ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 88 คนร้ายชิงตัดหน้าร้องทุกข์
เฉินอีพูดด้วยเสียงเยือก พูดจบก็ตัดสาย
แต่ละคนงงเซ่อ
เฉินอีคนนี้ เมื่อกี้นี้เขาเรียกชื่อวังจ่างหลินตรง ๆ เลยหรือนี่ ?
แล้วยังมีตระกูลจิ่ง?
นั่นมันเจ้าของจิ่งซ่านกรุ๊ปไม่ใช่หรือ?
เฮอะ ๆ ไอ้เจ้านี่มันกล้าพูดเนอะ
ประธานเกาหัวเราะเสียงเยาะเย้ยไม่หยุด
เขารู้สึกว่าเฉินอีคงจะฟั่นเฟือนไปแล้ว
เฉินอีกลับพูดไปลอย ๆ ว่า จะเลอะเทอะฟั่นเฟือนหรือไม่ เดี๋ยวพวกคุณก็รู้นะ
พูดจบเขาก็รั้งมือฉินปิงหลันเดินออกไป เหมือนว่าที่นี่ไม่มีอะไรคู่ควรจะต้องเสียเวลาอยู่ต่อไป
ซ่งหลานกับบรรดาครูอาจารย์ดูครอบครัวสี่คนเดินออกไปอย่างงง ๆ
ส่วนประธานเกา หัวหน้าเหอต่างหัวเราะเสียงเยาะเย้ยกันต่อเนื่อง
เล่นตลกอะไรกัน ยังกล้ามาเต๊ะท่าวางมาดไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเป็นอะไร
ประธานเกาให้รู้สึกหมั่นไส้ทีท่าของเฉินอีมากที่สุด
โดยเฉพาะความหงุดหงิดใจที่เห็นอี๋อ๋อสนิทสนมกับผู้หญิงชื่อฉินปิงหลันคนนั้น
กล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าข้า เฮอะ ๆ รอให้ข้าฟันเมียเอ็งได้ก่อนเถอะ ข้าจะดูว่าเอ็งยังจะเบ่งได้อีกไหม!
รอยยิ้มยียวนผุดขึ้นที่มุมปาก เหมือนกับว่าฉินปิงหลันเป็นของเล่นอยู่ใต้หว่างขาของเขาแล้ว
หัวหน้าเหอก็มองออกในความคิด กระซิบถามเบา ๆ ท่านประธานเกา ให้ผมช่วยจัดการให้ไหม?
คุณคิดทำยังไง?
ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะให้ลูกสาวเขาเข้าโรงเรียนเราไม่ใช่หรือ?ก็แค่ใช้จุดนี้สยบผู้หญิงคนนี้ ถึงเวลานั่นท่านประธานก็เรียบร้อย อิ ๆ ๆ
หัวหน้าเหอหัวเราะอย่างกักขฬะ แต่ให้ประธานเการู้สึกดีใจเป็นล้นหลาม
ดี ดีมาก หัวหน้าเหอ เรื่องนี้ถ้าคุณจัดการเรียบร้อยได้ ผมกลับไปจะเสนอเรื่องถึงประธานโหล ให้เลื่อนคุณขึ้นไปดูแลชั้นมัธยมเลย
หัวหน้าเหอได้ยินดังนั้น ให้ดีใจสุดพรรณนา
ถึงแม้เขาจะเป็นอันดับที่หนึ่งของแผนกชั้นประถม แต่โดยตำแหน่งแล้วก็ไม่ได้ใหญ่พอเป็นศูนย์กลางควบคุมทั้งโรงเรียน
ต้องอยู่ในงานปกครอง ผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายในชั้นมัธยม จึงจะมีคุณสมบัติถือหุ้นของโรงเรียนจิ่งซ่าง จนไปถึงขั้นกรรมการบริหาร หากแม้นสามารถเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปได้ก็มีหวังในโอกาสเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจิ่งซ่างเลยทีเดียว
เรื่องนี้สำหรับประธานเกาไม่ใช่เรื่องที่หนักหนา
สำหรับตำแหน่งระดับสูงของโรงเรียนเล็ก ๆ กับประธานบริษัทอันดับหนึ่งในเครือจิ่งซ่างกรุ๊ปอย่างเขามันไม่มีอะไรมาให้เทียบกันได้ พูดได้ว่าเป็นเรื่องแค่ยื่นมือไปก็คว้าหยิบมาได้
หัวหน้าเหอได้ลงมือจัดการอย่างเดี๋ยวนั้น
ประธานเกาตามมาติด ๆ
พวกเขาตามมาทันเฉินอีสี่คนอย่างรวดเร็ว และฉินปิงหลันก็รีบเดินเข้ามา ถามอย่างรีบร้อนว่า หัวหน้าเหอ ตะกี้ในโทรศัพท์ท่านบอกว่าลูกสาวดิฉันเข้ามาเรียนที่โรงเรียนจิ่งซ่างนี้ได้ เป็นจริงหรือ?
