สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1071 ไม่ถือสา
ตอนที่ 1071 ไม่ถือสา
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนลงจากหลังม้า ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นก้าวไปด้านหน้า ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนด้วยท่าทีนอบน้อมที่สุด “ได้พบหน้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวคือวาสนาของข้า”
ดวงตาลึกล้ำของไป๋ชิงเหยียนมองไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยิ้มๆ พยักหน้าให้เล็กน้อย “ได้ยินทูตของเทียนเฟิ่งกล่าวว่าจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งกล่าวภาษากลางได้คล่องแคล่ว เป็นดั่งที่กล่าวไว้จริงๆ…”
รอยยิ้มของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นอบอุ่นราวกับหยก เขาเบี่ยงกายหลีกทางให้ไป๋ชิงเหยียน “เชิญจักรพรรดินี…”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น ทว่า ไม่ได้ขยับกาย หญิงสาวมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังลงจากหลังม้า
วันนี้เซียวหรงเหยี่ยนสวมหน้ากาก สวมเสื้อคลุมหนังงู คาดเข็มขัดหยกที่เอว อาจเป็นเพราะเครื่องแต่งกายในวันนี้ทำให้ชายหนุ่มดูน่าเกรงขามกว่าทุกที รัศมีแห่งความเป็นจักรพรรดิเปล่งประกายออกมาจากร่างของชายหนุ่ม
จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนลงจากรถม้าตามหลังเซียวหรงเหยี่ยนติดๆ เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนจึงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาโค้งกายทำความเคารพหญิงสาวเป็นอันดับแรก จากนั้นทำความเคารพผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนซึ่งยืนอยู่ข้างกาย “ท่านอาเก้า จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเคยดูแลอาลี่ตอนอยู่ที่เมืองหลวง อาลี่ขอไปทักทายจักรพรรดินีแห่งต้าโจวก่อนนะขอรับ”
เมื่อขุนนางต้าเยี่ยนที่ลงมาจากรถม้าเห็นท่าทีนอบน้อมที่จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนมีต่อผู้สำเร็จราชการจึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างปวดใจ เขาคิดว่าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนควรวางมาดเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่หรงเหยี่ยนถึงจะถูก
ขุนนางที่จงรักภักดีต่อมู่หรงเหยี่ยนคิดว่าเรื่องนี้คือเรื่องปกติ จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนทำถูกแล้ว
“ไปเถิด…” มู่หรงเหยี่ยนกล่าว
เมื่อได้รับอนุญาตมู่หรงลี่จึงโค้งกายคำนับมู่หรงเหยี่ยนอีกครั้ง จากนั้นเดินไปหาไป๋ชิงเหยียนอย่างรวดเร็ว
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเห็นเหตุการณ์จึงมองไปทางมู่หรงเหยี่ยนอย่างอดไม่ได้ เขารู้ทันทีว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริงในต้าเยี่ยนคือผู้สำเร็จราชการผู้นี้
“พี่หญิงใหญ่ มู่หรงลี่เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวอย่างดีใจ
ไป๋ชิงอวี๋ซึ่งยืนเอามือไขว้หลังอยู่ทางด้านหลังไป๋ชิงเหยียนมีสีหน้าเรียบเฉย เขามองดูจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนที่เดินตรงเข้ามาหาพี่หญิงอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง จากนั้นมองไปทางมู่หรงเหยี่ยนซึ่งสวมชุดคลุมหนังงูนิ่ง ไป๋ชิงอวี๋กระชับหมัดที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น
สองสายตาประสานกัน มู่หรงเหยี่ยนก้มศีรษะให้ไป๋ชิงอวี๋เล็กน้อย
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนของมู่หรงลี่ ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างอ่อนโยนพลางเดินเข้าไปหามู่หรงลี่
