สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1200 น่ายกย่อง
ตอนที่ 1200 น่ายกย่อง
เมื่อได้ยินเสียงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนของบ่าวรับใช้และทหาร หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยอยากลุกขึ้นยืน ทว่า ถูกหมอทหารรั้งตัวไว้เสียก่อน “อย่าขยับ!”
หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยนั่งลงตามเดิม จากนั้นกล่าวกับหมอทหารเสียงอ่อย
“ฝ่าบาทเสด็จมาแล้ว พระองค์ต้องมีเรื่องอยากสอบถามข้าแน่นอน ข้าเปลือยท่อนบนเช่นนี้ไม่เหมาะสม…”
“ใกล้เสร็จแล้ว!” หมอทหารโรยยาสมุนไพรลงบนผ้าพันแผล จากนั้นกดลงบนบ่าของหัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อย หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยสูดปากด้วยความเจ็บ
ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ทันเดินเข้าไปในห้องทหารหน่วยลาดตระเวนและทหารที่มีหน้าที่สำรวจตามบ้านเรือนต่างๆ ก็เข้ามารายงานเสียก่อน…หน่วยลาดตระเวนพบทหารที่สวมชุดเกราะของต้าโจว ทว่า ไม่รู้รหัสลับของกองทัพ ตอนนี้ถูกต้าโจวจับตัวไว้แล้ว ตอนนี้กำลังสังหารทหารสองคนเพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ทหารต้าโจวสอบสวนคนอื่นต่อจนรู้ว่าคนเหล่านี้ได้รับคำสั่งจากแม่ทัพชราชุยซานจงให้แฝงตัวเข้ามาในเมืองเจียงจือพร้อมกับกลุ่มชาวบ้านเร่ร่อน ไม่ต่างจากทหารซีเหลียงที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้
“พวกเขาไม่รู้ว่าแม่ทัพชราชุยซานจงส่งคนแฝงตังเข้ามาทั้งหมดกี่คน พวกเขากล่าวเช่นเดียวกับทหารซีเหลียงก่อนหน้านี้ว่าแม่ทัพชราชุยซานจงส่งพวกเขาเข้ามาแค่กลุ่มเดียว เมื่อสอบสวนจึงรู้ว่าเป้าหมายของแต่ละกลุ่มแตกต่างกันขอรับ!” ทหารที่มารายงานกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง “ส่งคนคุ้มกันคลังเสบียงและคลังอาวุธดีแล้วใช่หรือไม่”
หลิ่วผิงเกากำหมัดคารวะไป๋ชิงเหยียน “พวกเราแสร้งทำเป็นขนย้ายเสบียงและอาวุธหนีตามที่ฝ่าบาททรงรับสั่งแล้วขอรับ ตอนนี้คงขนย้ายเสร็จแล้ว พวกหนูที่แอบอยู่ตามซอกหลืบคงใกล้โผล่หัวออกมาแล้วขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองท้องฟ้าสีดำสนิท นางคิดวิธีป้องกันทุกวิถีทางเท่าที่ทำได้แล้ว…
“คุณหนูใหญ่!” หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยเดินจับขอบประตูออกมาด้านนอก เขาคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเงยหน้ามองหญิงสาวพลางกล่าวขึ้น
“ประตูทิศใต้มีทหารซีเหลียงดักซุ่มอยู่จริงๆ ขอรับคุณหนูใหญ่ ข้าออกจากเมืองไปได้ไม่เท่าใดม้าของข้าก็ถูกฟันขาขาดขอรับ ทหารซีเหลียงดักซุ่มอยู่นอกเมืองเป็นจำนวนมาก ดูเหมือนพวกมันกำลังรอให้คุณหนูหนีออกไปจากเมืองขอรับ”
หลิ่วผิงเกากำหมัดแน่น ที่แม่ทัพชราชุยซานจงเหนือประตูทิศใต้ไว้ประตูหนึ่งเพราะเขาต้องการล่อให้ไป๋ชิงเหยียนหนีออกไปจากเมืองและจับเป็นหญิงสาวอย่างที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์ไว้จริงๆ!
