สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1253 สัญลักษณ์ของแคว้นยิ่งใหญ่
ตอนที่ 1253 สัญลักษณ์ของแคว้นยิ่งใหญ่
แค่หลี่เทียนฟู่บอกว่านางอยากเรียนการเต้นรำ เสด็จพ่อและเสด็จแม่ก็เชิญครูสอนเต้นรำที่เก่งที่สุดในซีเหลียงมาสอนนางเพื่อให้นางมีความสุข!
หลี่เทียนฟู่บอกว่าอยากเรียนศิลปะการต่อสู้ เสด็จพ่อก็เชิญทหารกล้าที่เก่งที่สุดในซีเหลียงมาสอนนาง
แล้วนางเล่า นางคือบุตรสาวคนโต ตอนที่นางบอกว่านางอยากเรียนการเต้นรำเสด็จพ่อกลับบอกกับนางว่าวันหนึ่งนางต้องแบกรับหน้าที่ที่หนักอึ้งของซีเหลียง นางไม่ควรเลือกเรียนแต่สิ่งที่นางอยากเรียน
หลี่เทียนเจียวอยากเรียนศิลปะการต่อสู้ให้เก่งกาจเหมือนหลี่เทียนฟู่ เสด็จพ่อกลับบอกนางว่านางมีคนคอยปกป้องอยู่แล้ว แค่เรียนให้ป้องกันตัวได้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับมันมากเกินไป นางควรเอาเวลาไปศึกษาประวัติศาสตร์ของแคว้นดีกว่า
นางรักน้องสาวของตัวเอง ขณะเดียวกันก็อิจฉาน้องสาวเช่นเดียวกัน ดังนั้นนางจึงพยายามรักและเอ็นดูน้องสาวของนางให้มากที่สุด ให้หลี่เทียนฟู่เติบโตมาอย่างไร้ความกังวล ให้นางเป็นองค์หญิงที่มีความสุขที่สุดของซีเหลียงตลอดไป เหมือนกับว่าแค่เห็นน้องสาวมีความสุขนางก็พลอยมีความสุขไปด้วยเหมือนกัน
หลี่เทียนเจียวคิดถึงตรงนี้ก็ส่ายหน้าเล็กน้อย นางพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองคิดถึงเรื่องเหล่านี้อีก คิดเสียว่าน้องสาวที่สังหารได้แม้กระทั่งมารดาของตัวเองเพื่อบัลลังก์ตายไปพร้อมกับมารดาในตอนนั้นแล้วก็แล้วกัน
มันผิดตั้งแต่ตอนที่เสด็จแม่ส่งหลี่เทียนฟู่ไปแต่งงานเชื่อมไมตรีแล้ว
หากนางและเสด็จแม่ไม่ส่งหลี่เทียนฟู่ไปแต่งงานเชื่อมไมตรี ให้นางอยู่แต่ในซีเหลียงและหาราชบุตรเขยให้นาง ให้นางใช้ชีวิตอยู่กับลู่เทียนจัวตามที่นางต้องการ บางทีพวกนางสองพี่น้องอาจไม่ต้องเดินมาถึงจุดที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้เช่นนี้
ตอนนี้ต้าโจวบุกโจมตีเมืองของซีเหลียงได้อย่างง่ายดายเป็นเพราะหลี่เทียนฟู่อยู่ในกำมือของพวกเขา
ก่อนหน้านี้หลี่เทียนฟู่ได้ขึ้นครองบัลลังก์เพราะการสนับสนุนจากแคว้นเทียนเฟิ่ง ส่วนนางหลี่เทียนเจียวกลายเป็นคนบาปที่ชักนำแคว้นเทียนเฟิ่งเข้ามาในแคว้นซีเหลียง
ตอนนี้คนซีเหลียงและแม่ทัพคุ้มกันเมืองซีเหลียงมากมายต่างคิดว่าหลี่เทียนฟู่ธิดาองค์รองของจักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงร่วมมือกับต้าโจวขับไล่แคว้นเทียนเฟิ่งออกไปจากซีเหลียง หลี่เทียนฟู่คือวีรสตรีที่ช่วยขับไล่เทียนเฟิ่งออกไปจากซีเหลียง ดังนั้นพวกเขาจึงยินดีเข้าร่วมกับหลี่เทียนฟู่โค่นล้มคนบาปอย่างนางลงจากบัลลังก์ของซีเหลียง
หากไม่ใช่เพราะนางเชิญแม่ทัพชราชุยซานจงออกมาทำสงครามด้วยตัวเองได้ นางคงไม่มีกองกำลังเหมือนอย่างตอนนี้ ทว่า นี่คือกองกำลังชุดสุดท้ายของซีเหลียงแล้ว
นางหวังว่าไป๋ชิงอวี๋จะคือความหวังสุดท้ายของซีเหลียง
นางจำคำกล่าวของหลี่จือเจี๋ยที่จับมือนางไว้ก่อนสิ้นใจได้ดี เขากล่าวว่าหากไม่มีหนทางจริงๆ ให้นางยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจวเพื่อที่อย่างน้อยซีเหลียงจะได้ดำรงอยู่ต่อไปได้!
