สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1001 อันตรายรอบด้าน
ตอนที่ 1001 อันตรายรอบด้าน
เพราะใช้จวนที่ขุนนางสูงศักดิ์ของต้าจิ้นเพิ่งสร้างขึ้นใหม่ที่แถบชานเมืองของเมืองหลวง กรมโยธาตกแต่งและปรับเปลี่ยนเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้แล้ว ดังนั้นการสร้างสำนักศึกษาสตรีของเมืองหลวงจึงดำเนินไปอย่างราบรื่น วันที่สามสิบ เดือนแปด รัชศกหยวนเหอปีที่หนึ่ง บรรดาขุนนางนางในราชสำนักต่างส่งบุตรสาวของตัวเองไปร่ำเรียนในสำนักศึกษา
เสิ่นเทียนจือนั่งรับประทานอาหารร่วมกับไป๋ชิงเหยียนอยู่ฝั่งตรงข้ามหญิงสาวพลางรายงานเรื่องความยิ่งใหญ่ของสำนักศึกษาสตรีให้ไป๋ชิงเหยียนฟัง
“บุตรสาวของขุนนางในราชสำนักเริ่มเข้าเรียนเป็นกลุ่มแรก เมื่อสำนักศึกษาสตรีขยายใหญ่ขึ้นจะสามารถรับสตรีเข้ามาศึกษาได้มากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ…” เสิ่นเทียนจือกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “รบกวนใต้เท้าเสิ่นดูแลเรื่องการขยายสำนักศึกษาให้ด้วย…”
“ฝ่าบาท…” เว่ยจงเดินเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวเสียงเบา “เหยียนอ๋องมาขอเข้าเฝ้า ดูเหมือนเขาต้องการอำลากลับแคว้นซีเหลียงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เสิ่นเทียนจือเห็นเหตุการณ์จึงรีบวางตะเกียบในมือลง ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปาก จากนั้นลุกขึ้นเดินไปยังกลางท้องพระโรงเพื่อทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาท กระหม่อมรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระหม่อมขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ…”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปาก “รบกวนใต้เท้าเสิ่นดูแลเรื่องโครงร่างสำนักศึกษาที่กำลังขยายใหญ่ด้วย ข้าคงไม่ตรวจดูแล้ว”
เสิ่นเทียนจือทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง จากนั้นเดินออกไปจากตำหนักใหญ่
“เก็บอาหารได้!” ไป๋ชิงเหยียนวางผ้าเช็ดหน้าลง จากนั้นรับน้ำจากชุนเถามากลั้วปาก
เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จ เมื่อชุนเถาและถงหมัวมัวเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้ไป๋ชิงเหยียนเสร็จ เว่ยจงและชุนเถาจึงเดินตามไป๋ชิงเหยียนไปพบเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยที่ตำหนักรับรอง
ภายในตำหนัก หลี่จือเจี๋ยกำพัดกลมของตัวเองแน่น วันนี้เขาจะพยายามเพื่อซีเหลียงเป็นครั้งสุดท้าย ในเมื่อต้าเยี่ยนกล้าบอกเขาว่าอ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋คือคนของตระกูลไป๋ เหตุใดเขาจะนำข่าวนี้มาบอกจักรพรรดินีแห่งต้าโจวบ้างไม่ได้ หากเขาสามารถยุให้ต้าเยี่ยนและต้าโจวทำสงครามกันได้ ซีเหลียงก็จะปลอดภัยชั่วคราว
เขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเป็นครั้งสุดท้าย หากยังไม่ได้ผลเขาคงต้องกลับไปหาวิธีอื่นที่ซีเหลียง
เมื่อได้ยินเสียงรายงานของขันที หลี่จือเจี๋ยรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลี่จือเจี๋ยที่ก้มหน้าด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีแวบหนึ่ง จากนั้นเดินเข้าไปในตำหนัก “เหยียนอ๋องไม่ต้องมากพิธี ได้ยินว่าเหยียนอ๋องมาอำลาเราอย่างนั้นหรือ”
