สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1051 ไม่คาดคิด
ตอนที่ 1051 ไม่คาดคิด
“คุณหนูใหญ่กำลังตั้งครรภ์ อย่าสนทนานานนัก ควรให้คุณหนูใหญ่พักผ่อนมากๆ” เสิ่นชิงจู๋กล่าวจบจึงยกมือคารวะเซียวรั่วเจียง จากนั้นเดินจากไป
เมื่อเข้าไปในตำหนัก เซียวรั่วเจียงเห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งอ่านตำราไม้ไผ่อยู่กลางแสงไฟ
หลายวันมานี้ไป๋ชิงเหยียนเอาแต่อ่านตำราของจีโฮ่ว หญิงสาวสนใจโลกที่มีแต่ความเสมอภาคที่จีโฮ่วบันทึกไว้มาก เมื่อเริ่มอ่านจึงมักวางตำราไม่เคยลง
วันนี้เฉินชิ่งเซิงกลับมา ไป๋ชิงเหยียนจึงสั่งให้ชุนเถาไปส่งเฉินชิ่งเซิงออกจากวังเพื่อให้ทั้งสองคนมีเวลาส่วนตัวอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้หลังจากไม่ได้พบหน้ากันนาน ชุนจืออยู่รับใช้ข้างกายไป๋ชิงเหยียน หญิงสาวไม่กล้าเกลี้ยกล่อมให้ไป๋ชิงเหยียนหยุดพัก ทำได้เพียงสั่งให้คนจุดไฟในตำหนักให้สว่างกว่านี้ ไป๋ชิงเหยียนจะได้ไม่เสียสายตา
“ชุนจือ เจ้าออกไปก่อน…” ไป๋ชิงเหยียนพับตำราม้วนไม้ไผ่ จากนั้นหันไปกล่าวกับเว่ยจง “ทูตจากต้าเยี่ยนรออยู่นานแล้ว เว่ยจงไปเชิญทูตจากต้าเยี่ยนเข้ามาเถิด ข้าสนทนากับหรู่ซยงครู่เดียวเท่านั้น”
ชุนจือและเว่ยจงรับคำพลางเดินออกไปจากตำหนัก ไป๋ชิงเหยียนวางม้วนไม้ไผ่ลงบนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นกล่าวกับเซียวรั่วเจียง “หรู่ซยง ข้ามีเรื่องให้ท่านช่วยไปจัดการที่เมืองหานโดยเร็วที่สุด!”
“คุณหนูใหญ่สั่งมาได้เลยขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนหยิบแผนที่แคว้นเทียนเฟิ่งที่เซียวรั่วไห่วาดขึ้นอย่างละเอียดออกมา เซียวรั่วเจียงรีบเข้าไปรับ จากนั้นกางอ่านอย่างละเอียด
“เจ้าจงไปที่เมืองหาน บอกให้คุณหนูรองช่วยฝึกพลทหารน้ำของต้าเหลียงอย่างเข้มงวดควบคู่ไปกับการผลักดันระบอบการปกครองใหม่ด้วย วันหน้าเราอาจได้ใช้งานพวกเขา”
เมื่อเห็นแผนที่ในมือ เซียวรั่วเจียงจึงเดาจุดประสงค์ของไป๋ชิงเหยียนได้ทันที บัดนี้กองทัพช้างของแคว้นเทียนเฟิ่งบุกประชิดเข้ามาเรื่อยๆ จากข่าวที่เฉินชิ่งเซิงและเซียวรั่วไห่บอกมา แคว้นเทียนเฟิ่งพร้อมรบเต็มกำลัง หากวันหนึ่งแคว้นเทียนเฟิ่งเปิดศึกกับต้าโจว พวกเขาต้องทุ่มเต็มกำลังอย่างแน่นอน!
ถึงเวลานั้นแคว้นเทียนเฟิ่งจะไร้ซึ่งทหารปกป้องแคว้น หากต้าโจวพาทหารน้ำบุกไปแคว้นเทียนเฟิ่งทางทะเลสาบ จากนั้นขึ้นฝั่งทางด้านหลังของแคว้นเทียนเฟิ่ง แคว้นเทียนเฟิ่งต้องตั้งตัวไม่ทันอย่างแน่นอน
“เซียวรั่วเจียงเข้าใจแล้วขอรับ” เซียวรั่วเจียงเก็บแผนที่ไว้ในอกอย่างกระตือรือร้น “ข้าจะออกเดินทางนำแผนที่ฉบับนี้ไปให้คุณหนูรองที่เมืองหานเดี๋ยวนี้ขอรับ!”
