สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1160 เลียนแบบได้เหมือนจริง
ตอนที่ 1160 เลียนแบบได้เหมือนจริง
นี่คือครั้งแรกที่ซือหม่ารั่วตานจะได้ทำเพื่อต้าโจว นางต้องทำเรื่องให้สำเร็จอย่างสวยงามให้ได้จะได้ไม่เสียแรงที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวมอบโอกาสนี้ให้นาง
“คุณหนูซือหม่าไม่ต้องเป็นห่วง อีกสักครู่ข้าจะให้คนนำรายงานพฤติกรรมและความเคยชินของฮูหยินเจ้าเมืองและบุตรสาวของนางมาให้คุณหนูขอรับ”
เซียวรั่วไห่ก้มศีรษะให้ซือหม่ารั่วตานเล็กน้อยจากนั้นกล่าวต่อ
“หากคุณหนูซือหม่าอยากพบหน้าฮูหยินเจ้าเมืองและบุตรสาวของนาง อีกสักครู่ข้าจะให้คนพาคุณหนูไปแอบดูพวกนางขอรับ”
“ขอบคุณใต้เท้ามากเจ้าค่ะ!” ซือหม่ารั่วตานทำความเคารพเซียวรั่วไห่
เซียวรั่วไห่ไม่กล้ารับ ชายหนุ่มลุกขึ้นทำความเคารพกลับเช่นเดียวกัน
“ล้วนทำเพื่อกองทัพไป๋ ข้าไม่กล้ารับคำขอบคุณของคุณหนูซือหม่าขอรับ”
เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ ขณะที่เซียวรั่วไห่กำลังจะพาซือหม่ารั่วตานไปแอบดูฮูหยินเจ้าเมืองและบุตรสาวของนาง ซือหม่ารั่วตานหันไปบอกให้เซียวรั่วไห่รอนางสักครู่ สาวน้อยเดินเข้าไปหาหลูหนิงฮว่าพลางมองไปที่นางทั้งน้ำตา
“ท่านอาจารย์…ข้าไม่ควรหลอกท่านเจ้าค่ะ”
“เอาเถิด ทุกคนล้วนมีความลำบากใจของตัวเอง”
หลูหนิงฮว่าชอบลูกศิษย์ผู้นี้ของตัวเองมาก
“ทว่า ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ถูกความแค้นครอบงำ หวังว่าเจ้าจะไม่ลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง อยากให้เจ้าเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างหลูเหลียวเฉินตลอดไป ถึงแม้คิดจะแก้แค้นก็จงใช้วิธีที่เปิดเผยสง่างาม”
ซือหม่ารั่วตานพยักหน้า
“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะท่านอาจารย์”
ไป๋ชิงเหยียนปรึกษาเรื่องการโจมตีด่านเย่เฉิงกับบรรดาน้องๆ ของตัวเองต่อ
แม้จะให้ซือหม่ารั่วตานปลอมตัวเป็นบุตรสาวของเจ้าเมืองไปยังด่านเย่เฉิง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนต้องเตรียมแผนสำรองไว้ด้วย หากเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น หากซือหม่ารั่วตานขโมยป้ายคำสั่งมาไม่ได้ พวกนางต้องบุกโจมตีซึ่งๆ หน้า
“ชิงจู๋ เจ้าส่งคนไปคุ้มกันซือหม่ารั่วตานด้วย หากเกิดข้อผิดพลาดอันใดขึ้นมาจงบอกให้พวกเขาปกป้องซือหม่ารั่วตานให้ได้”
ไป๋ชิงเหยียนหันไปกำชับเสิ่นชิงจู๋
“เจ้าค่ะ” เสิ่นชิงจู๋รับคำ
“ตอนสงครามซีเหลียงพวกเขาซื้อตัวหลิวฮ่วนจางได้ หากครั้งนี้พวกเราขโมยป้ายคำสั่งของเย่โส่วกวนและเปิดประตูเมืองได้ หากพวกเราทำลายขวัญกำลังใจของทหารซีเหลียงและทำลายล้างซีเหลียงได้ ข้าจะสะใจยิ่งนักเจ้าค่ะ”
ไป๋จิ่นเจากล่าว
“ฝ่าบาท…” เว่ยจงเดินแหวกม่านเข้ามาด้านใน จากนั้นทำความเคารพ
