ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 105 เรามีเรื่องให้ช่วย
คนยี่สิบกว่าคน แต่ละคนล้วนดูทรงอำนาจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ ทุกคนตื่นตระหนกไม่หยุด พวกเขายังไม่เคยเจออำนาจใหญ่ขนาดนี้
พวกนายเป็นใคร
มีชายหนุ่มคนหนึ่ง อดถามด้วยเสียงสั่นเครือไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ตรงหน้า มันใหญ่เกินความคาดหมายของพวกเขาแล้ว
แต่เฉินอีกลับไม่ตื่นตระหนก เดินไปตรงหน้าคนพวกนั้นอย่างช้าๆ ช็อกจนพวกเจ้าพ่อ ที่ไม่ได้สนใจคนในสาขาสำนักงาน หน้าเปลี่ยนสี
เจ้าพ่อเฉิน!
เถ้าแก่!
คุณเฉิน!
แต่ละคนพูดตามกันติดๆ
หยางเหลียนหลง วังจ่างหลิน จิ่งหลิงและคนอื่นๆ ต่างรีบมาที่นี่
แม้แต่เฉ่าเฉียงที่มาเยี่ยมเยียนเฉินอี ก็อยู่ในนี้ด้วย คนที่เรียกว่าเจ้าพ่อเฉินก็คือเขา
ตอนนี้เฉ่าเฉียงตกใจจนเหงื่อแตกทั้งตัว หมดปัญญา พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าในเมืองฉืออันยิ่งใหญ่ จะมีคนกล้าลงมือกับเฉินอี ถึงขนาดที่กล้าจับกุมตัวเฉินอี
เจ้าพ่อเฉิน
เฉ่าเฉียงก้มหน้า เขาดูหวาดผวาจนผิดปกติ
ตอนนี้ เฉินอีกลับโบกมือไปมา แล้วพูดว่า ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกขนาดนี้ ฉันมีความคิดอย่างอื่น ถึงทำเช่นนี้ ไม่งั้นคนพวกนี้จับฉันไม่ได้หรอก
เขาไม่ได้พูดอวด แต่เป็นเช่นนี้จริงๆ
จากความสามารถของเฉินอี ถ้าเขาอยากออกไปจริงๆ พวกมู่หรงหลันหลันคงไม่มีปัญญาสักนิด
การที่เฉินอีอยู่ต่อ ไม่ใช่เพราะอยากไว้หน้าคนของกรมอนามัยและความปลอดภัย แต่เขาอยากเห็นคนของหลงซื่อกรุ๊ปเท่านั้น
อันที่จริง ก่อนหน้านี้ได้รู้ว่าคนของหลงซื่อกรุ๊ปออกมา เขากะว่าจะออกมาเหมือนกัน แต่คิดไม่ถึงว่าคนของหลงซื่อกรุ๊ปจะย้อนกลับมาอีก นี่เลยสมความตั้งใจของเขาพอดี
ตามฉันมา
เฉินอีสะบัดแขนเสื้อ และเดินไปที่ห้องทำงานสาขาสำนักงาน
เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเห็นภาพนี้ เขารีบวิ่งเข้ามา ตำหนิว่า นี่เป็นสถานที่ ที่นายมาได้เหรอ รีบไสหัวออกไปเลย!
เพียะ!
ผลได้ที่คือ เจ้าหน้าที่หนุ่มคนนี้เพิ่งเอ่ยปาก ก็โดนฝ่ามืออันแข็งแกร่งของหยางเหลียนหลงตบ
ใครวะ!
ชายหนุ่มคนนั้นโมโหมาก กำลังจะแก้แค้นหยางเหลียนหลงสักหน่อย
แต่ว่า!
ฉันชื่อหยางเหลียนหลง!
ห้าคำนี้ฟังดูพูดออกมาลอยๆ
ชายหนุ่มคนนั้นโมโหในตอนแรก แต่ไม่นานก็อ่อนปวกเปียก ทรุดลงกับพื้น
หยาง อธิบดีหยาง!
อธิบดีหยาง คือคำที่ใช้เรียกคนมีฝีมือของหน่วยงานดูแลการตลาด อย่างหยางเหลียนหลงโดยเฉพาะ รับผิดชอบกรมอนามัยและความปลอดภัยของเมือง สาขาสำนักงาน และด่านทั้งหมดในเมืองฉือ เรียกได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตอันดับหนึ่ง ถ้าพูดเรื่องฐานะในเมืองฉือ มีไม่กี่คนที่สามารถเทียบกับท่านนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่เหนือกว่าหยางเหลียนหลง ให้ตายก็มีแค่ไม่กี่คน
เป็นคนใหญ่คนโตที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง!
