ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 12 วังจ่างหลินผู้สับสน
แต่ในตอนนี้เอง กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา บอกว่าสามารถให้โอกาสอันยอดเยี่ยมกับตัวเอง
วังจ่างหลินมึนงงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเอ่ยถามอย่างด้วยลักษณะท่าทางน่าเกรงขาม: เธอเป็นใคร?
ยังมีโอกาสที่ดีที่เธอพูดถึงคืออะไร? หรือว่าเธอจะเป็นคนตระกูลหลิน?
ตระกูลหลินของพวกเธอจะใช้กฎบัญชาสามตรากำจัดตระกูลวังของพวกเราจริง ๆ เหรอ?
เหอะ ๆ
หงส์แดงหัวเราะเบา ๆ
เธอมองวังจ่างหลิน และส่ายหัวเล็กน้อย พลางกล่าว: คุณไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้กับตระกูลหลิน เพราะหลังจากวันนี้ จะไม่มีตระกูลหลินอยู่อีกต่อไป
ว่ายังไงนะ!
คำพูดเหล่านี้ ทำให้วังจ่างหลินและพวกตกใจจนหน้าถอดสี
แต่ไม่นานก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า
ถ้าหากไม่ใช่เพราะบ้าไปแล้ว จะพูดคำพูดเพ้อเจ้อแบบนี้ได้ยังไงกัน
ตลกแล้ว! วังจ่างหลินตวาดออกมาทันที: ตระกูลหลินมีรากฐานที่ลึกซึ้งมั่นคงมาแต่ไหนแต่ไร บวกกับที่พวกเขามีเส้นสายความสัมพันธ์ ทั้งในวงการการค้า หน่วยงานราชการ โดยเฉพาะในทางหน่วยทหาร แถมในวันนี้ยังได้ใช้กฎบัญชาสามตรา เพียงพอที่จะออกคำสั่งกับอิทธิพลน้อยใหญ่ในเมืองฉือ
อำนาจอิทธิพลที่แข็งแกร่งแบบนี้ เธอบอกกับฉันหน่อยสิว่า จะไม่มีตระกูลหลินอยู่อีกแล้วได้ยังไง?
มาวันนี้ตระกูลหลินได้ใช้กฎบัญชาสามตรา จะต้องกวาดล้างตระกูลวังของฉันอย่างแน่นอน ฉันรู้ว่า พวกเราเป็นหนามยอกอกในสายตาของพวกเขามานานแล้ว!
แต่วินาทีต่อมา เสียงหัวเราะอันไพเราะของหงส์แดงก็ได้ดังก้องไปทั่วห้องประชุม
เป็นเสียงหัวเราะที่ไม่เห็นด้วย
วังจ่างหลิน คุณให้ความสำคัญกับตัวเองมากเกินไปแล้ว คุณคิดว่าแค่อาศัยคุณ ก็สามารถทำให้ตระกูลหลินทำถึงขนาดนี้งั้นเหรอ
ทั้งใช้กฎบัญชาสามตรา ทั้งเรียกให้เจ้าสามของตระกูลหลินกลับมา ตระกูลวังของพวกคุณ คู่ควรเหรอ?
…….
วังจ่างหลินเป็นใบ้ไปทันที
พูดตามความจริง เขาไม่คู่ควรให้ตระกูลหลินขับเคลื่อนกำลังมากถึงขนาดนี้จริง ๆ
เช่นนั้นก็หมายความว่า คนที่ตระกูลหลินจะต่อกรด้วยเป็นคนอื่น
และนั้นก็คือผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้?
หรือจะบอกว่าที่ด้านหลังของผู้หญิงคนนี้ มีคนอื่นอยู่อีก?
วินาทีนี้ ในที่สุดวังจ่างหลินก็เข้าใจ บางทีผู้หญิงคนนี้และคนที่อยู่เบื้องหลังของเธอ ถึงเป็นศัตรูของตระกูลหลิน แถมยังเป็นศัตรูคนสำคัญอีกด้วย!
พวกเธอเป็นใครกันแน่?