“คุณหนูรองและคุณชายห้ารบชนะศึกที่ภูเขาหลิวเซียงแล้วพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาจับเป็นอาเค่อเซี่ยได้ ตอนนี้กำลังมุ่งหน้ามายังเมืองซุ่นหนิง พรุ่งนี้น่าจะเดินทางมาถึงพ่ะย่ะค่ะ ต้าเยี่ยนบุกโจมตีเมืองทางตะวันตกของซีเหลียงเพื่อมุ่งหน้าไปยังอวิ๋นจิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเดินไปหยุดอยู่หน้าแผนที่ ไป๋ชิงฉีหยิบเทียนบนโต๊ะเดินเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนเพื่อส่องแสงให้พี่สาว
ไป๋ชิงเหยียนพอจะเดาได้ว่ามู่หรงเหยี่ยนจะพาทหารบุกไปยังเส้นทางใด
“พี่หญิงรองและพี่ชายห้าเก่งมากเลยเจ้าค่ะ” ดวงตาของไป๋จิ่นเจาเปล่งประกาย
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่หญิงรองและพี่ชายห้าต้องชนะ” ใบหน้าของไป๋จิ่นหวาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ไป๋ชิงอวิ๋นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เขารู้แล้วว่าพี่ชายห้าคืออ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋ พี่ชายห้าร่วมมือกับพี่หญิงรองพวกเขาต้องเอาชนะได้อย่างแน่นอน
ไป๋ชิงอวิ๋นมองไปทางพี่ชายสาม ก่อนหน้านี้พี่ชายสามโทษตัวเองมาโดยตลอดที่ไม่สามารถช่วยชีวิตพี่ชายห้าเอาไว้ได้ ต่อมาเมื่อได้ยินว่าพี่ชายห้ากลับมาแล้ว แม้พี่ชายสามจะไม่แสดงอาการใดออกมา ทว่า เขารู้ว่าพี่ชายสามคือคนที่ดีใจที่สุด เขาคงคาดหวังให้คุณชายคนอื่นของตระกูลไป๋ถูกทหารกองทัพไป๋สละชีพช่วยชีวิตไว้ได้ หวังว่าศพที่เขาฝังเองกับมืออาจไม่ใช่ศพของน้องชายตัวเองจริงๆ
เมื่อไป๋จิ่นเซ่อรู้ว่าจะได้พบพี่ชายห้าของตัวเองแล้วขอบตาจึงร้อนผ่าวขึ้นทันที
“จะถึงพรุ่งนี้เช้าใช่หรือไม่”
“ขอรับคุณหนูเจ็ด”
“เมื่อกองทัพของพี่หญิงรองและพี่ชายห้ามาถึงพวกเราจะได้เปรียบเรื่องกำลังคนมากที่สุดเจ้าค่ะ ถึงแม้ต้องเผชิญหน้ากันซึ่งๆ หน้าก็ไม่มีสิ่งใดน่าหวาดกลัวสักนิด” ไป๋จิ่นเจากล่าว
“ด่านเย่เฉิงไม่ใช่ว่าจะถูกโจมตีแตกได้เพียงเพราะกำลังคนที่มากกว่าเท่านั้น” ไป๋ชิงฉีกล่าวยิ้มๆ
เว่ยจ้าวเหนียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“พวกนั้นสร้างกำแพงหนาและสูงชันไว้บนยอดเขาที่ขนาบอยู่สองข้างของด่านเย่เฉิง ต่อให้กองทัพหู่อิงของพวกเราเป็นคนปีนขึ้นไปบนกำแพงก็ยากจะยึดเมืองได้!”
ไป๋ชิงอวิ๋นเลื่อนรถเข็นไปหยุดอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน
ไป๋จิ่นเซ่อกำหมัดแน่น ทว่า นางเห็นพี่ชายเจ็ดเอื้อมมือมาลูบศีรษะของนางอย่างแผ่วเบา
“เจ้ามีแผนการใดก็เสนอให้พี่หญิงใหญ่ฟังได้เลย อยู่ต่อหน้าพี่หญิงใหญ่ของตัวเองมีสิ่งใดน่าหวาดกลัวกัน”
ไป๋จิ่นเซ่อพยักหน้า จากนั้นเดินไปหยุดอยู่หน้าไป๋ชิงเหยียน
“พี่หญิงใหญ่ ข้ามีแผนเจ้าค่ะ! หากพี่ซือหม่าทำไม่สำเร็จ พวกเราลองแผนนี้ดูก็ได้เจ้าค่ะ”
“เสี่ยวชีลองว่ามาสิ”
ไป๋ชิงเหยียนส่งสายตาให้กำลังใจไปยังน้องสาวคนที่เจ็ดที่กำลังยืนกำหมัดแน่น
“พี่หญิงใหญ่คิดว่าการให้คนปลอมตัวเป็นหลี่เทียนฟู่จะได้ผลหรือไม่เจ้าคะ ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้หลี่เทียนฟู่ก็อยู่ในกำมือของต้าโจวอยู่แล้ว”
ไป๋จิ่นเซ่อกล่าวจบจึงเดินไปหยุดอยู่หน้าแผนที่ สาวน้อยชี้ไปยังกำแพงสูงบนยอดเขาที่ขนาบสองข้างของด่านเย่เฉิงในแผนที่ จากนั้นกล่าวต่อ
