ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 11 ระทึกไปทั้งเมือง ผู้มีความสามารถได้พบกับโอกาสที่ดี
ทันทีที่ออกมาจากลานบ้าน เสือขาวก็รีบเดินขึ้นไปข้างหน้าทันที
เจ้ามังกร ทำไมไม่กำจัดคนพวกนั้นไปเลยล่ะครับ? พวกมันเหยียดหยามนายหญิง และนายน้อยทั้งสอง ความแค้นนี้ควรจะรีบเอาคืนเป็นร้อยเท่าถึงจะถูก
เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
เฉินอียิ้มเล็กน้อย และไม่ได้เอ่ยอะไร
ยังคงเป็นหงส์แดงที่เข้าใจความคิดของเฉินอี ถึงได้กล่าว: เจ้ามังกรต้องการถือโอกาสนี้ กวาดล้างกองกำลังเล็กใหญ่ในอาณาจักร เพราะหลายปีมานี้ พวกเราป้องกันพวกนอกอาณาจักรมาโดยตลอด แต่ในอาณาจักร พวกเราไม่มีรากฐานเลยสักนิด ถึงแม้ได้ลงมือกำจัดตระกูลหลินไปแล้ว แต่ยังไงมันก็ไม่ได้เป็นการจัดการจากต้นเหตุ
จะต้องอาศัยเรื่องตระกูลหลิน กำราบผู้คนให้มากกว่านี้ ถึงจะทำให้นายหญิง และนายน้อยทั้งสองปลอดภัย
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหล่าผู้อาวุโสของต้าถังคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ ถ้าหากพวกเขาส่งทหารมาปราบปรามพวกเรา……
เอ่ยมาถึงตรงนี้ หงส์แดงได้เลิกคิ้วเล็กน้อย
สำหรับเรื่องนี้ เฉินอีเพียงยิ้มแวบหนึ่ง
ฉันเฉินอี รบเพื่อต้าถังมานับไม่ถ้วน ไม่ต้องการตำแหน่งชื่อเสียง
วันนี้หวังเพียงให้ครอบครัวสงบสุข หวังเพียงให้พวกที่เหยียดหยามคนในครอบครัวของฉันโดนลงโทษ คนเลวที่รังแกครอบครัวของฉัน ถ้าหากประเทศต้าถังไม่ยอม งั้นก็คงต้องทำศึกกัน!
แววอันเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา
หลายปีมานี้ เขารบราฆ่าฟันอยู่นอกพรมแดน ก็เพื่อความสงบสุขของประเทศต้าถัง
ไม่ขอชื่อเสียงเกียรติยศใด ๆ จากต้าถัง แต่ถ้าหากเรื่องนี้ถูกต้าถังขัดขวาง เช่นนั้นก็จะทำให้เขา ทำให้ทหารนับหมื่นของสำนักมังกรลับผิดหวัง
พวกหงส์แดงได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าเล็กน้อย จิตวิญญาณในการต่อสู้ได้แสดงออกมา
ถ้าหากราชสำนักต้าถังส่งทหารมาปราบปรามพวกเขาจริง ๆ เช่นนั้นอย่างมากก็แค่รบกันสักตั้ง เพราะทุกอย่างที่ตระกูลหลินทำนั้น ทำให้พวกเขาโกรธมาก
เสือขาวเองก็เข้าใจขึ้นมา แต่ก็ยังเอ่ยถาม: แต่ว่าทำไมต้องเลือกเขาติ้งจุนล่ะ? และอีกอย่างจะรับนายหญิง และนายน้อยทั้งสองมาหรือเปล่าครับ?
ไม่ต้อง
เฉินอีส่ายหน้าเบา ๆ จากนั้นก็รู้สึกปวดหัว
เรื่องราวในปีนั้น พูดได้ว่าเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาด เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับฉินปิงหลันยังไง
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขากำลังจะทำการสู้รบ บางสถานการณ์ไม่เหมาะที่จะให้พวกเธอแม่ลูกได้เห็น
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมต้องเลือกเขาติ้งจุน
เฉินอีมีความคิดมากมาย สายตาของเขามองไปที่ภูเขาที่สูงตระหง่านลูกนั้น
ยังจะเพราะอะไรอีกล่ะ
แน่นอนว่าเป็นเพราะ ภูเขาใหญ่มีป่ารกทึบไร้ช่องโหว่ เป็นจุดที่เหมาะต่อการฆ่าล้างตระกูลมากทีเดียว
อีกอย่าง เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องเป็นกว้าง จะดึงประชาชนคนธรรมดาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้ และที่นั่นเป็นสถานที่ที่เร้นลับพอดี
สุดท้ายเขาก็ยังคงคำนึงถึงประเทศต้าถัง
ทันทีที่ลงมือที่นี่ เกรงว่าคงทำให้ผู้คนมากมายให้ความสนใจ พอถึงเวลานั้นคงอยากที่จะอธิบายกับต้าถัง
เฉินอีกำลังถอยให้กับต้าถัง
เรื่องนี้ เป็นธรรมดาที่จะได้ยินไปถึงหูมือหนึ่งของเมืองชิงชวน ผู้ว่าการเฉ่าเฉียงอย่างรวดเร็ว
เฮ้อ!
