สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1186 อาวุธไม่มีตา
ตอนที่ 1186 อาวุธไม่มีตา
“หลังจากชาวบ้านเหล่านี้จากไปในวันนี้ ไม่เกินสิบวันชาวบ้านซีเหลียงที่อดอยากต้องอพยพมายังด่านเย่เฉิงแน่นอน”
ได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้ไป๋ชิงฉีจึงเข้าใจขึ้นมาทันที
ชายหนุ่มพยักหน้า ตอนนั้นไป๋จิ่นถงกำหนดราคาผ้าทอและหนังสัตว์สูงขึ้นจนชาวบ้านซีเหลียงล้มเลิกการทำนาเพาะปลูก ตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดของซีเหลียงสั่งห้ามไม่ให้แพร่งพรายข่าวนี้ไปยังจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง ทั้งยังกักตุนเสบียงอาหารไว้ขายให้ชาวบ้านในราคาสูงในวันที่พวกเขาขาดแคลนเสบียงอาหาร ชาวบ้านซีเหลียงกำไรจากการค้าผ้าทอและหนังสัตว์ไปกับการซื้อเสบียงอาหารจนซีเหลียงขาดแคลนเสบียงอาหารเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเทียนเฟิ่งเดินทางมายังซีเหลียง พวกเขาควานหาเสบียงทั่วทั้งแคว้นซีเหลียงจนชาวบ้านซีเหลียงได้รับความเดือนร้อนมากกว่าเดิม คนเร่ร่อนมีเพิ่มมากขึ้น บางเมืองเผชิญปัญหาอดอยากอย่างรุนแรง ได้ยินว่าชาวบ้านบางพื้นที่ถึงกับต้องกินท่อนไม้ใบหญ้าเพื่อประทังชีวิต
ด่านเย่เฉิงคือพื้นที่ควบคุมดูแลของตระกูลเย่ เย่โส่วกวนเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างในด่านเย่เฉิง ดังนั้นแม่เย่โส่วกวนจะไม่สามารถยับยั้งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ให้ล้มเลิกการเพาะปลูกได้ ทว่า อย่างน้อยในด่านเย่เฉิงก็มีเสบียงเพียงพอให้ชาวบ้านประทังชีวิต
ตระกูลเย่เป็นตระกูลที่มีอำนาจทางทหารมาหลายรุ่น ราชสำนักซีเหลียงและแคว้นเทียนเฟิ่งจึงไม่กล้ายื่นมือมายุ่งเกี่ยวกับเสบียงอาหารของด่านเย่เฉิง ชาวบ้านในด่านเย่เฉิงจึงยังมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
ทว่า ชาวบ้านซีเหลียงในเมืองอื่นไม่ได้โชคดีเหมือนชาวบ้านในด่านเย่เฉิงที่สามารถพึ่งพาเสบียงอาหารของทางการได้
“ตอนที่เยี่ยนว่อเผชิญปัญหาอดอยาก อาเจวี๋ยดึงดูดคนไปยังหนานเจียงจนเขามีกองทัพไป๋ส่วนหนึ่งอยู่ในมือในตอนนี้ ต้าเยี่ยนตระหนักถึงความสำคัญของชาวบ้านแล้วเช่นเดียวกัน ดังนั้นตอนนั้นพวกเขาจึงแอบพาชาวบ้านที่ประสบอัคคีภัยไปยังต้าเยี่ยน”
ไป๋ชิงเหยียนเดินเอามือข้างหนึ่งกุมท้องลงไปด้านล่างกำแพงพร้อมไป๋ชิงฉีอย่างระมัดระวัง
“หากพี่เดาไม่ผิด ที่ต้าเยี่ยนแบ่งกองกำลังโจมตีเมืองอวิ๋นจิงออกเป็นสองฝ่ายไม่ใช่เพราะต้องการแย่งชิงดินแดนกับต้าโจว ทว่า พวกเขาต้องการพาคนซีเหลียงไปยังต้าเยี่ยนให้ได้มากที่สุดมากกว่า”
“ทหารมาจากชาวบ้าน หากต้องการมีกองทัพที่แข็งแกร่งกว่ากองทัพต้าโจวพวกเขาต้องการกำลังคนจำนวนมาก แม้ต้าโจวกับต้าเยี่ยนจะลอบทำข้อตกลงรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งอย่างสันติวิธีแล้ว ทว่า พวกเราต้องเตรียมแผนสำรองไว้เสมอ จะเชื่อใจพวกเขาเต็มร้อยไม่ได้เด็ดขาด!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงหนักแน่น