“ด่านเย่เฉิงมีการซ่อมแซมกำแพงบนยอดเขาให้แข็งแรงขึ้นทุกปี ด่านเย่เฉิงป้องกันง่ายโจมตียาก ทว่า ตระกูลเย่จงรักภักดีต่อซีเหลียงมากเช่นเดียวกับอวิ๋นพั่วสิง ตอนนั้นอวิ๋นพั่วสิงทำร้ายเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพี่ชายทั้งห้าเพราะต้องการทำให้ท่านพ่อซึ่งคุ้มกันเมืองอยู่ไขว้เขว ต้องการทำลายขวัญกำลังใจของทหารในเมือง บีบให้ท่านพ่อของข้าออกจากเมืองไปรบ เหตุใดพวกเราจึงไม่เลียนแบบพวกเขาบ้างล่ะเจ้าคะ”
ไป๋จิ่นเซ่อหันกลับไปมองไป๋ชิงเหยียน ความแค้นในแววตาของนางไม่เคยจางหายไปแม้แต่วันเดียว มันแผดเผาจนนางนอนไม่หลับแทบทุกคืน ดวงตาของสาวน้อยหนักแน่
“ครั้งนี้ตระกูลเย่จะพบกับจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเขา แม่ทัพเย่โส่วกวนต้องนำทัพบุกออกมาช่วยคนไปแน่นอน พวกเราสามารถให้ทหารต้าโจวสร้างกับดักไว้ล่วงหน้า ให้พวกเขาอาศัยช่วงชุลมุนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดของทหารซีเหลียง จากนั้นติดตามเย่โส่วกวนเข้าไปในด่านเย่เฉิง ถึงเวลานั้นหากเย่โส่วกวนสู้พวกเราไม่ได้เขาต้องหนีกลับเข้าไปในด่านเย่เฉิงแน่นอน เมื่อเขาพาทหารกองทัพไป๋ของเราเข้าไปในเมืองสำเร็จ เราจะให้ทหารเหล่านั้นสู้รบกับทหารซีเหลียงที่คุ้มกันประตูเมือง จากนั้นพวกเราค่อยบุกเข้าไปด้านในเจ้าค่ะ”
“ไม่ว่าแม่นางซือหม่าจะทำสำเร็จหรือไม่ การมีแผนสำรองเตรียมไว้ย่อมดีสำหรับพวกเราเจ้าค่ะ หากแม่นางซือหม่าเกิดหลุดพิรุธออกมาจนถูกจับได้ พวกเราจะได้บุกด่านเข้าไปช่วยนางได้ทันเจ้าค่ะ”
ไป๋จิ่นเซ่อกล่าวจบจึงก้มหน้าบีบมือของตัวเองอย่างประหม่า “แค่แผนการไม่ค่อยโจ่งแจ้งสักเท่าใดนัก…”
“สองแคว้นทำสงครามด้วยความสามารถทั้งหมดของตัวเอง ขอเพียงพยายามอย่างสุดความสามารถ ไม่เหยียดหยามทหารของฝ่ายศัตรู ทุกวิธีล้วนเป็นวิธีที่สง่าผ่าเผยทั้งสิ้น”
ไป๋ชิงฉีกล่าวขึ้น
“ที่สำคัญการทำศึกไม่หน่ายเล่ห์กล หากแม่ทัพเย่โส่วกวนออกจากเมืองมาช่วยหลี่เทียนเจียวกลับไปแสดงว่าเขามีความจงรักภักดี หากเขาไม่ออกมาช่วยทหารของซีเหลียงจะเสียขวัญและกำลังใจทันที ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไรล้วนส่งผลดีต่อต้าโจวทั้งสิ้น พี่หญิงใหญ่มีความเห็นเช่นไรขอรับ”
“บางทีอาจทำทั้งสองวิธีพร้อมกันเลยก็ได้”
ไป๋ชิงเหยียนยืนเอามือไขว้หลัง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ
“ให้แม่นางซือหม่าปลอมตัวเป็นบุตรสาวเจ้าเมืองเดินทางไปยังด่านเย่เฉิง ตอนเข้าไปในด่านให้นางบอกทหารที่คุ้มกันด่านว่าต้าโจวจับตัวจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงไว้ได้ จากนั้นนำป้ายหยกของฮูหยินเจ้าเมืองไปหาบ่าวรับใช้ผู้ติดตามเย่โส่วกวน บอกเขาว่าจักรพรรดินีหลี่เทียนฟู่ตกอยู่ในกำมือของต้าโจวแล้ว บอกเขาว่าเดิมทีเจ้าเมืองและฮูหยินเจ้าเมืองกำลังเดินทางมายังด่านเย่เฉิงแล้ว ทว่า ระหว่างทางได้ยินว่าต้าโจวจับตัวจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงได้…”