สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1130 กลับเมืองหลวง
ตอนที่ 1130 กลับเมืองหลวง
“เชิญอ๋องเก้า…” ไป๋ชิงเหยียนหันม้ากลับ จากนั้นหันไปผายมือเชิญมู่หรงเหยี่ยน
มู่หรงเหยี่ยนผายมือเชิญไป๋ชิงเหยียนด้วยท่าทีปกติเช่นเดียวกัน “เชิญจักรพรรดินีแห่งต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ”
มองส่งไป๋ชิงเหยียน มู่หรงเหยี่ยน ไป๋จิ่นจื้อ เสิ่นชิงจู๋และเซี่ยสวินจากไป หวังต้าโก่วจึงลุกขึ้นกล่าวกับอันชิงซาน “เป็นดั่งที่อย่างที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวและอ๋องเก้าของพวกเราตรัส หากพวกเราไม่ขาดแคลนอาวุธและเสบียงอาหารมากจริงๆ พวกเราก็คงไม่ใจแคบถึงเพียงนี้ ทว่า ครั้งนี้ต้าโจวช่วยเหลือต้าเยี่ยนของพวกเรา วันหน้าต้าเยี่ยนของพวกเราก็ยินดีช่วยเหลือต้าโจวของพวกเจ้า…”
“กล่าวได้ดี!” อันชิงซานกล่าว
ระหว่างทางกลับมู่หรงเหยี่ยนขี่ม้าควบคู่ไปกับม้าของไป๋ชิงเหยียนอย่างช้าๆ เพราะเป็นห่วงไป๋ชิงเหยียนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ “จับตัวจักรพรรดินีหลี่เทียนเจียวของซีเหลียงได้แล้วหรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “คนที่ส่งไปจับตัวนางยังไม่กลับมารายงาน ไม่รู้ว่าหลี่เทียนเจียวมีแผนสำรองใดอีกหรือไม่ ทว่า ครั้งนี้มีสิ่งที่เหนือความคาดหมายอยู่อย่างหนึ่ง”
บัดนี้อวิ๋นพั่วสิงเสียชีวิตแล้ว หลี่เทียนเจียวไม่มีทางควบคุมตระกูลทั้งแปดของซีเหลียงได้ ถึงแม้หลี่เทียนเจียวจะหนีไปได้ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอันใด คนที่พวกเขาต้องจัดการจริงๆ คือแคว้นเทียนเฟิ่งที่หลี่เทียนเจียวเชิญมาต่างหาก
“อันใดอย่างนั้นหรือ” มู่หรงเหยี่ยนถาม
“หลี่เทียนฟู่และศิษย์คนโตของจอมเวทย์แห่งแคว้นเทียนเฟิ่งถูกจับแล้ว…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
เทียนเฟิ่งเข้ามาในแคว้นซีเหลียงเพราะคำเชิญของหลี่เทียนเจียว ต่อมาหลี่เทียนเจียวไม่เชื่อฟังคำสั่งของเทียนเฟิ่ง พวกเขาจึงสนับสนุนหลี่เทียนฟู่ขึ้นครองบัลลังก์แทน จากนั้นใช้จักรพรรดินีหลี่เทียนฟู่แห่งซีเหลียงกอบโกยผลประโยชน์จากซีเหลียงเข้าแคว้นเทียนเฟิ่งให้ได้มากที่สุด
ทว่า ตอนนี้หลี่เทียนฟู่ตกอยู่ในกำมือของต้าโจวแล้ว
หากหลี่เทียนเจียวไม่ปรากฏตัวออกมาก็แล้วไป ทว่า หากนางปรากฏตัวออกมา เหตุใดต้าโจวจะไม่สามารถใช้หลี่เทียนฟู่เป็นข้ออ้างนี้จับตัวหลี่เทียนเจียวได้เล่า เมื่อสงครามยุติลงต้าโจวสามารถแต่งตั้งหลี่เทียนฟู่เป็นอ๋องแห่งซีเหลียงเช่นเดียวกับที่ทำกับอ๋องแห่งหรงตี๋ ให้นางใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวงไปจนวันตายก็สิ้นเรื่องแล้ว
ทว่า หากหลี่เทียนฟู่รนหาที่ตายเอง ไป๋ชิงเหยียนก็ยินดีทำให้นางสมหวัง
ส่วนลูกศิษย์คนโตของจอมเวทย์แห่งแคว้นเทียนเฟิ่งก็ไม่ใช่คนปากแข็งสักเท่าใดนัก เมื่อถูกทรมานเพียงเล็กน้อยก็ยอมสารภาพความลับของหยกจักจั่นออกมาแล้ว
ที่สำคัญไป๋ชิงเหยียนรู้ความลับของหยกจักจั่นจากหลี่จือเจี๋ยมาก่อนแล้ว หญิงสาวจึงรู้ว่าศิษย์คนโตของจอมเวทย์แห่งเทียนเฟิ่งไม่ได้โกหก…
