ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 51 ข่าวใหญ่
ฉันต้องการให้แกแต่งตั้งให้ฉินปิงหลันเป็นซีอีโอของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป
แล้วยังได้ร่วมธุรกิจกับวังซื่อกรุ๊ปให้ได้ เอาโครงการก่อสร้างจงชุนมาให้ได้ นี่ถึงจะเป็นเป้าหมายสุดท้ายของเรา
คนในตระกูลฉินทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ท่านย่าฉินมองเฉินอีด้วยความตะลึงงัน แล้วพูดด้วยเสียงแหบ หลี่ซือกรุ๊ปถึงจะเป็นแก่นสำคัญของโครงการก่อสร้างจงชุน ร่วมธุรกิจกับหลี่ซือกรุ๊ปถึงจะเหมาะสม
แกหมายถึงว่าต่อให้วังซื่อกรุ๊ปสามารถเอาโครงการก่อสร้างจงชุนได้ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะเยาะของผู้เชี่ยวชาญเหรอ?!
แกย่าพูดถูก ไอ้เด็กนักเลงจะรู้จักวิธีการทำธุรกิจอะไรได้ยังไง นึกถึงหลี่ซือกรุ๊ป วังซื่อกรุ๊ปต้องไม่มีโอกาสได้โครงการก่อสร้างจงชุนได้แน่นอน!
ฉินหวยจือและคนอื่นๆต่างเห็นพร้อมกัน
ฉินปิงหลันก็มองเฉินอีด้วยความสงสัยเล็กน้อย แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ แกไม่เคยอยู่เมืองฉือแล้วจะเข้าใจสถานกาณ์วงการธุรกิจก่อสร้างได้ยังไง หลี่ซือกรุ๊ปถึงจะเป็น
ถึงจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่คู่ควร พูดได้เลยว่าโครงการก่อสร้างจงชุนในเมืองคือเป็นการตกลงภายในของตระกูลหลี่
ยังไงทีมออกแบบของตระกูลหลี่ก็แข็งแกร่งมาก อีกอย่างพูดถึงระดับของเงินทุนที่คิดไม่ถึง ว่ากันว่า เงินทุนที่หลี่ซือกรุ๊ปลงทุนเพียงฝ่ายเดียวมีถึงสองพันล้านแล้ว
เป็นแบบนี้จริงๆ จะใช้จ่ายอย่างเป็นทางการในระยะเวลาอันสั้นไม่ได้ ดังนั้นจึงมีเงินจำนวนมากที่ต้องตกเป็นภาระของฝ่ายมอบอำนาจก่อน เมื่อมองทั้งเมืองฉือ แม้แต่ตระกูลหลินที่อยู่จุดสูงสุดก็เข้ามาไม่ได้ เนื่องด้วยไม่มีเงินทุนสภาพคล่องสองพันล้านในคราวเดียว
แต่หลี่ซือกรุ๊ปนั้นแตกต่างออกไป หลังจากฮุบทรัพย์สินส่วนมากของตระกูลหลินไป สองพันล้านนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่
ท่านย่าฉินมองเฉินอีอย่าลุ่มลึกเพียงปราดเดียว แล้วพูดว่า ตอนนี้แกน่าจะเข้าใจ ถ้าแกอยากให้ฉินปิงหลันเป็นซีอีโอของฉินซื่อกรุ๊ป งั้นก็คงต้องให้เธอไปอยู่กับแกชายหลี่เจ๋อ
ถ้าแกหวังดีกับฉินปิงหลันจริงๆ ก็ควรปล่อยมือ ฉันจะให้แกหนึ่งล้านเป็นค่าชดเชย เป็นยังไงบ้าง?
หนูไม่อยากรับตำแหน่ง…….
ฉินปิงหลันกำลังจะพูดอะไร กลับถูกหลินหลันดึงไว้
แม่ วางใจเถอะ แค่ตำแหน่งซีอีโอเป็นของปิงหลัน แกต้องอยู่กับแกชายหลี่เจ๋อแน่นอน!
แม่ ท่าน!
