สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1163 เหยียบย่ำ
ตอนที่ 1163 เหยียบย่ำ
ซือหม่ารั่วตานเดินตามรองแม่ทัพเข้าไปในประตูใหญ่ของจวนเย่ ระหว่างที่เดินทางไปพบเย่โส่วกวนรองแม่ทัพแนะนำตัวเองกับซือหม่ารั่วตานว่าตนเองสกุลจ้าวเป็นรองแม่ทัพของเย่โส่วกวน ซือหม่ารั่วตานแสดงท่าทีราวกับพบญาติผู้ใหญ่ของตัวเองพลางกล่าวเสียงเบา “ก่อนมาที่นี่ท่านแม่ของข้าบอกว่าท่านแม่และท่านยายไม่ค่อยถูกกับท่านลุงนัก ให้ข้ามาขอความช่วยเหลือจากรองแม่ทัพจ้าวเจ้าค่ะ”
รองแม่ทัพจ้าวได้ยินเช่นนี้จึงยิ่งเชื่อใจในตัวซือหม่ารั่วตานมากขึ้นกว่าเดิม เขาเอ่ยปลอบ “เรื่องเหล่านั้นคือเรื่องของคนรุ่นก่อน ท่านแม่ทัพเป็นคนแยกแยะได้ เขาไม่มีทางนำความแค้นมาลงกับคนรุ่นหลังที่ไม่รู้เรื่องด้วยแน่นอน คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ”
“แต่ข้าก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี!” ซือหม่ารั่วตานแสร้งทำเป็นหวาดกลัวจนดูน่าสงสารออกมาพลางกล่าวเสียงสะอื้น “ตอนนี้ชีวิตของท่านพ่อ ท่านแม่และน้องชายของข้าตกอยู่ในมือของคนต้าโจว ตอนแรกพวกเราหนีออกมาจากเมืองซุ่นหนิงและกำลังเดินทางมายังด่านเย่เฉิงแล้ว ทว่า พวกเราเดินทางมาได้ครึ่งทางท่านแม่ของข้าก็ได้ยินข่าวเรื่องที่จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงถูกต้าโจวจับตัวได้ ท่านแม่คิดว่าซีเหลียงกำลังจะพ่ายแพ้ อีกทั้งกลัวว่าเมื่อมาถึงด่านเย่เฉิงท่านลุงจะไม่ช่วยเหลือพวกเรา นางจึงบังคับให้ท่านพ่อของข้าพาทุกคนเดินทางกลับไปยังเมืองซุ่นหนิงเจ้าค่ะ”
ขณะซือหม่ารั่วตานกล่าวพวกนางเดินทางไปถึงหน้าประตูห้องตำราของเย่โส่วกวนพอดี
ซือหม่ารั่วตานเห็นเย่โส่วกวนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราและดวงตาที่แดงฉานจากเส้นเลือดฝอยจึงรีบเข้าไปทำความเคารพ จากนั้นเอ่ยเรียกท่านลุงออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ นางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองซุ่นหนิงทั้งหมดให้เย่โส่วกวนฟังอย่างละเอียด จากนั้นคุกเข่าขอร้อง “ท่านลุงได้โปรดช่วยท่านพ่อ ท่านแม่และน้องชายของข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”
เย่โส่วกวนมองดูซือหม่ารั่วตานที่กำลังก้มศีรษะคำนับแนบพื้น เขาหรี่ตาแคบลง เมื่อได้ยินเสียงปะทุจากเตาถ่านจึงได้สติและเริ่มเอ่ยถามขึ้น “ท่านแม่ของเจ้ากลัวว่าข้าจะไม่อนุญาตให้พวกเจ้าเข้ามาในด่านเย่เฉิงแล้วเหตุใดจึงกล้าย้อนกลับไปยังเมืองซุ่นหนิงอีก พวกเจ้าหนีออกมาจากเมืองได้แล้ว ต่อให้ไม่หนีมายังด่านเย่เฉิง พวกเจ้าก็สามารถหลบหนีไปยังเมืองอื่นได้ เหตุใดต้องย้อนกลับเข้าไปในเมืองด้วย”
ซือหม่ารั่วตานได้ยินคำถามจึงตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที สาวน้อยแสร้งทำเป็นเหลือบมองเย่โส่วกวนอย่างคนมีชนักติดหลัง…
เย่โส่วกวนเห็นท่าทีของซือหม่ารั่วตานแววตาจึงเย็นชาขึ้นกว่าเดิม “เทพเจ้ากำลังมองดูพวกเราอยู่ ทางที่ดีเจ้าควรตอบตามความจริง มิเช่นนั้นข้าจะถือว่าเจ้าคือสายลับ จะจับเจ้าสังหารและโยนร่างให้สุนัขกินเสีย!”