ต่อมาศิษย์คนโตของจอมเวทย์แห่งเทียนเฟิ่งที่ทนถูกทรมานไม่ได้จึงคายความลับเรื่องอื่นของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นออกมาอีก เขาบอกว่าที่ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นไม่กล้าบุกแย่งชิงดินแดนของต้าเยี่ยนและต้าโจวซึ่งๆ หน้าเป็นเพราเจ้าของดินแดนของต้าเยี่ยนและต้าโจวที่เทพเจ้าเลือกไว้ยังมีชีวิตอยู่
มู่หรงเหยี่ยนเคยได้ยินไป๋ชิงเหยียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้ามาก่อนจึงไม่ได้แปลกใจมากนัก ทว่า ชายหนุ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าตลกสิ้นดี “เพราะจอมเวทย์ของพวกเขากล่าวว่าดินแดนแห่งนี้มีเจ้าของที่เทพเจ้าเลือกไว้ปกครองอยู่ก่อนแล้วดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าบุกโจมตีดินแดนแห่งนี้อย่างนั้นหรือ คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”
“ข้าก็อยากถามต่ออยู่เหมือนกัน ทว่า ท่านพาเซี่ยสวินมาขอพบข้าเสียก่อน” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองมู่หรงเหยี่ยน “หากท่านสนใจ เดี๋ยวไปสอบสวนเขาพร้อมกับข้าดีหรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนไม่สงสัยในความเชื่อเรื่องเทพเจ้าของแคว้นเทียนเฟิ่ง ยิ่งไม่สงสัยเรื่องที่เทียนเฟิ่งจงรักภักดีต่อเทพเจ้าถึงเพียงนี้ ทว่า หากต้องการพิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ ไป๋ชิงเหยียนต้องได้พบหน้าศิษย์คนโตของจอมเวทย์แห่งเทียนเฟิ่งด้วยตัวเองก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ
มู่หรงเหยี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นพยักหน้าน้อยๆ
“ได้ ข้าจะให้เซี่ยสวินพาทหารกลับไปก่อน คืนนี้ข้าจะอยู่ฉลองคืนสิ้นปีกับเจ้า”
“แล้วอาลี่เล่า” ไป๋ชิงเหยียนมองมู่หรงเหยี่ยนพลางเอ่ยถาม “ท่านคืออาของเขา ท่านควรอยู่ฉลองคืนวันสิ้นปีกับเขา อาอวี๋ เสี่ยวซื่อ ชิงจู๋และแม่ทัพของกองทัพไป๋ล้วนอยู่ที่นี่ ข้าไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรอก”
“ไทเฮาของต้าเยี่ยนเสด็จมาที่เมืองเหมิง วันนี้ปล่อยให้สองแม่ลูกฉลองคืนวันสิ้นปีด้วยกันเถิด อาลี่ไม่ได้พบหน้ามารดานานแล้วคงมีเรื่องต้องสนทนากันมาก ข้าอยากอยู่กับเจ้าและลูกเหมือนกัน” มู่หรงเหยี่ยนพยายามข่มใจไม่เอื้อมมือไปจับมือของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวกับหญิงสาวเสียงเบาหวิว
“พี่สะใภ้ของท่านมาที่เมืองเหมิงเพราะต้องการฉลองคืนวันสิ้นปีกับพวกท่าน ท่านอยู่ที่นี่ต่อจะเหมาะสมอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
เมื่อเห็นแววตาบริสุทธิ์สดใสของไป๋ชิงเหยียน มู่หรงเหยี่ยนจึงถึงถึงถ้อยคำของพี่สะใภ้ขึ้นมาทันที เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาลึกซึ้งพลางกล่าวยิ้มๆ “ข้าอยากอยู่ข้างกายเจ้าและลูกในคืนวันสิ้นปี”
ไป๋ชิงเหยียนสังเกตเห็นความผิดปกติของมู่หรงเหยี่ยน ทว่า ไม่ได้ถามเซ้าซี้ต่อ ไป๋ชิงเหยียนดีใจอยู่แล้วที่ชายหนุ่มสามารถอยู่เป็นเพื่อนนางในคืนวันสิ้นปีได้…
ตอนที่ทุกคนกลับมาถึง ไป๋ชิงอวี๋และเสิ่นคุนหยางกำลังปรึกษาเรื่องแผนการลำดับต่อไปอยู่หน้าแผนที่
