สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1152 เกียรติยศ
ตอนที่ 1152 เกียรติยศ
นี่คือเหตุผลที่ไป๋ชิงเหยียนให้เซียวรั่วไห่เดินทางติดตามไป๋จิ่นจื้อและเสิ่นคุนหยางไปด้วย
ทว่า ขณะที่ไป๋ชิงเหยียนส่งเซียวรั่วไห่ไปคุ้มกันไป๋จิ่นจื้อเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสาว ไป๋จิ่นจื้อเองก็เป็นห่วงพี่สาวตัวเองที่กำลังจะโจมตีด่านสำคัญที่สุดของซีเหลียงในตอนนี้อย่างด่านเย่เฉิงจึงลอบส่งเซียวรั่วไห่กลับมารับใช้ข้างกายไป๋ชิงเหยียนเช่นเดิม
เซียวรั่วไห่เห็นไป๋ชิงเหยียนกางแผนที่ของตนลงบนโต๊ะพลางพิจารณาดูกับบรรดาน้องๆ ของตัวเองจึงกล่าวขึ้นต่อ ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“ข้าบังเอิญพบกับครอบครัวของเจ้าเมืองซุ่นหนิงระหว่างที่เดินทางกลับมาจากด่านเย่เฉิง จะว่าไปก็น่าแปลกใจเหมือนกัน ครอบครัวเจ้าเมืองหนีไปได้ครึ่งทางแล้ว ทว่า ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงย้อนกลับมาอีกขอรับ”
“ตอนนั้นข้าจะเดินทางมายังเมืองซุ่นหนิงพอดีจึงลอบแฝงตัวมากับขบวนของเจ้าเมืองซุ่นหนิงด้วย เมื่อเดินทางมาถึงเมืองซุ่นหนิงครอบครัวของเจ้าเมืองถึงได้รู้ว่าข้าคือคนของต้าโจว บัดนี้พวกเขาถูกจับกุมตัวทั้งครอบครัวแล้วขอรับ พวกเขาอยากขอพบคุณหนูใหญ่ บอกว่ามีแผนการที่แยบยลในการโจมตีด่านเย่เฉิงจะเรียนให้คุณหนูใหญ่ทราบ พวกเขายืนกรานจะบอกต่อหน้าคุณหนูใหญ่เท่านั้น คุณหนูใหญ่จะพบพวกเขาหรือไม่ขอรับ”
หลังจากเจ้าเมืองซุ่นหนิงรู้ว่าเซียวรั่วไห่คือคนของไป๋ชิงเหยียน เขาตกตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นเริ่มด่าทอเซียวรั่วไห่อย่างโมโห
ไป๋ชิงเหยียนพิจารณาแผนที่ที่เซียวรั่วไห่วาดขึ้นอย่างละเอียดเสร็จจึงเงยหน้ามองไปทางหรู่ซยงของตัวเอง จากนั้นกล่าวขึ้นยิ้มๆ
“เช่นนั้นก็ไปพบเขาเสียหน่อย ดูสิว่าเจ้าเมืองซุ่นหนิงจะมีแผนการที่แยบยลเพียงใด”
“พี่หญิงใหญ่ไปพบเจ้าเมืองซุ่นหนิงเพื่อฟังแผนการของเขาก่อนเถิดขอรับ พวกเราจะอยู่วิเคราะห์แผนที่ฉบับนี้ต่อเพื่อดูว่าจะบุกโจมตีด่านเย่เฉิงได้รวดเร็วที่สุดอย่างไรขอรับ”
ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ
“ได้…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า หญิงสาวสั่งให้คนไปพาตัวเจ้าเมืองมายังโถงรับรอง จากนั้นหันไปกล่าวกับเซียวรั่วไห่
“หรู่ซยงลำบากมาทั้งทางแล้ว ไปอาบน้ำและพักผ่อนก่อนเถิด เว่ยกงกงบอกว่าเนื้อแกะที่ซีเหลียงรสชาติดีมาก คืนนี้เราจะทานเนื้อแกะตุ๋นกัน”
“ข้าจะไปพบเจ้าเมืองซุ่นหนิงกับคุณหนูใหญ่ก่อนแล้วค่อยกลับไปพักผ่อนขอรับ”
เซียวรั่วไห่ยืนกราน
ไป๋ชิงเหยียนฟังออกว่าเซียวรั่วไห่มีเรื่องต้องการจะกล่าวกับนางอีกจึงพยักหน้า
“เช่นนั้นก็ลำบากหรู่ซยงแล้ว”
เซียวรั่วไห่เดินไปตามระเบียงทางเดินกับไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวเสียงเบา
“ระหว่างที่เดินทางมาที่นี่ข้ามองออกว่าเจ้าเมืองซุ่นหนิงยำเกรงฮูหยินของตัวเองมาก ข้ารู้สึกว่าฮูหยินของเจ้าเมืองคือคนตัดสินใจว่าจะหลบหนีออกจากเมืองหรือย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้งดังนั้นข้าจึงลองสืบเรื่องนี้ดูจึงพบว่าฮูหยินของเจ้าเมืองซุ่นหนิงไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นน้องสาวอนุของแม่ทัพเย่โส่วกวนผู้คุ้มกันด่านเย่เฉิงขอรับ ได้ยินว่าตอนที่ท่านแม่ทัพชราเย่ยังมีชีวิตอยู่อี๋เหนียงและฮูหยินของเจ้าเมืองซุ่นหนิงได้รับความโปรดปรานมาก แม่ทัพชราเย่เป็นคนฉลาดมาตลอดชีวิต ทว่า ก่อนเสียชีวิตเขากลับอยากยกอี๋เหนียงผู้นี้ขึ้นมาเป็นภรรยาเอก มารดาแท้ๆ ของเย่โส่วกวนโมโหจนสิ้นใจเพราะเรื่องนี้ เย่โส่วกวนเกือบตัดความสัมพันธ์กับแม่ทัพชราเย่ผู้เป็นบิดา ต่อมาคนในตระกูลเย่ช่วยออกหน้าไกล่เกลี่ยเรื่องนี้จึงยุติลงได้ขอรับ”
เซียวรั่วไห่ไม่สามารถกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ต่อหน้าคุณชายและคุณหนูของตระกูลไป๋ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชายเก้า คุณหนูห้า คุณหนูหกและคุณหนูเจ็ดซึ่งล้วนเป็นบุตรที่เกิดจากอนุทั้งสิ้น ดังนั้นเซียวรั่วไห่จึงหาโอกาสเล่าเรื่องนี้ให้คุณหนูใหญ่ฟังตามลำพัง
“เจ้าเมืองผู้นี้เกิดมาในตระกูลนักรบ แม่ทัพชราเย่รักบุตรสาวอนุของตัวเองจึงยกนางให้แต่งงานกับลูกน้องที่ไว้ใจได้ของตน เมืองซุ่นหนิงเป็นเมืองการค้าที่สามารถแสวงหากำไรได้มากมาย แม่ทัพชราเย่จึงใช้อำนาจของตัวเองที่มีในราชสำนักส่งบุตรเขยของตัวเองมาเป็นเจ้าเมืองที่เมืองซุ่นหนิง หลายปีมานี้เจ้าเมืองได้ผลประโยชน์มากมายจากเมืองซุ่นหนิง ทว่า ฮูหยินของเขาล้วนเป็นคนควบคุมทรัพย์สมบัติในจวน เขาเกรงใจภรรยาและปล่อยให้นางเป็นคนตัดสินใจเรื่องสำคัญแทบทุกเรื่องขอรับ”
เซียวรั่วไห่เห็นว่าด้านหน้ามีบันไดจึงเอื้อมมือไปช่วยประคองไป๋ชิงเหยียน
“ดังนั้นข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวเจ้าเมืองและฮูหยินของเขาคงมาพบคุณหนูใหญ่ทั้งคู่ขอรับ”
“ตระกูลเย่คือตระกูลนักรบ นอกจากพวกเขาจะนำทัพออกรบแล้ว บรรพบุรุษของพวกเขาล้วนคุ้มครองด่านเย่เฉิงมาทุกรุ่น ฮูหยินเจ้าเมืองผู้นี้เติบโตอยู่ในด่านเย่เฉิงมาตั้งแต่เล็ก นางคงรู้ภูมิประเทศของด่านเย่เฉิงเป็นอย่างดี” ไป๋ชิงเหยียนวิเคราะห์
“ข้าก็คิดเช่นนั้นขอรับ…” เซียวรั่วไห่พยักหน้า
“ในเมื่อฮูหยินของเจ้าเมืองซุ่นหนิงผู้นี้คือบุตรสาวคนโปรดของแม่ทัพชราเย่ บางทีนางอาจทราบทางลับที่จะบุกเข้าไปในด่านเย่เฉิงก็ได้ขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า
“ไม่น่าเป็นไปได้ เมืองปกติอาจสร้างทางลับขึ้นเพื่ออพยพคนหนีเมื่อถูกโจมตีและล้อมจากศัตรูทั้งสี่ด้าน ทว่า เจ้าวาดแผนที่ด่านเย่เฉิงออกมาอย่างละเอียดแล้ว ภูมิประเทศของด่านเย่เฉิงได้เปรียบกว่าด่านชิงชีซานและชิวซานในตอนนั้นมาก พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวว่าศัตรูจะบุกล้อม ด้านหลังของด่านเย่เฉิงคือซีเหลียงอีกครึ่งแคว้น แคว้นใดจะมีกำลังทหารมากพอที่จะบุกอ้อมไปล้อมด้านหลังของด่านเย่เฉิงได้กัน หากมีความสามารถถึงเพียงนั้นไม่สู้บุกไปยึดเมืองอวิ๋นจิงเลยจะดีกว่า เมื่อยึดเหมืองหลวงอวิ๋นจิงได้ด่านเย่เฉิงก็ยากจะต้านทานศัตรูที่มีอยู่รอบทิศแล้ว”
