ศึกสยิวเกราะศาสตรา - ตอนที่ 10
ตอนที่สิบ เบื้องหลังสงคราม
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่ราวกับฝันไป ไม่มีอาการปวดหลัง ไม่เวียนหัว แล้วเมื่อเดินไปส่องกระจกดูก็พบว่าตัวเองเด็กลง โอ้!..ผมลืมไปซะสนิทเลยว่าตัวเองนั้นหลุดเข้ามาในโลกของเกมโป๊
เมื่อจัดการธุระส่วนตัวและส่องกระจกดูความหล่อของตัวเองในโลกนี้จนพอใจแล้วผมก็ตัดสินใจเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อหาอะไรทำ
“อ๊ะ..พี่ชายตื่นแล้วเหรอคะ?”
ที่นั่นผมเจอคุณน้องสาวกำลังนั่งเขียนเอกสารอะไรบางอย่างอยู่ ผมส่งยิ้มให้เธอและเข้าไปนั่งข้างๆ
“ทำอะไรอยู่เหรอ?”
“อา..คงปิดบังพี่ชายไปตลอดไม่ได้สินะ ที่จริงหนูจะถอดตัวออกจากกองทัพน่ะค่ะ”
ได้ยินคุณน้องสาวพูดอย่างนี้แล้วผมก็ประหลาดใจ ไม่ใช่ว่าในประวัติตัวละครเขียนไว้ว่าตระกูลครอสโอเวอร์เป็นตระกูลทางการทหารที่มีอำนาจหรอกเหรอ จริงสิคุณปู่ไงในประวัติของเวนดี้เขียนไว้ว่าคุณปู่รับเธอเข้าตระกูลอีกครั้ง
“แล้วคุณปู่รู้เรื่องนี้รึยัง?”
“คุณปู่ท่านเสียไปก่อนที่พี่จะกลับมาน่ะค่ะ หนูเลยอยากจะออกมาทำสิ่งที่อยากทำจริงๆร่วมกันกับพี่ครูส..ตะ..แต่ว่าถ้าพี่ชายอยากเข้ากองทัพหนูจะไม่ลาออกก็ได้นะคะ”
คุณน้องสาวพูดด้วยท่าทางขวยเขิน เธอใช้นิ้วชี้เขี่ยปากกาไปมาด้วยความประหม่า ทั้งๆที่พูดถึงคุณปู่ที่เสียไปแท้ๆแต่กลับไม่มีความเศร้าอยู่ในสีหน้าแงะน้ำเสียงเลย แต่ก็เอาเถอะผมเองก็ไม่มีเหมือนกันแหละนะความรู้สึกเกี่ยวกับคนที่ถูกเรียกว่าคุณปู่นั่นน่ะ
จะว่าไปแล้วการที่คุณน้องสาวถามผมแบบนี้นี่มัน หระ..หรือว่า!! ไอ้นั่นสินะ ไอ้นั่น! เจ้าทางแยกที่น่าหวาดหวั่นจนต้องเซฟแล้วเซฟอีกก่อนเลือก
ถ้าตอนนี้เป็นเกมอยู่คนมีปรนัยตัวเลือกขึ้นมาแล้วล่ะว่า คุณจะเข้าร่วมกองทัพ หรือคุณจะผจญภัยร่วมกันกับน้องสาว ผมบอกเลยว่าตัวเลือกนี้นั่นเลือกได้ไม่ยากเลย
ถ้าเราตามใจคุณน้องสาวค่าความสัมพันธ์จะขึ้นแล้วก็จะเข้ารูทคุณน้องสาวโดยไม่มีตัวละครจีบได้ตัวอื่นโผล่มากวนใจ เป็นหนทางที่จะได้สวีทเลิฟๆกับคุณน้องสาวอย่างเต็มที่ ส่วนถ้าเลือกกองทัพเราก็อาจจะเปลี่ยนรูทกลางอากาศไปเลือกสาวคนอื่นได้ ซึ่ง! ผมไม่สน!
