สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1176 กระวนกระวายใจ
ตอนที่ 1176 กระวนกระวายใจ
“พี่หญิงไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ” ไป๋ชิงฉีรับคำ
ไป๋จิ่นเซ่อซึ่งอายุน้อยสุดดูเหมือนจะยังไม่ได้สติแม้สงครามเมื่อคืนจบลงแล้ว สาวน้อยเดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนต้อยๆ ไม่ยอมทานสิ่งใดทั้งสิ้น ใบหน้าของเด็กสาวซีดเผือด ร่างทั้งร่างราวกับคนไร้วิญญาณ
เมื่อทานสิ่งใดเข้าไปไป๋จิ่นเซ่อจะรู้สึกว่าปากของตนเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่ทำให้นางหวนนึกถึงซากศพและกองเลือดที่นองเต็มสงคราม นางรู้สึกปั่นป่วนท้องเป็นอย่างมาก
ไป๋ชิงอวี๋เห็นน้องสาวของตัวเองเดินตามหลังพี่หญิงด้วยท่าทีทรมานจึงชะลอฝีเท้าลงเดินเคียงคู่ไปกับน้องสาว
ชายหนุ่มมองไปเบื้องหน้าพลางวางมือลงบนศีรษะเล็กของน้องสาว
“เสี่ยวชีของพวกเราเก่งกว่าจักรพรรดิองค์น้อยของต้าเยี่ยนมาก เสี่ยวชีช่วยวางแผนให้พี่หญิง ไม่ร้องไห้ขณะอยู่ในสนามรบ ไม่อาเจียนจนดูไม่ได้หลังจากทำสงครามเสร็จอีกด้วย!”
เมื่อได้ยินำคว่า “อาเจียน” ไป๋จิ่นเซ่อรีบใช้สองมือปิดปากของตัวเองทันที
ไป๋ชิงอวี๋หันไปมองหน้าน้องสาว ใบหน้าครึ่งซีกที่อยู่นอกหน้ากากเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและอบอุ่น
“หากท่านพ่อยังอยู่ต้องภูมิใจในตัวเจ้ามากแน่ๆ”
เมื่อไป๋จิ่นเซ่อได้ยินประโยคนี้น้ำตาเม็ดใหญ่จึงไหลออกมาจากดวงตาทันที หากท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ หากท่านเห็นนางออกรบในสงคราม…ท่านจะภูมิใจในตัวนางจริงๆ หรือ
ไป๋ชิงอวี๋ลูบศีรษะของไป๋จิ่นเซ่ออย่างอ่อนโยน
“ท่านแม่ พี่หญิงและพี่ภูมิใจในตัวเสี่ยวชีมาก!”
ไป๋จิ่นเซ่อลดมือที่ปิดปากลง สาวน้อยใช้หลังมือเช็ดน้ำตา จากนั้นพยักหน้าอย่างแรง
“เจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเสียงอาอวี๋และเสี่ยวชีดังมาจากทางด้านหลัง รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวกว้างขึ้นกว่าเดิม
หากท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านอาและบรรพบุรุษตระกูลไป๋เห็นว่าทายาทตระกูลไป๋มารวมตัวกันอยู่ที่ด่านเย่เฉิงและกำลังพยายามสานต่อปณิธานรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งของพวกเขาให้สำเร็จ พวกเขาต้องภูมิใจในตัวทายาทตระกูลไป๋ของพวกเขาแน่นอน
วันนี้คือวันที่สิบห้า เดือนหนึ่ง ไป๋ชิงเจวี๋ยพากองทัพไป๋ไปเก็บกวาดด่านเย่เฉิงให้สะอาดเรียบร้อย พวกเขาแขวนโคมไฟดอกไม้บนกำแพงเมือง ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวากำลังปั้นบัวลอยอยู่กับเหล่าทหาร ไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงฉี ไป๋จิ่นซิ่ว ไป๋ชิงอวี๋และไป๋ชิงอวิ๋นกำลังปรึกษาแผนการรบอยู่ตรงหน้าแผนที่ขนาดใหญ่
“เมื่อทำลายด่านเย่เฉิงของซีเหลียงได้แล้ว ซีเหลียงจะไม่มีด่านปราการที่น่าหวาดกลัวอีกต่อไป พวกเราต้องยึดอวิ๋นจิงได้แน่”
ไป๋ชิงฉีชี้ไปยังตำแหน่งเมืองอวิ๋นจิงในแผนที่
“ตอนนี้ต้องมาดูกันว่าต้าโจวหรือต้าเยี่ยนจะบุกไปถึงอวิ๋นจิงได้ก่อนกัน”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปยังตำแหน่งเมืองอวิ๋นจิง จากนั้นนึกถึงหลี่เทียนเจียวขึ้นมา