ฉินปิงหลันอยากจะปฏิเสธ กลับถูกหลินหลันดึงไปด้านข้าง ตั้งแต่ตอนนี้ไปแกอยู่ห่างๆไอ้หมอนั่นไว้ ถ้าถูกคุณชายหลี่เจ๋อรู้เข้าคงแย่แน่นอน
ไม่ง่ายเลยที่ท่านย่าจะตอบตกลงให้แกเป็นซีอีโอ แกต้องพยายามรับใช้คุณชายหลี่เจ๋อให้ดีสิ
หลินหลันพูดไปด้วย ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายไปด้วย
ฉินปิงหลันจึงสุดคำบรรยายจริงๆ
เธอหันไปจับจ้องเฉินอีไว้ หวังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรบ้าง
ทว่าคนด้านหลังกลับยิ้มจางๆ เหมือนเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย
สุดท้ายฉันมองผิดไปเหรอเนี่ย?
เจ้าหมอนี่ เป้าหมายจริงๆของเขาคือเพื่อเงินใช่ไหม?
เวลานี้ ท้ายที่สุดฉินปิงหลันก็รู้สึกผิดหวังแล้ว
ท่านย่าฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วกำลังจะเอ่ยปากพูด เวลานี้ จู่ๆ ฉินหวยจือก็กรีดร้องจนทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าไม่พอใจ
ท่านย่า หนู ไม่ วังซื่อกรุ๊ปพวกเขาเหมือนจะได้โครงการก่อสร้างจงชุนในเมืองไปแล้ว!
อะไรนะ!
ท่านย่าทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ทุกคนต่างควักมือถือออกมาเสิร์ชหาข่าวที่เกี่ยวข้อง ทันใดนั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็นิ่งงันไป
กองทุนมูลนิธิโตว๋โนว่ สำรองเงินหนึ่งหมื่นล้าน สนับสนุนวังซื่อกรุ๊ปโดยไม่หวังผลตอบแทน!
เป็นไปได้ยังไง! ฉินหวยจือทำเสียงสั่น
ท่านย่าฉินก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
ถึงแม้หลี่ซือกรุ๊ปจะเอาเงินทุนสภาพคล่องออกมาเยอะกว่า ทว่าก็ไม่ได้มากกว่าสามพันล้าน
กลับเห็นวังซื่อกรุ๊ป พวกเขากลับครอบครองเงินทุนสภาพคล่องหนึ่งหมื่นล้าน เงินทุนก้อนมหาศาลเพียงเท่านี้ก็สามารถนำไปติดต่อกับบริษัทก่อสร้างชั้นนำทั่วเมืองหลวงก็เหลือเฟือแล้ว!
จู่ๆ พวกเขาก็นึกถึงคำพูดของเฉินอี จึงรู้สึกตกตะลึงขึ้นมามาก
แก แกรู้ได้ยังไงว่าหวังซื่อกรุ๊ปได้โครงการนี้ไปแล้ว!
ฉินหวยจือจับจ้องเฉินอีกไว้ไม่ปล่อย
คนด้านหลังยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า เกี่ยวอะไรกับแก
เขามองไปยังท่านย่าฉินอีกครั้ง ท่านย่า ผมว่าครั้งนี้ท่านสามารถแต่งตั้งปิงหลันได้แล้วหรือเปล่า?
นี่…
ท่านย่าฉินยังไม่ได้สติกลับมา
ไม่ ไม่ได้ ชื่อเสียงของฉินปิงหลันแย่เกินไป วังจ่างหลินที่เป็นคนของวังซื่อกรุ๊ปไม่มีทางตกลงร่วมงานกับแกแน่นอน งั้นคงจะส่งผลกระทบต่อทั้งตระกูลฉินของพวกเรา!
ท่านย่า เรื่องนี้ไม่งั้นก็ให้พี่ใหญ่จัดการเถอะ ดังนั้นก็แต่งตั้งพี่ใหญ่เป็นซีอีโอเถอะ!
ฉินหวยจือและฉินโร่ซีเอ่ยพูดก่อนและหลัง
ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีให้ฉินปิงหลันขึ้นเป็นซีอีโอ
แก พวกแกมันสารเลว! หลินหลันรู้สึกเครียดไม่เบา
เห็นว่าโอกาสดีกำลังจะมาถึง สุดท้ายกลับถูกฉินหวยจือพวกเขาทั้งสองคนแย่งไปซึ่งๆหน้า
ท่านย่าฉินก็นิ่งเงียบไปสักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจทันที
หวยจือ ฉันแต่งตั้งให้แกเป็นซีอีโอของบริษัท หน้าที่คือต้องเจรจากับวังซื่อกรุ๊ปให้สำเร็ว ไม่งั้นก็หลีกตำแหน่งโดยดี เข้าใจไหม?
เข้าใจ เข้าใจ! ฉินหวยจือรู้สึกดีใจอย่างมาก
เขาจึงมองฉินปิงหลันด้วยความเย่อหยิ่ง แล้วมองเฉินอีเพียงปราดเดียว พร้อมทั้งพูดด้วยการอ่านปาก ต่อให้วังซื่อกรุ๊ปได้โครงงานไปแล้วจะทำไม พวกแกยังอยากจะพลิกฟ้าหรือไง
เฉินอีเลิกคิ้ว กระตุกมุมปากขึ้น
ท่านย่าฉิน หวังว่าท่านจะไม่เสียใจในกระทำของท่าน
…
ท่าย่าฉินเพิ่งจะนึกถึงสิ่งที่กังวลเมื่อกี้นี้
ในมือของเจ้าหมอนี่มีมีหลักฐานการกระทำผิดทางการค้า เช่นฉินฉู่กรุ๊ปเลี่ยงภาษี!
ช่างเถอะ แต่อยากให้ฉันเปลี่ยนการแต่งตั้งน่ะได้ ก็ให้ฉินปิงหลันและหวนจือเป็นตัวแทนประธานพร้อมๆกัน ถ้าใครได้โครงการวังซื่อกรุ๊ป ผู้นั้นจะได้เป็นประธานอย่างเป็นทางการ แบบนี้ได้ไหม?
คำพูดสองสามคำสุดท้าย ท่านย่าฉินพูดกับเฉินอี
ฉันไม่พอใจอย่างมาก แต่หลักๆคือต้องดูความคิดของปิงหลัน
เฉินอีมองไปยังฉินปิงหลัน
ทุกคนก็หันไปมองฉินปิงหลัน
โดยเฉพาะฉินหวยจือ สีหน้าของเขากลายเป็นสีตับหมูไปแล้ว แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของท่านย่าฉิน
ได้
ฉินปิงหลันพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง
รู้สึกโล่งอกทันที
ทีแรกเธอนึกว่าตัวเองคงจะแย่แล้ว ตอนที่แม้แต่เฉินอียังเตรียมตัวทอดทิ้งเธอ โชคชะตาของตัวเองเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สะใจเกินไปจนเหมือนกับกำลังนั่งรถไฟเหาะ
งั้นพวกเราไปกันเถอะ
เฉินอีดึงมือของฉินปิงหลันจากไปทันที สุดท้ายมองฉินต้าไห่เพียงแวบเดียว แล้วยิ้มขึ้น ท่านพ่อตา เกิดมาอย่าอ่อนแอเกินไป ไม่เช่นนั้นคุณจะได้นั่งมองลูกสาวกลายเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของตระกูล ตัวเองทำได้เพียงหลบร้องไห้อยู่ตรงมุม
ฉินต้าไห่ …….
ฉินปิงหลันผลักเฉินอีหนึ่งที แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ คุณพูดแบบนี้กับพ่อได้ยังไง?
ฮ่าๆ กลับบ้านเถอะ!
เฉินอียิ้มอย่างขมขื่นหนึ่งที
ถึงแม้เทียบไม่ได้กับฉินต้าไห่ ทว่าเขาก็เหมือนจะถูกเมียคุ้มเข้ม
หลังจากออกประตู เขารับโนว่โน่วจากมังกรเก้า ดึงมือโต๋วโต๋วไว้ แล้วจากไปพร้อมกันฉินปิงหลัน
คนที่เหลือของตระกูลฉินก็ต่างทำสีหน้าหม่นหมอง
ท่านย่า เมื่อกี้ท่านจริงจังเรื่องหรือ กลับแต่งตั้งฉินปิงหลันเป็นซีอีโอ เธอมีชื่อเสียงเสียหาย ข่าวเสียหายมากมายแน่น ขืนไปมีเรื่องกับท่านประธานวัง เกรงว่าพวกเราตระกูลฉินคงไม่ได้ร่วมงานครั้งนี้แน่นอน!
ฉินหวยจือก็อดถามไม่ได้
วังจ่างหลินก็ไมใช่หลี่เจ๋อ เป็นคนที่เที่ยงธรรม ผู้หญิงอย่างเช่นฉินปิงหลัน เป็นพวกที่เขาเกลียดชังที่สุด!