ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 24 กบฏหรือ
ฉันเคยบอกแล้วว่า ฉันก็เป็นเพียงแค่ทหารรบธรรมดา ๆ คนหนึ่งของสำนักมังกรลับ
ทหารรบองครักษ์เสือผู้นี้กล่าวออกมาเบา ๆ และไม่คิดที่จะยกตนข่มหลินเจิ้นเป้าเลยแม้แต่น้อย ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนโดนดูถูก
สิ่งที่ทหารรบองครักษ์เสือผู้นี้พูดออกมา หลินเจิ้นเป้าไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
ความสามารถในการต่อสู้ของแก หากอยู่ในกองทัพอาจไต่เต้าได้ถึงระดับผู้บัญชาการ แล้วจะเป็นเพียงแค่ทหารรบธรรมดา ๆ ได้อย่างไร !
หลินเจิ้นเป้าถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ในความคิดของเขา คนผู้นี้อาจเป็นคนที่เฉินอีเชิญเข้ามาให้ช่วยเหลือจากต่างประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อจัดการกับเขาโดยเฉพาะ
แต่ทว่า !
ฮ่าฮ่าฮ่า !
น่าขำจริง ๆ เมื่อพ่ายแพ้ให้กับทหารฝีมือระดับนี้ก็คิดว่าเขาเป็นยอดฝีมือเสียแล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่าขำที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาในรอบหลายสิบปีเลยนะ
จริงด้วย ฉันยังสงสัยเลยว่าเจ้าหมอนี่สมองมีปัญหาหรือเปล่า
จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้ ทหารในประเทศพวกนี้ไม่ค่อยได้ออกไปปฏิบัติภารกิจมากนัก ส่วนใหญ่วันทั้งวันนอกจากการฝึกก็มีแต่การซ้อมรบ ดูเหมือนเลือดที่แปดเปื้อนอยู่บนมือจะมีอยู่เพียงน้อยนิด จึงไม่รู้ถึงสถานการณ์ของคนที่อยู่ในต่างประเทศอย่างเรา ๆ
แหม ชีวิตแบบนี้ก็ดูเหมือนจะสุขสบายไม่น้อยเลยนะ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้กลายเป็นกบในกะลา ในต่างประเทศ และในสำนักมังกรลับของเรา สิ่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ต่างก็รู้กันดี
มีทหารองครักษ์เสือหัวเราะเยาะออกมาไม่หยุด
ตอนนี้เฉินอีเองก็หัวเราะออกมาเบา ๆ เช่นกัน
ตอนนั้นฉันเคยแนะนำเหล่าจอมพลในประเทศของพวกนายว่าให้พาทหารรบภายในประเทศ ออกไปฝึกรบที่ต่างประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถและทักษะในการต่อสู้ แต่เขากลับไม่ฟังคำพูดของฉัน แต่กลับเลือกที่จะทำให้พวกนายกลายเป็นแค่ดอกไม้ในเรือนกระจก ช่างน่าสงสารเสียจริง ๆ
เขาส่ายหัวไม่หยุด
คนของหน่วยทหารเหล่านี้ดูเหมือนจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่กลับถูกจำกัดสิทธิ์อยู่แต่ภายในประเทศ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังก่อการร้ายจากต่างประเทศ เกรงว่ากองทัพทั้งหมดคงจะถูกกวาดล้างในทันที
นี่ไม่ใช่เรื่องตลก แต่มันคือความจริง !
พวกแกคือใครกันแน่ ?
หลินเจิ้นเป้าแสดงท่าทีขมขื่นออกมา
เขาเองก็ใช่ว่าไม่เคยสัมผัสกับคนของหน่วยทหารชายแดนมาก่อน แต่คนที่สามารถเอาชนะตนเองได้อย่างหมดจดและรวดเร็วขนาดนี้ คงไม่ใช่สิ่งที่ทหารธรรมดา ๆ จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
ฐานะของคนกลุ่มนี้ ดูเหมือนจะเกินจากสิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก
แต่ในวินาทีถัดมา ดูเหมือนเขาจะคิดเชื่อมโยงถึงเรื่องบางอย่างออก ทำให้คิ้วของเขาขมวดขึ้นและตัวสั่นเทาเล็กน้อยในทันที
หรือว่าพวกแกคือคนของตระกูลมังกรลับ ?
ตระกูลมังกรลับ ?
เฉินอีเองก็ผงะไปเช่นกัน
คนอื่น ๆ ก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน
นี่มันเรื่องอะไรกัน ?
