สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 128 ไม่มีทางพลาด
ตอนที่ 128 ไม่มีทางพลาด
“คุณหนูใหญ่โปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ! โปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ!” หมอผู้นั้นตะโกนร้อนออกมาอย่างหวาดกลัว ทว่า แผ่นหลังถูกหลูผิงเหยียบไว้จนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
องครักษ์สองคนรีบสาวเท้าตรงเข้าไปกดมือทั้งสองข้างของหมอผู้นั้นไว้ องครักษ์อีกคนถือก้อนหินไว้ในมือ ง้างขึ้นแล้วทุบลงไปอย่างแรง
เสียงกระดูกหัก และเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเจียนตายของหมอผู้นั้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของจวนเจิ้นกั๋วกง
จี้หลิ่วซื่อตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง ขดกายอยู่ตรงนั้น แม้ร้องไห้ก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมา ร่างแทบจมอยู่ในกองน้ำตา
หมอผู้นั้นร้องไห้พลางตะโกนออกมา “คุณหนูใหญ่โปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ! ข้ายอมแล้วขอรับ ข้ามิได้เป็นคนวางยาพิษนั่น! ตอนข้ามาถึงคนผู้นั้นสลบไปแล้วขอรับ ข้านึกว่าแค่อยู่เฝ้าเขาจนตายก็พอแล้ว ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเขาโดนวางยาขอรับ! ข้าสาบานต่อฟ้าดิน หากข้าโกหกขอให้ข้ามิตายดี! สิ่งที่ข้ากล่าวมาคือความจริงทั้งหมดขอรับ!”
จู่ๆ หมอผู้นั้นก็จ้องไปยังจี้หลิ่วซื่อแล้วตะโกนออกมาราวกับมองเห็นความหวังสุดท้าย
“สตรีผู้นั้นขอรับ! คือนางผู้นั้นขอรับ ก่อนที่หมัวมัวที่มาส่งข้าที่นี่จะจากไป ข้าได้ยินหมัวมัวกล่าวกับนางผู้นั้นว่ารอให้เขาตายอันใดสักอย่างนี่แหล่ะขอรับ ข้าได้ยินไม่ถนัด! นางผู้นั้นต้องเป็นคนวางยาแน่นอนขอรับ ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ นะขอรับ!”
แววตาเยือกเย็นของไป๋ชิงเหยียนกวาดมองไปยังจี้หลิ่วซื่อ “จี้หลิ่วซื่อ…”
เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกนาง จี้หลิ่วซื่อตัวเย็นวาบไปทั้งร่าง
“คุณหนูใหญ่โปรดตรวจสอบด้วยเจ้าค่ะ ข้ามิได้เป็นคนวางยา! ข้า…ข้ายอมตายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเจ้าค่ะ!”
กล่าวจบ จี้หลิ่วซื่อดึงปิ่นปักผมออกมาจากผมของตัวเองหวังจะฆ่าตัวตาย
ถงหมัวมัวตะลึง “รีบห้ามนาง!”
องครักษ์เตะปิ่นปักผมในมือของจี้หลิ่วซื่อจนกระเด็ดออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นกุมตัวจี้หลิวซื่อเอาไว้
สีหน้าของไป๋ชิงเหยียนเย็นชายิ่งกว่าเดิม
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่กลัวตายจริงๆ…แต่กลัวจะตายทั้งเป็นมากกว่า!”
หญิงสาวค่อยๆ สงบลง ในเมื่อรู้ว่าจี้หลิ่วซื่อผู้นี้ไม่ได้รักจี้ถิงอวี๋ นางก็ไม่จำเป็นต้องออมมือเพราะเห็นแก่จี้ถิงอวี๋อีกต่อไป
จี้หลิ่วซื่อตัวสั่นเทาราวกับลูกนก มองดูปิ่นปักผมที่โดนเตะกระเด็นไปไกล น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย
ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้ “จี้ถิงอวี๋เป็นสามีของเจ้า เหตุใดเจ้าต้องทำร้ายเขาด้วย หากเจ้าไม่ยอมสารภาพ ข้าย่อมมีวิธีทำให้เจ้ายอมสารภาพออกมา ตอกตะปูลงบนนิ้วมือนิ้วเท้าของเจ้า นิ้วทั้งสิบเชื่อมต่อกับหัวใจ แม้แต่บุรุษยังทนไม่ไหว เจ้าอยากลองสักหน่อยหรือไม่”
ร่างของจี้หลิ่วซื่ออ่อนระทวยในทันที นางรู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง รู้สึกเหมือนเลือดในร่างกายจับตัวกันเป็นก้อน
นางลำคอตีบตัน ร้องไห้พลางคลานเข้าไปแทบเท้าไป๋ชิงเหยียน
“คุณหนูใหญ่โปรดไว้ชีวิตด้วยเจ้าค่ะ! โปรดไว้ชีวิตด้วยเจ้าค่ะ! ข้า…ข้าถูกบังคับเจ้าค่ะ ที่จริงแล้วข้าไม่ใช่จี้หลิวซื่อ ข้าชื่ออวี้เหลียนเป็นลูกอนุของหวังวั่นเกิงจากหมู่บ้านเจ้าค่ะ พ่อของข้าใช้ชีวิตแม่ของข้ามาขู่ข้า สั่งให้ข้าปลอมตัวเป็นจี้หลิ่วซื่อ เมื่อจี้ถิงอวี๋ตายก็ให้ฆ่าตัวตายตามไป หากข้าไม่ทำตามแม่ของข้าก็จะตาย คุณหนูใหญ่ ข้าไม่อยากตายเจ้าค่ะ แต่ข้าทนเห็นแม่ของข้าตายไปต่อหน้าต่อตามิได้เจ้าค่ะ!”