พอนึกย้อนไปหลิ่วผิงเกาจึงรู้สึกหวาดกลัวมาก หากตอนนั้นเขาคุ้มกันไป๋ชิงเหยียนหนีออกไปจากเมืองจริงๆ บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนคงถูกทหารซีเหลียงจับเป็นได้แล้ว จักรพรรดินีแห่งแคว้นถูกจับเป็น…พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำสงครามครั้งนี้ต่อไปอีก!
“ลำบากเจ้าแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนประคองหัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยลุกขั้น
“ข้าสำรวจแน่ชัดแล้วขอรับ ครั้งนี้แม่ทัพชราชุยซานจงพาทหารซีเหลียงมาประมาณห้าหมื่นกว่านาย ทว่า พวกเขาน่าจะมีเสบียงไม่เพียงพอ ข้าได้ยินทหารของฝ่ายนั้นกล่าวว่าวันนี้ต้องกินให้อิ่มท้องเพราะต้องบุกโจมตีเมืองขอรับ”
แม้จะอยู่ในสถานการณ์อันตรายว่าหัวหน้าองครักษ์ลับไป๋หน่วยย่อยยังไม่ลืมสืบสถานการณ์ของศัตรูให้ไป๋ชิงเหยียน
“ทหารที่มีหน้าที่ทรมานข้าโบยข้าได้ไม่เท่าใดก็เปลี่ยนคน พวกเขาไม่ค่อยมีแรงสักเท่าใดนัก จากแรงที่ข้าโดนโบยไม่เหมือนว่าพวกเขาแสร้งทำเป็นอดอยากขอรับ พวกเขาโบยไปได้ห้าหกทีก็ควบคุมน้ำหนักไม่ได้แล้วขอรับ”
หลิ่วผิงเกาได้ยินจึงได้แต่ยืนตะลึง องครักษ์ลับของกองทัพไป๋สามารถสืบสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามขณะถูกทรมานได้จากการกระทำเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ด้วยหรือ ช่างน่ายกย่องเสียจริง!
องครักษ์ของตระกูลไป๋ล้วนถอนตัวออกมาจากกองทัพไป๋ มิน่าของกองทัพไป๋ถึงมีชื่อเสียงเรื่องการรบไม่เคยพ่ายแพ้ถึงเพียงนี้ หากทหารทุกคนของกองทัพไป๋เป็นทหารกล้าเช่นนนี้ กองทัพใดจะเอาชนะพวกเขาได้กัน
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า หญิงสาวยืนอยู่ใต้โคมไฟหนังแกะที่แกว่งไปมาตามแรงลม เงาของหญิงสาวทอดยาวไปตามระเบียงทางเดิน ไม่นานหญิงสาวจึงเงยหน้ามองหลิ่วผิงเกา
“ต้าโจวจะส่งเสบียงอาหารมายังซีเหลียงอีกเมื่อใด”
หลิ่วผิงเกาก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว “น่าจะเป็นวันที่สิบเอ็ด เดือนสอง ช้าสุดไม่เกินวันที่สิบสอง เดือนสองพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเป็นห่วงเสบียงอาหารของกองทัพหลักของต้าโจวหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ใจของหลิ่วผิงเกาเต้นแรงขึ้นเช่นเดียวกัน เขากำดาบที่เอวแน่นพลางกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน
“หากพวกเราไม่จุดสัญญาณควันขอความช่วยเหลือ ต้าโจวคงส่งเสบียงอาหารมายังซีเหลียงตามปกติ เช่นนั้นเสบียงของพวกเราจะตกไปอยู่ในมือของกองทัพซีเหลียงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
พวกเขาจะปล่อยให้กองทัพซีเหลียงกินเสบียงอาหารของต้าโจวและยกทัพมาโจมตีต้าโจวไม่ได้เด็ดขาด
ไป๋ชิงเหยียนหลับตาลงอย่างครุ่นคิด “วันที่สิบเอ็ด สิบสอง เดือนสอง…”
ในเมื่อซีเหลียงขาดแคลนเสบียงอาหารจนไม่มีแรงสู้รบถึงเพียงนี้ พวกเขาต้องปล้นชิงเสบียงอาหารของต้าโจวอย่างแน่นอน
