สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 127 ความแค้น
ตอนที่ 127 ความแค้น
หมอขาอ่อนในทันที คุกเข่าลงก้มศีรษะแนบพื้นพลางร้องไห้ “ไม่เกี่ยวกับข้านะขอรับ! คุณหนูใหญ่ ไม่เกี่ยวกับข้าจริงๆ ขอรับ จู่ๆ ข้าก็ถูกเชิญมาที่นี่ ข้าบอกไปแล้วว่าข้ารักษาไม่ได้ ทว่า หมัวมัวของจวนท่านกล่าวว่าแค่มาพอเป็นพิธีก็พอ อย่างไรเขาก็ต้องตายอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้วอย่างนั้นหรือ!
ไป๋ชิงเหยียนจับขอบเก้าอี้แน่น ตัวเย็นวาบ มีคนต้องการชีวิตของจี้ถิงอวี๋อย่างนั้นหรือ!
เพราะจี้ถิงอวี๋นำม้วนไม้ไผ่บันทึกสถานการณ์รบกลับมา หรือเพราะเหตุผลอื่นกันแน่!
เล็บของหญิงสาวแทบจิกทะลุเก้าอี้ไม้ สีหน้าเดือดดาล ตวาดเสียงสูง “ไปสืบมาว่าวันนี้หมัวมัวคนใดพาหมอผู้นี้มาที่จวน! สืบได้แล้วจับตัวมาให้ข้าด้วย! หากไม่ยอมมาก็ตีให้ตายแล้วลากศพมาให้หมอผู้นี้ยืนยันตัวตน!”
“ขอรับ!” องครักษ์คนหนึ่งรับคำแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวกวาดสายตามองไปยังจี้หลิ่วซื่อที่ยืนตัวสั่นหลบอยู่มุมหนึ่งอย่างอดไม่ได้ “จี้หลิ่วซื่อ…”
จี้หลิ่วซื่อรีบคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ ข้าไม่รู้เรื่องอันใดทั้งสิ้นเจ้าค่ะ!”
“เจ้ากับข้าไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน แต่กลับรู้ว่าข้าคือคุณหนูใหญ่…” สายตาของไป๋ชิงเหยียนสงบและเยือกเย็นราวกับถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง “ข้าขอถามเจ้าสักหน่อย วันนี้ตอนที่จวนส่งคนไปรับตัวลูกอนุผู้นั้นมาจากหมู่บ้าน เกิดเรื่องอันใดขึ้นบ้างหรือไม่”
จี้หลิ่วซื่อก้มหน้างุด สายตาลอกแลกด้วยความหวาดกลัว เอ่ยตอบเสียงเบาหวิว “เรียนคุณหนู มิมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเจ้าค่ะ…”
ไป๋ชิงเหยียนพยายามควบคุมท่าทีของตัวเองที่มีต่อจี้หลิ่วซื่อเพราะเห็นแก่จี้ถิงอวี๋แล้ว “เจ้าจงคิดดูให้ดี หมัวมัวข้างกายของข้าไปสอบถามแล้ว หากหมัวมัวกลับมารายงานแล้วไม่ตรงกับสิ่งที่เจ้ากล่าว เจ้ารู้ผลลัพธ์ของมันหรือไม่”
“คุณหนูใหญ่ ข้าเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง หมัวมัวที่หมู่บ้านบอกให้ข้าตามมาดูแลสามีของข้า ข้าจึงมาเจ้าค่ะ! ข้าไม่รู้เรื่องอันใดทั้งสิ้นเจ้าค่ะ!”
แววตาที่ไป๋ชิงเหยียนใช้มองจี้หลิ่วซื่อเย็นชายิ่งกว่าเดิม นางค่อยๆ เอนกายพิงเก้าอี้ “ส่งคนไปรออยู่หน้าประตูเรือนชิงฮุย หากเห็นถงหมัวมัวจงพานางมาที่นี่ทันที สั่งให้ชุนซิ่งสาวใช้ใหญ่ของข้านำเตาอุ่นมือมาให้ข้าด้วย คืนนี้ยังอีกยาวไกล!”
