สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1171 ล้างความอัปยศครั้งก่อน
ตอนที่ 1171 ล้างความอัปยศครั้งก่อน
“ตอนที่ต้าเยี่ยนยังเป็นแคว้นที่แข็งแกร่ง…พวกเขาเคยเปิดประตูด่านเย่เฉิงได้” เย่โส่วกวนกล่าวเสียงเย็น “ทว่า แม้แต่แม่ทัพที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพแห่งสงครามผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ในสนามรบของต้าเยี่ยนอย่างแม่ทัพถังอี้ยังไม่สามารถบุกเข้ามาในเมืองที่ตอนนั้นท่านปู่และท่านพ่อของข้าเป็นคนคุ้มกันได้ทั้งๆ ที่เปิดประตูเมืองได้แล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นเพราะเหตุใด”
“ถังอี้กลัวว่ากองทัพต้าเยี่ยนจะถูกโจมตีจากทหารซีเหลียงซึ่งอยู่บนยอดเขาสูงทั้งสองด้านหากบุกเข้ามาในเมือง!” เย่โส่วกวนเงยหน้ามองไปบนกำแพงที่ยาวราวกับหางมังกรซึ่งอยู่บนภูเขาสูงที่สว่างจ้าจากแสงของโคมไฟ “หากบุกผ่านด่านเย่เฉิงไปยังเมืองอวิ๋นจิงทันทีโดยไม่หยุดโจมตีด่านเย่เฉิงต่อ ทหารซีเหลียงจะเข้าควบคุมด่านเย่เฉิงอีกครั้ง กองทัพต้าเยี่ยนจะขลาดแคลนเสบียงอาหาร พวกเขาจะโจมตีซีเหลียงโดยไม่มีเสบียงอาหารประทังชีพอย่างนั้นหรือ”
นี่คือสาเหตุที่ด่านเย่เฉิงเป็นด่านที่โจมตียากที่สุดของซีเหลียง การยึดด่านเย่เฉิงได้อย่างแท้จริงไม่ใช่เพียงทำลายประตูเมืองได้เท่านั้น พวกเขาต้องยึดกำแพงที่อยู่บนยอดเขาที่สูงชันทางซ้ายขวาของด่านเย่เฉิงให้ได้ด้วยจึงจะสามารถยึดครองด่านเย่เฉิงได้อย่างแท้จริง!
ทว่า ไม่เคยมีผู้ใดสามารถปีนขึ้นไปยึดกำแพงเมืองบนยอดเขานั่นได้มาก่อน ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงเดาได้ว่าต้องมีกับดักอยู่บนกำแพงเมืองนั้น แม้สุดท้ายแล้วซีเหลียงจะเหลือทหารเพียงร้อยนายก็คงยากที่ต้าโจวจะปีนขึ้นไปบนภูเขานั่นได้สำเร็จ บนกำแพงนั้นมีก้อนหินยักษ์ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนเป็นหลายสิบปีอยู่ หากมีคนปีนขึ้นไปบนยอดเขานั้นมันจะกลิ้งลงมาทับผู้ที่คิดปีนขึ้นไปทันที
ดังนั้นเย่โส่วกวนจึงกล้าให้แม่ทัพซึ่งคุ้มกันอยู่บนกำแพงฝั่งซ้ายขวาอ้อมไปโจมตีด้านหลังของกองทัพต้าโจว
เย่โส่วกวนกล่าวเสียงรอดไรฟัน “ไป๋ชิงเหยียนมั่นใจในตัวเองมากเกินไป นางคิดว่าการยกกองทัพทั้งหมดมาโจมตีด่านเย่เฉิงจะทำให้นางยึดกำแพงเมืองที่พวกเราสร้างไว้บนยอดเขาทั้งสองฝั่งของด่านเย่เฉิงและควบคุมด่านเย่เฉิงทั้งหมดไว้ได้ จากนั้นพวกนางจะได้บุกต่อไปยังเต๋อหยาง เล่ออัน หลูเฉวียน จิงหรงและเมืองหลวงอวิ๋นจิงได้ นางคงกำลังฝันอยู่กระมัง!”
“ทว่า หากต้าโจวรู้ตัวว่าพวกเราอ้อมไปโจมตีพวกเขาจากทั้งสองทาง พวกเขาจะบุกผ่านด่านเย่เฉิงออกไปทางประตูทิศใต้หรือไม่ขอรับ หากพวกเขาพาฝ่าบาทของพวกเราบุกผ่านด่านเย่เฉิงไปยังเต๋อหยางเล่าขอรับ!” แม่ทัพผู้จักรักภักดีต่อตระกูลเย่กลัวว่าด่านเย่เฉิงจะถูกทำลายในมือของเย่โส่วกวน “หากพวกเขาเลียบแบบหรงตี๋ปล้นชิงเสบียงจากทุกเมืองที่พวกเขาบุกผ่าน เช่นนี้ทุกคนในซีเหลียงก็จะทราบว่าแม่ทัพของด่านเย่เฉิงช่วยฝ่าบาทไว้ไม่ได้ คนในซีเหลียงอาจคิดว่าท่านแม่ทัพยอมจำนนให้ต้าโจวแล้วก็ได้นะขอรับ!”
เย่โส่วกวนคิดไว้แล้วเช่นกันว่าไป๋ชิงเหยียนอาจบุกต่อไปเมืองอื่นโดยไม่สนใจเรื่องเสบียงอาหารของต้าโจว จากนั้นค่อยแย่งชิงเสบียงอาหารจากเมืองที่นางบุกไปโจมตีเช่นเดียวกับที่หรงตี๋เคยทำ ทว่า บัดนี้ซีเหลียงขาดแคลนเสบียงอาหาร ชาวบ้านกำลังอดอยาก อีกไม่นานคงเกิดปัญหาชาวบ้านเสียชีวิตเพราะความอดอยาก ต่อให้ต้าโจวบุกไปแย่งชิงเสบียงอาหารจากชาวบ้าน พวกเขาก็แย่งชิงสิ่งใดมาไม่ได้อยู่ดี
“ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้โง่ถึงเพียงนั้น!” เย่โส่วกวนกำหมัดแน่น “พ่อค้าต้าโจวเป็นคนคิดวิธีให้ชาวซีเหลียงหันไปทอผ้า ล่าหนังสัตว์แทนการเพาะปลูก ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางไม่รู้ว่าซีเหลียงกำลังขาดแคลนเสบียงอาหาร ชาวบ้านซีเหลียงถึงกับต้องกัดท่อนไม้กินเพื่อรวบรวมเสบียงอาหารให้เทียนเฟิ่ง พวกเขามีสิ่งใดให้ต้าโจวปล้นชิงอีกกัน!”
“ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางให้ทหารสิ้นเปลืองแรงกำลังปีนขึ้นไปยึดกำแพงเมืองบนยอดเขาที่ไม่มีทางยึดได้ให้เสียเวลาอย่างแน่นอน นางต้องรวมกองกำลังทั้งหมดโจมตีด่านเย่เฉิงตรงๆ แน่” สายตาของเย่โส่วกวนหยุดอยู่ที่ร่างซึ่งถูกมัดติดกับบันไดของหลี่เทียนฟู่และเย่อิงน่าน “นางจับจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเรามัดติดกับบันไดเพราะต้องการล่อให้แม่ทัพซึ่งคุ้มกันอยู่บนกำแพงเมืองบนยอดเขาสูงทั้งสองด่านยกทัพลงมาจากกำแพง”
เย่โส่วกวนมองไปทางรถโยนหินที่อยู่ไกลออกไป จากนั้นกล่าวด้วยเสียงมั่นใจ “ต้าโจวต้องการใช้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเราเป็นเหยื่อล่อให้แม่ทัพที่อยู่บนกำแพงเมืองสูงลงมาจากกำแพงเพื่อช่วยเหลือฝ่าบาท เจ้าเห็นรถโยนหินนั่นหรือไม่ เหตุใดต้าโจวจึงยังไม่ยอมใช้งานมันเสียที!”
เย่โส่วกวนมั่นใจคิดว่าตัวเองเดาแผนการของไป๋ชิงเหยียนออก เขากล่าวเสียงเย็น “เพราะต้าโจวต้องการโจมตีพวกเราตอนที่กองทัพเสริมเหล่านั้นลงมาช่วยเหลือฝ่าบาทของพวกเราอย่างไรเล่า เมื่อกองทัพของพวกเราสูญเสียจนเกือบหมดแล้ว ต้าโจวจะต้องปีนขึ้นไปบนยอดเขาอย่างแน่นอน เช่นนี้พวกเขาจะยึดกำแพงเมืองที่อยู่บนยอดเขาสูงชันฝั่งซ้ายและขวาได้อย่างง่ายดาย ข้ามั่นใจว่านางต้องวางแผนไว้เช่นนี้อย่างแน่นอน!”
แม้ไป๋ชิงเหยียนจะเป็นแม่ทัพผู้กล้าหาญ ทว่า นางยังเด็กมาก ที่สำคัญตอนนี้นางเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งต้าโจว อีกทั้งถูกยกย่องจากทุกคนว่าเป็นเทพแห่งสงคราม นางยังมีประสบการณ์รบไม่เพียงพอ นางคงคิดว่านางมีจักรพรรดินีหลี่เทียนฟู่อยู่ในมือ ขอเพียงนางยกกองทัพทั้งหมดของนางมาโจมตีด่านเย่เฉิง หากนางใช้หลี่เทียนฟู่เป็นเหยื่อล่อ ทหารซีเหลียงต้องยกทัพเสริมไปช่วยเหลือหลี่เทียนฟู่แน่นอน เช่นนี้พวกเขาจะสูญเสียกำลังหลักของซีเหลียงไป ต้าโจวจะได้ครอบครองกำแพงเมืองบนยอดเขาสูงที่ซีเหลียงเป็นคนสร้างขึ้นอย่างไร้อุปสรรค!