“บัดนี้หลี่เทียนเจียวกลับไปยังอวิ๋นจิงแล้ว นางไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตาเพียงเพราะเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า”
ไป๋ชิงเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวเสริม
“ให้คนนำข่าวเรื่องที่หลี่เทียนเทียวกลับไปถึงอวิ๋นจิงแล้วไปบอกให้เสี่ยวซื่อรับรู้ ให้เสี่ยวซื่อและลุงเสิ่นบอกเรื่องนี้กับหลี่เทียนฟู่และทำข้อตกลงกับนาง หากหลี่เทียนฟู่ต้องการเป็นอ๋องของซีเหลียงให้นางร่วมมือกับต้าโจว…”
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนคิดว่าหลี่เทียนฟู่ไม่น่าร่วมมือกับต้าโจว นางอยากให้ต้าโจวทำสงครามได้ยากลำบากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“หลี่เทียนฟู่ป่าวประกาศเรื่องที่นางขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีให้คนทั่วทั้งซีเหลียงรับรู้แล้ว ถึงแม้ตอนนี้หลี่เทียนเจียวจะแสดงตัวออกมา ทว่า ทหารของซีเหลียงต้องมีความกังขาอยู่ดี ขอเพียงพวกเขาไม่เชื่อใจหลี่เทียนเจียวเต็มร้อย พวกเราต้องชนะสงครามครั้งนี้แน่นอน” ไป๋ชิงอวิ๋นกล่าว
ไป๋ชิงอวี๋นิ่งคิด จากนั้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
“ข้าแค่กลัวว่าหลี่เทียนฟู่จะไม่ให้ความร่วมมือเพราะแค้นเรื่องลู่เทียนจัว ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นเพียงหญิงเสียสติคนหนึ่งที่อยากแต่จะแก้แค้นต้าโจวเท่านั้น”
“ลู่เทียนจัว” ไป๋ชิงอวิ๋นคาดไม่ถึง เขากำหมัดแน่น
“บุตรบุญธรรมของแม่ทัพใหญ่ผางของแคว้นสู่ที่สังหารพี่ชายสองใช่หรือไม่”
ไป๋ชิงฉีพยักหน้า
“ต่อมาลู่เทียนจัวผู้นี้ชำระล้างร่างกายเข้าไปเป็นขันทีในวังหลวง ไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีใดทำให้หลี่เทียนฟู่หลงรักเขาหัวปักหัวปำ ก่อนหน้านี้ที่เสี่ยวชีเล่าให้เจ้าฟังว่าหลี่เทียนฟู่คิดลอบสังหารพี่หญิงใหญ่ในงานแต่งตั้งชายารองของอดีตรัชาทายาทแห่งต้าจิ้นเป็นเพราะนางต้องการแก้แค้นให้ลู่เทียนจัวผู้นี้”
ไป๋ชิงอวิ๋นตกตะลึง
“หากหลี่เทียนฟู่ยอมให้ความร่วมมือกับพวกเราก็ดีไป หากนางไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ว่าอย่างไรทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่านางอยู่ในกำมือของต้าโจว แค่อ้างนามของนางก็สิ้นเรื่อง…”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ต่อจากนี้เสี่ยวซื่อและลุงเสิ่นจะบุกไปโจมตีถังกู่และกังตี่ กองทัพหลักของต้าเยี่ยนใกล้ถึงอวิ๋นอิงแล้วเช่นเดียวกัน หลี่เทียนเจียวต้องหันไปให้ความสำคัญกับเมืองทางตะวันตกของซีเหลียงก่อน”
ไป๋จิ่นซิ่วพยักหน้า
“ดังนั้นพวกเราควรถือโอกาสตอนนี้ซีเหลียงกำลังสนใจเมืองทางทิศตะวันตกบุกยึดเมืองอวิ๋นจิงให้ได้โดยเร็วที่สุด”
“ตอนนี้ทางตะวันออกของซีเหลียงคือต้าเยี่ยน ทางตะวันตกคือกองทัพของต้าเยี่ยนและต้าโจว ทางใต้มีสามเส้นทาง กล่าวได้ว่ากองทัพใหญ่กำลังบุกเข้าไปใกล้อวิ๋นจิงทุกทิศทาง”
ไป๋ชิงเหยียนชี้ไปยังทิศใต้ของเมืองอวิ๋นจิงในแผนที่
“พี่คิดว่าจิ่นซิ่วและอาฉีควรยกทัพบุกอ้อมไปโจมตีทิศใต้ของเมืองอวิ๋นจิงเพื่อป้องกันหลี่เทียนเจียวถอยทัพไปยังทิศใต้ มิเช่นนั้นหากปล่อยให้หลี่เทียนเจียวหนีไปยังเมืองทางใต้ได้ พวกเราคงต้องทำสงครามต่อไม่จบไม่สิ้นแน่นอน”