จี้หลิ่วซื่อตัวเย็นวาบ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
ไม่นานถงหมัวมัวและชุนซิ่งก็เดินเข้ามา ชุนซิ่งทำความเคารพแล้วรีบยื่นเตาอุ่นมือให้ไป๋ชิงเหยียน
“เจ้าเข้าไปเฝ้าจี้ถิงอวี๋ไว้ เขี่ยถ่านในเตาผิงให้สว่างสักหน่อย” หญิงสาวรับเตาอุ่นมือมาแล้วเอ่ยสั่งชุนซิ่ง
“เจ้าค่ะ!” ชุนซิ่งรับคำแล้วรีบแหวกม่านเดินเข้าไปด้านใน
“หมัวมัวสอบถามเจี่ยงหมัวมัวได้เรื่องหรือไม่” หญิงสาวมองถงหมัวมัว
“ได้เรื่องแล้วเจ้าค่ะ” ถงหมัวมัวรีบเดินไปหยุดอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน “เจี่ยงหมัวมัวกล่าวว่าองค์หญิงใหญ่สั่งให้มารดาของบุตรอนุผู้นั้นรออยู่ที่หมู่บ้าน ทว่า บุตรอนุผู้นั้นไม่ยอม อาละวาดไม่ยอมขึ้นรถม้ากลับมาเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางจี้หลิ่วซื่อ “จี้หลิวซื่อ เจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่”
จี้หลิ่วซื่อหมอบกายต่ำลงกว่าเดิม “ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินคำตอบเช่นนี้ก็เม้มปากแน่น ไม่เอ่ยถามสิ่งใดอีก
โคมไฟสีขาวแกว่งไปมาอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ในเรือนมีผู้คนยืนอยู่มากมาย ทว่ากลับเงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมพัด
จู่ๆ ก็มีแสงไฟพุ่งมาทางประตูเรือนที่เปิดอ้าอยู่ หญิงสาวลุกขึ้นยืนในทันที นางเห็นหลูผิงแบกท่านหมอหง องครักษ์แบกท่านหมอหลวงหวงวิ่งตามมาด้านหลังตรงเข้ามายังเรือน
วินาทีที่มองเห็นคน ใจที่เป็นกังวลของหญิงสาวค่อยๆ คลายลง นางก้าวไปรอต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูเรือน “ท่านหมอหง! รีบไปดูอาการของจี้ถิงอวี๋เถิดเจ้าค่ะ!”
หมอหงลงมาจากหลังของหลูผิงที่ยืนหอบอยู่ เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนที่ใบหน้าขาวซีดยืนอยู่ด้วย เขารีบยกมือคำนับแล้วเดินตามไป๋ชิงเหยียนเข้าไปด้านใน “คุณหนูใหญ่ จี้ถิงอวี๋เป็นอันใดไปขอรับ! เหตุใดจึงสลบไปเช่นนี้ ตอนข้าจากไปเขายังดีๆ อยู่เลยนะขอรับ!”
หมอหลวงหวงที่ถูกองครักษ์หนุ่มแบกมาก็ลงมาจากหลังขององครักษ์เช่นเดียวกัน เขาโดนกระแทกกระทั้นมาตลอดทาง หมวกขุนนางที่สวมอยู่บิดเบี้ยวไปหมด เขาไม่มีเวลาสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง ขยับหมวกให้ตรง รับกล่องยามาจากองครักษ์แล้วเดินตามเข้าไปด้านในทันที
เมื่อเห็นว่าหมอหลวงมาแล้ว หมอผู้นั้นยิ่งตกใจจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ใบหน้าขาวซีดไม่มีแม้แต่สีเลือด
หมอหงเดินเข้าไปด้านใน รีบถลาเข้าไปจับชีพจรของจี้ถิงอวี๋ในทันทีโดยไม่คิดจะนั่งพัก เมื่อมือจับโดนชีพจร…สีหน้าของหมอหงขาวซีดในทันที “เหตุใดจึงถูกวางยาพิษได้”
“ว่าอย่างไรนะ! โดนวางยา! ยาพิษอันใดกัน!” หมอหลวงหวงที่เดินเข้ามาทีหลังรีบวางกล่องยาลงแล้วถลาเข้าไปทันที พลิกสำรวจดวงตาของจี้ถิงอวี๋ จากนั้นเปิดปากตรวจดูลิ้นของเขา เข้าไปใกล้เพื่อดมลมหายใจของจี้ถิงอวี๋
“อีรื่อเหมียน!”
“อีรื่อเหมียน!”