เป็นเด็กที่โอหังเสียจริง!
หากครั้งนี้เขาไม่สามารถจับเป็นไป๋ชิงเหยียนและแม่ทัพตระกูลไป๋ที่โชคดีรอดชีวิตจากสงครามหนานเจียงมาได้เขาคงทำผิดต่อความโอหังของเด็กสาวผู้ยโสคนนี้จริงๆ
เย่โส่วกวนยังไม่ลืมความอัปยศในสงครามหุบเขาเวิ่งของซีเหลียง
ครั้งนี้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพแห่งสงครามนำทัพบุกมาด้วยตัวเอง หากเขาสามารถสังหารนางได้ ต้าโจวไม่เพียงแต่จะไร้ผู้นำ ขวัญกำลังใจของทหารซีเหลียงจะเพิ่มขึ้นทันที อีกทั้งยังสามารถล้างความอัปยศครั้งก่อนให้ซีเหลียงได้อีกด้วย!
“เร็ว ยิงเร็วเข้า น้ำมันไฟ ยิงเร็ว!” เย่โส่วกวนตะโกนเสียงดังลั่น
แม้ธนูไฟของพวกเขาจะยิงโดนโล่เหล็กของต้าโจว แม้ธนูไฟจะลุกลามไปยังบันไดไม้และโล่เหล็กของต้าโจว ทว่า พวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งกองทัพต้าโจวได้แม้แต่น้อย
ทหารซีเหลียงไม่กลัวตาย พวกเขาต้องการปกป้องด่านเย่เฉิงไว้ให้ได้!
ทหารกองทัพไป๋ไม่กลัวตายเช่นเดียวกัน พวกเขาต้องการแก้แค้น ต้องการทำลายซีเหลียงเพื่อสันติสุขในวันข้างหน้า พวกเขาทำเพื่อใต้หล้าที่สงบสุขของชาวบ้านทั่วทั้งใต้หล้า
หากต้องการสร้างสันติสุขให้ใต้หล้าแห่งนี้ อันดับแรกพวกเขาต้องทำลายซีเหลียงให้ได้ ต้องยึดด่านเย่เฉิงให้ได้!
ไป๋ชิงฉีพาทหารบุกไปถึงหน้าประตูเมืองแล้ว ตอนนี้เขากำลังสู้รบอยู่กับทหารของซีเหลียงอย่างชุลมุน
ม้าศึกของเว่ยจ้าวเหนียนถูกธนูยิงที่ขา เขาพลัดตกจากหลังม้า เขากลิ้งไปตวัดดาบใส่ขาม้าศึกของทหารซีเหลียง จากนั้นดึงตัวทหารซีเหลียงลงจากหลังม้าและตัดศีรษะของคนผู้นั้นทันที ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของเว่ยจ้าวเหนียนแดงฉาน เขากระชากบังเหียนม้าตัวที่ไม่มีคนควบคุมพลางกระโดดขึ้นไปบนหลังม้าตัวนั้น จากนั้นกระตุกบังเหียนม้าให้หยุดลง หันหน้าไปเผชิญกับกำแพงด่านเย่เฉิง จากนั้นตะโกนลั่น “ประตูเมืองอยู่ใกล้เพียงเอื้อม พวกเราจงทำลายซีเหลียงเพื่อแก้แค้นให้สหายกองทัพไป๋ที่ตายไปให้ได้! บุก!”
เหล่าทหารบุกตามหลังเว่ยจ้าวเหนียนไปติดๆ
ไป๋ชิงเหยียนและกองทัพหลักอยู่ทางด้านหลัง เมื่อคำนวณเวลาแล้วว่าพลทหารธนูของซีเหลียงที่อยู่บนกำแพงเมืองคงอ่อนล้าเต็มที ไป๋ชิงฉีและไป๋จิ่นเจาคงบุกเข้าไปในเมืองได้ตามแผนและถ่วงเวลาให้ทหารซีเหลียงส่งลูกธนูไปบนกำแพงเมืองได้ช้าลงแล้ว
ทหารซีเหลียงที่บุกมาขวางไม่ให้กองทัพต้าโจวบุกเข้าไปใกล้ด่านเย่เฉิงได้ถูกสังหารจนหมดสิ้น ไป๋ชิงเหยียนพาทัพเคลื่อนขบวนเข้าไปใกล้ด่านเย่เฉิงมากขึ้น