“ลำบากหรู่ซยงแล้ว เมื่อส่งจดหมายเสร็จแล้ว รบกวนหรู่ซยงอยู่ช่วยเหลือจิ่นซิ่วที่เมืองหานต่อด้วย…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสริม “ข้าจะให้เสิ่นชิงจู๋รับผิดชอบเรื่องช้างในค่ายทหารต่อเอง หรู่ซยงไม่ต้องเป็นห่วง”
เซียวรั่วเจียงพยักหน้า จากนั้นกล่าวต่ออย่างไม่ค่อยวางใจ “คุณหนูใหญ่ต้องพักผ่อนให้มากๆ นะขอรับ บัดนี้คุณหนูใหญ่กำลังตั้งครรภ์ควรพักผ่อนให้มาก สงครามที่หนานเจียงมีคุณชายและคุณหนูตระกูลไป๋คนอื่นๆ อยู่ คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นกังวลมากเกินไปนักขอรับ”
เมื่อเห็นแววตาที่มองมาด้วยความเป็นห่วงของเซียวรั่วเจียง ไป๋ชิงเหยียนจึงพยักหน้าให้เล็กน้อย “ได้ ข้ารู้แล้ว หรู่ซยงไม่ต้องเป็นห่วง”
เซียวรั่วเจียงเดินออกมาจากตำหนัก ชายหนุ่มกลับไปเก็บสัมภาระของตัวเอง จากนั้นนำคนเดินทางไปยังเมืองหานทันทีโดยไม่รอช้า
เซียวรั่วเจียงจากไปได้ไม่นาน เว่ยจงก็พาทูตของต้าเยี่ยนมาเข้าเฝ้าไป๋ชิงเหยียน
เมื่อเห็นด้านหลังของทูตต้าเยี่ยนมีขันทีซึ่งสวมชุดขันทีของแคว้นต้าเยี่ยน สวมหมวกปิดบังใบหน้ายืนอยู่ด้วยท่าทีนอบน้อม ไป๋ชิงเหยียนหรี่ตาแคบลงเล็กน้อย ทูตของต้าเยี่ยนกล่าวขึ้น “ฝ่าบาท กระหม่อมได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนให้นำของขวัญวันเฉลิมพระชนมพรรษาของฝ่าบาทมาถวายแด่ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ขอให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทรงพระเจริญหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ”
ขันทีซึ่งอยู่ด้านหลังทูตแห่งต้าเยี่ยนโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกันดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“ขอบคุณอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมากที่นึกถึงเรา…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
“ท่านอ๋องเก้าให้กระหม่อมนำจดหมายมาถวายฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ…” ทูตของต้าเยี่ยนหันไปทางขันทีซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง สื่อให้เขานำจดหมายออกมา
ขันทีผู้นั้นรีบส่งจดหมายให้เว่ยจง
ไป๋ชิงเหยียนรับจดหมายจากเว่ยจงมาเปิดอ่านคร่าวๆ จากนั้นกล่าวขึ้น “เว่ยกงกงพาทูตของต้าเยี่ยนไปพักผ่อนที่ตำหนักรับรองก่อน กงกงผู้นี้อยู่ต่อสักครู่ ข้ามีเรื่องอยากจะถามเจ้า”
“พ่ะย่ะค่ะ…” เว่ยจงรับคำ จากนั้นผายมือเชิญทูตของต้าเยี่ยนยิ้มๆ
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู ขันทีผู้นั้นค่อยๆ เงยหน้าขึ้น…
แสงไฟสีเหลืองอ่อนอบอุ่นในตำหนักที่พลิ้วไหวไปมาสะท้อนใบหน้าของคมคายชายหนุ่มจนเห็นอย่างชัดเจน
แววตาดำขลับของชายหนุ่มสะท้อนแสงไฟในห้อง สะท้อนเห็นไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่ด้านในผ้าม่านหลายชั้น ราวกับในสายตาของชายหนุ่มมีเพียงภาพของสตรีงดงามที่นั่งอยู่ท่ามกลางแสงไฟเท่านั้น
“เหตุใดท่านจึงมาที่นี่ ท่านพบเยว่สือแล้วหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเตรียมหยัดกายลุกขึ้นยืน
เซียวหรงเหยี่ยนรีบเดินเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน “เจ้านั่งอยู่เช่นนั้น อย่าขยับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนปลดสายหมวกออก วางหมวกลงบนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นพยุงไป๋ชิงเหยียนนั่งลงตามเดิม เขาจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่ง “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าพบเขาระหว่างทางแล้ว ข้ารู้เรื่องกองทัพช้างแล้ว…”