จะบ้าเรอะ! รูทง่ายๆมีไม่เลือก! เลือกคนที่รักเราอยู่แล้วดีกว่าไปตามจีบคนอื่นที่ไม่รู้จักตั้งเยอะ แล้วผมก็ทนไม่ได้ด้วยถ้าจะต้องเห็นคุณน้องสาวเจ็บช้ำ เพราะงั้นเลือกคุณน้องสาวโล้ด!!
อ๊ะ!..พอคิดได้แบบนั้นร่างกายของผมก็ขยับไปเองอีกแล้ว สงสัยว่าคงจะเป็นไดอาล็อกที่ผู้พัฒนาตั้งไว้จริงๆสินะ
“เวนดี้”
“คะ?”
ผมขยับมือไปวางบนหัวคุณน้องสาวแล้วลูบไปมาด้วยความเอ็นดู
“พี่น่ะอยากจะใช้เวลาต่อจากนี้ดูแลเวนดี้ให้มากๆเพื่อชดเชยเวลาหลายปีที่เสียไปในสงคราม เพราะฉะนั้น..”
ผมขยับจากโซฟาลงไปคุกเข่ากับพื้นและกุมมือคุณน้องสาวไว้อย่างอ่อนโยน เออ..ว่ายังไงดีล่ะสภาพแบบนี้มันเหมือนกับการขอแต่งงานเลยนะว่าไหมถึงผมจะไม่มีแหวนก็เถอะ
สภาพของเวนดี้ตอนนี้หน้าแดงก่ำแถมยังอ้าปากค้างอีกต่างหาก ถึงจะพูดหลายครั้งแล้วก็เถอะแต่น่ารักจริงๆเลยนะ คุณน้องสาวเนี้ย
“ทำตามใจชอบเถอะนะ พี่จะค่อยสนับสนุนเราเอง”
ผมประทับริมฝีปากจุมพิตลงบนหลังฝ่ามือของเจ้าหญิงตัวน้อย ตอนนี้ผมคงดูเท่ราวกับอัศวินเลยล่ะ เจ้าบทพูดที่ตั้งไว้ให้เนี่ยเท่ไม่หยอกเลยนะ ขอบคุณพระเจ้าครับผม ถึงไม่รู้ว่าจะมีรึเปล่าก็เถอะ อ๊ะ..หรือต้องขอบคุณผู้พัฒนาเกมหว่า ช่างมันเต๊อะ!
“พี่จ๋า!”
คุณน้องสาวเข้ามาสวมกอดผมด้วยความดีใจ พริบตานั้นเองผมก็นึกชื่นชมในทางเลือกของตนเอง..อืม! ร่างกายของสาวน้อยน่ารักนี่มันนุ่มดีจริงๆ ดีแล้วล่ะที่เลือกทางนี้
เป็นเวลาพักใหญ่ๆกว่าเราจะแยกจากกัน คุณน้องสาวกลับไปเขียนเอกสารต่อด้วยรอยยิ้มส่วนผมก็เข้าครัวไปอุ่นข้าวกล่อง
อ่าาา อยากมีโอกาสได้เห็นคุณน้องสาวในชุดผ้ากันเปื้อนผืนเดียวจริงๆเลยน้าา
“พี่ค่ะ จะว่าไปแล้วเรื่องสกิลที่พี่อัพได้นี่มีอะไรบ้างเหรอคะ? เมื่อคืนหนูเผลอหลับไปก่อนเลยไม่ทันได้ช่วยเลือกน่ะค่ะ ฮะฮะ”
ขณะที่ผมกำลังยกข้าวกล่องออกจากเครื่องไมโครเวฟที่ทำงานด้วยพลังเวทย์ คุณน้องสาวก็หัวเราะแห้งๆเดินเข้ามาถามผมเรื่องสกิลที่รับปากว่าจะช่วยกันเลือกเมื่อคืน
“ก็มี《เสริมความเร็วLV.1》《เรียกดาบ》《เสริมกระสุนมานาLV.1》《ปรับแต่งวัตถุLV.1》《เรียกคทา》《ตั้งรับLV.1》”
เมื่อเพิ่งสมาธิดูเพื่อตรวจว่ามีสกิลอะไรที่สามารถอัพได้รายชื่อสกิลเหล่านั้นก็เข้ามาในหัวในทันที ผมจึงบอกคุณน้องสาวไปตามที่ผมรับรู้ได้
“แปลกจังเลยนะคะ พี่ชาย”
“เอ๋! แปลกตรงไหนเหรอ?”