มู่หรงลี่เอ่ยทักพี่สาวไป๋ ทั้งสองฝ่ายทำความเคารพกัน
“ตอนอยู่เมืองหลวงได้คำชี้แนะมากมายจากพี่สาวไป๋ ได้ยินท่านอาเก้าบอกว่าพวกเราทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันแล้ว เหลือเพียงประทับตราในสัญญาเท่านั้น! อาลี่ดีใจมากขอรับ…”
มู่หรงลี่แสร้งทำตัวไร้เดียวสา ทว่า ความจริงแล้วจงใจกล่าวให้ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นฟัง
“สองแคว้นทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันมีแต่จะส่งผลดีต่อชาวบ้าน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับมู่หรงลี่จบจึงหันไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น “ผู้นี้คือจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่ง”
มู่หรงลี่และซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นทำความเคารพอีกฝ่าย ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเชิญทั้งสองคนเข้าไปในกระโจม ส่วนตัวเองเดินรั้งท้าย เขาหันไปก้มศีรษะให้มู่หรงเหยี่ยนยิ้มๆ “ได้ยินชื่อเสียงของอ๋องเก้าผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนมานานแล้ว…”
“จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งเกรงใจเกินไปแล้ว” มู่หรงเหยี่ยนผายมือเชิญซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น
“เชิญ…”
“เชิญ…” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวยิ้มๆ
เมื่อหลี่เทียนฟู่ที่กำลังนั่งเอนกายพิงหมอนอิงเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามาในกระโจมจึงจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาอาฆาต
หลี่เทียนฟู่สวมเครื่องแต่งกายประจำตำแหน่งจักรพรรดินีนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะเล็กสองตัวที่วางอยู่ตรงหน้าด้วยมาดจักรพรรดินี
ไป๋ชิงเหยียนนึกไม่ถึงว่าคนของซีเหลียงที่มาในครั้งนี้จะเป็นหลี่เทียนฟู่ หญิงสาวเริ่มคาดเดาการเปลี่ยนแปลงในซีเหลียงได้แล้ว
หากหลี่เทียนฟู่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้อง จักรพรรดินีหลี่เทียนเจียวคงไม่รอดแล้ว หากอวิ๋นพั่วสิงและหลี่จือเจี๋ยซึ่งเป็นคนของหลี่เทียนเจียวไม่ปรากฏตัวในการเจรจาครั้งนี้แสดงว่าอำนาจของซีเหลียงเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะการปรากฏตัวของเทียนเฟิ่งแน่นอน
ทว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ ต้าโจวไม่รับรู้ข่าวนี้แม้แต่น้อย ต้าเยี่ยนก็คงไม่รู้เช่นเดียวกัน มิเช่นนั้นวันนั้นเซียวหรงเหยี่ยนคงบอกเรื่องนี้ให้นางรู้ก่อนแล้ว
บางทีอาจเกิดก่อนเดินทางมาเจรจาเชื่อมไมตรีระหว่างสี่แคว้นไม่นาน
เป็นดั่งที่ไป๋ชิงเหยียนคิดไว้ จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงหลี่เทียนเจียวไม่ให้ความร่วมมือเดินทางมาเจรจาเชื่อมไมตรี ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งรับรู้การมีอยู่ของหลี่เทียนฟู่จึงเปลี่ยนตัวจักรพรรดินีของซีเหลียงทันที
หลี่เทียนฟู่มองสบตาไป๋ชิงเหยียน นางพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ข่มความเกลียดชังที่มีอยู่ในใจ มองไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่ง “พวกเราพบหน้ากันอีกแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้พบหน้ากันในที่เช่นนี้”
ไป๋ชิงอวี๋ซึ่งยืนเอามือไขว้หลังอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลี่เทียนฟู่ เมื่อเห็นแววตาเย็นชาของไป๋ชิงอวี๋ หลี่เทียนฟู่กำมือแน่น ข้างกายไป๋ชิงเหยียนมีบุคคลเช่นนี้โผล่มาตั้งแต่เมื่อใดกัน!
