สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1203 มีชีวิตรอด
ตอนที่ 1203 มีชีวิตรอด
“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ทำอาหารก่อนเวลาครึ่งชั่วยาม ฝ่าบาทไม่ได้ทรงต้องการโจมซีเหลียง…”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า นางไม่คิดโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงวันนี้ “ให้ทหารทำอาหารก่อนครึ่งชั่วยามเพราะต้องการดึงดูดความสนใจของแม่ทัพชราชุยซานจง ให้ทหารซีเหลียงที่เพิ่งได้พักผ่อนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ให้พวกเขานอนไม่หลับกินไม่อิ่ม”
ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าแม่ทัพชราชุยซานจงจะร้ายกาจเช่นนี้ กองทัพต้าโจวในเมืองเจียงจือมีไม่มาก หากซีเหลียงยกทัพมาดักซุ่มโจมตีที่หน้าประตูเมือง ต้าโจวคงไม่สามารถยกทัพออกไปจากเมืองได้ เช่นนี้ทหารซีเหลียงจะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่
ทว่า ทำให้ทหารซีเหลียงกลุ่มหนึ่งอ่อนล้าได้ก็ยังดี
“ฝ่าบาท พวกเราจะทำเช่นไรต่อไปพ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเกาเอ่ยถาม
“ให้คนจับตาดูความเคลื่อนไหวบนกำแพงเมืองให้ดี หากทหารซีเหลียงที่มาดักซุ่มโจมตีอย่างโจ่งแจ้งเหล่านั้นถอยทัพจงเปิดประตูเมืองและพาทหารกลุ่มหนึ่งออกไปขี่ม้าเล่นนอกเมือง บีบให้ซีเหลียงกลับมาดักซุ่มเหมือนเดิม เมื่อเห็นพวกเขาย้อนกลับมาจงรีบกลับเข้าเมืองทันที อย่าปะทะกับพวกนั้นเด็ดขาด!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
หลิ่วผิงเกาเพิ่งตระหนักได้ว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการทำลายพละกำลังของกองทัพซีเหลียง ไม่ต้องการให้ทหารซีเหลียงได้พักผ่อน เขารับคำและจากไปทันที
“จริงสิ ตู้ซานเป่าถูกข้าส่งไปทำหน้าที่อื่น เจ้าหาคนไปคุ้มกันกำแพงเมืองทิศตะวันออกและใต้แทนตู้ซานเป่าด้วย” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองหลิ่วผิงเกา
“พ่ะย่ะค่ะ!” หลิ่วผิงเการับคำและจากไป
มองส่งหลิ่วผิงเกาจากไปเรียบร้อย ชุนจือจึงถือรังนกที่ต้มเสร็จแล้วเข้ามาด้านใน จากนั้นวางลงบนโต๊ะตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ดื่มรังนกแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ หากคุณหนูใหญ่ไม่ห่วงตัวเองก็ควรห่วงลูกในท้องนะเจ้าคะ ท่านหมอหงไม่อยู่ หากคุณหนูใหญ่ไม่สบายขึ้นมาบ่าวไม่รู้จะทำเช่นไรเจ้าค่ะ”
“ได้ เจ้าไม่ต้องห่วง ข้ารู้ขอบเขตดี” ไป๋ชิงเหยียนสะบัดตำราไม้ไผ่ในมือเล็กน้อย จู่ๆ นางนึกได้ขึ้นมาจึงหันไปทางชุนจือ “เจ้าไปพักผ่อนเถิด อยู่เฝ้าข้านานแล้ว ไม่ได้พักผ่อนเลยใช่หรือไม่”
ชุนจือเกาศีรษะของตัวเองอย่างเขินอาย “บ่าวไม่ได้เรื่อง ตอนอยู่เฝ้าคุณหนูใหญ่เผลอนอนหลับไปแล้วเจ้าค่ะ เว่ยกงกงต่างหากเจ้าค่ะที่ลำบาก เมื่อครู่บ่าวรับปากกับเว่ยกงกงว่าจะไม่อยู่ห่างจากคุณหนูใหญ่ เว่ยกงกงจึงยอมไปพักผ่อนเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยรังนกขึ้นมาคนพลางกล่าวกับชุนจือยิ้มๆ “เจ้าเก่งมากแล้ว เหนือความคาดหมายของข้ามาก”
“วันหน้าชุนจือจะพยายามให้มากกว่านี้เจ้าค่ะ” ชุนจือกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “ขอเพียงคุณหนูใหญ่ไม่รังเกียจความซื่อบื้อของบ่าวก็พอเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนชิมรังนกในมือ จากนั้นก้มหน้าครุ่นคิดว่าหากตู้ซานเป่าทำไม่สำเร็จนางจะทำลายกองกำลังหลักบางส่วนของซีเหลียงให้น้อยลงภายในวันที่สิบสอง เดือนสองได้อย่างไร ที่สำคัญนางห้ามทำเกินไปนัก มิเช่นนั้นแม่ทัพชราชุยซานจงอาจล้มเลิกแผนการปล้นชิงเสบียงของกองทัพหลักของต้าโจวและบุกเข้ามาแย่งชิงเสบียงในเมืองเจียงจือแทน