อีรื่อเหมียน ยาพิษชนิดนี้แปลกเหมือนชื่อของมัน เมื่อโดนยาพิษชนิดนี้เข้าไปจะเสียชีวิตภายในหนึ่งวัน ยาพิษชนิดนี้เป็นยาพิษที่ไม่รุนแรง ผู้ที่โดนวางยาจะค่อยๆ หลับและเสียชีวิตลงในความฝัน
“น่าจะใช้ยาพิษเพียงนิดเดียว เขาโดนวางยาไม่มากและพบเร็ว มิเช่นนั้นปากคงเปลี่ยนสีแล้ว เจ้าไปเขียนสูตรยา ข้าจะฝังเข็ม!” หมอหงกล่าวกับหมอหลวงหวง
สมองของไป๋ชิงเหยียนขาวโพลน จี้ถิงอวี๋เกิดเรื่องขึ้นในจวนไป๋ ภายใต้ความคุ้มครองของนางเช่นนั้นหรือ
หญิงสาวขบกรามแน่น ทำความเคารพหมอหงและหมอหลวงหวงอย่างนอบน้อม “ฝากท่านทั้งสองดูแลทางนี้ด้วยนะเจ้าคะ ชุนซิ่ง พวกเจ้าคอยรับใช้ท่านหมอหงและท่านหมอหลวงหวงอยู่ที่นี่ ลุงผิงออกไปสืบสวนหมอผู้นั้นกับข้า!”
กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนซึ่งร่างเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตจับมือถงหมัวมัวเดินออกไปจากห้อง
องครักษ์ที่ไปสืบว่าหมัวมัวผู้ใดเป็นคนพาหมอผู้นี้เข้ามาในจวนเจิ้นกั๋วกงเดินเข้ามาในเรือน ยกมือกำหมัดคาราวะไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ ฉีหมัวมัวเป็นคนพาหมอผู้นี้เข้ามาในจวนขอรับ ครอบครัวของฉีหมัวมัวเกิดเรื่องขึ้นเลยไม่อยู่ที่จวนขอรับ จะให้คนไปจับตัวมาหรือไม่ขอรับ”
เมื่อถงหมัวมัวได้ยินชื่อฉีหมัวมัวก็รีบบอกกับไป๋ชิงเหยียน “ฉีหมัวมัวเป็นคนไปรับตัวบุตรอนุผู้นั้นมาจากหมู่บ้านในวันนี้เจ้าค่ะ นางเป็นคนกลับมารายงานองค์หญิงใหญ่ก่อนรอบหนึ่ง จากนั้นก็พาภรรยาของ
จี้ถิงอวี๋เข้ามาที่จวนเจ้าค่ะ ตอนที่บ่าวไปสอบถาม ทางเรือนนอกก็กล่าวว่าครอบครัวของฉีหมัวมัวเกิดเรื่องเจ้าค่ะ”
ฉีหมัวมัว บุตรอนุ เรือนฉางโซ่ว องค์หญิงใหญ่
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องทุกอย่างเข้าด้วยกัน ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ!
ฉีหมัวมัวจะมีความแค้นอันใดกับจี้ถิงอวี๋จนถึงขนาดอยากได้ชีวิตของจี้ถิงอวี๋กัน!
แล้วท่านย่าของนางเล่า! เหตุใดท่านต้องฆ่าจี้ถิงอวี๋ที่มีบุญคุณกับตระกูลไป๋ด้วย!
เมื่อนึกถึงการกระทำทั้งหมดขององค์หญิงใหญ่ ใจที่เดิมทีสงบลงแล้วของไป๋ชิงเหยียนเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง มือสั่นเทาอย่างรุนแรง
แววตาเยือกเย็นสงบนิ่งของหญิงสาวจ้องไปยังหมอที่คุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่กลางเรือน “เจ้าเป็นคนนำอีรื่อเหมียนมาอย่างนั้นหรือ”
หมอเอาแต่โขกศีรษะลงบนพื้นอย่างหวาดกลัว “คุณหนูใหญ่โปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ! ตอนที่ข้ามาถึงเขาก็เป็นเช่นนั้นแล้วขอรับ! คุณหนูใหญ่ได้โปรดตรวจสอบอย่างละเอียดด้วยขอรับ! ข้า…ข้าเพียงแค่มาตรวจพอเป็นพิธีเท่านั้นขอรับ หมัวมัวของจวนท่านทราบเรื่องนี้ดีขอรับ!”
หญิงสาวข่มโทสะเอาไว้ กวาดสายมองไปทางจี้หลิ่วซื่อที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่ เค้นถามเสียงรอดไรฟัน “หักนิ้วมือของหมอผู้นี้ทีละข้อ หากเขายังไม่ยอมบอกความจริง ก็ทุบกระดูกทุกส่วนบนร่างกายเขาให้แหลกละเอียดไปเลย ทุบตรงกลางลานหญ้านี่เลย”
หลูผิงเดินเข้าไปถีบหมอผู้นั้นจนล้มลงบนพื้น เขาเหยียบลงบนแผ่นหลังของหมอผู้นั้น “ลงมือ!”