หลี่เทียนฟู่มองไปทางขุนนางของต้าโจวที่เดินเข้ามาในกระโจม เมื่อเห็นหลิ่วหรูซื่อความเกลียดชังจึงผุดขึ้นมาทันที นางมองไปทางไป๋จิ่นจื้อ เสิ่นชิงจู๋และเว่ยจง เมื่อคิดว่าตัวเองมีเพียงนางกำนัลสองคนข้างกาย รัศมีด้อยกว่าไป๋ชิงเหยียนมากจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ล้วนเป็นความผิดของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นผู้นั้น เขากล่าวว่าซีเหลียงเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาในครั้งนี้ พวกเขาควรทำตัวนอบน้อมให้มาก
มู่หรงลี่เหลือบมองหลี่เทียนฟู่แวบหนึ่ง จากนั้นนั่งลงตรงโต๊ะฝั่งตรงข้ามไป๋ชิงเหยียน
เสิ่นชิงจู๋ประคองไป๋ชิงเหยียนนั่งลง ไป๋ชิงเหยียนจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองเล็กน้อย จากนั้นกล่าวกับหลี่เทียนฟู่ยิ้มๆ “เหตุใดองค์หญิงจึงมางานเจรจาเชื่อมไมตรีครั้งนี้กัน จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงทรงประชวรอย่างนั้นหรือ”
หลี่เทียนฟู่กัดฟันกรอด นางขยับกายนั่งตัวตรง “ตอนนี้ข้าคือจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง เจ้าสายตาไม่ดีหรืออย่างไร ไม่เห็นว่าข้าสวมชุดประจำตำแหน่งจักรพรรดินีอย่างนั้นหรือ”
“จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงลงจากบัลลังก์แล้วอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยชาขึ้น ใช้ฝาถ้วยดันใบชาที่ลอยเหนือน้ำชาให้จมลงไปในน้ำ จากนั้นก้มหน้าเป่าไอร้อนเบาๆ
“พี่สาวของข้าร่างกายไม่แข็งแรง ไม่เหมาะที่จะแบกรับภาระหนักในฐานะจักรพรรดินี ดังนั้นวันหน้าข้าคือจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง มีตำแหน่งเทียบเท่ากับเจ้า” หลี่เทียนฟู่เอนกายพิงหมอนอิง “ไป๋ชิงเหยียน ข้าไม่เคยลืมความแค้นของลู่เทียนจัว ไม่เคยลืมว่าเขาตายอย่างไร!”
“เหตุใดต้องจดจำการตายของขันทีเพียงคนเดียวด้วย เจ้าอยากตายเช่นนั้นเหมือนกันหรือ” ไป๋จิ่นจื้อกลอกตามองหลี่เทียนฟู่ “หากเจ้าอยากตาย จบงานเจรจาข้าจะทำให้เจ้าสมหวัง!”
“เจ้าคือผู้ใด กล้าดีเช่นไรกล่าวกับจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเช่นนี้!” หลี่เทียนฟู่เดือดดาลกับคำกล่าวของไป๋จิ่นจื้อจนเกือบตบโต๊ะลุกขึ้นยืน
“จักรพรรดินีองค์ใหม่ของซีเหลียงขึ้นครองราชย์กลับไม่ประกาศให้ใต้หล้ารับรู้ ต้าโจวไม่ได้ส่งทูตไปแสดงความยินดีเท่ากับว่าพวกเรายังไม่ยอมรับว่าเจ้าคือจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง องค์หญิงกลับไปวางมาดจักรพรรดินีที่แคว้นซีเหลียงของตัวเองเถิด” ไป๋ชิงเหยียนปิดฝาถ้วยชาแล้ววางลงบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ สายตามองไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นและมู่หรงเหยี่ยนที่กำลังเดินเข้ามาในกระโจม จากนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “วันนี้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงไม่ปรากฏตัว ต้าโจวจะไม่นับว่าซีเหลียงมาร่วมเจรจาในครั้งนี้ด้วย”
มู่หรงเหยี่ยนที่เดินเข้ามาในกระโจมพร้อมกับซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวขึ้นยิ้มๆ เช่นเดียวกัน “จักรพรรดินีองค์ใหม่ของซีเหลียงขึ้นครองราชย์กลับไม่ส่งทูตมาแจ้งให้พวกเราทราบ ต้าเยี่ยนไม่ได้ส่งคนไปแสดงความยินดี ดังนั้นจึงยังไม่อาจยอมรับจักรพรรดินีองค์ใหม่แห่งซีเหลียงได้ หากกล่าวล่วงเกินไปบ้าง หวังว่าองค์หญิงแห่งซีเหลียงจะไม่ถือสา”