“คุณหนูใหญ่จะให้แม่ทัพเสิ่นและคุณหนูสี่อ้อมไปหรือให้คุณชายห้าและคุณหนูรองอ้อมไปอย่างนั้นหรือขอรับ” เซียวรั่วไห่ถามอย่างตกตะลึง
“พวกเราโจมตีด่านเย่เฉิงเพราะต้องการทำลายขวัญและกำลังใจของทหารซีเหลียง พวกเราต้องลงมือโจมตีโดยเร็วที่สุดเหมือนตอนที่พวกเราเคยทำกับด่านชิงชีซานในตอนนั้น…”
ไป๋ชิงเหยียนมองเซียวรั่วไห่
“ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องบุกโจมตีด่านเย่เฉิง”
เย่อิงน่านฮูหยินของเจ้าเมืองซุ่นหนิงมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง นางขยับปิ่นปักผมบนศีรษะของบุตรสาวของตัวเองเล็กน้อย มองไปที่บุตรสาวที่ดวงตาแดงก่ำพลางกล่าวขึ้น
“บัดนี้กองทัพต้าโจวบุกมาอย่างฮึกเหิม ซีเหลียงต้องพ่ายแพ้แน่นอน น้องชายของเจ้าเพิ่งอายุได้เพียงเจ็ดขวบเท่านั้น แม่จะขอให้จักรพรรดิแห่งต้าโจวยกน้องสาวของนางให้แต่งงานกับน้องชายของเจ้าก่อน ทว่า ทุกเรื่องอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ หากจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอ้างว่าน้องชายของเจ้ายังเด็กเกินไป แม่จะขอให้เจ้าแต่งงานกับน้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแทน เช่นนี้จึงจะสามารถรักษาเกียรติยศของตระกูลเราเอาไว้ได้! จึงจะสามารถรักษาอนาคตของน้องชายของเจ้าไว้ได้ แม่จะไม่กล่าวสิ่งใดให้มากความ เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้าต้องเข้าใจได้แน่!”
บุตรสาวของเย่อิงน่านหลุบตาลง นางพยายามซ่อนดวงตาที่เปล่งประกายเอาไว้ จากนั้นเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทีอ่อนโยนเช่นเคย นางกุมมือของมารดาไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่พร้อมจะไหลลงมาได้ทุกเมื่อ
นางรู้ดีว่ามารดาของนางต้องพยายามทำให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวยกน้องสาวของตัวเองแต่งงานกับน้องชายของนางให้ได้ เมื่อมีน้องสาวของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอยู่ในกำมือเท่ากับกุมจุดอ่อนอย่างหนึ่งของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเอาไว้ทำให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่กล้าทำอันใดตระกูลของพวกนาง อีกทั้งเป็นการช่วยปูทางให้น้องชายของนางอีกด้วย
ทว่า นางจะปล่อยโอกาสที่จะปีนขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดให้แก่น้องชายของตัวเองได้อย่างไรกัน นางกล่าวขึ้น
“ลูกทราบดีเจ้าค่ะ ท่านย่าและท่านลุงโกรธเกลียดพวกเรามาก ต่อให้พวกเรากลับไปท่านลุงก็ไม่มีทางยอมรับพวกเราแน่นอน ลูกไม่มีความโกรธเคืองใดๆ ทั้งสิ้นเจ้าค่ะ หากลูกสามารถแลกความสุขของตัวเองเพื่อเกียรติยศของตระกูลได้ลูกยินดีเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ ทว่า หากจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่ยอมยกน้องสาวของนางให้แต่งงานกับน้องชายของข้า กลับให้ข้าแต่งงานกับน้องชายอนุที่ขาพิการของนางแทนจะทำเช่นไรเจ้าคะ”