นางต้องเตรียมแผนสำรองไว้ก่อน
บัดนี้เมืองเจืองจือถูกล้อมไว้หมดแล้ว แม้ดูเหมือนต้าโจวจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทว่า ซีเหลียงจะพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ไม่ได้เด็ดขาด แม่ทัพชราชุยซานจงมีเรื่องต้องกังวลหลายเรื่องดังนั้นซีเหลียงจึงกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำมากกว่าต้าโจว
บัดนี้ตู้ซานเป่าพาคนเข้าไปในเส้นทางลับของเมืองเจียงจือ
ทางออกของทางลับถูกปิดตายนานแล้วเพราะหลิ่วผิงเกาต้องการป้องกันไม่ให้ทหารซีเหลียงแอบเข้ามาในเมือง แน่นอนว่าตอนนี้ทหารซีเหลียงต้องเฝ้าอยู่ที่ทางออกของเส้นทางลับเช่นเดียวกัน ทหารต้าโจวไม่มีทางหนีออกไปจากเมืองทางเส้นทางลับได้แน่
ตู้ซานเป่ากลัวทำให้ทหารซีเหลียงที่เฝ้าอยู่ตรงทางออกของทางลับรู้ตัวจึงพาทหารไปช่วยกันขุดทางออกใหม่ที่ด้านขวาของทางลับเพื่อหนีออกไปจากวงล้อมของกองทัพซีเหลียงแทนตามคำสั่งของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นจะได้ส่งคนไปแจ้งข่าวที่เมืองไป๋หลงได้
เขาต้องส่งจดหมายให้แม่ทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิงรับรู้ด้วย ไป๋ชิงเหยียนต้องการความร่วมมือจากแม่ทัพคุ้มกันเมืองทั้งสองจะได้ทำลายล้างกองทัพหลักของซีเหลียงได้
ตู้ซานเป่าไม่กล้าเคลื่อนไหวเสียงดังดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ขุดหลุมอย่างช้าๆ ทุกวันเขากลับไปยังค่ายทหารด้วยร่างที่เต็มไปด้วยฝุ่น วันถัดไปจึงเดินทางไปขุดหลุมต่อด้วยความกระตือรือร้น
ตอนนี้สายลับของซีเหลียงที่แฝงตัวเข้ามากับกลุ่มชาวบ้านเร่ร่อนถูกจับตัวได้หมดแล้ว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ส่งคนเหล่านั้นกลับไป อีกทั้งไม่ได้ป่าวประกาศให้ทุกคนรับรู้ หญิงสาวสั่งให้ทหารพาตัวพวกเขาไปขังไว้ก่อน
หลิ่วผิงเกาพาทหารไปเกลี้ยกล่อมชาวบ้านให้ร่วมปกป้องเมืองเจียงจือกับต้าโจว
ชาวบ้านเหล่านี้เป็นดั่งที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์ไว้จริงๆ พวกเขาเคยอดอยากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาก่อน พวกเขาเคยเห็นแม้กระทั่งการแลกลูกกันกินเพื่อประทังชีวิต พวกเขาคิดว่าต้าโจวเป็นคนมอบบ้านและเสบียงอาหารให้พวกเขามีชีวิตต่อไป พวกเขายินดีกลายเป็นชาวบ้านของต้าโจว
แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะเคยเป็นคนของซีเหลียงมาก่อน ทว่า หากปล่อยให้กองทัพซีเหลียงบุกเข้ามาในเมืองเจียงจือได้สำเร็จพวกเขาต้องกลับไปอดอยากและถูกกองทัพซีเหลียงปล้นชิงเสบียงอีกครั้ง พวกเขาจะมีทางรอดอีกหรือ
ตอนนี้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวอยู่ในเมืองเจียงจือ กองทัพหลักของต้าโจวต้องย้อนกลับมาช่วยเหลือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแน่นอน หากพวกเขาร่วมปกป้องเมืองเจียงจือกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว เมื่อทำสำเร็จพวกเขาจะได้ยกเว้นหนี้ที่ติดทางการไว้ นี่คือเรื่องดี เหตุใดพวกเขาจะไม่ยินยอมกัน
ทว่า หลิ่วผิงเกาบอกกับพวกเขาชัดเจนแล้วว่าหากชาวบ้านคนใดไม่อยากร่วมเป็นร่วมตายกับต้าโจว อยากหลบหนีออกไปจากเมืองเจียงจือเพื่อเอาตัวรอด ต้าโจวก็จะปล่อยพวกเขาจากไป พวกเขาคือชาวบ้านของซีเหลียงแม่ทัพชราชุยซานจงคงไม่ทำอันใดพวกเขา ทว่า หากชาวบ้านที่จากไปแล้วไม่มีทางได้กลับมาเป็นชาวบ้านของต้าโจวอีก!