“ก็ตรงเรียกดาบน่ะสิคะ ถึงดาบจะเป็นอาวุธยอดนิยมยังไงแต่สายระยะไกลอัพสกิลนี้ไม่ได้หรอกนะคะ แล้วพี่ก็ดันมีสกิลเรียกคทาของสายระยะไกลด้วยเนี่ยสิ”
คุณน้องสาวกอดอกมองหน้าผมด้วยสายตาจ้องจะจับผิด อะไรกัน? ถึงบัคมันจะเยอะแต่ก็ไม่เกี่ยวกับผมนะ เพราะงั้นนี่คุณน้องสาวเลิกจ้องมองผมด้วยใบหน้าน่ารักๆนั่นทีเถอะ ถึงจะเคยมีประสบการณ์(ทำงาน)มาเยอะแล้ว แต่มันก็ยังประหม่าอยู่ดีนะถ้าถูกจ้องโดยเด็กผู้หญิงเนี่ย
“เอ..จะว่าไปแล้วอาร์มที่เห็นพี่ใส่เมื่อวานเป็นสีดำ ทั้งๆที่ในข้อมูลลานประลองก็แสดงชื่อ’StarArmor6’ตามปกตินี่นา สงสัยหนูคงต้องโทรไปถามลุงสมิธแล้วล่ะค่ะว่าทำไมเกราะพี่ชายมันถึงไม่ตรงใบสั่งได้ขนาดนี้…ไม่สิไปเจอเลยน่าจะดีกว่านะคะ”
คุณน้องสาวพึมพำอยู่คนเดียว พลางแกะข้าวกล่องตรงหน้าตักกินไปเรื่อยๆ แต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องที่ผมอยู่ ทะ..ทำได้ยังไงกัน นี่น่ะหรือที่เรียกว่าความสามารถพิเศษเฉพาะตัวไอ้การแกะแล้วตักอาหารเข้าปากได้โดยไม่ได้มองนี่มันเท่เกินไปแล้ว!!
พอผมลองทำบ้างก็ปรากฏว่าตักข้าวไม่เข้าปากซะงั้น! อืม..แต่ว่าเมื่อกี้คุณน้องสาวพูดว่า StarArmor6 สินะ เกราะของผมมันคือ Shooting Star Armor ไม่ใช่เหรอ? หรือว่ามันจะมีหลายชื่อ? ไม่รู้สิช่างมันแล้วกันคิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆ
เมื่อพวกเราทานข้าวเช้ากันเสร็จคุณน้องสาวก็เอ่ยปากบอกผมว่าเราจะออกไปข้างนอกกัน ดูเหมือนว่าเธอจะไปส่งเอกสารลาออกล่ะ แล้วก็จะพาผมไปซื้อของด้วย
ใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานคุณน้องสาวก็ออกมาจากห้อง ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในชุดเครื่องแบบที่น่าจะเป็นชุดของทหารในประเทศนี้อีกต่อไปแล้ว
เวนดี้อยู่ในชุดกระโปรงยาวสีขาวเรียบๆ เธอสวมเสื้อแขนยาวสีเขียวอ่อนทับเอาไว้อีกชั้น เป็นชุดที่ทั้งดูเรียบร้อยและทันสมัย ใช่แล้วเป็นชุดที่พวกตัวเอกที่หลุดไปต่างโลกยุคกลางไม่มีโอกาสได้เห็นมันคือความงดงามแบบยุคปัจจุบันยังไงล่ะ
ถึงอาจจะดูพูดเกินจริงไปหน่อยแต่ผมมั่นใจเลยว่าเด็กสาวตรงหน้าผมมีความสวยแบบเหนือชั้นที่ยากจะมีใครเอาลงจริงๆ สมกับเป็นหนึ่งในนางเอกเกมจริงๆ ผมรู้สึกละอายใจที่ยืนข้างเธอด้วยชุดเริ่มเกมที่เหมือนชาวบ้านAนี่จริงๆ
พวกเราออกเดินทางออกจากคอนโดหรูของคุณน้องสาว เพราะคราวที่แล้วผมมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดินตามคุณน้องสวยที่ขวยเขิน ทำให้ไม่ทันได้สังเกต