ใบหน้าของซือหม่ารั่วตานซีดเผือดลงทันที นางรีบก้มศีรษะคำนับอย่างหวาดกลัว “ท่านแม่ของข้าได้ยินว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงถูกต้าโจวจับตัวได้แล้วจึงคิดว่าซีเหลียงใกล้จะพ่ายแพ้แล้ว นางจึงอยากพาครอบครัวกลับไปยังเมืองซุ่นหนิงก่อนที่ต้าโจวจะยกทัพบุกมาโจมตีด่านเย่เฉิง จากนั้นใช้ฐานะน้องสาวของแม่ทัพเย่โส่วกวนแห่งด่านเย่เฉิงหลอกจักรพรรดินีแห่งต้าโจวว่านางสามารถเกลี้ยกล่อมให้ท่านลุงเปิดประตูด่านเย่เฉิงได้เจ้าค่ะ”
ซือหม่ารั่วตานลอบเงยหน้ามองเย่โส่วกวนแวบหนึ่ง จากนั้นรีบก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัวพลางกล่าวต่อเสียงสั่น “หากต้าโจวไม่อยากทำสงครามในครั้งนี้ก็ต้องอนุญาตให้ข้าแต่งงานกับน้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ท่านแม่ของข้าจึงจะยอมเดินทางมาเกลี้ยกล่อมท่านลุงให้ยอมจำนนเจ้าค่ะ! ท่านแม่…ท่านแม่แค่อยากให้ข้ากับน้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวได้แต่งงานกันก่อน ถึงเวลานั้นต่อให้ท่านลุงจะไม่ยอมจำนนก็ถือว่าท่านแม่ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว หากข้าสามารถตั้งท้องสายเลือดของราชวงศ์ต้าโจวได้ ตระกูลของพวกเราก็จะมีแต่ความมั่งคั่งและเกียรติยศ ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวสิ่งใดอีกเจ้าค่ะ”
เย่โส่วกวนได้ยินจึงแสยะยิ้มเย็นออกมา “ช่างสมกับเป็นเย่อิงน่านจริงๆ”
“ท่านลุง ไม่ว่าอย่างไรท่านแม่ของข้าก็คือน้องสาวแท้ๆ ของท่าน! ท่านลุงได้โปรดยกทัพไปช่วยท่านแม่ของข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
บ่าวรับใช้ชายของเย่โส่วกวนเดินเข้ามาด้านใน เขารินน้ำชาให้เย่โส่วกวน สายตาหยุดอยู่ที่ร่างของซือหม่ารั่วตานที่คุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น เขามองเห็นป้ายหยกซึ่งแขวนอยู่ที่เอวของซือหม่ารั่วตานในทันที ดวงตาของบ่าวรับใช้ชายไหววูบเล็กน้อย ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่กล้ามองไปทางซือหม่ารั่วตานอีก
เขานึกไม่ถึงเลยว่าคุณหนูของเขาจะมอบป้ายหยกที่เขาเคยมอบให้นางให้แก่บุตรสาวของตัวเอง แสดงว่าคุณหนูยังนึกถึงเขาอยู่ใช่หรือไม่ ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณหนูเป็นเช่นไรบ้าง!
เย่โส่วกวนมองไปทางซือหม่ารั่วตานที่คุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้นแวบหนึ่ง จากนั้นถามต่อ “แม่ของเจ้าวางแผนไว้ดีถึงเพียงนั้นแล้วเหตุใดเจ้าจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่อีก”
ซือหม่ารั่วตานยังคงตัวสั่นเทา “จักรพรรดินีแห่งต้าโจวตรัสว่าการแต่งงานของน้องชายนางไม่ใช่ผู้ใดคิดอาจเอื้อมก็สามารถอาจเอื้อมได้เจ้าค่ะ นางไม่เพียงไม่ตกลง ยังจับตัวพวกข้าขังไว้อีกด้วยเจ้าค่ะ เดิมทีท่านแม่ของข้าอยากให้ข้าและน้องชายหนีออกมา ทว่า สุดท้ายข้ากลับหนีออกมาได้เพียงคนเดียวเจ้าค่ะ”
ซือหม่ารั่วตานกล่าวพลางร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “ข้าดูแลน้องชายได้ไม่ดีเอง ท่านลุงได้โปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ ตอนที่ยกทัพไปช่วยเหลือฝ่าบาทท่านลุงได้โปรดช่วยท่านพ่อ ท่านแม่และน้องชายของข้าออกมาด้วยเถิดเจ้าค่ะ ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ!”
“เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเราอยู่ในมือของต้าโจวจริง” เย่โส่วกวนยังมีข้อสงสัยมากมาย “เจ้าเป็นเพียงคุณหนูของจวนเจ้าเมือง ถึงแม้จะโชคดีเคยเดินทางไปยังเมืองหลวงอวิ๋นจิง ทว่า เจ้าไม่เคยเข้าเฝ้าฝ่าบาทมาก่อน เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าฝ่าบาทถูกต้าโจวจับตัวไว้จริง เจ้าอยากหลอกให้ข้ายกทัพไปช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าออกมาใช่หรือไม่”
“ท่านลุง ข้าไม่มีทางกุเรื่องนี้ขึ้นมาหลอกลวงท่านลุงแน่เจ้าค่ะ!” ซือหม่ารั่วตานรีบก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอีกครั้ง “ตอนนั้นซีเหลียงของเราพ่ายแพ้ในสงครามหนานเจียง แม่ทัพอวิ๋นพั่วสิงสูญเสียทหารของตัวเองเกือบทั้งหมดในหุบเขาเวิ่ง ตอนที่ซีเหลียงต้องเดินทางไปเจรจาสงบศึกกับต้าจิ้น ฝ่าบาทซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงองค์หญิงแห่งซีเหลียงซึ่งต้องเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีกับต้าจิ้นเคยแวะประทับที่จวนเจ้าเมือง ข้าเคยเห็นพระพักตร์ของฝ่าบาทเจ้าค่ะ”