เฉ่งเฉียงในตอนนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก
แรก ๆ เขายังกังวลว่าภายใต้ไฟโมโห เฉินอีจะลงมือฆ่าฟันภายในตัวเมือง เช่นนั้นจะต้องทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตแน่ อย่างน้อยเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมก็ควบคุมเอาไว้ไม่ได้
พอถึงตอนนั้น พวกเขาและทางราชการก็คงต้องระดมกำลังต่อสู้กัน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าพวกเขาจะสามารถสู้กับกองกำลังมหาศาลที่อยู่นอกพรมแดนสำนักมังกรลับนี้ได้หรือไม่?
กลัวแต่ว่าพอถึงตอนนั้น เรื่องราวจะบานปลาย มีความเป็นไปได้สูงว่าจะกลายเป็นการสู้รบระหว่างหน่วยทหารต้าถังระดับสูงและสำนักมังกรลับแทน
แต่เมื่อกองกำลังมหาศาลทั้งสองปะทะกันขึ้นมา ผลที่ตามมาทั้งหมด คนที่ต้องรับผิดชอบมีเพียงตัวเองที่เป็นผู้ว่าการเมืองชิงชวนเพียงคนเดียวเท่านั้น!
ไม่อย่างนั้นละก็จะให้เจ้ามังกรหรือคนที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของต้าถังท่านนั้นเป็นคนรับผิดชอบหรืออย่างไรกัน?
ในวันนี้ เฉินอีได้อดกลั้นความอาฆาตแค้นเอาไว้ ย้ายสนามรบไปที่เขาติ้งจุน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นความโชคดีที่สุด
เพียงแต่ว่าเขาก็ไม่กล้าละเลยเลยแม้แต่น้อย
กระจายคำสั่งของผมออกไป องครักษ์ในเมืองทุกนายออกเคลื่อนไหว โดยเฉพาะคนของกรมอนามัยและความปลอดภัยแห่งเมืองฉือ ให้ปิดตายทางออกทุกทางของเขาติ้งจุนให้กับผมให้หมด
นอกจากตระกูลหลินและพวกที่ไม่กลัวตายแล้ว คนอื่น ๆ ห้ามเข้าทั้งสิ้น!
โดยเฉพาะพวกสื่อต่าง ๆ ใครกล้ารายงานเรื่องนี้ งั้นพรุ่งนี้ก็รอปิดตัวลงเถอะ!
คำสั่งจากผู้ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของเมืองชิงชวนได้ถูกกระจายลงไป
ไม่นาน องครักษ์นับหมื่นต่างออกเคลื่อนไหว และปิดตายเขาติ้งจุนเอาไว้ภายในพริบตา แม้แต่ผู้คนที่ได้ขึ้นไปบนเขาแล้วต่างก็ถูกขับไล่ออกมา
วินาทีนี้ ผู้คนไม่น้อยต่างรับรู้ได้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในเขาติ้งจุน
แต่ไม่ว่าสื่อต่าง ๆ จะสัมภาษณ์ยังไง สูงถึงระดับหัวหน้า ล่างถึงองครักษ์ระดับสาม ถ้าไม่พูดอะไร ก็มีเพียงคำตอบเดียว……
ความลับสุดยอด!
ไม่มีใครกล้าถามอะไรมาก เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่สื่ออย่างพวกเขาจะเข้าไปมีส่วนร่วมได้
เพียงแต่ว่า นักข่าวคนหนึ่งของตระกูลหลิน ยังคงพยายามสอบถามองครักษ์อย่างเต็มที่ ทำให้หัวหน้าองครักษ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลหมดความอดทน
คุณต้องการทำอะไรกันแน่?!
หัวหน้าองครักษ์เอ่ยถามอย่างเย็นชา
สำหรับเรื่องนี้ ชายแซ่หลินไม่ใส่ใจเลยสักนิด เขายิ้มถาม: ขอถามหัวหน้า ข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ความลับสุดยอด
เหอะ ๆ
ชายแซ่หลินหัวเราะเยาะเย้ย กล่าว: หัวหน้า ผมจะบอกความจริงกับคุณนะครับ ผมเป็นคนตระกูลหลิน นอกจากนี้คุณลุงญาติห่างไกลคนหนึ่งของผมยังรับตำแหน่งอยู่ในหน่วยทหารตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
คุณให้คำตอบกับผมดี ๆ ให้ผมได้ข่าวใหญ่นี้ไป หรือไม่ก็……
หืม?