เจ้าหน้าที่มีอายุคนนั้นก็สูดหายใจเฮือก เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ ใหญ่โตเหนือความคาดหมายของพวกเขา แต่ถ้าพูดสรุป ก็ยังอยู่ในความคาดหมายของพวกเขา
ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินอีมีท่าทีนิ่งสงบตลอดเวลา เจ้าหน้าที่มีอายุ ผ่านประสบการณ์ในหน้าที่การงาน อย่างโชกโชนมาหลายปี เจอคนมาหลากหลายประเภท แต่เคยเจอคนหนุ่มขนาดนี้ เป็นครั้งแรก ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
นี่ทำให้เจ้าหน้าที่มีอายุ อดทอดถอนใจไม่ได้
มู่หรงหลันหลัน รนหาที่ตายจริงๆ ตอนแรกจัดการคนของตระกูลมังกร ตระกูลเฉิน วันนี้ยังเป็นศัตรูกับชายหนุ่ม ที่ทำให้อธิบดีหยางออกหน้าเองถึงขนาดนี้ ถ้าเธอไม่โดนถลกหนังสิ ถึงจะแปลก
เขาอดส่ายหน้าไม่ได้
แน่นอนว่าถ้าเจ้าหน้าที่มีอายุรู้ว่าเมื่อกี้ เจ้าแห่งโลกธุรกิจอันดันต้นๆ ในพื้นที่ ข้างๆ หยางเหลียนหลง มีผู้ช่วยฝีมือดีคนอื่น ยิ่งมีเฉ่าเฉียง ผู้ที่มีอำนาจทางการทหารสูงสุดในเมืองชิงชวนอยู่ด้วยอีก คงจะตกใจจนเป็นลมตายไปเลย
แน่นอนว่าตอนนี้อธิบดีมู่หรง ใกล้จะอกแตกตายกับลูกสาวตัวเองแล้ว
เขาไม่รู้เรื่องของเฉินอี เห็นแค่ลูกสาวของบ้านตัวเอง และเห็นพวกคนของตระกูลมังกร กับผู้ดูแลจงของตระกูลเฉิน และคุณชายร่วมสายเลือดทางอ้อมอย่างเฉินฝู มู่หรงหมิงเข้าใจทันที ว่าครั้งนี้ตัวเองเจอกับผิดมหันต์แล้ว
หลันหลัน มานี่!
มู่หรงหมิงหันไปตะโกนเรียกมู่หรงหลันหลัน เธอเดินย่นปากยู่เข้ามา ดูจากสีหน้าก็รู้ ท่าทางของสาวสวยคนนี้ ดูไม่ยอมเป็นอย่างมาก
พ่อ
เรียกอธิบดี!
มู่หรงหมิงใช้เสียงสูงในการตำหนิ
คนของตระกูลมังกรหัวเราะเยาะ ผู้ดูแลจงก็ดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ทำเป็นเสแสร้งแกล้งทำ ใครจะไปเชื่อ
เมื่อมู่หรงหมิงได้ยินเสียงหัวเราะเยาะ เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างเห็นได้ชัด
นี่เป็นพวกเจ้าพ่อที่มาจากวงการใต้ดินของเมืองอสูรและเมืองเอก หัวหน้าสาขาสำนักงานเล็กๆ อย่างเขา จะไปล่วงเกินได้อย่างไร
หลังสูดหายใจลึก เขาพูดอย่างน่ากลัวว่า ขอโทษพวกคุณเขา!
แต่ว่า!
ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ฉันให้แกขอโทษ!
มู่หรงหมิงไม่มีเวลามาสนใจอะไรมาก รีบสั่งให้มู่หรงหลันหลันขอโทษ เธอถึงกับหนังตากระตุก เห็นได้ชัดว่าเธอคาดไม่ถึง
เธอไม่พอใจมาก
ในความคิดของมู่หรงหลันหลัน ถึงตัวเองกล่าวหาอีกฝ่าย แต่ก็เพราะเหตุผลอื่น อีกฝ่ายควรจะอภัยเธอ อย่างไร้เงื่อนไข มีสิทธิ์อะไรถึงยังมาร้องเรียนใส่ตัวเอง แถมยังวุ่นวายมาถึงพ่อของเธอ
พ่อเธอควรจะยืนข้างเธอไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงต้องช่วยคนฝั่งตรงข้ามพูดด้วย
มู่หรงหมิงดูออกว่าลูกสาวตัวเองคิดอะไร เขาโน้มหน้ากระซิบข้างหู คนพวกนี้เป็นคนของหลงซื่อกรุ๊ป คนของตระกูลเฉิน ถ้าล่วงเกินจริงๆ พ่อแกคงโดนโทษหนักแน่ เข้าใจหรือยัง
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่หรงหลันหลันถึงกับใจเต้น หันไปมองพวกคนของตระกูลมังกร และรีบเข้าไปขอโทษทันที
เหอะๆ ขอโทษก็ส่วนขอโทษ แต่ความจริงใจยังไม่พอ
ขณะนั้นเฉินฝูแสยะยิ้ม ทำให้คนของตระกูลมังกรทั้งสองคน พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
มู่หรงหลันหลันโมโหจนแทบจะเป็นลม แต่เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย ตัวเธอทำเพียงสูดหายใจลึก และพูดอย่างจนปัญญา ขอแค่พวกคุณให้อภัยฉัน ถึงต้องชดใช้สักเท่าไร ฉันก็เต็มใจ
ท่าทีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เธอไม่สนใจว่าคนอื่นจะสั่งเธอยังไง เพราะเธอมีพ่อที่ดี
แต่ถ้าพ่อล้มลง ตัวเธอก็ทำอะไรไม่ได้ มู่หรงหลันหลันไม่อยากเห็นผลแบบนั้น จึงพูดประโยคนี้ออกมา
เป็นไปตามคาด หลังได้ยินคำพูดเช่นนั้น สีหน้าของคนตระกูลมังกรทั้งสองคน เริ่มผ่อนคลายลงไม่น้อย
พวกเขาเป็นแค่สายเลือดทางอ้อมของหลงซื่อกรุ๊ป ไม่สามารถทำอะไรลูกสาวของหัวหน้าสาขาสำนักงานได้จริงๆ ดังนั้นจึงพูดตรงๆ ว่า เรามีเรื่องให้อธิบดีมู่หรงช่วยจริงๆ
คุณมังกรพูดมาได้เลยครับ
จู่ๆ แววตาของมู่หรงหมิงเป็นประกาย
เขากังวลว่าคนพวกนี้จะพูดว่าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว
ขอแค่มีอะไรพวกเขาช่วย บุญคุณความแค้นต่างๆ จะแก้ไขได้อย่างง่ายดาย