สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1208 แสดงความจงรักภักดีต่อแคว้น
ตอนที่ 1208 แสดงความจงรักภักดีต่อแคว้น
ทหารตกใจกับคำขู่ของตู้ซานเป่าจึงรีบรับคำและจากไปอย่างรวดเร็ว
คืนนั้นตู้ซานเป่ารับหน้าที่ดูแลประตูเมืองทิศใต้แทนแม่ทัพคนเดิม ให้แม่ทัพผู้นั้นไปดูแลประตูทิศเหนือแทน จากนั้นตู้ซานเป่าแอบเรียกรวมตัวทหารที่ช่วยเขาขุดหลุมทางออกเพื่อเตียมตัวบุกไปโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงหลังพวกนั้นนอนหลับพักผ่อน
แม้หลิ่วผิงเกาจะบอกว่าฝ่าบาทไม่อนุญาตให้พวกเขาบุกไปโจมตีค่ายทหารซีเหลียง ทว่า ในฐานะแม่ทัพของต้าโจวตู้ซานเป่าจะปล่อยให้โอกาสดีๆ เช่นนี้ผ่านไปได้อย่างไรกัน
“ฝ่าบาทไม่ทรงอนุญาตให้พวกเราบุกไปโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงดังนั้นพวกเราจะยกทัพไปจำนวนมากไม่ได้ พวกเราทำได้เพียงลอบแอบออกไปไม่กี่คนเท่านั้น” ตู้ซานเป่ากล่าวเสียงเบา “พรุ่งนี้ซีเหลียงจะบุกโจมตีเมืองเจียงจือแล้ว พวกเราจะไม่ออกไปก่อกวนพวกนั้น ปล่อยให้พวกนั้นนอนหลับอย่างเต็มอิ่มเพื่อบุกมาโจมตีพวกเราในวันพรุ่งนี้หรือ ไม่มีทาง!”
“ทว่า ท่านแม่ทัพ พวกเรามีเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้น ต่อให้พวกเราสละชีวิตของตัวเองก็คงก่อกวนซีเหลียงได้ไม่มากหรอกขอรับ” สหายคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ดังนั้นข้าจึงสั่งให้คนไปค้นหาประทัดที่ใช้ไม่หมดของปีที่แล้วในเมืองเจียงจือมาแล้ว พวกเรานำประทัดไปด้วย เมื่อซีเหลียงพักผ่อนกันหมดแล้ว พวกเราค่อยจุดไฟโยนประทัดใส่ค่ายทหารของพวกนั้น คงทำให้พวกมันวุ่นวายได้บ้าง!” ตู้ซานเป่ากล่าวถึงซีเหลียงด้วยน้ำเสียงรอดไรฟัน “สองคนในพวกเจ้ารออยู่ในเมือง เมื่อพวกข้าจากไปสองคนที่เหลืออยู่จงรีบไปบอกแม่ทัพหลิ่วผิงเกาว่าข้าพาคนบุกไปโจมตีค่ายทหารทั้งสี่ทิศของซีเหลียง เมื่อค่ายทหารซีเหลียงถูกโจมตีจนเกิดไฟไหม้ขึ้นข้าจะรีบถอยทัพทันที บอกให้แม่ทัพหลิ่วผิงเกาคอยเปิดประตูให้พวกเรากลับเข้ามาในเมืองด้วย”
“ท่านแม่ทัพ วิธีของท่านใช้ได้แน่หรือขอรับ” ทหารต้าโจวยังคงลังเล “พวกข้าไม่ได้กลัวตาย ทว่า พวกเราทำลงไปโดยพลการกลับมาอาจถูกลงโทษตามกฎของกองทัพนะขอรับ”
“ไม่ต้องเป็นห่วง แม่ทัพหลิ่วผิงเกาก็อยากบุกไปโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงเช่นเดียวกัน ทว่า ฝ่าบาทไม่อยากให้ทหารต้าโจวสละชีวิตโดยเปล่าระโยชน์จึงไม่ทรงอนุญาต” ตู้ซานเป่าทำท่าทีราวกับเข้าใจความคิดของไป๋ชิงเหยียนมาก
“ทว่า ทหารต้าโจวอย่างพวกเรากลัวตายอย่างนั้นหรือ พรุ่งนี้ซีเหลียงจะบุกโจมตีเมืองแล้ว พวกเราจำเป็นต้องไปก่อกวนพวกมัน ที่สำคัญพวกเราไม่ได้เผชิญหน้ากับพวกนั้นซึ่งๆ หน้าเสียหน่อย”
เมื่อเห็นทหารคนอื่นยังคงลังเลตู้ซานเป่าจึงกล่าวต่อ “อีกอย่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าตู้ซานเป่าทำเรื่องโดยพลการ มีครั้งใดบ้างที่ข้าทำพัง ทหารอย่างพวกเราควรรู้จักช่วยแบ่งเบาภาระของฝ่าบาท ตอนนี้ฝ่าบาทกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ!”