หลี่จือเจี๋ยคิดว่าต้าเยี่ยนที่มีจักรพรรดิที่อ่อนเยาว์ ไทเฮาและผู้สำเร็จราชการที่จ้องแต่จะโค่นล้มบัลลังก์เช่นนั้นไม่น่าเป็นแคว้นที่สามารถรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้
ตระกูลไป๋ของต้าโจวเป็นตระกูลที่มีแต่ความสามัคคี ทหารและชาวบ้านมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน นี่คือสัญลักษณ์ของแคว้นยิ่งใหญ่ที่สามารถขึ้นเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าได้!
ต่อมาหลี่จือเจี๋ยเริ่มกล่าวถ้อยคำเลอะเลือน เขากล่าวว่าหากรู้เช่นนี้คงยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจวตั้งแต่แรก เช่นนี้ทหารจะได้ไม่ต้องเสียชีวิตไปโดยสูญเปล่า
หลี่จือเจี๋ยหวังว่าชาติหน้าเขาจะได้เห็นใต้หล้าที่สงบสุข ไม่มีสงครามอีกต่อไป
เมื่อนึกถึงการตายของหลี่จือเจี๋ยขอบตาของหลี่เทียนเจียวแดงก่ำ นางสูดลมหายใจเข้าปอดลึก จากนั้นเดินออกไปจากตำหนักที่ไป๋ชิงอวี๋นอนพักอยู่
ไป๋ชิงอวี๋นอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียงไม้แกะสลักสีทองงดงาม ธูปหอมบนแท่นสูงข้างเตียงของไป๋ชิงอวี๋ดับลงชั่วขณะ จากนั้นส่งกลิ่นหอมขึ้นอีกครั้ง
เซียวรั่วไห่กระโดดลงมาจากคานหลังคาอย่างเงียบเชียบ เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนที่วางเท้า จากนั้นล้วงหยิบขวดยาสีขาวออกมาจากอก เขาเทยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วยัดใส่ปากของไป๋ชิงอวี๋ จากนั้นรออยู่อย่างสงบ
ไม่นานไป๋ชิงอวี๋ซึ่งนอนอยู่บนเตียงจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขาขมวดคิ้วแน่นพลางเอื้อมมือไปกุมหน้าอกของตัวเองไว้ เขาลุกขึ้นนั่งพลางมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง
เซียวรั่วไห่กล่าวเสียงเบาหวิว “คุณชายห้า ข้าสืบได้เรื่องแล้วขอรับ แผนที่เมืองอวิ๋นจิงและวังหลวงของอวิ๋นจิงไม่แตกต่างจากที่คุณชายเก้าวาดให้สักเท่าใดนัก ทว่า อาจเป็นเพราะคุณชายเก้าเคยลอบเข้ามาปลงพระชนม์จักรพรรดิของซีเหลียง บางตำแหน่งในวังหลวงจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อยขอรับ ข้าสืบเรื่องทุกอย่างรวมถึงเวลาผลัดเปลี่ยนเวรเฝ้าประตูเมืองจนรู้แน่ชัดแล้วขอรับ”
เซียวรั่วไห่กล่าวพลางล้วงหยิบแผนที่หนังแกะของเมืองอวิ๋นจิงและวังหลวงออกมาจากอก เขาทำสัญลักษณ์ทุกอย่างบนแผนที่ไว้อย่างละเอียด แม้กระทั่งทางหนีจำพวกหลุมหมาที่แม้แต่หลี่เทียนเจียวก็คงไม่รู้ว่ามีอยู่
ไป๋ชิงอวิ๋นเป็นคนมอบแผนที่ของเมืองอวิ๋นจิงและวังหลวงให้พวกเขาก่อนกองทัพใหญ่ออกเดินทาง
