ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 324 เข้าดินแดนปีศาจ
อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้ลังเล เธอส่งเสียงแจ้งให้หลงฉางทราบ ก่อนจะมองไปยังไป๋อวี้ “ชายแก่ ตามข้ามา!” พูดจบเธอเดินอ้อมกองทัพปีศาจไปเข้าใกล้ทิศทางของดินแดนปีศาจ
“เจ้าหนู…” ชายแก่เดินตามไปแต่ภายในใจมีความกังวลเล็กน้อย “พวกเราแยกออกจากทุกคนเช่นนี้หรือ” ไม่ใช่เขาไม่เชื่อใจความสามารถของเจ้าหนูเพียงแต่ปีศาจมากมายเช่นนี้พวกเขาเดินแยกออกจากขบวนใหญ่บุกเข้าไปด้านในมีความอันตรายอย่างยิ่ง
“ปีศาจเหล่านี้ผิดปกติ” อวิ๋นเจี่ยวอธิบายแต่เธอยังคงเดินไปด้านหน้า สิ่งที่น่าแปลกคือทั้งที่มีพวกเขาแค่สองคนแต่ปีศาจที่หันมาโจมตีพวกเขาไม่ได้มีจำนวนมากนักราวกับว่าปีศาจเหล่านี้ไม่เห็นพวกเขาทั้งสองคนอยู่ในสายตาทำให้พวกเธอรับมือกับปีศาจตรงหน้าได้ง่ายดาย การคาดเดาของอวิ๋นเจี่ยวยิ่งได้รับการยืนยัน ตั้งแต่ผนึกถูกทำลายเธอก็รู้สึกว่าปีศาจเหล่านี้มีความผิดปกติ พวกเขามาอย่างรีบร้อนราวกับรอคอยอยู่ด้านหลังผนึกเป็นเวลานานแล้ว
ตามหลักแล้วเผ่าปีศาจไม่อาจรับมือกับ ‘แสงแห่งเทพได้’ มิเช่นนั้นก็คงไม่ถูกผนึกเป็นเวลานานเช่นนี้ ยิ่งไม่มีทางรู้เวลาแน่นอนที่ผนึกจากหมดฤทธิ์ได้ ถึงแม้พวกเขาจะค้นพบความผิดปกติของผนึกเป็นการล่วงหน้า แต่ก็ไม่มีทางเตรียมการสงครามได้รวดเร็วเท่าสามโลก อีกทั้งรวบรวมปีศาจจำนวนมากมายเช่นนี้ แต่จากสถานการณ์ของเผ่าปีศาจตรงหน้าจำนวนของปีศาจนี้มีมากจนน่าตกตะลึง
เผ่าปีศาจมีกลอุบายลึกล้ำอีกทั้งไม่มีฝ่าฟันยากต่อการรวมตัวและควบคุม ถึงแม้จะจับจ้องสามโลกเป็นเวลานา แต่ระหว่างพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์อันใดต่อกัน การรวมตัวรุกรานสามโลกไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ไม่มีทางสามัคคีกันเช่นนี้
เผ่าปีศาจตรงหน้าที่หลั่งไหลออกมาเป็นข้อพิสูจน์ในประเด็นนี้ ขบวนของพวกเขาวุ่นวายไร้ระเบียบ การกระจายตัวของกลุ่มกำลังก็เช่นเดียวกันกับปีศาจก่อนหน้านี้อาจใช้ลูกศิษย์เพียงหนึ่งถึงสองคนในการรับมือ แต่ตัวต่อมาแม้แต่คนหลายสิบคนยังต้านไม่อยู่ ราวกับพวกเขารวมตัวกันด้วยความบังเอิญจากนั้นพุ่งออกมา