ได้ยินตู้ซานเป่ากล่าวเช่นนี้ทุกคนจึงนึกถึงเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนมอบหมายให้ตู้ซานเป่าเป็นคนดูแลเรื่องการขุดหลุมทางออกขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าไป๋ชิงเหยียนเชื่อใจตู้ซานเป่า
ทุกคนเงยหน้ามองตู้ซานเป่าพลางกล่าวขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น “พวกเราฟังคำของท่านแม่ทัพ พวกเรายินดีสละชีพเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อฝ่าบาท! ทว่า ท่านแม่ทัพ ข้าว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องทำให้แม่ทัพหลิ่วเดือดร้อนหรอกขอรับ พวกเราจุดประทัดเสร็จแล้วรีบกลับมา ข้ายังไม่ได้ปิดตายหลุมทางออกนั่น เดี๋ยวให้สหายสองคนไปเฝ้าที่นั่นก็สิ้นเรื่องขอรับ”
ตู้ซานเป่าคิดตามแล้วยิ้มออกมาอย่างได้ใจ “เจ้าอยากทำความดีโดยไม่เปิดเผยนามสินะ!”
“ล้วนทำเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อแคว้น ไม่เผยนามจะได้ไม่ถูกลงโทษด้วยขอรับ” ทหารผู้น้อยคนนั้นกล่าวยิ้มๆ
“ทว่า พวกเราต้องออกจากเมืองทางประตูทิศใต้ หากออกจากหลุมนั่นพวกเราไม่สามารถนำม้าและประทัดไปได้” ตู้ซานเป่าเงยหน้ามองบรรดาทหารในสังกัดของตัวเอง “ถึงเวลานั้นค่อยตัดสินใจตามสถานการณ์ หากซีเหลียงไล่ตามพวกเราไม่ยอมปล่อย การเปิดประตูเมืองเป็นอันตรายต่อคนในเมืองเกินไป พวกเราหาทางหนีไปยังหลุมที่พวกเราขุดไว้ ทว่า หากซีเหลียงยังไม่รู้ตัวพวกเราควรกลับเข้าไปในเมืองทางประตูเมือง เพราะม้าเหล่านั้นล้วนเป็นของล้ำค่า”
“เจ้าอยู่รอในเมือง ฝีมือการยิงธนูของเจ้าค่อนข้างแม่นยำ หากตอนพวกเราออกจากเมืองไปแล้วเจ้าเห็นสายลับของซีเหลียงมีการเคลื่อนไหวจงยิงธนูสังหารทิ้งทันที” ตู้ซานเป่าหันไปทางทหารที่ทำความดี ทว่า ไม่อยากเผยนามคนนั้น “ให้ทหารบนกำแพงเมืองแสดงละครให้สมจริง สุนัขซีเหลียงเหล่านั้นจะได้ตกใจ!”