นางรู้ว่าต้าโจวจะส่งเสบียงอาหารมาเมื่อใด ทว่า แม่ทัพชราชุยซานจงไม่รู้ นี่คือข้อได้เปรียบของพวกนาง
ตอนนี้แม่ทัพชราชุยซานจงกำลังรอเสบียงอาหารและรอให้ไป๋ชิงเหยียนส่งสัญญาณควันขอความช่วยเหลือ เขาจะได้นำทัพไปดักโจมตีทัพเสริมของต้าโจวได้
ไป๋ชิงเหยียนกำหยกจักจั่นที่อยู่ในเสื้อคลุมขนจิ้งจอกไว้ในมืออย่างหลวมๆ นางพอจะรู้แล้วว่าจะทำสงครามครั้งนี้เช่นไร
หญิงสาวหันไปหาหลิ่วผิงเกา “ให้ทหารหน่วยลาดตระเวนทุกคนมีสติอยู่ตลอดเวลา ต้องจับสายลับของซีเหลียงที่แฝงตัวเข้ามาในเมืองให้ได้ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด ทหารที่มีหน้าที่คุ้มกันบนกำแพงเมืองไม่จำเป็นต้องขึ้นไปบนกำแพงทั้งหมด ให้สลับกันออกลาดตระเวน ทหารคนอื่นจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง”
“ฝ่าบาททรงมีแผนการแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
หลิ่วผิงเกาเห็นสีหน้าเรียบเฉยของไป๋ชิงเหยียนจึงรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนมีแผนแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “บอกทหารทุกคนว่าแม้ตอนนี้แม่ทัพชราชุยจะยังไม่บุกโจมตีเมือง พวกเขาสามารถพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ได้ ทว่า ห้ามประมาทเด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” หลิ่วผิงเการับคำ จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาเปล่งประกายเพื่อรอฟังคำสั่งโจมตีกองทัพซีเหลียงในคืนนี้
“คืนนี้ให้ทหารทุกคนพักผ่อนกันอย่างเต็มที่” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวออกมาเช่นนี้
หลิ่วผิงเกาตะลึง “ฝ่าบาท คืนนี้ฝ่าบาทจะไม่ให้ทหารบุกโจมตีค่ายทหารซีเหลียงหรือพ่ะย่ะค่ะ”
หลิ่วผิงเกานึกว่าที่ไป๋ชิงเหยียนบอกกับแม่ทัพชราชุยซานจงว่าจะบุกโจมตีค่ายซีเหลียงในคืนนี้เพราะต้องการให้ซีเหลียงคิดว่าต้าโจวจะไม่ทำเช่นนั้น คืนนี้พวกเขาต้องได้บุกโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงแน่นอน!
ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“แม่ทัพชราชุยอาจคิดเช่นเดียวกับเจ้าว่าที่ข้ากล่าวว่าจะบุกโจมตีซีเหลียงคืนนี้เป็นเพียงแผนหลอกล่อของข้า เขาต้องให้ทหารซีเหลียงเตรียมรับมือพวกเราแน่นอน ให้ทหารต้าโจวของเราพักผ่อนให้เต็มที่เถิด จริงสิ! อย่าลืมให้ทหารต้าโจวเปิดประตูแต่ละทิศของเมืองเจียงจือสักหนึ่งรอบ ให้ซีเหลียงเตรียมรับมือพวกเราตลอดเวลา!”
“พ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเการับคำ
แม้การบุกโจมตียามวิกาลในคืนนี้จะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด ทว่า ไป๋ชิงเหยียนจะไม่ทำเช่นนั้น ต้าโจวจะเคลื่อนไหวให้ซีเหลียงเห็นในตอนกลางคืน ทว่า พวกนางจะไม่บุกโจมตี ให้ซีเหลียงเตรียมรับมือจนไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ จากนั้นกลางวันนางจะส่งกองทัพย่อยไปก่อกวนจนพวกเขาไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุข