ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 75 ฉินหวยจือถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้
หลี่เจ๋อ!
เฉินอีพึมพำชื่อนี้อย่างเบาๆ
แสงเย็นแวบผ่านดวงตาของเขา
ฉันไม่เคยคิดที่จะจัดการเขาเพื่อล้างแค้นภรรยาและลูกสาวของฉันเลย เขาดันมาเริ่มฉากผู้ร้ายก่อนเสียนี่
เมื่อก่อนหลี่เจ๋อใช้ฉินหวยจือในการกดขี่ฉินปิงหลันอีกทั้งยังบังคับให้ฉินปิงหลันร่วมเตียงกับเขาอีก แม้ว่าเฉินอีจะไม่ได้สืบสนเรื่องนี้ต่อแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้สนใจ
ทุกวันนี้เขาจ้องมองแต่เฉินฝูมาโดยตลอดและทิ้งหลี่เจ๋อไว้ข้างหลัง
ในเมื่อเขายังกล้ากระโดดออกมาเช่นนี้ก็อย่ามาโทษเขาว่าทำตัวไม่เกรงใจก็แล้วกัน
ไป๋หง ฉันจะให้งานแรกกับหล่อน กลับไปบอกหลี่เจ๋อว่าหล่อนลอบสังหารได้สำเร็จ
อืม
แม้ว่าไป๋หงจะไม่เข้าใจความคิดของเฉินอีแต่หล่อนเป็นเพียงนักฆ่า ในเมื่อหล่อนทำงานให้กับเฉินอีแล้วก็ควรจะต้องทำตามที่สั่งดีกว่าไปถามถึงเหตุผลว่าทำทำไม
เป็นมีดในมือของคนอื่นก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นมีด
ในด้านของฉินปิงหลันที่มาถึงประตูทางเข้าของวังซื่อกรุ๊ปแต่กลับพบว่ามีคนจำนวนมากพลุกพล่านไปหมด ประดับประดาไปด้วยผ้าและโคมไฟอันสวยงาม มีหญิงสาวสวมชุดกี่เพ้ามาเรียงแถวยืนต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู
นี่…
ฉินปิงหลันไม่สามารถถอยหลังกลับได้แล้ว
เธอไม่ใช่คนโง่ จากจุดนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าคนที่มานั้นล้วนแต่เป็นแขกผู้มีเกียรติกันทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นแขกผู้มีเกียรติระดับคนใหญ่คนโตซะด้วยสิ อย่างน้อยก็ทำให้วังจ่างหลิน เถ้าแก่ของวังซื่อกรุ๊ปปฏิบัติตัวได้อย่างเป็นพิธีขนาดนี้ ดังนั้นวันนี้คือวันที่ต้องมาคุยเรื่องการทำงานร่วมกันงั้นเหรอ?
ลืมมันไปซะเถอะ ห้ามไปทำให้งานต้อนรับแขกผู้มีเกียรติของประธานวังต้องเสียเวลา ไม่เช่นนั้นฉันคงมีภาพลักษณ์ที่ดูแย่มากแน่ๆ
ฉินปิงหลันที่คิดอยู่ก็เตรียมจะเดินออกไป
แต่เมื่อหันกลับมา ฉินปิงหลันก็ต้องพบกับคนที่เธออยากจะหลบซ่อนมากที่สุด ซึ่งนั่นก็คือฉินหวยจือ
โย้ นี่ไม่ใช่น้องสาวฉินปิงหลันหรอกเหรอเนี่ย เธอมาได้ยังไงกัน
ฉินหวยจือยิ้ม
แม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายคนโตของภรรยาคนรองและฉินปิงหลันเป็นลูกสาวของภรรยาหลวง แต่ในแง่ของอายุแล้วฉินปิงหลันนั้นอ่อนกว่าฉินหวยจือถึงสี่ปีเลยทีเดียว ฉินต้าไห่ให้กำเนิดฉินหวยจือตอนชีวิตเหลวแหลก
ต้องบอกว่าแม้คำพูดที่ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนั้นจะไม่ได้ถูกต้องไปทั้งหมดแต่ก็ดูเหมาะสมที่จะนำมาใช้กับภรรยาคนรองของตระกูลฉิน ฉินหวยจือเองก็ถือว่าเป็นคนที่มีชีวิตยุ่งเหยิงเหลวแหลก หากไม่ใช่เพราะฉินต้าไห่ที่คอยมาจัดการเรื่องยุ่งเหยิงให้ล่ะก็เกรงว่าป่านนี้คงมีลูกที่อายุโตได้สิบกว่าขวบแล้วล่ะ
ฉันมาคุยเรื่องการร่วมมือในทำงานน่ะ
แม้ว่าฉินปิงหลันจะไม่ต้องการพบฉินหวยจือ แต่เมื่อพบกันแล้วเธอก็จะไม่ถอยหลังกลับ
ฉินหวยจือไม่พอใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ก็แค่ผู้หญิงที่มีเรื่องฉาวโฉ่คนหนึ่งที่กล้ามาแย่งตำแหน่งประธานกับตน อีกทั้งยังวิ่งมาทำตัวไร้ยางอายถึงหน้าวังซื่อกรุ๊ปอีก
เธอรีบออกไปเลยนะ ถ้ามีคนของวังซื่อกรุ๊ปมาเห็นเข้าล่ะก็ฉันคงพลอยโดนผลกระทบไปด้วย พอถึงตอนนั้นถ้าฉันเจรจาคุยงานไม่ได้เธอจะมารับผิดชอบให้ไหมล่ะ?