คุณผู้หญิงฉิน ผมนายเหอคนนี้ไม่เคยพูดเรื่องไม่เป็นจริง แต่ว่าที่สามีคุณทำไปก่อนหน้านี้มันเกินไปหน่อย โดยหลักการเพื่อชื่อเสียงของจิ่งซ่างแล้วคงรับไม่ได้เด็ดขาด แต่ท่านประธานเกาออกหน้ามาช่วยขอร้องให้คุณ แต่คุณต้องจ่ายค่าตอบแทนที่มีมูลค่าสูงมากหน่อยนะ
หัวหน้าเหอเชิดหน้าสูงขึ้นไปอย่างสูง
ฉินปิงหลันรีบถาม จะต้องใช้เงินเท่าไหร่?
หล่อนได้ตัดสินใจแล้วอย่างแน่นอน ไม่ว่าเท่าไหร่ก็จะให้ไป ต่อให้ต้องทุ่มกันทั้งบ้านก็ต้องให้ลูกสาวเข้าจิ่งซ่างให้ได้ ไม่งั้นอนาคตของลูกสาวนี้น่าห่วง นอกจากต้องส่งไปเรียนนอก
ง่าย ๆ แค่ขอให้คืนนี้ไปคุยธุรกิจกับประธานเกา หลังจากนั้นพรุ่งนี้เช้าคุณก็พาลูกสาวคุณเข้ามาได้เลย
และแล้วหัวหน้าเหอก็บอกจุดประสงค์ของเขาไป
ฉินปิงหลันสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ฉินซื่อกรุ๊ปของพวกเขาไม่เคยมีติดต่อธุรกิจกับจิ่งซ่าง จะไปคุยธุรกิจอะไรกัน?
เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็ฟังออกถึงความหมายของหัวหน้าเหอ และยิ่งกว่าจะรู้ว่าประธานเกานั่นคิดอะไรอยู่
เสียใจด้วยคะ สำหรับเรื่องนี้ดิฉันไม่ตกลง
ฉินปิงหลันสะบัดหน้าหันกลับจะเดินหนี แต่ขณะนั้นประธานเกาก็เดินเข้ามา หัวเราะเยือก ๆ :
คุณผู้หญิงฉิน คุณไม่ควรคิดถึงแต่ตัวเองโดยไม่ห่วงอนาคตของลูกสาวคุณนะ อีกทั้งผมเองก็เป็นคนของจิ่งซ่าง พูดแค่คำเดียวก็ไสหัวสามีคุณออกจากวังซื่อกรุ๊ปแล้ว!
นี่คุณ!
ฉินปิงหลันโกรธจนสั่นไปทั้งตัว
หล่อนเห็นคนหน้าด้านไร้ยางอายมามากมาย ไอ้ประธานเกานี่ก็คนหนึ่ง และก็คงไม่ใช่คนสุดท้าย
แต่ปัญหาอยู่ที่ ตอนนี้หล่อนหมดปัญญาคิดไม่ตกแล้ว
ที่เฉินอีเข้ามาทำงานที่วังซื่อกรุ๊ปได้เพราะโชคช่วยอย่างใหญ่หลวง ถ้าเกิดว่าถูกไล่ออกคงเป็นเรื่องที่สุดอนาถแน่
หล่อนรู้สึกอยู่ว่าระยะหลังมานี้หล่อนติดค้างเฉินอีมาก ถ้าหากทำให้เขาถูกไล่ออกจากงาน ทั้งชาตินี้หล่อนคงไม่สามารถชำระล้างหนี้บุญคุณนี้ได้แน่
คุณผู้หญิงเฉิน ไตร่ตรองไปถึงไหนแล้ว?