ไป๋ชิงฉียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“พี่หญิงใหญ่ปล่อยชาวบ้านในด่านเย่เฉิงออกไปจากเมืองในวันนี้เพราะต้องการให้พวกเขาแพร่กระจายข่าวเรื่องในด่านเย่เฉิงและเรื่องที่ต้าโจวจะปฏิบัติต่อชาวบ้านซีเหลียงทุกคนที่ยอมกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวอย่างเท่าเทียมกันให้ชาวซีเหลียงที่อยู่ในเมืองอื่นรับรู้ใช่หรือไม่ขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “เทียบกับคำสัญญาต่างๆ ที่กองทัพต้าเยี่ยนให้กับชาวบ้านซีเหลียง ชาวบ้านซีเหลียงย่อมเชื่อใจสิ่งที่ออกมาจากปากของพวกเดียวกันมากกว่าอยู่แล้ว เรามาดูกันว่าชาวบ้านเหล่านั้นจะมาที่ด่านเย่เฉิงหรือไปยังต้าเยี่ยนกับกองทัพต้าเยี่ยนกันแน่”
“แน่นอนว่าต้องเชื่อใจพวกเดียวกันมากกว่าอยู่แล้วขอรับ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ชิงฉีกว้างมากขึ้น พี่หญิงใหญ่ของเขามองคนออกอย่างทะลุปรุโปร่งมาเสมอ นางงใช้วิธีที่เปิดเผยและยุติธรรมที่สุด
ความใจกว้างคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังที่สุด
หากทำได้อย่างเหมาะสมจะสามารถเอาชนะทุกสิ่งอย่างในใต้หล้านี้ได้
ต้าโจวมีจักรพรรดินีอย่างพี่หญิงใหญ่ของเขาอยู่ วันหน้าแคว้นของพวกเขาต้องการเป็นแคว้นที่คนในราชสำนักและชาวบ้านทั่วทั้งแคว้นมีแต่ความสามัคคี ไม่มีกลอุบายต่ำช้าอีกต่อไปอย่างที่บรรพบุรุษตระกูลไป๋และท่านปู่ของเขาอยากเห็นแน่นอน
“หากถึงเวลานั้นมีชาวบ้านที่ออกไปจากด่านเย่เฉิงกลับมายังด่านเย่เฉิงอีกครั้ง ชาวบ้านซีเหลียงคนอื่นจะยิ่งอยากมาที่ด่านเย่เฉิงแน่นอน” ไป๋ชิงฉีกล่าว
“ใช่แล้ว…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ
“แม่น้ำที่สามารถรองรับแม่น้ำหลายสายได้จะกลายเป็นมหาสุมทรที่ยิ่งใหญ่! ชาวบ้านคือรากฐานของแคว้น แคว้นใดสามารถเปิดใจรับชาวบ้านจากหลายเผ่าพันธุ์ หลายที่มาได้ แคว้นนั้นจะกลายเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันสิ้นสุด”
เมื่อเดินลงมาด้านล่างกำแพงเรียบร้อยไป๋ชิงฉีจึงปล่อยมือไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเดินตามไป๋ชิงเหยียนไปอย่างไม่รีบร้อน
“ดังนั้นพี่หญิงใหญ่จะอยู่รอจนกว่าชาวบ้านเหล่านั้นจะอพยพมายังด่านเย่เฉิง เมื่อจัดการหาที่พักและดูแลพวกเขาเสร็จเรียบร้อยจึงจะเดินทางกลับเมืองหลวงใช่หรือไม่ขอรับ”
“ใช่ พี่ให้คนส่งจดหมายไปแจ้งที่เมืองหลวงแล้วว่าพี่จะกลับไปให้ทันการสอบปากเปล่าที่ท้องพระโรง กำหนดการสอบปากเปล่าเป็นวันที่สิบห้า เดือนสาม”
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ดวงอาทิตย์สว่างจ้า นางพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย
“หวังว่าตอนนั้นพวกเราจะยึดซีเหลียงได้สำเร็จแล้ว หากตอนนั้นพวกเราพี่น้องเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกัน หากท่านปู่เห็นคงดีใจและภูมิใจมาก”
ไป๋ชิงฉีได้ยินจึงก้มหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเดินตามไป๋ชิงเหยียนไปได้ระยะหนึ่งจึงกล่าวขึ้น
“พี่หญิงใหญ่ อาฉีจะพยายามยึดอวิ๋นจิงให้ได้ก่อนวันที่สิบห้า เดือนสามและจับเป็นหลี่เทียนเจียวให้ได้ขอรับ!”
“อย่าวู่วามเป็นอันขาด!”