สาเหตุที่อวิ๋นเจี่ยว เกิดความสงสัยขึ้นนั้นเป็นเพราะค่ายทำลายล้างเมื่อครู่ เหล่าปีศาจพวกนั้น ทำลายค่ายกลนั้นด้วยการฆ่าตัวตายอย่างไม่สนใจอันใดราวกับไม่สนใจว่าจะตายอยู่ภายใต้ค่ายกล ตอนแรกเธอยังเข้าใจว่าพวกเขาตื่นเต้นที่ได้ออกจากผนึกอีกทั้งไม่รู้ในอนุภาพของค่ายกลทำให้ต้องทิ้งชีวิตของตนเอง
แต่หลังจากที่กองทัพทั้งสามโลกตั้งใจถอยหลังค่ายกลหลายอันก็ถูกวิธีเดียวกันพังทลายในเวลาต่อมา อีกทั้งเหล่าปีศาจที่ใช้ตัวเองในการพังทลายค่ายกลไม่มีแม้แต่ความลังเล มันผิดปกติอย่างมาก
ดังนั้นเธอจึงพาชายแก่ลอยขึ้นไปดูกองทัพปีศาจที่กำจัดไม่หมดนี้ เธอถึงพบว่าเหล่าปีศาจที่พุ่งตัวออกมาจากผนึกดูเหมือนกับวุ่นวายไร้ระเบียบ แต่ทิศทางกันเดินหน้ากลับมุ่งไปยังทิศทางของกองทัพหลักทั้งสามโลกทั้งที่สนามรบของพวกเขาแผ่ขยายเข้ามาในยมโลกแล้ว แต่ไม่มีปีศาจแยกตัวออกมาเปลี่ยนแปลงทิศทางแม้แต่ตัวเดียว ราวกับว่า…ได้รับคำสั่งบางอย่าง อวิ๋นเจี่ยวกระจ่างขึ้นมาทันทีปีศาจเหล่านี้ต้องมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลังหรือควรจะบอกว่า…ควบคุมพวกเขา!
“เจ้าหนู พวกเราจะไปไหน” ชายแก่กำจัดปีศาจตัวหนึ่งด้วยดาบ เขากำดาบวิเศษในมือแน่นยิ่งเดินเข้าไปลึกมากเท่าใดปีศาจก็ยิ่งมีจำนวนมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยิ่งกำจัดลำบากมากขึ้นหากเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเขาไม่อาจเข้าไปได้อีกทั้งยังจะถูกปีศาจล้อมเอาไว้ตรงนี้
“เข้าไปในดินแดนปีศาจ ตำแหน่งที่ผนึกพังทลาย” เธอก็ไม่แน่ใจว่าคนที่ควบคุมปีศาจเหล่านี้อยู่ที่ไหน แต่ปีศาจเหล่านี้ออกมาจากทางผนึกอย่างไม่ขาดสายดังนั้นจุดเริ่มต้นคงจะเป็นทางนั้น
“ฮะ?!” ชายแก่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเขาเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเลือดทางนั้น คิดจะเข้าไปก็ต้องข้ามผ่านกองทัพปีศาจเขาทำไม่ได้ “พะ…พวกเราจะข้ามไปได้หรือ”
“ต้องข้ามไป!” อวิ๋นเจี่ยวเรียกสายฟ้าออกมากำจัดปีศาจตรงหน้าแต่กลับมีอีกสี่ห้าตัวจู่โจมเข้ามา
“ระวัง!” ชายแก่โยนยันต์วิเศษเข้าไประเบิดปีศาจที่ล้อมรอบเข้ามา ก่อนจะเรียกค่ายกลป้องกันกึ่งโปร่งใสออกมาต้านอยู่ด้านหน้าของทั้งสองคน นาทีถัดมาด้านบนมีบางอย่างกระแทกเข้าเสียงดังทำให้ค่ายกลแตกออกเป็นรอยร้าว ชายแก่รู้สึกเพียงเลือดลมปั่นปวนมีความรู้สึกเหมือนจะกระอักเลือด ปีศาจที่มารวมตัวอยู่ตรงหน้ายิ่งมากขึ้น “ไม่ได้…เจ้าหนู! แค่พวกเราสองคนข้ามไปไม่ได้!”
