สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1084 สร้างความลำบากใจ
ตอนที่ 1084 สร้างความลำบากใจ
เสียงทุ้มหยาบของเฉิงหย่วนจื้อดังแว่วไปถึงหูของหลี่เทียนฟู่ หญิงสาวรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยามเป็นอย่างมาก นางตะโกนเสียงดังลั่น “ตกลงต้าโจวจะมอบตัวคนออกมาหรือไม่! หากไม่ยอมมอบตัวคนออกมาเท่ากับต้องการประกาศศึกกับซีเหลียงและเทียนเฟิ่ง บัดนี้กองทัพช้างอยู่หน้าเมืองของพวกเจ้า พวกเจ้าจะปกป้องคนทรยศผู้นั้นโดยไม่สนชีวิตของชาวบ้านในเมืองอย่างนั้นหรือ!”
ซือหม่าผิงได้ยินคำกล่าวของหลี่เทียนฟู่จึงเลิกคิ้วสูง เขารู้สึกว่าองค์หญิงซีเหลียงผู้นี้ไม่ได้ไร้สมองอย่างที่ได้ยินมา เขายกยิ้มมุมปากพลางกล่าวยิ้มๆ “กล่าวจี้แทงใจดำแล้ว…”
“ว่าอันใดนะ” หลู่หยวนเผิงหันไปมองซือหม่าผิง
ซือหม่าผิงผลักศีรษะของหลู่หยวนผิงให้หันกลับไปมองกองทัพซีเหลียงซึ่งอยู่ใต้กำแพงเมืองตามเดิม
“เจ้าจงสำรวจกองทัพช้างเหล่านั้นดีๆ หาทางจัดการกับช้างเหล่านั้นให้ได้ หากหาวิธีได้เจ้าจะมีความดีความชอบยิ่งใหญ่”
สิ้นเสียงของซือหม่าผิง เสียงทำความเคารพฝ่าบาทดังขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ด้านล่างกำแพง เสิ่นคุนหยางและเฉิงหย่วนจื้อรีบเดินลงไปต้อนรับทันที
“เสี่ยวไป๋ไซว่ คุณชายห้า!” เฉิงหย่วนจื้อเผลอทักทายออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อนึกได้จึงรีบแก้คำ “เหตุใดฝ่าบาทและคุณชายห้าจึงเสด็จมาที่นี่พ่ะย่ะค่ะ หิมะตกแรงเช่นนี้ ที่นี่มีพวกเราอยู่ก็พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ…” เสิ่นคุนหยางเป็นห่วงร่างกายของไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนเคยอยาในสังกัดของเขาดังนั้นเขาจึงเผลอกล่าวมากไปหน่อย “ตอนนี้ฝ่าบาททรงพระครรภ์อยู่ ควรระวังพระองค์ให้มากนะพ่ะย่ะค่ะ ที่นี่วุ่นวายเกินไป หากเกิดสงครามขึ้นมาจนฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บจะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ คุณชายห้ารีบพาฝ่าบาทเสด็จกลับเถิดขอรับ”
“มิเป็นอันใดลุงเสิ่น ไม่มีสงครามเกิดขึ้นหรอก” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม “ฝ่ายนั้นบอกจุดประสงค์หรือไม่”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“องค์หญิงซีเหลียงผู้นั้นกล่าวว่าต้องการตัวเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยคืนพ่ะย่ะค่ะ…” หลู่หยวนเผิงถลาไปด้านหน้าไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยรายงาน
“หลี่จือเจี๋ยเป็นตัวปัญหาเสียจริง!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปสั่งองครักษ์ไป๋ “ไปรายงานให้หลี่จือเจี๋ยมาดูสิว่าเขาสร้างปัญหาให้ต้าโจวมากเพียงใด!”
ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มเย็นที่มุมปาก โทสะในใจไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย ต้องการจับตัวคนทรยศของซีเหลียงจึงต้องล้มตัวเสี่ยวซื่อกับชิงจู๋ไว้อย่างนั้นหรือ หากองครักษ์ไป๋ไม่ได้ปกป้องพวกนางไว้ด้วยชีวิต ป่านนนี้เสี่ยวซื่อและเสิ่นชิงจู๋คงตกอยู่ในกำมือของหลี่เทียนฟู่ไปแล้ว
“เฉิงหย่วนจื้อ!”