หลินเจิ้นเป้าไม่ทันสังเกตเห็นถึงความประหลาดใจของคนที่อยู่รอบข้าง แต่กลับแสดงออกถึงความตื่นเต้น
ใช่แล้ว พวกแกต้องเป็นตระกูลมังกรลับที่อยู่ภายใต้การดูแลของจอมพลมังกรอย่างแน่นอน
ถึงว่าทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินชื่อของสำนักมังกรลับมาก่อน แต่เมื่อตอนนี้มาลองคิด ๆ ดูก็รู้ในทันทีว่าพวกแกจะต้องเป็นคนของตระกูลมังกรลับ !
ตระกูลมังกรลับ นั่นคือหน่วยทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในชายแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือเลยนะ ได้ยินมาว่าคนที่จะผ่านเกณฑ์การคัดเลือกขั้นต่ำต้องเป็นราชานักรบเท่านั้น เป็นราชาที่อยู่เหนือเหล่าทหารอีกนับร้อยนับพันคน !
แต่ทว่า !
หลินเจิ้นเป้าเงยหน้าขึ้นทันที และจ้องเฉินอีตาเขม็ง
ต่อให้พวกแกจะเป็นคนของตระกูลมังกรลับ ก็ไม่มีสิทธิ์จะกลับเข้ามาในประเทศเป็นการส่วนตัวเช่นนี้ อีกอย่างที่นี่คือเขตตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่เขตตะวันตกเฉียงเหนือของพวกแก !
……
เสือขาวลูบหน้าผากโดยไม่รู้ตัว
ดูเหมือนเจ้าหมอนี่จะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
ถึงแม้พวกเขาจะกลับมาจากชายแดนทางตอนเหนือ แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจการแบ่งแยกของหน่วยทหารภายในประเทศจริง ๆ
แต่เป็นเพราะหลินเจิ้นเป้ามั่นใจในเหตุผลข้อนี้ จึงจ้องมองพวกของเฉินอีด้วยความโมโห
ทหารคือผู้ที่ปกป้องประเทศ
แต่เพื่อแก้แค้นด้วยเรื่องส่วนตัว พวกแกกลับรังแกหลานของฉัน ฆ่าพี่น้องของฉัน ดูถูกตระกูลหลินของฉัน นี่คือวิถีปฏิบัติของตระกูลมังกรลับของพวกแก ซึ่งเป็นหน่วยทหารอันดับหนึ่งของภาคตะวันตกเฉียงเหนืออย่างนั้นหรือ ? !
แต่ละคำพูดออกมาอย่างหนักแน่น ทรงพลัง และทิ่มแทงจิตใจ
กองทหารโหวยี่สามพันนายเองก็หันมองพวกของเฉินอีด้วยความโมโหเช่นกัน พวกเขาเองก็ถูกยั่วยุโดยคำพูดของหลินเจิ้นเป้า ตอนนี้จึงรู้สึกโกรธเคืองเฉินอีเป็นอย่างยิ่ง
จริงด้วย เป็นทหาร แต่ยอมไม่อยู่ปกป้องชายแดน กลับเข้ามาสร้างความวุ่นวายในเมืองฉือของเรา ดูเหมือนพวกแกจะมีแผนการบางอย่างในใจสินะ
วังจ่างหลิน แกนี่เยี่ยมจริง ๆ เห็นว่าจอมพลใหญ่ของพวกเราไม่อยู่เมืองฉือ จึงเรียกให้ผู้ช่วยต่างชาติพวกนี้มากดขี่คนในตระกูลหลินของเรา ช่างน่าสมเพชจริง ๆ !
วังจ่างหลินที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก ก็ยืนผงะอยู่ที่เดิมทันที
ทำไมจู่ ๆ เขาถึงกลายเป็นคนน่าสมเพชไปได้ ?
อีกทั้งเป็นฝ่ายของเฉินอีที่ที่มาหาเขา แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงกลายเป็นเขาที่ชักจูงผู้ช่วยจากต่างประเทศเข้ามา !
พวกคุณเลิกใส่ร้ายคนอื่นเสียที !
วังจ่างหลินคิดที่จะโต้กลับ แต่หลินเจิ้นเป้ากลับกวาดสายตามาทางเขา แววตาที่ดุดันนั้นทำให้เขากระอักกระอ่วนจนพูดไม่ออก
แต่กลับเป็นหลินเจิ้นเป้าที่พูดออกมา
ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่า พวกแกเป็นพวกเดียวกับวังจ่างหลินนี่เอง เมื่อรู้ว่าไม่สามารถจัดการกับตระกูลหลินของพวกเราได้ จึงอาศัยกำลังของหน่วยทหารเข้ามากดขี่ แต่พวกแกก็อย่าประเมินความสามารถของฉันต่ำเกินไปนัก
วันนี้ ต่อให้พวกแกจะเป็นคนของตระกูลมังกรลับ ฉันก็จะต้องจัดการกับพวกแกให้ได้ ต่อให้จะต้องถูกจอมพลมังกรลงโทษ ฉันก็ไม่มีวันยอมรับผิดเด็ดขาด !
