ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 13 ตรวจสอบตระกูลหลิน
ภายในตระกูลหลินในตอนนี้ หลินเจิ้นหลงหนังอยู่บนตำแหน่งหลัก ด้านล่างมีผู้คนนั่งอยู่ไม่น้อย
ตามด้วยทายาทหลักสายตรงตระกูลหลิน ตระกูลย่อย คนแซ่อื่น
สุดท้ายเป็นคนจากตระกูลอื่น และคนในวงธุรกิจ
นายท่านตระกูลหลิน ตอนนี้พวกเรายังไม่ต้องรีบไปที่เขาติ้งจุนเหรอครับ? อิทธิพลและผู้คนของเมืองฉือส่วนมากได้เดินทางไปที่นั่นแล้ว
ผู้นำของตระกูลที่มีธุรกิจของครอบครัวที่มีอิทธิพลพอสมควรเอ่ยถามเสียงเบา
คนอื่น ๆ เองก็เช่นกัน
บอกว่าจะต้องเดินทางไปที่ตำหนักมังกรหยกบนเขาติ้งจุนไม่ใช่หรอกเหรอ ทำไมตอนนี้ทุกคนยังพักผ่อนอยู่ที่นี่อีกล่ะ
ที่สำคัญก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขายังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่า ทำไมตระกูลหลินต้องใช้กฎบัญชาสามตรา
ไม่ต้องรีบ
หลินเจิ้นหลงกล่าวอย่างเรียบง่าย
อาการบาดเจ็บที่หน้าอกของเขามาถึงตอนนี้ยังไม่หายดี แถมยังได้สูญเสียแขนไปหนึ่งข้าง ทำให้คนภายนอกครอบครัวที่อยู่ตรงนั้นเห็นแล้วรู้สึกตกตะลึง
ที่สำคัญก็คือ เดิมทีตระกูลหลินมีผู้อาวุโสอยู่ห้าท่าน แต่ในวันนี้บาดเจ็บหนัก สองท่านไร้ร่องรอย
ตระกูลหลิน ได้เผชิญหน้ากับศัตรูแบบไหนกันแน่!
สำหรับเรื่องนี้ หลินเจิ้นหลงเองก็มองความคิดของทุกคนออก เลยเอ่ยขึ้นมาทันที: เมื่อได้เห็นความเสื่อมโทรมของผมแล้ว พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวล
ครั้งนี้ ตระกูลหลินของพวกเราได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งพอสมควร แต่อย่างมากก็แค่ระดับตระกูลวัง ยังไม่เพียงพอที่จะตัดกำลังตระกูลหลินของพวกเราได้
ดังนั้นถ้าหากมีใครกล้าตุกติกล่ะก็ รอน้องสามของฉันกลับมา มันจะทำให้พวกคุณรู้ว่าผลที่ตามมานั้นร้ายแรงแค่ไหน
ซี๊ดดดด!
เป็นเจ้าสามแห่งตระกูลหลินอีกแล้ว!
ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างหัวใจสั่นสะท้าน
พวกเขาต่างก็รู้ว่า เจ้าสามแห่งตระกูลหลินได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการของกองทหารโหวยี่ในหน่วยทหารตะวันออกเฉียงใต้ พลังอำนาจล้นเหลือ สามารถล้มล้างเมืองฉือได้ทั้งเมือง
และก็เพราะอาศัยท่านนั้น ตระกูลหลินจากที่เคยเป็นตระกูลชั้นต่ำ ถึงได้เติบโตมาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองฉือได้ภายในระยะเวลาเพียงยี่สิบปี!
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้
หรือว่า ศัตรูที่ตระกูลหลินเผชิญหน้าในครั้งนี้ จะเป็นบุคคลใหญ่โตจากเมืองเอก?
ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ ภายในเมืองฉือ ใครจะสามารถให้ตระกูลหลินใช้กฎบัญชาสามตราได้ แถมยังได้เชิญท่านชายสามแห่งตระกูลหลินท่านนั้นกลับมาอีกด้วย!
ไม่ใช่คนจากเมืองเอก เป็นคนจากหน่วยทหารคนหนึ่ง
ในตอนนี้เอง ท่านผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลหลินก็ได้เอ่ยขึ้น
บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทำให้ทุกคนชะงักงันไปทันที
คนของหน่วยทหาร?