เมืองหลวงของสาธารณรัฐไวท์ฮาวด์ งดงามจริงๆ ย่านที่คอนโดของคุณน้องสาวตั้งอยู่เป็นย่านใจกลางเมือง ที่มีผู้คนเดินไปมาหนาแน่น แต่ถนนหนทางกลับกว้างขวางทำให้เดินสวนกันได้ไม่ลำบากและอยู่อาศัยได้อย่างไม่อึดอัด
ตัวถนนนั้นปูด้วยก้อนอิฐรูปกากบาท เรียงตัวกันสวยงดงามดูเหมือนว่ามันจะถูกลงอาคมอะไรสักอย่างไว้ด้วย เพราะผมเห็นเส้นแสงสีขาวเปล่งประกายในระหว่างรอยต่อของพวกมัน
ส่วนบ้านเรือนนั้นก็เป็นแบบผสมผสานบ้างก็เป็นแบบทันสมัย บ้างก็เป็นแบบใกล้เคียงยุคกลาง จากคำบอกเล่าของคุณน้องสาว เธอเล่าว่าในอดีตบ้านเรือนไม่ได้มีความทันสมัยเช่นนี้ แต่มันถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในสมัยสงคราม
ว่ากันว่าสถาปัตยกรรมแบบใหม่รวมไปถึงเทคโนโลยีเวทย์มนต์เป็นผลพลอยได้จากข้อมูลที่ K สายลับของสาธารณรัฐไวท์ฮาวด์ ขโมยมาจากจักรวรรดิไลท์นิ่งแฮมเมอร์
ในมุมมองของผมที่เป็นคนนอกมองว่ามันดูผิดสังเกตไปหน่อย เหมือนกับว่าสาธารณรัฐไวท์ฮาวด์พัฒนาไวเกินไป บางทีสงครามนี้ถูกจัดฉากขึ้นแล้วรู้ตอนจบของมันอยู่แล้ว
รัชทายาทของจักรวรรดิตาย ไวท์ฮาวด์โดนบุก ทั้งๆที่เมื่อก่อนไวท์ฮาวด์ไม่มีเจ้าสิ่งที่เรียกว่าอาร์มแท้ๆแต่หลังจากจักรวรรดินำมาใช้ตัวเองก็งัดออกมาใช้ตอบโต้แทบจะในทันที ดูยังไงน่าจะเตรียมการมานานแล้วมากกว่า งั้นแสดงว่าการส่งพ่อของเวนดี้ไปตายก็เป็นหนึ่งในแผนด้วยเหรอ? ไม่สิตอนนั้นจอมพลซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดเป็นคุณปู่ซึ่งยังคนของครอสโอเวอร์อยู่ มันไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะฆ่าลูกชายตัวเอง งั้นแสดงว่าตัวการต้องเป็นคนที่เดิมไม่มีอำนาจทางการทหารแต่พอนำอาร์มมาใช้ในกองทัพทำให้ตนเองมีอำนาจขึ้นมาสินะ
ผมเหลือบไปมองภาพวาดและประวัติของผู้หญิงสามคนที่น่าสงสัยบนจอโปร่งแสงที่ลอยอยู่กลางอากาศ ในบรรดาเหล่านางเอกที่เป็นคนของสาธารณรัฐไวท์ฮาวด์และขึ้นมามีอำนาจอีกครั้งหลังสงคราม ด้วยความสามารถในการใช้อาร์ม
ตัวผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ดีๆ โปรไฟล์ตัวละครซึ่งเป็นหนึ่งในฟังชั่นที่ผมใช้งานได้ตอนนี้ ถึงได้ปลดล็อกปรากฏประวัติของสาวๆตัวละครเอกทุกคนขึ้นมา