หลี่จือเจี๋ยโค้งกายคำนับอย่างนอบน้อม เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเหยียนนั่งลง เขาจึงยืดกายตรง พยักหน้าพลางกล่าวขึ้น “บัดนี้ต้าเยี่ยนอยู่ที่เมืองหลวงต้าโจวต่อเพราะเรื่องการแต่งงานเชื่อมไมตรี ทว่า ซีเหลียงอยู่ที่นี่เพียงเพราะเรื่องสัญญาพันธมิตร ทว่า กระหม่อมทราบข่าวเรื่องหนึ่งมา กระหม่อมลังเลอยู่เกือบเดือนจึงตัดสินใจมาทูลลาฝ่าบาท หากฝ่าบาทมีพระประสงค์จะทำสัญญาพันธมิตรกับซีเหลียง ได้โปรดส่งทูตของต้าโจวตามกระหม่อมกลับไปทำสัญญาที่อวิ๋นจิงด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลี่จือเจี๋ยที่แสร้งทำท่าทีจริงจังแวบหนึ่ง หญิงสาวหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นเอ่ยถาม “เป็นเพราะเรื่องที่อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนบอกเหยียนอ๋องว่าอ๋องหน้ากากผีคือคนตระกูลไป๋อย่างนั้นหรือ”
หลี่จือเจี๋ยเงยหน้าขึ้นทันที…
เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของหลี่จือเจี๋ย ไป๋ชิงเหยียนลูบนิ้วลงบนที่วางแขนของเก้าอี้ จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ต้าเยี่ยนทำสัญญากับหรงตี๋ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสงครามระหว่างหรงตี๋และซีเหลียงเป็นเวลาสามปีเพื่อให้หรงตี๋ปล่อยกองทัพต้าเยี่ยนคืนให้ต้าเยี่ยน ต้าเยี่ยนไม่สามารถหาข้ออ้างโจมตีซีเหลียงได้ ข้าขอเดาว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนบอกเหยียนอ๋องว่าวิธีที่ซีเหลียงจะรักษาแคว้นของตัวเองไว้ได้คือการยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยนใช่หรือไม่”
ฝ่ามือของหลี่จือเจี๋ยชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาสงสัยกระทั่งว่าไป๋ชิงเหยียนแอบฟังเรื่องที่เขาและอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนสนทนากันอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้วยดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“เหยียนอ๋องถูกต้าเยี่ยนข่มขู่จนหวาดกลัวจึงคิดกลับไปเกลี้ยกล่อมให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยนอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนรับถ้วยน้ำชากระเบื้องสีฟ้าใสที่ชุนเถาส่งให้มาด้วยสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเห็นชุนเถาส่งสัญญาณให้ ไป๋ชิงเหยียนจึงโบกมือให้หลี่จือเจี๋ยนั่งลง “เหยียนอ๋องนั่งดื่มชาก่อนเถิด”
หลี่จือเจี๋ยยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้บังคับ หญิงสาวทำเพียงกล่าวยิ้มๆ “ยังไม่ต้องกล่าวว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงจะยอมตกลงเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยนหรือไม่ ทว่า ตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดที่มีอิทธิพลควบคุมซีเหลียงอย่างแท้จริงจะยอมตกลงอย่างนั้นหรือ ต่อให้อ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋จะคือคนของตระกูลไป๋จริงอย่างที่อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกล่าว เช่นนั้นหากซีเหลียงยอมเป็นรัฐบรรณาการจริง ซีเหลียงยอมสวามิภักดิ์กับต้าโจวไม่ดีกว่าหรือ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลี่จือเจี๋ยยิ่งรู้สึกแย่ที่ซีเหลียงอ่อนแอถึงเพียงนี้ เขาเม้มปากเล็กน้อย ในที่สุดก็ยอมนั่งลงบนที่นั่งถัดจากไป๋ชิงเหยียน
“เหยียนอ๋องคิดเช่นไร ลองบอกมาให้ข้าฟังได้…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
หลี่จือเจี๋ยรู้สึกว่าบัดนี้ซีเหลียงกำลังเผชิญกับอันตรายรอบด้านทั้งภายในและภายนอกแคว้น เขาเงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยรอยยิ้มขมขื่น จากนั้นกล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าเงื่อนไขในการทำสัญญาพันธมิตรของฝ่าบาทจะทรงเปลี่ยนไปอีกแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ “ในเมื่อหรงตี๋คือพวกเดียวกันกับต้าโจว ในเมื่อต้าเยี่ยนเสนอให้ซีเหลียงเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยน เหตุใดต้าโจวจะเสนอเช่นนั้นบ้างไม่ได้”