วังจ่างหลินถามด้วยความตกใจกลัวอย่างสุดขีด
หรือว่าจะเป็นบุคคลใหญ่โตที่มาจากเมืองชิงชวน!
หงส์แดงไม่มีท่าทีว่าจะอธิบายอะไร เธอลุกขึ้นและเดินไปทางประตู
เธอพลางเดินพลางทิ้งคำพูดเอาไว้
เขาติ้งจุน ตำหนักมังกรหยก
ถ้าหากคุณมา และเลือกยืนในฝั่งที่ถูกต้อง เช่นนั้นคุณก็คือบุคคลอันดับหนึ่งแห่งเมืองฉือในวันหน้า
ถ้าหากไม่มา หรือเลือกยืนผิดฝั่ง ขอโทษด้วย ตระกูลวังของพวกคุณและตระกูลหลิน ยังมีพวกที่ไม่รู้จักเป็นตายพวกนั้น ก็สูญหายไปพร้อมกกันเสียเถอะ
ตูม!
วังจ่างหลินราวกับถูกฟ้าผ่าลงมากลางหัว
เขาเดินกร่างอยู่ในวงการห้างสรรพสินค้ามานับสิบปี คิดว่าตัวเองเคยพบกับบุคคลที่โหดเหี้ยมมามากมาย เคยได้ยินคำพูดข่มขู่ตัวเองมานับไม่ถ้วน
แต่ในครั้งนี้ กลับทำให้เขาไม่สามารถลืมมันไปตลอดชีวิต
ผู้หญิงคนนี้ และคนที่อยู่เบื้องหลังของเธอ ต้องการเป็นศัตรูกับผู้คนทั่วทั้งเมืองฉือ บ้าไปแล้วหรือไงกัน!
เลขาฯ อุทานออกมา
วังจ่างหลินกลับเงียบไป
เขาสามารถวินิจฉัยถึงความร้ายแรงในนั้นออกได้
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าผู้หญิงเสียสติคนนี้จะมีความมั่นใจอะไรกันแน่ แต่ยังไงเขาก็ต้องทำการตัดสินใจ
เลือกยืนฝั่งตระกูลหลิน หรือว่าผู้หญิงเสียสติคนนี้?
ภายในใจของวังจ่างหลินนั้นรู้สึกสับสนมาก
เขาไม่ได้มีเพียงตัวคนเดียว ยังมีภรรยาและลูก ยังมีพ่อแม่ ยังมีพวกพ้องเพื่อนฝูง
ทันทีที่ตัดสินใจผิด เขาก็จะบ้านแตกสาแหรกขาดทันที
แต่ที่เขาไม่ทราบก็คือ ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นหงส์แดงได้กลับไปถึงยอดเขาติ้งจุน ตำหนักมังกรหยกเผชิญหน้ากับเฉินอีที่นั่งอยู่บนที่นั่งตำแหน่งสำคัญ กล่าว: เจ้ามังกร ฉันกลับมาแล้วค่ะ
อืม วังจ่างหลินนั่นให้คำตอบหรือยัง?
เฉินอีเอ่ยถามโดยไม่เงยหน้า
เขากำลังจ้องมองรูปถ่ายใบหนึ่ง ในนั้นเป็นฉินปิงหลันและลูกสาวทั้งสองคนของเขา
รูปถ่ายครอบครัว
แต่ขาดตำแหน่งของเขาไป
หงส์แดงเองก็สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้ แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ได้เพียงแต่พูดว่า: รายงานเจ้ามังกร วังจ่างหลินยังไม่ได้ทำการตัดสินใจ ฉันคิดว่าจัดการไปพร้อมกัน……
ไม่
เฉินอีตัดบทเธอไป
เขาค่อย ๆ ลุกขึ้น และมองห่างออกไป
วังจ่างหลิน จะต้องเอาไว้
แต่โอกาสได้ให้เขาไปแล้ว จะรักษาเอาไว้หรือไม่นั้น แล้วแต่ชะตากรรมของเขา
ถ้าหากยืนผิดฝั่ง แค่สั่งสอนก็พอแล้ว
ถ้าหากยืนถูกฝั่ง ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีของเขา