่าหาสีเขียวอีก พวกนี้ไม่มีประโยชน์” เจ้าตาบอดสีหรืออย่างไร
เจ็ดนาทีต่อมา…
“อาจารย์ๆ อันนี้สีแดง ขยับได้ด้วย!”
“นี่คือหงห้วนเฉิน มันกลายเป็นปีศาจแล้วย่อมขยับได้! หากเจ้าจับอีกที มันยังตีเจ้าได้!”
“เช่นนั้น…ข้าหาใหม่” เขาก้มหน้าลง ทำสีหน้าผิดหวัง
“เดี๋ยว” อาจเป็นเพราะเห็นความท้อแท้ของเขา อวิ๋นเจี่ยวจึงเสริมขึ้น “ที่เป็นปีศาจแล้วปล่อยมันไป ส่วนพืชวิเศษอื่นเอามาให้ข้า อย่างไรก็ดึงออกมาแล้ว ข้าจะเก็บรักษาไว้ให้เจ้า” อย่าสิ้นเปลือง ยังเอาไปขายได้
สีฝาน “…”
ชายแก่ “…”
ไหนบอกว่าไม่มีประโยชน์
-_-|||
สีฝานยื่นพืชวิเศษในมือออกไป ก่อนจะตั้งใจตามหาขึ้นมาอีกครั้ง
จนกระทั่งหนึ่งเค่อต่อมา…
เขามองพืชวิเศษสีแดงตรงหน้า ก่อนจะมองภาพในมือของตนเอง จากนั้นมองไปยังพืชวิเศษอีกครั้งแล้วหันกลับมามองภาพ หลังจากที่มองสลับกันไปมาหลายครั้ง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ก่อนจะรีบตะโกนเรียกเสียงดัง “อา…อาจารย์ ข้า…ข้าหาเจอแล้ว ดูอันนี้! อันนี้ต้องใช่แน่!”
อวิ๋นเจี่ยวและชายแก่ต่างผงะ ก่อนจะรีบเดินเข้าไป เมื่อพวกเขามาถึง ก็พบว่าบริเวณที่ห่างจากสีฝานสองก้าวมีพืชวิเศษสีแดงอยู่หนึ่งต้น ใบของมันห่อหุ้มเอาไว้ราวกับดอกไม้ที่ยังไม่ผลิบาน มองจากระยะไกลเหมือนกับเปลวเพลิงขนาดเล็ก เพียงแค่มองก็เหมือนสัมผัสได้ถึงความร้อน สิ่งที่น่าประหลาดใจคือบริเวณรอบด้านราวหนึ่งฉื่อของพืชต้นนี้ไม่มีวัชพืชใดๆ ราวกับเกรงกลัวเปลวเพลิง
“อาจารย์ ใช่อันนี้หรือไม่” สีฝานถาม
“ใช่ อันนี้!” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า
สีฝานดีใจขึ้นมา ชายแก่เองก็โล่งใจ “รออะไรอยู่ รีบนำกลับไปเถิด!” พูดจบก็เดินขึ้นมา ขุดจากรากขึ้นมา เมื่อดินขยับ พลังลมปราณบริเวณรอบด้านก็เข้มข้นขึ้นมา ดินสีน้ำตาลมีพลังสีฟ้าจางๆ ปรากฏขึ้นแล้วหายไป
อวิ๋นเจี่ยวตกใจ ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้ นางตะโกนขึ้น “ชายแก่ อย่าขยับ!”
“ฮะ?” ไป๋อวี้ผงะ ในขณะที่กำลังจะหันหน้ากลับไป เขาก็รู้สึกเพียงคอเสื้อถูกคนดึงไปด้านหลัง เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างกายของเขาเอนไปด้านหลังตามแรงดึง ใบหน้าของเขาถูกกดลงไปบนพื้น แต่แรงดึงข้างหลังยังคงไม่หยุดลง เขาถูกลากไปด้านหลังพร้อมกับหน้าที่คว่ำอยู่ จนกระทั่งถูกดึงออกไปหลายสิบเมตรถึงหยุดลง
“ถุย…ถุยๆ …” ชายแก่คายดินเต็มปากออกมา ก่อนจะทำหน้าฉงน “เกิดอะไรขึ้นเจ้าหนู” ทำไมถึงลากเขา
อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้ตอบ เพียงแต่มองไปยังตำแหน่งนั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาหันกลับไปมอง ก่อนที่จะตกใจขึ้นมา
เฮ้ย!