อวี้เหลียนล้วงขวดกระเบื้องสีขาวออกมาจากอกด้วยมือที่สั่นเทา
“หมัวมัวผู้นั้นมอบสิ่งนี้ให้ข้าเจ้าค่ะ! นางกล่าวว่าหากคุณหนูใหญ่มาที่นี่ก่อนพิธีเคลื่อนขบวนศพในวันพรุ่งนี้ ให้ข้าหาโอกาสป้อนยานี้ให้จี้ถิงอวี๋! คุณหนูใหญ่ ข้าสารภาพทุกอย่างหมดแล้ว ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ เจ้าค่ะ ข้าไม่ขอให้คุณหนูใหญ่ไว้ชีวิตข้า ขอเพียงคุณหนูใหญ่ให้ข้าตายอย่างสบเถิดเจ้าค่ะ! คุณหนูใหญ่ได้โปรดให้ข้าตายอย่างสบเถิดเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนรับมา ดวงตาคมกริบจ้องยังขวดยานั้นนิ่งๆ กระชับมือแน่น กล่าวขึ้น “จี้หลิวซื่ออยู่ที่ใด!”
“จี้หลิวซื่อเสียชีวิตแล้วเจ้าค่ะ…” อวี้เหลียนร้องไห้พลางสารภาพทุกอย่างออกมาจนหมด
“คุณชายของจวนเจิ้นกั๋วกงชอบพอในตัวจี้หลิวซื่อ บีบบังคับให้จี้หลิวซื่อยอมเขา แต่ผู้ใดจะคิดว่าจี้หลิวซื่อขัดขืนไม่ไหวจึงเอาหัวโขกเสาตายอยู่ในห้องเจ้าค่ะ คุณชาย…คุณชายชำแหละร่างของนางแล้วสั่งให้คนโยนร่างของนางให้สุนัขกินเจ้าค่ะ ข้าและแม่เห็นเหตุการณ์ พ่อข้าสั่งให้ข้าแสร้งปลอมตัวเป็นจี้หลิวซื่อเพื่อปกปิดเรื่องนี้ แม่ของข้าจึงจะมีชีวิตรอด มิเช่นนั้น…พวกเราต้องตายทั้งคู่เจ้าค่ะ!”
ชั่วพริบตานั้น ไป๋ชิงเหยียนเย็นวาบไปทั้งร่าง เลือดร้อนที่เดือดพล่านจากโทสะสุมอยู่ในใจเย็นเฉียบลงในทันที มันหนาวเหน็บกว่าลมหนาวที่พัดผ่านในช่วงฤดูหนาวจนทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งเสียอีก
เพราะอย่างนี้นี่เอง ท่านย่าต้องการปกปิดเรื่องนี้แทนบุตรอนุผู้นั้น นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดจี้ถิงอวี๋จึงจำเป็นต้องตาย
ดังนั้น ในใจของท่านย่า บุตรอนุที่โหดร้ายเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานผู้นั้นสำคัญมากกว่าทหารกล้าผู้จงรักภักดีที่ยอมสละชีวิตเพื่อตระกูลไป๋อย่างนั้นหรือ!
การกระทำของท่านย่า แตกต่างอันใดกับสิ่งที่ราชวงศ์ทำกับตระกูลไป๋กัน!
ชุนเถาเดินมาถึงหน้าประตูเรือน ได้ยินคำกล่าวของอวี้เหลียน นางชะงักฝีเท้าอยู่กับที่ทันที เงยหน้ามองดูสีหน้าของไป๋ชิงเหยียนซึ่งยืนอยู่ตรงระเบียงค่อยๆ ถอดสีจนใบหน้าซีดเซียว ผู้อื่นไม่รู้ความผูกพันระหว่างไป๋ชิงเหยียนและองค์หญิงใหญ่ ทว่า นางรู้ดี
สีหน้าของไป๋ชิงเหยียนเคร่งขรึมเยือกเย็นราวกับถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง แววตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
“จับตัวอวี้เหลียน และหมอผู้นี้ไปขังไว้ในเรือน ไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามผู้ใดพาคนในเรือนนี้ออกไปทั้งสิ้น! พวกเจ้าเฝ้าเรือนนี้ไว้ให้ดี!”
กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนชักดาบออกมาจากเอวขององครักษ์ที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นเดินไปยังเรือนหน้า
“คุ้มกันเรือนนี้ไว้ให้ดี!” หลูผิงกำชับแล้วรีบเดินตามไป๋ชิงเหยียนไป เขาเดินตามไปหยุดอยู่ข้างหลังไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยโน้มน้าว
“คุณหนูใหญ่ พรุ่งนี้จะเคลื่อนขบวนศพของเจิ้นกั๋วอ๋อง เจิ้นกั๋วกงแล้ว จวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว จะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมิได้นะขอรับ ขอแค่จี้ถิงอวี๋มิเป็นอันใด ไว้ค่อยจัดการเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้เถิดขอรับ!”
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนที่ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยไอสังหารไม่สนใจคำกล่าวของหลูผิง มือถือดาบยาวเอาไว้ เม้มปากแน่นไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น เดินไปยังโถงทำพิธีอย่างรวดเร็ว
แม้จวนเจิ้นกั๋วกงจะใหญ่ ทว่า เมื่อครู่ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งสั่งให้หลูผิงนำองครักษ์ไปชิงตัวตัวคนมา ต่อมาก็ได้ยินเสียงฆ่าฟันดังออกมาจากในเรือน คนในจวนรับรู้กันทั่ว บ่าวรับใช้ สาวใช้ที่เดินผ่านไปผ่านมาตกใจกับไอสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างของไป๋ชิงเหยียน ต่างขยับหลบทางให้จนแผ่นหลังชิดกำแพง หยุดยืนมองดูไป๋ชิงเหยียน
ไป๋จิ่นถงทราบเรื่องก็รีบบึ่งไปที่เรือนในทันที ยังไม่ทันจะไปถึง มองจากระเบียงทางเดินก็เห็นไป๋ชิงเหยียนเดินถือดาบมุ่งตรงไปยังโถงทำพิธีที่อยู่บริเวณด้านหน้า
“พี่หญิงใหญ่!” ไป๋จิ่นถงกระโดดข้ามระเบียงทางเดิน วิ่งตามไป๋ชิงเหยียนไป
“พี่หญิงใหญ่จะถือดาบไปฆ่าลูกอนุผู้นั้นหรือเจ้าคะ เกิดเรื่องอันใดขึ้นเจ้าคะ”
เห็นไป๋ชิงเหยียนกำดาบแน่นจนมือขาวซีด ฝีเท้ารวดเร็วปานสายลม ไป๋จิ้นถงไม่เคยเห็นไป๋ชิงเหยียนสติหลุดเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ตอนที่ม้วนไม้ไผ่ส่งกลับมายังเมืองหลวง พี่หญิงใหญ่ก็ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เช่นนี้
ไป๋จิ่นถงจับมือที่ถือมีดดาบของไป๋ชิงเหยียน กล่าวอย่างหนักแน่น
“พี่หญิงใหญ่ ไม่ว่าพี่หญิงใหญ่จะฆ่าผู้ใด จิ่นถงจะลงมือให้เองเจ้าค่ะ ไม่มีทางทำพลาดอย่างแน่นอน!”
น้ำเสียงของไป๋จิ่นถงหนักแน่น ไป๋ชิงเหยียนมองดูสายตาที่เด็ดเดี่ยวของน้องสาว ขอบตาร้อนผ่าว
ลำคอของหญิงสาวตีบตัน นางกุมมือของไป๋จิ่นถงแน่น กัดฟันกล่าวขึ้น “เจ้ามิต้องกลัว พี่รู้ขอบเขตดี”
ไป๋ชิงเหยียนเดินถือดาบไปด้วยท่าทีเกรี้ยวกราดจนทุกคนในจวนต่างรับรู้ นางต้องการให้ท่านย่าของนาง องค์หญิงใหญ่ทราบว่านางรู้เรื่องนี้แล้ว หากท่านย่าแตะต้องจี้ถิงอวี๋อีกคงต้องข้ามศพของนางไปก่อน
ระหว่างจี้ถิงอวี๋กับบุตรอนุผู้นั้น ท่านตัดสินใจเลือกบุตรอนุผู้นั้นอย่างง่ายดาย เช่นนั้นวันนี้นางก็จะฆ่าบุตรอนุผู้นั้นด้วยตัวของนางเอง นางอยากจะรู้เหมือนกันว่าท่านย่าจะสั่งให้องครักษ์ลับมาสู้กับนางเพื่อปกป้องบุตรอนุผู้นี้หรือไม่