“รู้แล้วยังไม่รีบกลับไปต้าเยี่ยนอีก เหตุใดท่านจึงมาที่นี่กัน” ไป๋ชิงเหยียนขมวดคิ้วแน่น
เซียวหรงเหยี่ยนใช้นิ้วแตะไปที่คิ้วที่ขมวดแน่นของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ข้าไม่อยากพลาดวันเกิดของเจ้า”
เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มในชุดขันที ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาอย่างคุมไม่อยู่ ครั้งนี้ไป๋ชิงเหยียนไม่นึกมาก่อนว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะเดินทางมาที่
เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองเครื่องแต่งกายของตัวเองพลางกล่าวขึ้น “หลังจากแต่งงานข้าใช้ฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้อีกต่อไป ข้าเข้าวังได้ยากลำบาก จึงจำต้องแต่งกายเช่นนี้”
“บัดนี้แคว้นเทียนเฟิ่งพากองทัพช้างมาปรากฏตัว แคว้นต้าเยี่ยนกำลังต้องการท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่นี่เพื่ออวยพรวันเกิดให้ข้าจริงๆ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยน
เซียวหรงเหยี่ยนจับปรอยผมของไป๋ชิงเหยียนทัดไปที่หลังหูของหญิงสาว นิ้วมือลูบไล้ไปที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างคิดถึง เขาทำอย่างอ่อนโยนและพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองให้มากที่สุด
ชายหนุ่มก้มมองดูท้องของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเอื้อมมือไปลูบอย่างแผ่วเบา “สตรีตั้งครรภ์คือช่วงที่ลำบากที่สุด ข้าไม่ดีเอง ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้จึงทำให้เจ้าตั้งครรภ์ในเวลานี้”
ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หญิงสาววางมือทับฝ่ามือของชายหนุ่ม “ในเมื่อมีเขาแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องโทษกันอีก”
เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขานึกถึงคำกล่าวที่มู่หรงลี่กล่าวกับเขาหลังจากรู้ว่า ‘เซียงหรงเหยี่ยน’ แต่งงานกับไป๋ชิงเหยียน หลังจากนั้นไป๋ชิงเหยียนตั้งครรภ์
“เมื่อกล่าวถึงเรื่องลูก…” เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “เมื่ออาลี่รู้ว่าพวกเราแต่งงานกันและเจ้ากำลังตั้งครรภ์ เขาเห็นด้วยกับคำกล่าวของเจ้าที่ให้ทั้งสองแคว้นตัดสินกันด้วยระบอบการปกครอง หลีกเลี่ยงการทำสงคราม”
ไป๋ชิงเหยียนตะลึง หญิงสาวมองหน้าเซียวหรงเหยี่ยนอย่างคาดไม่ถึง
แม้มู่หรงลี่จะอายุยังน้อย ทว่า เขามีความคิดเป็นของตัวเองสูง
ตอนต้าเยี่ยนเผชิญปัญหา ชาวบ้านต้าเยี่ยนร่วมแรงร่วมใจต่อสู้จนผ่านวิกฤตนั้นมาด้วยกัน เซียวหรงเหยี่ยนคิดว่าหากต้องสูญเสียต้าเยี่ยนไป ถือเป็นการทำผิดต่อชาวบ้านที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับราชวงศ์มู่หรงมา
ทว่า อาลี่บอกว่าชาวบ้านปกป้องแคว้นต้าเยี่ยนเพราะการปกครองของต้าเยี่ยนมีประโยชน์ต่อชาวบ้าน ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น หากสองแคว้นตัดสินกันว่าแคว้นใดสามารถทำใช้ชาวบ้านมั่งคั่งและแคว้นแข็งแกร่งกว่ากัน ชาวบ้านต้องสนับสนุนอย่างแน่นอน
“ข้ายังไม่ทันกลับไปถึงต้าเยี่ยน ข่าวการแต่งงานกลับถูกส่งไปยังต้าเยี่ยนก่อนแล้ว ต่อมาก็ตามด้วยข่าวการตั้งครรภ์ของเจ้า อาลี่จึงมาคุยเรื่องนี้กับข้าด้วยตัวเอง”