“พ่ะย่ะค่ะ” เฉิงหย่วนจื้อรีบก้าวไปด้านหน้า
ไป๋ชิงเหยียนมองดูหิมะที่ตกลงมาจากฟ้าด้วยแววตาเย็นชา เอ่ยสั่งเสียงเยือกเย็น “เจ้ารีบพาทหารกองทัพไป๋หนึ่งหมื่นห้าพันนายออกจากประตูทิศตะวันออกของผิงหยาง อ้อมไปทางด้านหลังของกองทัพซีเหลียงและกองทัพช้าง หากเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ จงทำให้พวกนั้นกลับออกไปไม่ได้อีก พวกเขาจะได้ไม่กล้าคิดว่าต้าโจวอ่อนแอสามารถรังแกได้ง่ายๆ จงรีบไปทันที!”
“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!” เฉิงหย่วนจื้อพาซือหม่าผิงและหยู่หยวนเผิงวิ่งลงจากกำแพงเมืองไปทันที
ไป๋ชิงเหยียนมองเห็นหวังชิวลู่ที่ก้มหน้าเตรียมเดินตามเฉิงหย่วนจื้อไปจึงกล่าวขึ้น “หวังชิวลู่ เจ้าจงรีบนำทหารหกพันนายออกไปทางประตูทิศใต้ จากนั้นลงมือทันทีโดยไม่ต้องลังเล ผู้ที่กล้ามารุกรานพวกเราในวันนี้ไม่มีทางได้กลับออกไปจากเมืองผิงหยาง!”
หวังชิวลู่ชะงักฝีเท้า จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่อยากเชื่อ
ตอนนั้นหวังชิวลู่ร่วมก่อกบฏกับเสียนอ๋องแห่งหนานตู เดิมทีเขาควรถูกประหาร ทว่า หวังเจียงไห่บิดาของเขาใช้ป้ายหยกของท่านชายสี่ของตระกูลไป๋หลอกไป๋ชิงเหยียนออกไปพบ ขอให้ไป๋ชิงเหยียนไว้ชีวิตเขา ต่อมาเขายอมรับไป๋ชิงเหยียนเป็นเจ้านายเพราะคำกล่าวของบิดา หวังชิวลู่ช่วยตระกูลไป๋ต่อหน้ารัชทายาท ไป๋ชิงเหยียนจึงให้คนช่วยเขาออกมาจากคุกและส่งเขาไปยังกองทัพไป๋ที่หนานเจียง
เขาคิดว่าเขามีมลทินมาก่อนคงไม่ได้รับความไว้วางใจจากไป๋ชิงเหยียน กองทัพไป๋ไม่มีทางให้เขานำทัพเดี่ยวแน่นอน เขาตัดสินใจแล้วว่าจะติดตามแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อแต่โดยดี นึกไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะให้เขานำทัพเดี่ยวเช่นนี้
“มัวตะลึงอันใดอยู่ รีบไปได้แล้ว!”
ดวงตาของหวังชิวลู่แดงก่ำ “ขอบพระคุณเจ้านายที่ไว้วางใจ หวังชิวลู่จะทำให้เต็มที่ที่สุดขอรับ!”