ถ้าถามผมว่าอยากจะล้างแค้นไหม ผมคงตอบได้ในทันทีว่า ‘ไม่’ เพราะผมไม่มีความทรงจำของเจ้าตัวพระเอกเลยสักนิด แต่สำหรับคุณน้องสาวแล้วผมคิดว่าปล่อยให้เธอไม่รู้ต่อไปน่าจะเป็นการดีกว่า ปู่ของเธอเองที่ดันไว้แค่ที่ยศร้อยเอกบางทีเขาคงรู้ถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
อำนาจมันหอมหวานผู้คนเลยแก่งแย่ง ความคิดที่คุณน้องสาวจะลาออกน่ะน่าจะถูกแล้ว นับจากนี้ไปครอสโอเวอร์จะถอนตัวออกจากหน้าประวัติศาสตร์
ผมคิดว่าไปใช้ชีวิตสบายๆน่าจะดีกว่านะ ก็รวยซะขนาดนี้แล้วนี่ ผมนึกถึงราคาโคมไฟชื่อเรียกยากนั่นที่แขวนอยู่บนเพดานคอนโดแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าในเกมโป๊เนื้อเรื่องมันจะลึกลับซับซ้อนขนาดนี้
ตอนที่สิบเอ็ด ถูกจู่โจ่มกระทันหัน
หลังจากคุณน้องสาวยื่นหนังสือลาออกเสร็จเราก็ไปเดินห้างสรรพสินค้าซื้อของด้วยกัน ผมตัดสินใจซื้อของสดไปด้วยหลายอย่าง ทั้งเนื้อ ทั้งผัก เพื่อไปลองทำอาหารดู เอาเถอะของแบบนี้น่ะฝึกฝนกันได้ผมจะแสดงเสน่ห์ปลายจวักของตาลุงอายุ***เอง
ผมได้คุยเล่นกับคุณน้องสาวหลายอย่าง มันรู้สึกดีจริงๆนะที่ได้มาเที่ยวกับครอบครัว เมื่อผมยิ้มให้เธอ เธอก็จะยิ้มให้ผมเวนดี้ช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ
อ๊ะ! จริงสิผมคุยกับเธอเรื่องวิ่งในตอนเช้าด้วยเพราะผมอยากทำภารกิจเพิ่มSTRยังไงล่ะ แล้ววันพรุ่งนี้เราก็จะออกไปวิ่งด้วยกันล่ะ ว้าวนี่สินะฤดูใบไม้ผลิของผมล่ะ นี่แหละความต่างของการไปต่างโลกแบบธรรมดากับไปต่างโลกของเกมจีบสาวล่ะ
“จะว่าไปวันนี้เหมือนเดทเลยนะ”
ผมพูดขึ้นมาระหว่างที่เราเดินกลับบ้านด้วยกันในตอนเย็น ตอนนี้พระอาทิตย์คล้อยลงต่ำ จนแทบจะลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงของดวงอาทิตย์ย้อมแม่น้ำที่เรากำลังเดินผ่านเป็นสีส้มแดงระยิบระยับดูงดงามราวกับอัญมนี
“ฮิฮิ พี่จ๋านี่ล่ะก็”
คุณน้องสาวยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและตีแขนของผมแก้เขิน ขอให้ผมพูดอีกครั้งเถอะเธอเนี่ยดูน่ารักจริงๆเลยนะ
ดูเหมือนเธอจะเรียกผมว่าพี่จ๋าเฉพาะเวลาเธอมีความสุขสุดๆ ตรงส่วนนี้เองก็น่ารักนะ
“อย่างงี้พี่จ๋าต้องให้รางวัลหนูแล้วล่ะ” คุณน้องสาวหันหน้ามาหาผมเธอหลับตาลงและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
“เจ้าเด็กลามกนี่” ผมยิ้มมองสาวน้อยขี้อ้อนที่ต้องการรางวัลจากผม
ในระหว่างที่ผมกำลังตัดสินใจว่าจะหอมแก้มหรือจะดีดหน้าผากเด็กลามกตรงหน้าผมดี ผมก็เห็นบางอย่างกำลังพุ่งตรงเข้ามา บางอย่างที่คล้ายกับ…
“เวนดี้ระวัง!”