หลี่จือเจี๋ยหลับตาลง ในหัวเต็มไปด้วยคำว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกำลังทำร้ายเขา
“หากยอมเป็นรัฐบรรณาการ แคว้นย่อมดับสูญ หลี่จือเจี๋ยไม่กล้าเป็นคนตัดสินใจทำร้ายซีเหลียงเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยหยัดกายตรง จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “กระหม่อมจึงทำได้เพียงมาทูลลาฝ่าบาทกลับไปร่วมเป็นร่วมตายกับซีเหลียงพ่ะย่ะค่ะ”
“เหยียนอ๋องไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ข้าส่งน้องชายสามไป๋ชิงฉีของข้าไปยังเมืองอวิ๋นจิงเพื่อเจรจาเรื่องสัญญาพันธมิตรกับจักรพรรดิแห่งซีเหลียงแล้ว คำนวณดูจากเวลาเขาคงกำลังเดินทางกลับมาต้าโจวแล้ว เหยียนอ๋องรอฟังข่าวอยู่ที่ต้าโจวก่อนดีกว่า” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
หลี่จือเจี๋ยตะลึง เขานึกถึงเรื่องที่อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกล่าวว่าไป๋ชิงฉีมุ่งหน้าไปยังหนานเจียงทั้งๆ ที่เพิ่งกลับมาถึงเมืองหลวงขึ้นมาได้ ที่แท้ไป๋ชิงฉีเดินทางไปอวิ๋นจิงอย่างนั้นหรือ!
“เหตุใดจึงไม่ได้ยินฝ่าบาทตรัสถึงเรื่องนี้ก่อนหน้านี้พ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยขมวดคิ้วแน่นพลางเอ่ยถาม
“แน่นอนว่าเพื่อป้องกันต้าเยี่ยนสืบรู้เรื่อง…” ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะ
“ฝ่าบาทส่งทูตไปยังซีเหลียงเพราะต้องการให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจวหรือพ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยมองไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่ง “กระหม่อมสามารถทูลฝ่าบาทได้เลยว่าจักรพรรดินีของกระหม่อมไม่มีทางยอมแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“จะตกลงหรือไม่พวกเรารอฟังข่าวก็พอ เหยียนอ๋องกลับซีเหลียงไปตอนนี้ก็ทำสิ่งใดไม่ได้ อยู่ต้าโจวต่อยังสามารถรับมือกับต้าเยี่ยนได้ บางทีอาจสามารถปรึกษากับอ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋ได้ด้วยว่าสามารถยุติสงครามระหว่างสองแคว้นได้หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าเป่าไอร้อนในถ้วยน้ำชาราวกับไม่ใส่ใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย “เหยียนอ๋องลองชิมดูสักนิดเถิด นี่คือชาอวิ๋นอู้ที่เซียวเซียนเซิงมอบให้ข้า ข้าจำได้ว่าเซียวเซียนเซิงไม่เคยส่งชาชั้นดีเช่นนี้ไปขายที่กิจการของเขาในซีเหลียงเลย”
แม้จะดูเหมือนเป็นคำกล่าวลอยๆ ทว่า หลี่จือเจี๋ยเริ่มเกิดความลังเล
บางทีเขาอาจลองปรึกษาเรื่องสัญญาสงบศึกกับอ๋องหน้ากากผีได้ ตามหลักแล้วแคว้นอ่อนแอควรร่วมมือกันต่อต้านแคว้นแข็งแกร่ง เหตุใดหรงตี๋จึงกัดซีเหลียงไม่ปล่อยเช่นนี้ บางทีอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนอาจใช้เรื่องนี้หลอกให้เขาเชื่อว่าอ๋องหน้ากากผีคือคนของตระกูลไป๋
เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาด ทว่า ไม่เคยเอ่ยถามเรื่องนี้กับอ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋อย่างจริงจังต่อหน้าเขาเลยสักครั้ง
เมื่อคิดได้ดังนี้ หลี่จือเจี๋ยลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีที่พยายามทำให้ดูปกติที่สุด จากนั้นโค้งกายทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่รีบร้อน
***************