“อาอวี๋…” ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางไป๋ชิงอวี๋
“ไป๋ชิงอวี๋เข้าใจแล้วขอรับ” ไป๋ชิงอวี๋กำหมัดรับคำ “ข้าจะพากองทัพหรงตี๋บุกไปโจมตีทางฝั่งตะวันออกของพวกนั้นโดยเร็วที่สุดขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนจับแขนของไป๋ชิงอวี๋แน่น กำชับให้น้องชายระวังตัว จากนั้นเดินฝ่าหิมะขึ้นไปบนกำแพง มองดูกองทัพช้างที่อยู่ด้านล่างกำแพงนิ่ง
“ฝ่าบาท!” เมื่อเสิ่นชิงจู๋เห็นไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาจึงกระโดดลงมาจากกำแพงเพื่อช่วยประคองหญิงสาว “เกราะเหล็กของช้างเหล่านั้นทนทานมาก ลูกธนูแทงไม่เข้าเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นใบหน้าของเสิ่นชิงจู๋ยังมีคราบเลือดติดอยู่ ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากแน่น
เทียนเฟิ่งมีผงหมึกที่สามารถทำให้อาวุธไร้เทียมทาน กองทัพช้างมีค่ามากสำหรับแคว้นเทียนเฟิ่ง พวกเขาต้องใช้ผงหมึกสร้างเกราะเหล็กที่ทนทานที่สุดให้ช้างเหล่านี้แน่นอน
กองทัพซีเหลียงและเทียนเฟิ่งชูคบเพลิงสูง เปลวไฟของคบเพลิงสะบัดไปมาตามแรงลม ไป๋ชิงเหยียนอาศัยแสงไฟมองเห็นลำตัวของช้างยักษ์ได้รางๆ
อาจเป็นเพราะเทียนเฟิ่งต้องการสร้งกองทัพช้าง ช้างของเทียนเฟิ่งจึงดูแข็งแรงกว่าช้างของต้าเหลียงมาก ขนาดลำตัวของมันก็ใหญ่กว่า เมื่อสวมเกราะเหล็กลงบนลำตัวของช้างจึงทำให้ช้างเหล่านี้ดูมีขนาดใหญ่มหึมาจนน่าหวาดกลัว
หากต้องเผชิญหน้ากับกองทัพช้างเหล่านี้จริงๆ แค่กองทัพช้างเหล่านี้ยืนอยู่เฉยๆ ก็สามารถข่มขวัญคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดีแล้ว
หลี่เทียนฟู่ซึ่งนั่งอยู่บนเสลี่ยงมองเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินไปยังกลางกำแพงเมืองจึงยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “ไป๋ชิงเหยียนส่งตัวหลี่จือเจี๋ยออกมาเถิด มิเช่นนี้ข้าจะเปิดศึกกับต้าโจวแล้ว”
ไป๋ชิงเหยียนไม่สนใจคำกล่าวของหลี่เทียนฟู่ หญิงสาวหันไปกล่าวกับเสิ่นชิงจู๋ “ให้พลธนูลอบขึ้นไปเตรียมพร้อมบนกำแพงเมือง จุดไฟที่ลูกธนูด้วย เมื่อได้ยินคำสั่งจงยิงไปที่ดวงตาของช้างเหล่านั้นทันที”
“เจ้าค่ะ!” เสิ่นชิงจู๋รับคำพลางวิ่งลงไปด้านล่างกำแพง
แม่ทัพของเทียนเฟิ่งได้ยินคำกล่าวของหลี่เทียนฟู่จึงแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา เขาหันไปกล่าวกับหลี่เทียนฟู่ “จักรพรรดิเทียนเฟิ่งของพวกเรากำชับท่านไว้แล้วว่าจะช่วยนำตัวคนคืนมาเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าจะเปิดศึกกับต้าโจว”
“เจ้ากล่าวมากความเสียจริง” หลี่เทียนฟู่หันไปถลึงดวงตาคู่งามใส่แม่ทัพของเทียนเฟิ่ง “เมื่อครู่กองทัพช้างของพวกเจ้าเกือบเหยียบเกาอี้จวินน้องสาวของจักรพรรดิแห่งต้าโจวตาย อยากถอนตัวออกจากเรื่องนี้ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว!”
แม่ทัพของเทียนเฟิ่งมองไปทางหลี่เทียนฟู่อย่างเกรี้ยวกราด เมื่อครู่หลี่เทียนฟู่ไม่ได้บอกว่าสตรีที่พวกเขาไล่ตามจับเมื่อครู่คือน้องสาวของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว!
แม่ทัพเทียนเฟิ่งรีบมองไปทางกำแพงเมืองผิงหยาง เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของไป๋ชิงเหยียนจึงรีบกำหมัดแนบอกเพื่อแสดงความเคารพ จากนั้นตะโกนเสียงดังลั่น
“จักรพรรดินีแห่งต้าโจวผู้น่าเคารพ กระหม่อมคือแม่ทัพของจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่ง กระหม่อมได้รับคำสั่งให้มาขอตัวคนทรยศของซีเหลียงคืนเป็นเพื่อนจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง ฝ่าบาทได้โปรดส่งตัวคนทรยศคืนมาให้พวกเราด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ อย่าทำให้กระหม่อมลำบากใจเลยพ่ะย่ะค่ะ”