“จิ่นซิ่วรับบัญชาเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกำหมัดรับคำ
“อาฉีรับบัญชาขอรับ” ไป๋ชิงฉีกำหมัดรับคำเช่นเดียวกัน
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
“แม่ทัพหยางอู่เช่อและอาอวิ๋นนำทหารอยู่คุ้มกันด่านเย่เฉิง อาอวิ๋นช่วยเผยแพร่การปกครองระบอบใหม่ของต้าโจวไปยังเมืองซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของด่านเย่เฉิง ทำให้ชาวบ้านซีเหลียงรับรู้ข้อดีของระบอบการปกครองใหม่ของต้าโจวโดยเร็วที่สุด มีเพียงทำเช่นนี้เท่านั้นชาวบ้านจะได้ไม่ก่อความวุ่นวายเพิ่มให้พวกเรา”
“อาอวิ๋นรับบัญชาขอรับ” ไป๋ชิงอวิ๋นรับคำ
“ไป๋ชิงอวี๋ ไป๋ชิงเจวี๋ยพาไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวามุ่งหน้าไปยังเต๋อหยางตามแผนเดิม…”
ไป๋ชิงเหยียนมองไป๋ชิงอวี๋ “ออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า!”
“อาอวี๋รับบัญชาขอรับ” ไป๋ชิงอวี๋รับคำ
ไป๋จิ่นเซ่อเดินถือน้ำชาที่เตรียมให้พี่ชายและพี่สาวเข้ามาด้านใน นางเปลี่ยนถ้วยชาที่เย็นชืดให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น
“พี่หญิงใหญ่ ท่านหมอหงมาตรวจชีพจรให้พี่หญิงใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ท่านหมอหงฝากข้ามาพี่หญิงใหญ่ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีก ดูเหมือนว่าท่านหมอหงจะโกรธมากเลยเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนนำกองทัพไป๋บุกไปโจมตีด่านเย่เฉิงด้วยตัวเอง ใจของหมอหงแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา ไป๋ชิงเหยียนกำลังตั้งครรภ์อยู่ เขาจะไม่เป็นห่วงได้อย่างไรกัน
เมื่อยึดด่านเย่เฉิงได้ หมอหงได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนได้รับบาดเจ็บจึงรีบร้อนมาดูอาการของหญิงสาว
ทว่า หญิงสาวกลับออกไปสำรวจค่ายทหารแล้ว!
หมอหงเดินไปตามหาไป๋ชิงเหยียนที่กระโจม ทว่า ไม่พบตัวหญิงสาวแม้แต่น้อย เมื่อกลับมาก็ได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปฝังศพให้ทหารกองทัพไป๋ที่เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้บนยอดเขาด้วยตัวเอง ทว่า เรื่องนี้คือเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องทำหมอหงจึงกล่าวสิ่งใดไม่ได้
หมอหงสั่งให้คนมาตามเขาทันทีที่ไป๋ชิงเหยียนลงมาจากยอดเขา ทว่า เมื่อไป๋ชิงเหยียนลงมาหมอหงกลับหลับไปแล้ว เมื่อตื่นขึ้นหมอหงจึงรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนสั่งห้ามไม่ให้ปลุกเขา ให้เขาพักผ่อนให้เต็มที่!
หมอหงจึงถามต่อว่าตอนนี้หญิงสาวอยู่ที่ใด เขาจึงรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนคิดว่าตัวเองเป็นสตรีเหล็กจริงๆ หญิงสาวไปปรึกษาเส้นทางการรบต่อโดยไม่หยุดพักผ่อน นางไม่รู้เลยหรือว่าตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่!
หมอหงใส่รองเท้าของตัวเองอย่างโมโห จากนั้นรีบไปหาหญิงสาวด้วยความร้อนใจทันที
ไป๋ชิงเหยียนรับถ้วยน้ำชาไปจากมือของไป๋จิ่นเซ่อยิ้มๆ จากน้นเอ่ยถาม
“เสี่ยวชี เจ้าจะกลับไปเมืองหลวงกับพี่หรือจะตามพวกพี่ชายห้าของเจ้าไปโจมตีเมืองต่อไป”