ไม่นานชาวบ้านในเมืองเจียงจือจึงเริ่มเคลื่อนไหวทันที
ชาวบ้านบางกลุ่มอาสาไปช่วยทหารต้าโจวขนของขึ้นไปบนกำแพงเมืองตั้งแต่กองทัพซีเหลียงยังไม่เริ่มโจมตีต้าโจว ชาวบ้านบางกลุ่มตัดสินใจหลบหนีอันตรายออกจากเมืองเจียงจือ
หลิ่วผิงเกาขี่ม้าออกไปแจ้งซีเหลียงด้วยตัวเองว่าชาวบ้านซีเหลียงต้องการไปจากเมืองเจียงจือ แม่ทัพชราชุยซานจงกลัวว่าต้าโจวจะส่งทหารแฝงตัวมากับกลุ่มชาวบ้านของซีเหลียงเพื่อส่งข่าวให้ภายนอกรับรู้
หากรับตัวชาวบ้านเหล่านั้นกลับมาซีเหลียงต้องขังตัวพวกเขาเอาไว้ ต้องส่งเสบียงอาหารให้คนเหล่านั้นทุกวัน ตอนนี้กองทัพซีเหลียงมีเสบียงอาหารไม่เพียงพอ พวกเขาจะเลี้ยงชาวบ้านเหล่านั้นได้อย่างไร
หากชาวบ้านซีเหลียงยังอยู่ในเมืองเจียงจือต่อ พวกเขาจึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้จากเสบียงของต้าโจว
ดังนั้นกองทัพซีเหลียงจึงไม่อนุญาตให้ชาวบ้านซีเหลียงเหล่านั้นออกมาจากเมือง
เมื่อหลิ่วผิงเกากลับเข้ามาในเมือง เขาแสร้งทำกล่าวกับชาวบ้านซีเหลียงอย่างโมโห “ทหารซีเหลียงบอกว่าไม่อนุญาตให้พวกเจ้าออกจากเมือง! พวกเจ้าเข้ามาอยู่ในเมืองของต้าโจวก็ถือเป็นคนของต้าโจวแล้ว พวกเจ้าไม่เกี่ยวข้องอันใดกับซีเหลียงอีก! หากพวกเขาบุกเข้ามาในเมืองได้พวกเขาจะไม่ออมมือให้พวกเจ้า หากพวกข้ากล้าส่งพวกเจ้าออกไปจากเมือง พวกนั้นจะสังหารพวกเจ้าทิ้งทันที!”
ชาวบ้านซีเหลียงที่เตรียมแบกสัมภาระพร้อมออกจากเมืองตะโกนถามขึ้นอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร “ท่านแม่ทัพกำลังหลอกพวกเราเพราะไม่อยากให้พวกเราออกไปจากเมืองใช่หรือไม่!”
“ใช่ พวกท่านกำลังหลอกพวกเราใช่หรือไม่!”
หลิ่วผิงเกาแสร้งทำหน้าเจ็บปวดออกมา “ในเมื่อพวกเจ้าไม่เชื่อข้าก็จนปัญญา เอาอย่างนี้แล้วกัน ผู้ใดอยากออกจากเมืองจงไปจากเมืองเดี๋ยวนี้ ทว่า หากออกไปจากเมืองแล้วไม่สามารถกลับเข้ามาได้อีก ผู้ใดยังอยากออกจากเมืองจงไปเข้าแถวทางด้านขวา”
“หวังจิน!” หลิ่วผิงเกาหันไปมองหวังจิน “เจ้าพาชาวบ้านเหล่านี้ขึ้นไปยืนดูบนกำแพงเมืองให้เต็มตาว่าพวกเราต้าโจวไม่ยอมปล่อยคนหรือซีเหลียงไม่อนุญาตให้พวกเขาออกจากเมืองกันแน่!”