เมื่อไป๋ชิงเหยียนคิดได้ว่าแม่ทัพชราชุยซานจงเป็นคนนำทัพออกรบด้วยตัวเองก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“คนที่พวกเจ้ากำลังจะเผชิญหน้าด้วยคือแม่ทัพชราชุยที่มีทั้งสติปัญญาและความสามารถในการรบ ท่านปู่ทวดเคยบอกว่าคนผู้นี้เจ้าเล่ห์นัก เขาพร้อมใช้ทุกวิธีเพื่อได้รับชัยชนะ เขาไม่ใช่คนตรงไปตรงมาอย่างแม่ทัพเย่โส่วกวน ไม่ใช่คนที่มีเพียงกลอุบายเล็กน้อยอย่างอวิ๋นพั่วสิง ดังนั้นพวกเจ้าจงรอบคอบให้มากที่สุด คำนึงถึงส่วนรวมเป็นหลัก อย่าใจร้อนวู่วามเด็ดขาด!”
“อาฉีทราบขอรับพี่หญิงใหญ่ ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าทุกคนในครอบครัวกลับมาอย่างปลอดภัยขอรับ”
ไป๋ชิงฉีคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“พี่หญิงใหญ่ ข้าดีใจมากจริงๆ ขอรับที่น้องๆ ยังมีชีวิตอยู่ ข้าดีใจมากที่อาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีสิ่งใดน่ายินดีไปมากกว่านี้อีกแล้วขอรับ!”
“พี่รู้ดี!”
ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือสัมผัสผมของน้องชายไม่ถึงอีกแล้ว เมื่อเห็นผมขาวของน้องชายก็รู้สึกปวดใจยิ่งนัก หากในใจไม่มีความแค้นนางไม่ใช่ว่าผมของมนุษย์จะขาวลงเพียงแค่ช่วงเวลาข้ามคืน
ตั้งแต่ไป๋ชิงฉีกลับมา นี่คือครั้งแรกหลังงานบรมราชาภิเษกที่ชายหนุ่มเปิดใจกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจของตัวให้ผู้อื่นรับรู้เช่นนี้
ไป๋ชิงเหยียนตบไหล่ของไป๋ชิงอวี๋ยิ้มๆ
“พี่ก็ดีใจกว่าสิ่งใดทั้งหมดที่พวกเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย”
ชาวบ้านที่ต้องการเดินทางไปจากด่านเย่เฉิงในวันนี้มีจำนวนไม่น้อย ตอนแรกไป๋ชิงอวิ๋นให้พวกเขาต่อแถวจัดการเรื่องทีละคน ต่อมาคนเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไป๋ชิงอวิ๋นจึงสั่งให้พวกเขาต่อแถวที่หน้าประตูเมือง เมื่อแจกเงินเสร็จก็ให้พวกเขาจากไปทันที
วันนี้ต้าโจวแจกเงินจนฟ้ามืด ทว่า ชาวบ้านยังคงมาต่อแถวกันอย่างไม่ขาดสาย ต้าโจวไม่ได้คิดรั้งพวกเขาไว้แม้แต่น้อย ชาวบ้านซีเหลียงที่เดิมทีไม่กล้าจากไปเพราะกลัวจะถูกทหารต้าโจวไล่ตามไปสังหารเห็นเพื่อนบ้านของตัวเองหอบสัมภาระจากไปจึงเริ่มหวั่นไหวขึ้นบ้าง ต่างหันไปปรึกษากับครอบครัวว่าจะจากไปดีหรือไม่
ทว่า ชาวบ้านของซีเหลียงในด่านเย่เฉิงยังไม่ทันออกไปจากเมืองหมด ชาวบ้านที่ได้รับเงินจากไปแล้วเมื่อเช้ากลับย้อนมายังด่านเย่เฉิงอีกครั้ง พวกเขาต้องการกลับเข้ามาในด่าน ทว่า ถูกทหารต้าโจวห้ามไว้เสียก่อน
แม่ทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิงปรายตามองชาวบ้านซีเหลียงที่ต้องการกลับเข้าเมืองอีกครั้ง
“พวกเจ้าไม่ใช่ชาวบ้านต้าโจวแล้ว จงรีบไปให้ใกล้จากเมืองของต้าโจว มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
สิ้นเสียงของแม่ทัพคุ้มกันเมือง ทหารต้าโจวรีบง้างสายธนูเต็มเตรียมพร้อมทันที ชาวบ้านธรรมดาไม่เคยพบเหตุการณ์น่าหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน พวกเขารีบคุกเข่าลงบนพื้นตัวสั่นเทาด้วยความเข่าอ่อนทันที