ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 103 มู่หรงหลันหลันที่ก้าวร้าวและไร้เหตุผล
ไม่ได้อะไรมาทั้งคืน เฉินอีจึงไม่เสียเวลากับเรื่องนี้ต่อ
จากที่พูดมาก่อนหน้านี้ เฉินอีซื้ออาหารค่ำมามากมาย ขณะที่กำลังจะกลับ เขาชนกับคนสองสามคน คนที่นำมาคือมู่หรงหลันหลัน
แต่เมื่อเทียบกับท่าทีได้ใจเมื่อครู่ มู่หรงหลันหลันดูหงุดหงิดไม่น้อย
คนสวยนี่
มีรุ่นพี่สองสามคน เห็นท่าทีของมู่หรงหลันหลัน ก็อดส่ายหน้าไม่ได้
พวกเขาดูออกว่าตอนนี้มู่หรงหลันหลันกำลังหัวร้อน ใครเข้ามาหาเรื่อง เท่ากับหาเรื่องใส่ตัว
น่าเสียดาย ที่บางครั้งการเจอเรื่องวุ่นวาย ช่างพบได้ง่ายดายเหลือเกิน
มู่หรงหลันหลันเดินไปชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
เฉินอีเดินไป โดนใครบางคนชน นั่นคือมู่หรงหลันหลัน
นายเดินไม่ดูตาม้าตาเรือหรือไง
มู่หรงหลันหลันพูดอย่างไม่สบอารมณ์
เฉินอีเลิกคิ้วขึ้น คุณผู้หญิง เหมือนว่าคุณจะชนผมนะ และดูจากเส้นทางการเดิน คุณก็เดินผิดด้วย
เดินชิดขวา เป็นหลักการที่เด็กทุกบ้านล้วนรู้ดี
เมื่อกี้มู่หรงหลันหลันเดินผิดทาง ดังนั้นคนผิดก็คือเธอ
แต่ว่า!
หมายความว่ายังไง นายกำลังบอกว่าแค่เดิน ฉันก็ยังทำไม่เป็นอย่างนั้นเหรอ แถมยังว่าฉันจงใจชนนาย และด่านายด้วยเหรอ นายคิดว่าฉันว่างถึงขนาดที่ต้องมาหาเรื่องนายเลยเหรอ
มู่หรงหลันหลันหัวร้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็เดือดภายในพริบตา
เธอดึงเฉินอีเอาไว้ แล้วพูดอย่างโมโห นายห้ามไป ต้องพูดกับฉันให้ชัดเจนก่อน!
ผู้หญิงคนนี้นี่
เดิมทีเฉินอีอยากพูดให้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้คิดต่อว่าอีกฝ่าย
ไม่ใช่เพราะว่าเขาจิตใจดี แต่ถ้าอาหารค่ำเย็นหมด ก็ไม่น่าเอากลับไปให้คุณภรรยาทาน แต่ผู้หญิงคนนี้น่าหงุดหงิดจริงๆ
คุณผู้หญิง คุณไปดูกล้องวงจรปิดได้นะ เมื่อกี้ผมหลีกทางให้แล้ว แต่คุณเอาแต่ก้มหน้า แถมยังเดินเอียงด้วย สุดท้ายก็มาชนผม ผมยังไม่ได้พูดอะไร คุณก็มาให้ผมตอบคำถาม
เขารู้สึกตลกมาก
ไม่ต้องพูดเรื่องที่เขาถูกหรือผิด สองสามปีนี้ คนที่กล้าให้เขาตอบคำถาม นอกจากฉินปิงหลัน ก็มีผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่สอง
แต่สิ่งที่ต่างกัน ไม่ว่าอย่างไร เฉินอีสามารถยอมรับฉินปิงหลันอย่างไม่มีข้อจำกัด แต่ผู้หญิงคนนี้กำลังเล่นอะไร
ทางที่ดีผู้หญิงคนนี้ควรรู้อะไรหน่อย ไม่งั้นเขาจะลงมืออย่างไม่ถือสา
เมื่อคิดได้เช่นนี้ แววตาของเขาเย็นชาลงอีก
และตอนนี้คนตรงข้ามก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
หลันหลัน อย่าหาเรื่อง
คิดไม่ถึงว่าคำว่าอย่าหาเรื่อง จุดไฟโกรธในใจของผู้หญิงคนนี้อย่างสมบูรณ์
ฉันหาเรื่องงั้นเหรอ
เมื่อกี้ฉันกำลังคิดอะไรอยู่ คิดว่าทำยังไงถึงจะรักษาความสงบของเมืองเรา อย่าบอกนะว่าฉันผิด!
ยิ่งไปกว่านั้น ควรให้เกียรติผู้หญิงก่อน เขาไม่ควรหลีกทางให้ฉันเหรอ แถมยังเดินเร็วขนาดนั้นอีก รีบไปตายหรือไง!
ไม่ใช่สิ ฉันสงสัยว่าคนนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคดีฆาตกรรมแถบนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ต้องใส่กุญแจมือ!
เหมือนในหัวของมู่หรงหลันหลัน มีอะไรเชื่อมโยงกันไปหมด จู่ๆ ก็คิดเรื่องซะชัดเจน
ขณะนั้น เจ้าหน้าดูแลความปลอดภัย ที่มีอายุคนหนึ่งได้ยิน ถึงกับหนังตากระตุก
นี่ไม่ใช่คำพูดที่จะพูดออกมามั่วซั่วได้ ถ้าถูกพูดออกไป ต้องโดนตำหนิยกใหญ่แน่นอน
หลันหลัน พูดน้อยๆ หน่อย!