มิน่าท่านชายสามแห่งตระกูลหลินถึงได้ถูกเชิญกลับมา
แต่ว่าถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นคนของหน่วยทหาร แต่ขอเพียงท่านชายสามกลับมา ไม่ว่าจะเป็นมังกรหรือเป็นเสือ ล้วนต้องกลายเป็นลูกแพะที่กำลังจะถูกเชือดทันที
ถูกต้อง ท่านชายสามเป็นถึงบุคคลใหญ่โตในหน่วยทหารตะวันออกเฉียงใต้ ในมือมีทหารโหวยี่ที่แข็งแกร่งอยู่นับหมื่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องยอมจำนนให้กับตระกูลหลินอย่างว่าง่าย
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าสมองของอีกฝ่ายเป็นยังไง ถึงได้กล้าล่วงเกินตระกูลหลิน มันเป็นการรนหาที่ตายเองชัด ๆ
จุดประสงค์ของตระกูลหลินในครั้งนี้ มันไม่ง่ายอย่างแค่กดหัวศัตรูคนนี้แน่ เกรงว่าพวกเขาต้องการใช้โอกาสในครั้งนี้กำจัดพวกตระกูลวังที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งพวกนั้นให้สิ้นซากไปด้วย หรือแม้กระทั่งถือโอกาสนี้เดินทัพเข้าสู่เมืองเอก
เมื่อเป็นแบบนี้ล่ะก็ เมืองฉือก็จะกลายเป็นลานหลังบ้านของตระกูลหลิน และทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราได้รับ มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นทรัพยากรที่ตระกูลหลินให้เพื่อพิชิตเมืองเอก
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เหล่าอิทธิพลน้อยใหญ่ต่างรู้ไม่พอใจนัก
แต่ต่อให้ไม่พอใจยังไง ก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาสักคำ
ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนกับตระกูลวังที่คัดค้านตระกูลหลินพวกนั้น ถูกลบล้างรายชื่อออกไปจากเมืองฉือโดยสิ้นเชิง
หลินเจิ้นหลงนั่งอยู่บนตำแหน่งสูง เป็นธรรมดาที่จะสามารถมองเห็นสีหน้าของเหล่าอิทธิพลน้อยใหญ่ได้อย่างชัดเจน
เหอะ ๆ มันทำให้คนรู้สึกตื่นเต้นจริง ๆ
มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
จิตใจที่เดิมทีถูกรบกวนโดยเฉินอี ก็เริ่มกล้าขึ้นมา
เดิมทีคิดว่าครั้งนี้ตระกูลหลินจะต้องบาดเจ็บหนัก แต่ในตอนนี้หลินเจิ้นหลงกลับมีความมั่นใจ เชื่ออย่างสิ้นเชิงว่าตระกูลหลินจะต้องมีตำแหน่งที่สามารถพูดอะไรได้อย่างเด็ดขาดในเมืองฉือ
นับจากวันนี้ไป ภายในเมืองฉือ ก็จะไม่มีใครกล้าสงสัยในอำนาจของตระกูลหลินอีก และเขาก็จะเป็นผู้นำตระกูลหลินที่ไม่เคยมีมาก่อน
เป็นสิงห์ร้ายที่มีความทะเยอทะยานสมชื่อ
เขาลุกขึ้นช้า ๆ ชูมือขึ้นและตะโกนออกมา
ออกเดินทาง!
ในเมื่อเป็นการกวาดล้างครั้งใหญ่ เช่นนั้นก็จะต้องทำให้มันสะอาดหมดจด
อันดับแรก ก็เริ่มลงมือจากไอ้คนไม่รู้จักความเป็นตายนั่นแล้วกัน
และวค่อยจัดการกับพวกวังจ่างหลินที่ไม่รู้จักเป็นตายพวกนั้น
นอกจากนี้
ฉันได้ยินมาว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะฉินปิงหลันผู้หญิงสกปรกคนนั้น เป็นมันที่ทำให้ลูกชายของฉันพิการ ทำให้ตระกูลหลินของฉันสูญเสียอย่างหนัก ในเมื่อเป็นแบบนี้ ส่งคนไปจับมันและยัยลูกผสมทั้งสองคนนั้นมา
ฉันจะทรมานเมียและลูกสาวของไอ้สารเลวนั่น ต่อหน้ามันกับมือของฉันเอง จากนั้นค่อยให้มันตายโดยไม่มีที่ฝังศพ!
หลินเจิ้นหลงท่าทางทระนงองอาจ
แต่ในตอนที่เตรียมจะออกเดินทางนั่นเอง คนของตระกูลหลินก็ได้รีบเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
นายท่าน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว อธิบดีกรมอนามัยและความปลอดภัยแห่งเมืองฉือได้ออกคำสั่ง การเคลื่อนไหวของตระกูลหลินในครั้งนี้จะต้องอยู่ภายใต้การจับตามองของพวกเขาถึงจะปฏิบัติการได้!
ว่ายังไงนะ?
ผู้อาวุโสใหญ่เป็นคนแรกที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป
คนตระกูลหลิน และคนนอกตระกูลคนอื่น ๆ ต่างก็ชะงักงัน
คนของกรมอนามัยและความปลอดภัย จะมาตอนไหนก็ไม่มา ทำไมถึงต้องออกหน้าในตอนที่พวกเขาจะออกเดินทางด้วย
หลินเจิ้นหลงเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดลงมาเล็กน้อย
เขาเองก็คาดไม่ถึงจุดนี้เช่นกัน
หลังจากที่ได้ครุ่นคิดอยู่สักระยะ เขาก็ได้กล่าวออกมา: ให้พวกเขาตามไป แต่เรื่องราวที่ต้องดำเนินการหลัก ๆ แล้ว ให้เขาไปคุยกับน้องสามและตระกูลกวน
เรื่องมาถึงตอนนี้ ได้ถึงขั้นเกาทัณฑ์เมื่อขึ้นสายจะไม่ยิงไม่ได้แล้ว
เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่มีทางหยุดการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เพียงเพราะกรมอนามัยและความปลอดภัย
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้เขาจะยำเกรงกรมอนามัยและความปลอดภัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีทางที่จะหวาดกลัวมาก เพราะยังไงก็ยังมีน้องสามของตัวเองอยู่ด้านหลัง
แต่เขาไม่รู้ว่า อธิบดีกรมอนามัยและความปลอดภัยหยางเหลียนหลงที่ได้รับคำตอบ ตอนนี้กำลังโมโหลุกเป็นไฟ
เยี่ยมนี่หลินเจิ้นหลง ตระกูลหลินนี่เยี่ยมจริง ๆ
คิดไม่ถึงว่าจะกล้าพูดคำพูดแบบนี้ออกมา คิดว่าตัวเองสามารถปิดท้องฟ้าได้ด้วยมือเดียวจริง ๆ งั้นเหรอ!
เขาโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
ลูกน้องตำแหน่งรองคนหนึ่งได้เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น: ท่านอธิบดีครับ ตระกูลหลินมีอิทธิพลใหญ่โตจริง ๆ อีกอย่างเกรงว่าครั้งนี้ยังจะเคลื่อนทัพไปที่เมืองเอกด้วย ดังนั้นจึงต้องทำการชำระล้างวงการการค้าของเมืองฉือ ทันทีที่สำเร็จ อิทธิพลของตระกูลหลินก็กระจายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด พวกเราไม่สามารถล่วงเกินได้
นายจะเข้าใจอะไร!
หยางเหลียนหลงตวาดออกมา
คิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แค่สุดท้ายก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ ทำได้เพียงถอนหายใจยาว ๆ หนึ่งครั้ง
แม้แต่กององครักษ์ของทางเมืองเอกยังได้ออกเคลื่อนไหวแล้ว เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องของตระกูลหลินงั้นเหรอ?
จากความหมายของหัวหน้าองครักษ์ท่านนั้น เกรงว่าเรื่องในครั้งนี้จะมีบุคคลใหญ่โตที่มีอำนาจล้นเหลือท่านหนึ่ง ที่แม้แต่ผู้ว่าการยังหวาดเกรงปรากฏตัวขึ้น และเป้าหมายก็คือตระกูลหลิน!
เดิมที่ฉันแค่อยากจะเตือนให้ตระกูลหลินทำอะไรรู้จักบันยะบันยัง แต่ไอ้หมอนั้นยังดึงดันจะเดินหน้าอย่างไม่รู้จักเป็นตาย งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่รักษาน้ำใจแล้วกัน
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ได้ออกคำสั่งที่ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของกรมอนามัยและความปลอดภัยอกสั่นขวัญแขวน
ติดต่อไปยังหน่วยการคลังในเมืองของเรา รวมทั้งกรมการคลังในเมืองเอก ตรวจสอบตระกูลหลินอย่างละเอียด!