เมื่อตู้ซานเป่าวางแผนเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจึงพาทหารยี่สิบสองคนขี่ม้าแบกน้ำมันและประทัดออกไปจากประตูเมืองโดยแสร้งทำเป็นได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ออกมาโจมตี…
สายลับซีเหลียงที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของเมืองเจียงจือเห็นประตูเมืองถูกเปิดออกจึงส่งทหารคนหนึ่งกลับไปรายงาน หลายวันมานี้ต้าโจวจงใจก่อกวนซีเหลียงเช่นนี้ทุกวัน
ทว่า ทหารซีเหลียงยังไม่ทันกลับไปรายงานให้ซีเหลียงรับรู้ พอลุกขึ้นยืนกลับถูกธนูที่พุ่งตรงมาจากทิศใดบนกำแพงเมืองก็ไม่รู้ยิงเข้าที่หน้าอก ทหารซีเหลียงผู้นั้นสิ้นใจทันทีโดยไม่มีโอกาสส่งเสียงร้องสักนิด
หลายวันมานี้ซีเหลียงถูกแกล้งจนเกือบกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว ทหารซีเหลียงที่เมื่อครู่ไม่ได้ใส่ใจสักเท่าใดนักตื่นตัวขึ้นมาทันที เขาเงยหน้ามองไปทางกำแพงเมืองเจียงจืออย่างกลั้นลมหายใจ เขาได้ยินเสียงแหบห้าวของแม่ทัพต้าโจวที่อยู่บนกำแพงเมืองกำลังตะโกนลั่น
“เร็วๆ รีบตั้งสติให้มั่น คืนนี้พวกเราจะบุกโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงเพื่อทำลายขวัญกำลังใจของพวกมัน เร็ว!”
สายลับซีเหลียงค่อยๆ ถอยห่างออกจากระยะยิงธนู เมื่อถอยพ้นจึงรีบตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น “ต้าโจวจะบุกโจมตีค่ายทหารแล้ว ต้าโจวจะบุกโจมตีแล้ว!”
ขณะที่สายลับซีเหลียงกำลังตะโกนสุดเสียง ตู้ซานเป่ากำลังพาทหารขี่ม้าโยนประทัดและคบเพลิงเข้าไปกลางค่ายทหารของซีเหลียง
เมื่อทหารต้าโจวโยนน้ำมัน คบเพลิงและประทัดเข้าไปในค่ายทหารของซีเหลียงเสร็จพวกเขาจึงรีบมุ่งหน้ากลับเมืองเจียงจือทันที
ไฟลุกโหมขึ้นกลางค่ายทหารซีเหลียง เสียงประทัดดังขึ้นอย่างรุนแรงจนม้าศึกของซีเหลียงตกใจ จากนั้นไม่นานค่ายทหารทั้งสี่ทิศของซีเหลียงเต็มไปด้วยเพลิงไฟ
ก่อนตู้ซานเป่าจะเดินทางออกจากเมืองเขาบอกแม่ทัพคุ้มกันประตูไว้แล้วว่าให้รอเปิดประตูให้พวกเขา ตู้ซานเป่าเคยทำงานให้ไป๋ชิงเหยียนมาก่อน อีกทั้งเขายืนกรานว่ากำลังออกไปทำภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายแม่ทัพคุ้มกันประตูจึงไม่กล้าห้ามไม่ให้ตู้ซานเป่าออกจากเมือง ทว่า เขารีบนำข่าวนี้ไปรายงานให้หลิ่วผิงเกาทราบทันที
เมื่อหลิ่วผิงเกาซึ่งนอนอยู่บนเตียงได้ยินจึงผุดลุกขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจ เขารีบสวมรองเท้าและเดินออกไปด้านนอกทันทีโดยที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย
“พวกตู้ซานเป่าไปแล้วอย่างนั้นหรือ! พวกเจ้าปล่อยให้พวกนั้นออกไปจากเมืองทั้งอย่างนั้นหรือ!”
“แม่ทัพตู้ยืนกรานจะออกไปให้ได้ เขาบอกว่าได้รับภารกิจจากฝ่าบาท ไม่ให้พวกข้าซักถามเรื่องที่ไม่ควรถาม พวกข้ารั้งไว้ไม่อยู่ขอรับ” แม่ทัพคุ้มกันเมืองกล่าวอย่างลำบากใจ
หลิ่วผิงเกานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ตู้ซานเป่าต้องพาคนบุกไปโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงแน่ ตู้ซานเป่าผู้นี้กล้าพาทหารแค่ยี่สิบกว่านายบุกไปโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงอย่างนั้นหรือ! ช่างบ้าบิ่นเกินไปแล้ว ถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพคุ้มกันทุกประตูรีบเปิดประตูเมืองให้พวกเขากลับเข้ามาในเมืองทันทีที่เห็นพวกเขา”
“ท่านแม่ทัพจะไปทูลให้ฝ่าบาททราบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพคุ้มกันเมืองถาม