เห็นท่าทีหดหู่สิ้นหวังของฉินปิงหลันแล้ว ประธานเกาเชิดมุมปากขึ้นไปนิด ให้เห็นถึงเปรมปรีดิ์อิ่มในใจ
เสียใจด้วยนะ หล่อนไม่มีทางรับปากพวกคุณหรอก
เฉินอีเดินเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ให้ฉินปิงหลัน เขามองไปที่ประธานเกาอย่างเหยียด ๆ แค่นหัวเราะเย้ยใส่ ท่านประธานเกา อย่ามัวอวดเบ่งอยู่แถวนี้เลย ยังไม่รีบไปเตรียมคิดไว้ก่อนให้ดีว่าเดี๋ยวคนตระกูลจิ่งมาถึงแล้ว คุณจะต้องทำยังไง
นอกจากนั้นก็จะบอกให้ว่าคุณไม่มีปัญญาทำให้ลูกผมไม่มีที่เรียนนะ ยิ่งไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเอาผมออกจากงานวังซื่อกรุ๊ปด้วย
คำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเขายิ่งทำให้ประธานเกาหงุดหงิดหนัก
หัวหน้าเหอก็พูดด้วยน้ำเสียงทึม ๆ ว่า คุณเฉิน นี่เป็นความใจกว้างของท่านประธานนะ แต่คุณกลับทำใจแคบเป็นไส้ไก่ หรือจะเห็นแก่ตัวขนาดจะยอมปล่อยให้ลูก ๆ ไม่มีที่เรียน?
ผมบอกแล้วงัย คุณไม่มีคุณสมบัติขนาดนั้น
แกนี่มันตัวอะไรกัน กล้าตัดสินได้ว่าข้าไม่มีคุณสมบัติพอ!
หัวหน้าเหอโกรธจัด จึงเตรียมจะประสานพรรคพวก กะจะเอาเฉินอีทั้งบ้านให้ตาย ให้โต๋โต๋ไม่มีที่เรียน หมดทางที่จะไป
แต่ทว่า!
ไอ้คนแซ่เหอ แกนี่แน่จริงนะ!
ใต้หล้าฟ้าสว่างขนาดนี้ แกยังกล้าขู่บังคับจะให้คนไม่มีหนังสือเรียน ไม่มีโรงเรียนให้ไป ดูท่าตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนี้ของแกอยู่พอแล้วมั้ง หรือคิดจะแย่งตำแหน่งข้า!
บรึม!
เสียงแทรกนี้เข้ามา พาให้หัวหน้าเหอต้องหันหน้าไปมอง เห็นคนเดินเข้ามาเป็นกลุ่ม
ทั้งหมดนั้นเขาไม่รู้จัก นอกจากสองคนที่เขาคุ้นชินอย่างใกล้ชิดมาก
อาจารย์ใหญ่
ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่
ท่าน ท่านอาจารย์ใหญ่โจว
หัวหน้าเหอกลืนน้ำลายลงคอไปเอื้อกใหญ่
เขาคิดไม่ถึงเลย ปกติในแต่ละวันอาจารย์ใหญ่ที่หมกอยู่กับงานฝั่งมัธยม จะมาปรากฏตัวที่ตรงนี้ได้
แล้วยังมีผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่มาด้วยอีกคน
เทียบกันกับอาจารย์ใหญ่แล้ว หัวหน้าเหอจะกลัวเกรงผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่มากกว่า เพราะว่าท่านผู้นี้เป็นคนตระกูลจิ่ง ก็คือเป็นคนในตระกูลจิ่งที่อยู่จัดการเรื่องโรงเรียนจิ่งซ่างทั้งหมด
หัวหน้าเหอ เมื่อตะกี้นี้คุณก็ได้ใช้มาตรการเด็ดขาดไปแล้ว นี่ยังจะติดต่อโรงเรียนอื่น จะเอาให้ลูกสาวคุณเฉินท่านนี้ไม่มีที่เข้าเรียนได้เลยหรือนี่?
อาจารย์ใหญ่จิ่งท่านนี้พบเห็นได้ในบริเวณโรงเรียนบ่อยมาก โดยปกติเป็นชายกลางคนสุภาพอารมณ์ดี แต่วันนี้ทีท่าเกรี้ยวกราดเอาเรื่อง
หัวหน้าเหอรีบชี้แจง ไม่ใช่ครับ เพราะคุณเฉินคนนี้มีพฤติกรรมที่เลวร้าย เริ่มต้นก็ตอบคำถามในความเป็นเท็จตลอด แล้วยังไปด่าสาดเสียใส่คุณนายเกา อีกทั้งลูก ๆ ของเขาก็ก้าวร้าวเอามาก ถ้าหากรับเข้ามาเรียนคงต้องมีผลกระทบในทางเสียกับเด็กนักเรียนอื่น ฉะนั้นผมถึงได้จัดการไปแบบนี้ เท็จจริงก็ทำเพื่อจิ่งซ่างของเราตลอดจนถึงวงการการศึกษาของเมืองฉือนะครับ
เข้าลักษณะคนร้ายชิงตัดหน้าร้องทุกข์ ตัวเองทำหน้าละห้อยน้อยใจ พาใคร ๆ ที่เห็นต้องให้คะแนนเชื่อ