ฉินหวยจือโบกมือเพื่อเป็นสัญญาณไล่ฉินปิงหลันออกไป
แต่ฉินปิงหลันขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า แต่เมื่อวานประธานวังติดต่อฉันมาเพื่อมาคุยเจรจาเรื่องทำงานร่วมกันกับเขานะ นายเองก็ได้รับโทรศัพท์จากประธานวังเหมือนกันเหรอ?
อะไร?ประธานวัง?
เมื่อฉินหวยจือได้ยินสิ่งนี้ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็หัวเราะออกมา
ฉินปิงหลันอ่าฉินปิงหลัน นี่เธอบ้าไปแล้วหรือไง วันนี้ฉันมาเพื่อพบกับหัวหน้าเหยียนต่างหากและที่เธอบอกว่าประธานวังโทรหาเธอ เป็นไปได้ไหมว่าเขาโทรหาเธอในความฝันน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!
ไม่เพียงแต่เขาที่หัวเราะ ผู้อาวุโสอีกหลายคนที่ตามเขามาต่างก็พากันหัวเราะเสียงดัง
ดูเหมือนว่าคุณฉินปิงหลันนี่จะมีปัญหาทางสมองนะเนี่ย มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าสไตล์ของประธานวังนั้นเป็นยังไง จะมีก็แต่คนที่เข้ามาเจรจากับลูกน้องของประธานวัง ส่วนประธานวังก็มีหน้าที่แค่เห็นด้วยหรือคัดค้านเท่านั้น มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะติดต่อมาเจรจาคุยเรื่องการร่วมมือทำงานกับบริษัทเล็กๆ
อย่าพูดอย่างนั้นเลย ผู้หญิงที่เข้ามาทำงานเป็นประธานได้เพียงเดือนกว่าๆก็มีเรื่องอื้อฉาวออกมาจะไปมีสติปัญญาได้ยังไงกัน อีกอย่างเธอจะไปรู้จักกับประธานวังได้ยังไงในเมื่อเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงทั่วๆไปเอง
นั่นสิ นั่นสิ ฮ่าฮ่าฮ่า!
สามคนนี้เป็นเลขาของฉินหวยจือที่เป็นผู้อำนวยการด้านการออกแบบและผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของฉินซื่อกรุ๊ป เมื่อไม่กี่ปีก่อนพวกนี้เป็นคนที่ตามติดฉินหวยจือต้อยๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังตามอยู่
เมื่อฉินหวยจือหัวเราะไปสักครู่ก็พอรู้ได้ว่านี่เป็นประตูทางเข้าของวังซื่อกรุ๊ป หากถูกพบเห็นเข้าก็อาจเกิดเรื่องขึ้นได้ เขาจึงรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว อย่าพูดไร้สาระ การเจรจาร่วมมือนี้ไม่ใช่เธอที่จะมาคุยได้ รีบกลับไปซะ!
ฉันบอกเธอไว้เลยนะว่าหัวหน้าเหยียนเป็นคนหื่นกาม เธอจะเจรจาคุยกับหัวหน้าเหยียนได้ก็ต่อเมื่อยั่วยวนเขา แต่ถ้าแบบนั้นล่ะก็ เหอะเหอะ
เขามองฉินปิงหลันหัวจรดเท้าพร้อมกับเยาะเย้ยออกมา
นาย! ฉินปิงหลันโกรธจัดแต่ก็นึกถึงสิ่งที่เฉินอีพูดเมื่อคืนจึงได้เปลี่ยนบทสนทนากลับไป แต่เหยียนเลว่ไม่ได้โดนไล่ออกไปแล้วหรอกเหรอ?
เมื่อคำพูดนี้ออกมา การแสดงออกทางสีหน้าของทั้งสี่คนที่กำลังหัวเราะเยาะอยู่ก็ได้เปลี่ยนไป พวกเขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับปิดปากฉินปิงหลันไว้
ผู้หญิงคนนี้นี่รู้ไหมว่าอะไรที่ควรพูดและอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา?
ตอนนี้หัวหน้าเหยียนเป็นคนที่ดูแลโครงการนี้โดยตรงและเป็นคนโปรดในสายตาของประธานวังอีกด้วย เธอกำลังใช้ตระกูลฉินของฉันไปทำให้หัวหน้าเหยียนขุ่นเคืองใจหรือยังไงกัน?
ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ารังเกียจเสียจริง
ฉินหวยจือคิดอย่างลับๆ
ฉินปิงหลันเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ถูกผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของตระกูลฉินผลักออก ไสหัวไปซะ รู้จักไหมคำว่าหมาที่ดีต้องไม่ขวางทางน่ะ?
ฉินปิงหลันรู้สึกอายขายขี้หน้าจะตายอยู่แล้ว
เธอทำได้เพียงมองดูฉินหวยจือและคนอีกสามคนเดินเข้าไปในตึกใหญ่ของวังซื่อกรุ๊ป ส่วนตนก็ทำได้เพียงกำหมัดแน่น
แม้ว่าวันนี้วังซื่อกรุ๊ปจะมีแขกผู้มีเกียรติมากันแต่ถ้าหากต้องการพบกับเหยียนเลว่ล่ะก็วังซื่อกรุ๊ปจะไม่มีทางขวางไว้อย่างแน่นอน แต่หากตนบอกไปว่ามาพบวังจ่างหลิน เธอคงถูกเก็บกวาดออกมาและโดนหาว่าไม่มีวิสัยทัศน์แน่ๆ
เธอหันหลังต้องการเดินจากไปแต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็ได้เห็นถึงความใจร้อนและหุนหันพลันแล่นจากด้านหลัง เมื่อมองย้อนกลับไปก็เห็นฉินหวยจือทั้งสี่คนถูกขวางไว้ที่ด้านนอก
เกิดอะไรขึ้นกัน?
ฉินปิงหลันรีบเข้าไปใกล้ๆเพื่อฟัง
พวกแกมีสิทธิ์อะไรไม่ให้พวกเราเข้าไป พวกเรามีนัดนะ!
ฉินหวยจือที่ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนสกัดเอาไว้ก็โกรธจัดในทันที
มีนัดก็สามารถเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นนัดกับเหยียนเลวล่ะก็ เหอะเหอะ
พนักงานรักษาความปลอดภัยหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา นายไม่รู้เหรอว่าเหยียนเลว่ถูกไล่ออกไปแล้ว?
เดิมทีฉินหวยจือต้องการที่จะต่อว่าแต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ ร่างของเขาก็ชะงักงัน
แกกำลังล้อเล่นอะไรอยู่?
หน้าตาของเขาแสดงความเหลือเชื่อ
ปัจจุบันเหยียนเลว่ถือเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เป็นที่นิยมมากกว่าเถ้าแก่วังจ่างหลินด้วยซ้ำและนั่นก็เป็นเพราะว่าเหยียนเลว่เป็นหัวหน้าออกแบบที่มีอำนาจในหน้าที่การงานสูงมากนั่นเอง
ดังคำกล่าวที่ว่าจักรพรรดิที่มองไม่เห็นนั้นสำคัญน้อยกว่ากับปรมาจารย์จากระบบราชการเสียอีก
เพียงแต่สีหน้าของพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้นดูเหลือทนเต็มที ฉันจำเป็นต้องล้อเล่นกับนายหรือไงกัน?
อย่ามาขวางทางที่นี่ วันนี้มีแขกผู้มีเกียรติมากันทั้งนั้น รีบออกไปซะ
แม้แต่เรื่องที่เหยียนเลว่ที่ถูกไล่ออกก็ยังไม่รู้เรื่อง เกรงว่าก็คงไม่ได้มีบทบาทอะไรและเขาไม่จำเป็นที่จะต้องไปสนใจ
ร่างกายของฉินหวยจือสั่นเทาแต่กลับไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา
เมื่อนึกถึงคำพูดของฉินปิงหลันก่อนหน้านี้ เขาจึงรู้สึกสงสัยขึ้นมา
ทำไมฉินปิงหลันถึงรู้เรื่องนี้แต่เขากลับไม่รู้อะไรเลยล่ะ?
ชั่วครู่ ฉินหวยจือก็หันหลังกลับไปจ้องที่ฉินปิงหลันด้วยแววตาที่โกรธเคือง
ฉินปิงหลันผู้หญิงคนนี้จะทำให้ตระกูลฉินของฉันเดือดร้อน!