หัวหน้าองครักษ์โมโหขึ้นมาในทันที
แต่ก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ เลยเอ่ยถาม: คุณเป็นคนตระกูลหลิน?
หรือว่าคุณลุงญาติห่างไกลที่คุณพูดถึง จะเป็นจอมพลใหญ่หลินเจิ้นเป้า?!
ถูกต้อง!
ชายแซ่หลินยกคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง แสดงให้เห็นถึงความได้ใจ
เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ เพียงแค่แสดงสถานะคนตระกูลหลินออกมา มันทำให้ทุกอย่างราบรื่นจริง ๆ
แต่เขาไม่รู้ว่า ที่มุมปากของหัวหน้าองครักษ์ในตอนนี้มีรอยยิ้มที่เย็นชาอยู่เล็กน้อย
ทำไมผมต้องบอกคุณ คุณเป็นสื่อเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติขึ้นไป ดังนั้นคุณขึ้นไปดูเองเถอะ
ฮ่า ๆ ๆ!
ชายแซ่หลินหัวเราะเสียงดัง ไม่พูดอะไรมาก และกำลังจะพาลูกน้องของตัวเองขึ้นไปบนเขาติ้งจุน
แต่ทว่า!
คุณขึ้นได้ แต่ลูกน้องของไปไม่ได้!
หัวหน้าองครักษ์โบกมือหนึ่งครั้ง ขวางเอาคนอื่น ๆ เอาไว้ทันที
ชายแซ่หลินคิดอยากโมโห แต่สายตาของหัวหน้าองครักษ์นั้นเย็นชามาก ทำให้เขาหมดคุณสมบัติในการต่อรอง
ได้ คอยดูแล้วกัน!
พูดจบเขาก็ขึ้นไปบนเขา
แต่ที่เขาไม่สังเกตเห็นก็คือ ความเย็นยะเยือกที่มุมปากของหัวหน้าองครักษ์นั้นยิ่งเข้มข้นขึ้น
ข้างบนได้สั่งการลงมา อนุญาตให้คนตระกูลหลินขึ้นไป และอนุญาตพวกที่ติดตามตระกูลหลิน ที่ไม่รู้จักความเป็นตายพวกนั้นขึ้นไปด้วย
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ข้างบน แต่ที่ชัดเจนก็คือ ตระกูลหลินจะต้องพบกับความหายนะแน่แล้ว
ไม่เพียงแค่ตรงนี้ ทุกจุดที่สามารถขึ้นไปบนภูเขาได้ ต่างก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
และนี่ทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
ในเวลานี้ ตระกูลอันดับสองแห่งเมืองฉือ ภายในห้องรับแขกของตระกูลวัง มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่
ผู้หญิงคนนั้นท่าทางทระนงองอาจ ห้าวหาญชาญชัย เป็นหงส์แดงแห่งสำนักมังกรลับนั่นเอง!
วังจ่างหลิน ที่ฉันมาในครั้งนี้ ก็เพื่อมอบโอกาสอันสุดยอด ให้กับคุณ ให้กับตระกูลวังของพวกคุณ
สายตาของหงส์แดงจับจ้องอยู่บนร่างของวังจ่างหลิน
วังจ่างหลินเป็นผู้นำตระกูลวัง เขาเป็นสิงห์ร้ายที่มีความทะเยอทะยาน ไม่อย่างนั้นละก็ก็คงจะไม่มีรากฐานใด ๆ สุดท้ายก็ได้นั่งบนตำแหน่งที่สูงที่สุดของเมืองฉือได้
แต่หลายปีมานี้ตระกูลวังถูกตระกูลหลินกดขี่เสมอมา วังจ่างหลินรู้ดีว่าไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังหรือความสามารถตัวเองต่างเทียบกับตระกูลหลินไม่ได้เลยสักนิด ดังนั้นจังเลือกก้มหัวเป็นรอง
แต่ทว่าในวันนี้เอง เขาก็ได้รับข่าวที่ทำให้เขาตกตะลึง
ตระกูลหลิน ได้เอากฎบัญชาสามตราออกมาแล้ว!
ไม่ว่าจะเอากฎบัญชาสามตราออกมาเพื่ออะไร ตระกูลวังของเขา จะต้องดับสูญอย่างแน่นอน!