ไป๋ชิงอวี๋พยายามข่มความทรมานจากการเพิ่งฟื้นคืนสติไว้ เขามองไปที่แผนที่ที่เซียวรั่วไห่กางออกพลางคลี่ยิ้มออกมา เขารู้มาโดยตลอดว่าหรู่ซยงของพี่หญิงมีความสามารถ ท่านพ่อก็เคยบอกเขาเช่นเดียวกัน ทว่า เขาไม่คิดว่าเซียวรั่วไห่จะเก่งถึงเพียงนี้
“ต่อไปพวกเราต้องหาเสื้อผ้าของคนซีเหลียงมาเตรียมไว้ จากนั้นปล่อยตัวทหารกองทัพไป๋ออกมาจากคุกอย่างเงียบเชียบ เราบุกเข้าไปในคุกได้ง่ายหรือไม่” ไป๋ชิงอวี๋ถาม
“พอได้ขอรับ ข้าได้รับความช่วยเหลือจากคนของคุณหนูสามที่นางทิ้งไว้ในซีเหลียงจึงไปสำรวจคุกหลวงมาแล้วครั้งหนึ่ง ทหารกองทัพไป๋ของพวกเราพอกล่าวภาษาซีเหลียงได้นิดหน่อย ทว่า หากมากเกินไปอาจถูกจับพิรุธได้ขอรับ” เซียวรั่วไห่กล่าว
“ดีแล้ว พวกเราจะเริ่มลงมือในวันพรุ่งนี้!” ไป๋ชิงอวี๋ชี้ไปยังตำแหน่งคลังเสบียงและคลังอาวุธในแผนที่ “ให้คนจุดไฟเผาสองตำแหน่งนี้ก่อน จากนั้นค่อยไปเผาคลังเสบียงอื่นๆ ที่แม่ทัพชราชุยซ่อนไว้ ขณะเดียวกันให้สหายกองทัพไป๋ของพวกเราเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดของซีเหลียงแสร้งทำเป็นไล่ตามจับทหารกองทัพไป๋ที่หนีออกไปได้ร่วมกับทหารของซีเหลียง”
“เช่นนั้นพวกเราต้องส่งชุดซีเหลียงเข้าไปให้ทหารเหล่านั้นก่อน เรื่องนี้ค่อนข้างเสี่ยง…” เซียวรั่วไห่มีสีหน้ากังวล “หากส่งชุดเข้าไปคนของคุณหนูสามอาจถูกจับได้!”
“นี่คือการทดสอบความสามารถของคนของคุณหนูสาม! บอกพวกเขาว่านี่คือสงครามชี้ชะตาครั้งสุดท้าย ให้พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถ ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้นห้ามล้มเหลวเด็ดขาด ที่สำคัญห้ามเปิดเผยตัวตนเด็ดขาด หากทำสำเร็จพวกเขาจะเป็นคนที่มีความดีความชอบยิ่งใหญ่ในการทำลายล้างอวิ๋นจิง”
“ขอรับ” เซียวรั่วไห่รับคำ เมื่อเห็นสีหน้าทรมานของไป๋ชิงอวี๋เซียวรั่วไห่จึงหยิบยาขวดสีน้ำตาลออกมาจากอก “คุณชายห้าทานยานี่ก่อนขอรับ…”
ไป๋ชิงอวี๋โบกมือ “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปหมอหลวงคงมาตรวจอาการข้าบ่อยขึ้น ยิ่งชีพจรเต้นสับสนเท่าใดยิ่งดี เจ้าไปทำตามแผนก่อนเถิด บดยาใส่ลงไปในยาที่พวกเขาเตรียมให้ข้าดื่มก็พอ”
หากใส่เม็ดยาลงไปในหม้อต้มยา ขอเพียงยาต้มสุกประสิทธิภาพของยาตัวนี้ก็จะรวมอยู่ในยาหม้อนั้นด้วย
เซียวรั่วไห่กลัวว่ายาของหมอหงจะมีฤทธิ์ต่อต้านยาของซีเหลียงจึงกล่าวขึ้นเสียงเบา “ทว่า หากยาเม็ดนี้ทำปฏิกิริยากับยาของซีเหลียงอาจเป็นอันตรายได้นะขอรับ ข้าป้อนคุณชายห้าเองดีกว่าขอรับ”
“อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เลย! เจ้าไปทำเรื่องที่สำคัญกว่าเถิด” ไป๋ชิงอวี๋มองเซียวรั่วไห่ “เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยเจ้าก็หนีออกไปทางแม่น้ำหู้เฉิงได้เลย ไปบอกพี่ชายสามให้เขานำทหารไปยังประตูทิศเหนือตามเวลาที่เจ้ากำหนด!”