ทุกคนเตรียมตัว กำจัดพวกกบฏเหล่านี้ให้หมด !
กบฏ !
เมื่อคำคำนี้ถูกพูดออกมา สีหน้าของวังจ่างหลินก็ซีดเผือดในทันที
นี่ถือเป็นโทษหนัก เมื่อถูกตัดสินลงมาแล้วก็ไม่มีใครสามารถทักท้วงได้อีก
อีกทั้ง หากฝ่ายของเฉินอีเป็นคนของหน่วยทหารจริง ครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำความผิดหรือไม่ การใช้กำลังทหารด้วยเรื่องส่วนตัวเพียงเพราะภรรยาและลูกสาวโดนดูถูก ถือว่าเป็นโทษที่ร้ายแรง และอาจมีโทษถึงตาย !
กองทหารโหวยี่จำนวนสามพันนายค่อย ๆ ยกปืนขึ้น พวกเขาเผชิญหน้ากับองครักษ์ทหารเสือจำนวนเกือบหมื่นคน และแสดงเจตนารมณ์ของการต่อสู้ออกมาอย่างรุนแรง
สิ่งนี้ทำให้เฉินอีรู้สนุก
น่าสนใจ น่าสนใจ
พวกเขาต่างรู้ดีว่าสถานการณ์ของตนเองนั้นอันตรายแค่ไหน แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะติดตามแก หลินเจิ้นเป้า ถือว่าแกไม่รับความเคารพไม่น้อยทีเดียวนะ
เฉินอีหัวเราะ
หลินเจิ้นเป้าผู้นี้ถือเป็นแม่ทัพที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง มิเช่นนั้นคนมากมายเหล่านั้นคงไม่ยอมตายเพื่อเขาอย่างแน่นอน
เพียงแต่ !
ดูเหมือนแกจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์นะ !
วังจ่างหลินเชิญฉันมาหรือ ? แกลองถามเขาดูว่ามีคุณสมบัติพอไหม ?
ไม่ ไม่มีครับ ! วังจ่างหลินรีบพูดขึ้นทันที
ล้อเล่นหรืออย่างไร จู่ ๆ ก็พูดว่าเขาเป็นกบฏ นั่นคือคนที่แม้แต่ผู้ว่าการอย่างเฉ่าเฉียงยังต้องให้ความเคารพ แล้วจะเป็นคนที่พ่อค้าในเมืองฉืออย่างเขามีสิทธิ์เชิญมาได้อย่างไร
หลินเจิ้นเป้าเลิกคิ้ว และกำลังจะพูดบางอย่างออกมา แต่กลับมีเสียงตะโกนด่าดังเข้ามาในหูเสียก่อน
หลินเจิ้นเป้า !
เรื่องครั้งนี้เป็นเพราะตระกูลหลินของพวกคุณกระทำความผิดก่อน ดูถูกภรรยาและลูก ๆ ของคุณเฉิน เรื่องทุกอย่างถึงได้ลุกลามบานปลายมาถึงขั้นนี้
เรื่องนี้ฉัน เฉ่าเฉียง สามารถเป็นพยานได้ ต่อให้หน่วยทหารจะต้องได้รับโทษ ฉันก็จะไม่ยอมกลับคำเด็ดขาด !
เป็นเฉ่าเฉียงที่เห็นหลินเจิ้นเป้ากำลังคิดเองเออเอง ไม่คิดจะถามหาความจริงก็จะลงมือต่อสู้ ทำให้เขารู้สึกโมโห
อะไรนะ ? เฉ่าเฉียง ?
ครั้งนี้เป็นหลินเจิ้นเป้าที่ต้องผงะไป
เขามองพิจารณาเฉ่าเฉียงอย่างละเอียด
ก่อนหน้านี้ที่เขาจำไม่ได้ เป็นเพราะโดยปกติแล้วหลินเจิ้นเป้ามักจะใช้เวลาอยู่แต่ในกองทัพ แต่ชื่อของเฉ่าเฉียง เขาเองต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอน
คุณคือเฉ่าเฉียง ผู้ว่าการเมืองชิงชวนหรือ ?
ใช่แล้ว ! ฉันเอง เฉ่าเฉียง !
น้ำเสียงของเฉ่าเฉียงดังก้องกังวาน ไขข้อข้องใจของหลินเจิ้นเป้า