….อาร์เมอร์
ผมตัดสินใจผลักคุณน้องสาวให้พ้นระยะจู่โจมของ อัศวินในชุดเกราะสีเงิน
อาร์มที่รูปลักษณ์งดงามไร้ที่ติราวกับชุดเกราะที่ตีขึ้นมาเพื่อจัดแสดงในงานศิลปะมากกว่าสนามรบ เกราะสีเงินทอประกายแสงสีขาวอ่อนๆออกมา ราวกับรัศมีแสงของดวงอาทิตย์ รูปร่างที่เพรียวบางแสดงให้เห็นถึงความว่องไวไม่เป็นสองรองใคร แม้แต่ตัวหมวกเกราะเองก็มีดีไซน์ที่เรียบลื่นโค้งม่น
งดงามมากกว่าดุดันแต่กลับรู้สึกถึงความอันตรายอย่างน่าประหลาดราวกับดอกกุหลาบพิษที่มีหนามแหลมคม
อัศวินในชุดเกราะสีเงินคว้าตัวของผม และดีดตัวพุ่งขึ้นเหนือพื้นดินหลายสิบเมตร เป็นพลังกำลังที่มหาศาลจนผมตกเบิกตากว้างและกำมือแน่นด้วยความหวาดกลัว
สะพานเล็กๆที่ผมยืนอยู่กับเวนดี้เมื่อครู่ถึงกับพังทลายลงบางส่วนจากแรงปะทะตอนดีดตัว ผมรู้สึกตื่นตระหนกจนหลงลืมไปว่าน้องสาวของผมก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้อาร์มที่เก่งกาจ
ลมพายุโหมกระหน่ำ พัดร่างของอัศวินสีเงินกระเด็นกลับไปยังสะพานที่แตกหักอีกครั้ง แม้ว่าผมจะไม่ได้ตกลงกระทบสะพานแต่ตัวผมเองก็ได้รับผลกระทบจากแรงกระแทกของมันจนปวดร้าวไปทั้งตัว
อัศวินสีเงิน ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับตัวตนของผู้ใช้อาร์มที่สร้างพายุอันน่าพรั่นพรึงกลางอากาศโดยยังไม่ยอมปล่อยมือจากร่างของผม
ผู้ใช้อาร์มที่ยืนอยู่ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำราวกับ ลมพายุนั้นเป็นเพียงลมเย็นสบายจากพัดลม มีรูปลักษณ์ที่เรียกได้ว่างดงามไม่แพ้อัศวินสีเงินเลย
ชุดเกราะสีขาวที่ตัววัสดุที่ใช้ราวกับว่าทำมาจากศิลาเวทย์ทรงอนุภาพ ทุกรอยต่อทุกช่องว่างเปล่งแสงสีเขียวอ่อนที่ให้กลิ่นอายแห่งสายลมบริสุทธิ์ ตามผิวของชุดเกราะถูกสลักไว้ด้วยอักษรรูนลึกลับที่เปล่งแสงสว่างสีเขียวออกมา
ชุดเกราะที่ดูต่างกับอัศวินสีเงินในเชิงของยุคสมัย ถ้าหากชุดเกราะของอัศวินสีเงินเป็นเหมือนงานศิลปะสมัยใหม่ที่จัดแสดงตามงานนิทรรศการศิลปะ ชุดเกราะสีขาวนี้ก็ดูงดงามและลึกลับราวกับหลุดมาจากอารยธรรมที่สาปสูญคู่ควรจัดแสดงตามพิพิธภัณฑ์
“วางพี่ชายของฉันลงเดี๋ยวนี้! แกกล้ามากนะที่มาจู่โจมฉัน!”