เสิ่นคุนหยางเสนอให้ข้ามแม่น้ำตันสุ่ย ไล่ตามไปโจมตีเทียนเฟิ่งที่เมืองเฉวี่ยนหยา จับตัวซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นก่อนที่กองทัพหลักของเทียนเฟิ่งจะเดินทางมาถึง เช่นนี้แม่ทัพอาเซี่ยเค่อต้องยอมจำนนต่อพวกเขาเพื่อความปลอดภัยของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นแน่นอน
ทว่า ไป๋ชิงอวี๋กลับกล่าวขึ้น “ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นไม่ใช่คนโง่ เมื่อวานเขามีโอกาสได้พักหายใจหลังจากหลบหนีไปยังเมืองเฉวี่ยนหยาได้สำเร็จ ตอนนี้เขาคงหนีไปจากเมืองเฉวี่ยนหยาแล้วแน่นอน กองทัพช้างเกือบทั้งหมดของเขาถูกสังหารจนสิ้น หลี่เทียนฟู่ถูกจับได้แล้ว ถึงแม้เทียนเฟิ่งจะยังขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรกับซีเหลียง ทว่า เขาไม่สามารถควบคุมซีเหลียงได้เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว นอกเสียจาก…”
“นอกจากอันใดขอรับ” เซี่ยสวินมองไปทางไป๋ชิงอวี๋
“นอกจากแม่ทัพเสิ่นเหลียงอวี้และและเฉิงหย่วนจื้อจะจับตัวหลี่เทียนเจียวมาไม่สำเร็จจนหลี่เทียนเจียวหนีไปเจอกับซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น ตอนนี้หลี่เทียนเจียวแตกหักกับต้าโจวแล้ว หากนางยอมเข้าร่วมกับเทียนเฟิ่งในตอนสิ้นหวังเช่นนี้ เช่นนั้นเทียนเฟิ่งก็จะมีกำลังทหารต่อกรกับพวกเราอีกครั้ง!” ไป๋ชิงอวี๋มองไปยังตำแหน่งเมืองเฉวี่ยนหยาในแผนที่ “ทว่า ข้าคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้”
ไป๋ชิงอวี๋มั่นใจในฝีมือของเสิ่นเหลียงอวี้และเฉิงหย่วนจื้อ ทหารเก่าแก่ของกองทัพหู่อิงบุกไปจับตัวหลี่เทียนเจียวด้วยตัวเอง หากยังจับตัวนางไม่ได้ หลี่เทียนเจียวก็คงโชคดีเกินไปแล้ว
เสิ่นชิงจู๋แหวกม่านเดินเข้ามาด้านใน จากนั้นกระซิบที่ข้างหูของไป๋ชิงเหยียน
“คุณหนูสามส่งจดหมายลับมาเจ้าค่ะ องครักษ์ลับที่นำมาส่งบอกว่าเป็นเรื่องด่วน คุณหนูใหญ่จะหลบฉากต้าเยี่ยนออกไปอ่านจดหมายก่อนหรือไม่เจ้าคะ”
“เอามาให้ข้าเถิด” ไป๋ชิงเหยียนก้าวไปด้านหน้าสองสามก้าว ยืนมือไปรับจดหมายจากเสิ่นชิงจู๋ จากนั้นเปิดอ่านเนื้อหาในจดหมายอย่างละเอียดท่ามกลางแสงไฟ
ไป๋ชิงอวี๋ เสิ่นคุนหยางและเซี่ยสวินยังคงปรึกษากันอยู่หน้าแผนที่
ไป๋จิ่นถงกล่าวในจดหมายว่าไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนลอบเดินทางไปยังเมืองเหมิง บัดนี้ทุกคนในต้าเยี่ยนยังคิดว่าไทเฮาประชวรอยู่ในวังหลวง คนของไป๋จิ่นถงจับตาดูคนของตระกูลมารดาของไทเฮาอยู่จึงล่วงรู้เรื่องนี้เข้า ไป๋จิ่นถงแสร้งเข้าไปตีสนิทกับญาติผู้พี่ของมู่หรงลี่ที่เอาแต่ทำตัวเจ้าสำราญไปวันๆ นางพยายามอย่างมากจนสืบรู้ว่าไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนไม่วางใจที่มู่หรงเหยี่ยนพามู่หรงลี่ไปออกรบที่ด่านหน้า กลัวว่ามู่หรงเหยี่ยนจะจัดฉากให้มู่หรงลี่เสียชีวิตในสนามรบ ดังนั้นไทเฮาจึงตั้งใจเดินทางไปรับมู่หรงลี่กลับมายังเมืองหลวง
ผู้อื่นไม่รู้ความสัมพันธ์ที่วุ่นวายซับซ้อนของราชวงศ์มู่หรง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนรู้ดี…
มู่หรงลี่และมู่หรงเหยี่ยนสนิทสนมกันมาก การไม่ลงรอยกันเป็นเพียงการแสดงละครตบตาคนภายนอกเท่านั้น