อวิ๋นเจี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น “เปลี่ยนวิธี!” พูดจบเธอก็ท่องคาถาขึ้นมา ทันใดนั้นแสงสีขาวส่องสว่างขึ้นกวาดผ่านไปยังรอบด้าน เปลี่ยนให้รอบด้านกลายเป็นสีขาวโพลน
ชายแก่รู้สึกลายตาเขาหรี่ตาลงเล็กน้อยแต่บนหน้าอกกลับถูกอวิ๋นเจี่ยวแปะบางอย่างเข้า เขาก้มลงมองพบว่ามันคือยันต์วิเศษสีทองอักขระยันต์ด้านบนคุ้นตาเล็กน้อย
“ยันต์ซ่อนพลัง?” ชายแก่ผงะ อีกทั้งยังเป็นยันต์สีทองชั้นสูง เจ้าหนูให้เขาทำไม ในขณะที่กำลังจะอ้าปากถาม อวิ๋นเจี่ยวกลับทำท่าให้เขาเงียบ อีกทั้งดุงเขาถอยไปทางซ้ายหลายสิบฉื่อ แสงสีขาวที่อวิ๋นเจี่ยวเรียกออกมาก็ดับลง
ชายแก่ทำหน้าฉงน ถึงแม้ยันต์ซ่อนพลังจะ คุณสมบัติในการซ่อนเร้น แต่ก็ทำได้เพียงซ่อนพลังและร่างกาย แต่คนที่มีกำลังสูงยังคงสามารถใช้จิตในการสัมผัส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเผ่าปีศาจถึงจะเป็นยันต์ซ่อนพลังชั้นสูงก็ไม่มี…
ใช้ได้จริงด้วย!
ชายแก่ยังไม่ทันได้ถามถึงจุดประสงค์ของอวิ๋นเจี่ยว เขาก็พบว่าเหล่าปีศาจที่จู่โจมพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อนนั้นสลายตัวออกไปราวกับมองไม่เห็นพวกเขาแม้แต่ลังเลยังไม่มีพวกมันลอยผ่านข้างตัวของทั้งสองคนไปยังกองทัพสามโลก ไม่มีการใช้จิตตามหาตำแหน่งของพวกเขาแม้แต่ตัวเดียว อะไรกัน?!
ชายแก่เบิกตาโพลงด้วยความเหลือเชื่อไหนว่าปีศาจร้ายกาจโหดเหี้ยม ไม่เชื่อใจคนอื่นอีกทั้งยังโหดร้าย พวกเขาไม่มาองหรือ โง่ไปแล้ว?
อวิ๋นเจี่ยวเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเลือดในระยะไกล ภายในใจยิ่งมั่นใจในความคาดเดาของตัวเอง เธอส่งสายตาให้กับชายแก่ก่อนจะบินไปยังดินแดนปีศาจอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองคนบินเข้าไปอย่างรวดเร็วหลังจากติดยันต์ซ่อนพลังแล้ว ปีศาจลักษณะน่ากลัวนั้นเรากลับตาบอดเป็นหมู่คณะ พวกมันไม่โจมตีทั้งสองคนแม้แต่น้อยเพียงแต่พุ่งตรงไปด้านหน้าอย่างบ้าคลั่ง
ชายแก่เต็มไปด้วยความสงสัยยิ่งเดินเข้าไปลึกมากเท่าใดยิ่งตกตะลึงด้านล่างมีปีศาจจำนวนมาก ตอนที่อยู่ทางนั้นยังไม่รู้สึก เมื่อเข้ามาในดินแดนปีศาจถึงได้พบว่าจำนวนปีศาจมีมากแค่ไหน เขากวาดตามองไปเห็นเพียงแต่ความมืดมิดราวกับมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดอีกทั้งพวกมันยังหลั่งไหลเข้าไปภายในยมโลกอย่างรวดเร็ว จำนวนคนของสามโลกไม่อาจเทียบกับจำนวนของปีศาจเหล่านี้แม้แต่น้อย
“เจ้าหนู…นี่…” ชายแก่ซีดเผือดในขณะที่เขากำลังจะถาม กลับได้ยินเสียงของอวิ๋นเจี่ยวดังขึ้น
“อยู่ทางนั้น!”
“…”