“อึก!”
ผมโดนอัศวินในชุดเกราะสีเงินโยนไปกระแทกซากสะพาน ต้องยอมรับเลยว่าแรงของผู้ใช้อาร์มระดับสูงไม่ธรรมดาเลย ผมรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวจนลุกไม่ขึ้น บางทีผมอาจจะได้รับบาดเจ็บภายในจากแรงกระแทก
“แก! ตาย!”
คุณน้องสาวที่ดูท่าจะโกรธจนเลือดขึ้นหน้าแล้วดีดตัวเข้าประชิดตัวอัศวินสีเงินในทันที ลมพายุพัดเศษหินกระเด็นใส่อัศวินสีเงินกระทบเกราะดังก๋องแก๊ง แต่กลับไม่มีหินก้อนไหนกระเด็นมาถูกตัวผมเลยแสดงให้เห็นถึงฝีมือของคุณน้องสาวได้เป็นอย่างดี
เวนดี้ในชุดเกราะสีขาวดีดตัวถอยกลับมาเล็กน้อยตวัดมืออย่างรวดเร็วเรียกหอกซึ่งเป็นอาวุธประจำกายฟาดใส่ศัตรูของเธอ
อัศวินสีเงินเองก็ขยับแขนด้วยท่าทางงดงามเรียกดาบยาวสองคมเล่มบาง ขึ้นมาป้องกันได้อย่างทันท่วงที
ผู้ใช้อาร์มทั้งสองฟาดฟันกันด้วยอาวุธของตนอย่างไม่มีใครยอมใคร แม้ว่าเวนดี้จะโจมตีด้วยการกระหน่ำแทงหรือฟาดหอกยังไงอีกฝ่ายก็จะปัดป้องได้เสมอ
“พายุที่ไม่มีฝนก็ไม่เท่าไหร่นิ”
“ไอ้นี่”
อัศวินสีเงินกล่าวยั่วยุเวนดี้พลางเรียกดาบอีกเล่มนึงที่มีดีไซน์แปลกตาคล้ายกับเคียวเกี่ยวข้าวที่แคบกว่าและใบดาบมีลักษณะตั้งตรงเป็นมุมฉาก ขึ้นมาปัดป้องเพลงหอกอันเกรี้ยวกราดของเธอ
เมื่อมีดาบสองเล่มอัศวินสีเงินก็เริ่มเปลี่ยนจากการตั้งรับมาเป็นฝ่ายรุก เวนดี้เริ่มถูกกดดันให้ถอยกลับช้าๆ ด้วยเพลงดาบที่แปลกประหลาดของอัศวินสีเงิน
เพียงการตวัดดาบไม่กี่ทีเวนดี้ที่เป็นฝ่ายรุกก็ต้องรีบชักหอกกลับ เพื่อนำมาป้องกันตนเอง
“หึ”
พริบตาที่ดาบยาวในมือขวาจะกระทบหอก อัศวินสีเงินก็ปาจากดาบโค้งในมือข้างซ้ายออกไป ใบดาบที่งอตั้งมุมฉากทำหน้าที่คล้ายบูมเมอแรงลอยวนกลับมากระแทกเข้าด้านหลังเวนดี้
ฉึก!
“อึก!”