เขาดุมู่หรงหลันหลัน พลางเหลือบมองสีหน้าของเฉินอี
เขาพบสิ่งที่น่าตกใจ ชายหนุ่มคนนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ยังไม่มีสีหน้าอะไรผิดปกติเลย
ชายหนุ่มคนนี้เป็นพวกอ่อนแอ ไม่ใช่สิ ถ้าอ่อนแอ น้ำเสียงการพูดเมื่อกี้คงไม่มีพลังขนาดนั้น
งั้นแสดงว่าพลังฝึกปราณของหนุ่มคนนี้ ต้องถึงขั้นที่คาดไม่ถึง
เจ้าหน้าดูแลความปลอดภัยที่มีอายุ ช็อกไปเล็กน้อย
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าชายอายุน้อยขนาดนี้ จะมีพลังฝึกปราณที่ไม่เลวเช่นนี้ ถึงพวกคนมีประสบการณ์มากมาย ก็อาจจะไม่มีความสามารถเช่นนี้
เมื่อเทียบกับเฉินอี มู่หรงหลันหลันกลายเป็นอะไรที่ต้อยต่ำขั้นสุด
ฉันว่าไอ้หมอนี่มีอะไรแน่นอน ดังนั้นหวังว่าคุณผู้ชายจะให้ความร่วมมือ
น้ำเสียงของมู่หรงหลันหลันดูเกรงใจ แต่ในความเป็นจริง กลับไม่ไว้หน้าสักนิด เธอหยิบกุญแจมือ กำลังจะล็อกข้อมือ
เจ้าหน้าดูแลความปลอดภัยที่มีอายุ หน้าเปลี่ยนสี ขณะที่กำลังจะพูด ชายหนุ่มคนที่ชอบมู่หรงหลันหลัน ที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมาว่า
ผมเห็นด้วยกับคำพูดของหลันหลัน คนนี้ดูแน่วแน่เกินไป ต้องแสร้งทำอย่างแน่นอน แสดงว่าเขาต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบางอย่างแน่ ไม่งั้นคงไม่จำเป็นต้องแสร้งแสดง
เขาพูดจนจบ มู่หรงหลันหลันหันไปมองด้วยแววตาเห็นด้วย
สีหน้าของเจ้าหน้าดูแลความปลอดภัยที่มีอายุ เปลี่ยนไปทันที
เขาไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้แสดงออกถึงอะไรกันแน่
ถึงเฉินอีจะแน่วแน่อีกสักแค่ไหน ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาสักนิด เพราะบางคนเกิดมาก็มีจิตวิญญาณแข็งแกร่งแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น แต่ไหนแต่ไรก็มีวิธีพูดที่ว่า มิได้กระทำเรื่องผิดมโนธรรม ย่อมไม่กลัวผีสางเคาะประตู การที่แน่วแน่เกินไป กลายเป็นหนึ่งในพื้นฐานของการตัดสินโทษว่ากระทำความผิด ไปตั้งแต่ตอนไหนกัน
พวกนาย……
เจ้าหน้าดูแลความปลอดภัยที่มีอายุ กำลังจะพูดอะไร แต่ก็โดนเถียงกลับมาอย่างรวดเร็ว
รุ่นพี่ เชื่อการตัดสินของฉัน แต่ไหนแต่ไรมา การตัดสินของฉันทุกครั้ง ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน
ถึงเป็นครั้งก่อนหน้านี้ ถ้าไม่บอกว่าพวกเขาเป็นคนของหลงซื่อกรุ๊ป มีคนคอยให้พวกเขาพึ่งพา ฉันจะผิดได้ยังไง!
เห็นได้ชัดว่ามู่หรงหลันหลันพะวงเรื่องก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็ยังไม่ลืมพูดขึ้นมา ถึงขนาดที่เรียกได้ว่า การที่เล่นงานเฉินอี เพราะว่าไม่สบอารมณ์เท่านั้น
นอกจากนี้เธอยังเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเองมาก คิดว่าตัวเองไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน เฉินอีต้องเป็นคนร้ายแน่ๆ
พูดพลางใส่กุญแจมือเฉินอี ครั้งนี้เฉินอีไม่คิดจะขัดขืน แต่กลับมีประกายขึ้นในแววตาเล็กน้อย
หลงซื่อกรุ๊ปงั้นเหรอ
แถมยังจับกุมได้วันนี้ด้วย
เฉินอีแอบคาดเดาในใจ และมองมู่หรงหลันหลันอีกหลายครั้ง คงไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้หรอกนะ ที่ทำลายแผนจับโจรของพวกเขาในคืนนี้
เฉินอีถูกนำตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว
การที่เฉินอีทำตัวว่าง่ายขนาดนี้ ยิ่งทำให้มู่หรงหลันหลันคิดว่าตัวเองพูดถูก ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดีแน่ๆ เห็นได้ชัดว่า เขารู้ว่าตัวเองกำลังจะซวย จึงไร้คำพูด
คิดไม่ถึงว่า หลินอีอยากตามไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลงซื่อกรุ๊ปกันแน่
ต้องรู้ว่าคืนนี้ หยางเหลียนหลงปิดกั้นส่วนนั้นไว้หมดแล้ว จุดประสงค์ก็คือหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาทำลายแผน
ว่ากันตามเหตุผล พวกมู่หรงหลันหลันไม่มีสิทธิ์เข้าไปที่นั่น แต่อีกฝ่ายกลับจับกุมตัวคนของหลงซื่อกรุ๊ปที่นั่น แถมยังมาจับตัวเองที่นี่อีกด้วย ถ้าไม่พูดว่ามีอะไรแปลก เฉินอีไม่มีทางเชื่อแน่นอน