เวนดี้กัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด เธอใช้เข่าข้างขวาเสริมพลังหมุนวนด้วยสายลมจนเหล่าอักษรที่สลักอยู่บนชุดส่องสว่าง แทงเข้าโจมตีร่างกายด้านซ้ายของอัศวินสีเงินที่ไร้ดาบปัดป้อง
“อั่ก! แสบนักนะ”
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนมีฝีมือและสไตล์การต่อสู้ใกล้เคียงกันมากทันทีที่ใครก็ตามพยายามจะรุกโจมตีอีกฝ่ายอีกคนก็จะใช้จังหวะนั้นสวนกลับใยทันที จนตอนนี้เริ่มสะบักสะบอมกันทั้งคู่
อัศวินสีเงินมีรอยยุบขนาดใหญ่ที่ข้างลำตัวซ้าย ตามเกราะแขนและขาเต็มไปด้วยรอยลากยาวจากการตวัดหอก และมีร่องรอยยุบเล็กๆตามจุดต่างๆแทบทั้งเกราะจากเศษหินและเวทย์มนต์สายลม
ส่วนคุณน้องสาวก็อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีเช่นกัน นาดที่ว่าชุดเกราะสีขาวเริ่มมีร่องรอยเลือดสีแดงให้เห็นเด่นชัด ทั่วทั้งร่างของเธอมีรอยบาดลึกจากอาวุธอีกฝ่าย และมีรอยบาดขนาดใหญ่ที่กลางแผ่นหลัง ถึงแม้จะยังไม่มีบาดแผลในจุดสำคัญแต่จุดที่โดนเฉือดแต่ละที่ก็ไม่ใช่บาดแผลที่เล็กๆเลย
ครั้งนี้ไม่เหมือนตอนที่ผมอยู่ในสนามประลอง ไม่มีเวทย์มนต์ย้อนสภาพ แผลที่เกิดขึ้นก็เป็นแผลจริงๆเป็นการต่อสู้ที่เอาชีวิตเข้าแลก จากที่ผมเห็นผมคิดว่าคุณน้องสาวน่าจะกำลังเสียเปรียบเพราะสายระยะใกล้ มีพลังเวทย์ที่น้อยแม้แต่เธอเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
เวนดี้ใช้เวทย์ไปหลายครั้งรวมไปถึงพายุครั้งแรกที่พัดอัศวินสีเงินลงมาจากฟ้าก็ด้วยดังนั้นมานาของเธอน่าจะใกล้จะหมดแล้ว ผิดกับอีกฝ่ายที่ยังแทบไม่ได้ใช้เวทย์ออกไปเลย
“ฮ่าๆ ลำบากแย่เลยเนอะเป็นหนุ่มฮอตเนี่ย”
เสียงหัวเราะอันสดใสของหญิงสาวดังมาจากข้างๆตัวของผม ทั้งทีที่ผมหันไปมองผมก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ข้างตัวของผมปรากฏร่างของผู้ใช้อาร์มอีกคนนึง เธอใส่ชุดเกราะขนาดยักษ์เทอะทะสีดำเงาวับที่มีลวดลายคล้ายเถ้าไม้เลื้อยสีแดงส่องสว่างเหมือนอักษรรูนลึกลับบนเกราะของเวนดี้
อัศวินสีเงินหันขวับมาทางผมในทันที เมื่อรับรู้ถึงผู้ใช้อาร์มคนใหม่ แต่มีเหรอเวนดี้จะยอมปล่อยศัตรูของเธอไปง่ายๆ
อักษรบนหอกสีขาวเปล่งประกายแสงสีเขียวสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ ตัวหอกที่หมุนวนราวกับสว่านพุ่งตรงใส่อัศวินสีเงิน
“น่ารำคาญจริง!!”
อัศวินสีเงินตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาน และนั่นทำให้ผมรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงจากเสียงของเธอ ดาบเล่มที่สองปรากฏบนมือของเธออีกครั้งด้วยสกิลเรียกดาบ จากนั่นอัศวินสีเงินก็ทำสิ่งที่ผมต้องตกตะลึงเมื่อเธอนำดาบทั้งสองมาประกบกัน ลำแสงสีขาวพุ่งออกมาจากระหว่างกลายของดาบทั้งสองเข้าใส่หอกสว่านของคุณน้องสาว
ตรึมมมม!!
การปะทะกันของลำแสงสีขาวทำให้เกิดแรงระเบิดขึ้นจนทำให้สะพานหินพังลงอย่างสมบูรณ์ แล้วเมื่อควันจางลงอัศวินสีเงินก็ต้องหัวเสียเพราะศัตรูและบุคคลที่เป็นเป้าหมายของเธอหายไปเสียแล้ว