สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1290 ระบอบการปกครอง
ตอนที่ 1290 ระบอบการปกครอง
“ท่านพี่ พวกเราเป็นพี่น้องกัน ท่านมีสิ่งใดก็กล่าวมาตามตรงได้เลย” ไทเฮากล่าวขึ้น
“กระหม่อมขอบังอาจกราบทูล กระหม่อมกลัวว่าฝ่าบาทจะถูกปลดออกจำตำแหน่งและให้จักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์แทนอย่างที่ฝ่าบาทตรัสไว้เมื่อครู่พ่ะย่ะค่ะ”
จงสิ่งเสี่ยวกล่าวจบอย่างรวดเร็วและรีบโค้งกายคำนับขอขมาไทเฮา
ไทเฮาชะงักฝีเท้าลง นางแทบยืนทรงตัวไม่อยู่ นางกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น ใจเต้นรัวจนแทบหลุดออกมาจากอก
“ไทเฮา…” จงสิ่งเสี่ยวรีบเข้าไปประคองไทเฮา จากนั้นกล่าวเสียงเบา
“กระหม่อมคือพี่ชายของพระองค์ กระหม่อมต้องคิดเพื่อพระองค์ ไทเฮาทรงคิดดูว่าหากอาลี่ถูกปลดลงจากตำแหน่งจริง องค์ชายใหญ่จะเหมาะสมกับตำแหน่งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ขุนนางในราชสำนักสนับสนุนอ๋องเก้าค่อนข้างมาก หากไทเฮายังทรงไม่ยอมเห็นด้วยกับความคิดของฝ่าบาท ไทเฮาไม่เพียงจะหักหน้าฝ่าบาทจนคนภายนอกคิดว่าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเป็นคนไม่รักษาคำเท่านั้น หากขุนนางฝ่ายของอ๋องเก้าถือโอกาสนี้ดึงฝ่าบาทลงมาจากตำแหน่งและสนับสนุนอ๋องเก้าขึ้นนั่งบัลลังก์แทนจะเป็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
ไทเฮาได้ยินเช่นนี้ร่างจึงชาวาบไปทั้งร่าง นางกล่าวขึ้น
“ไม่มีทาง อาเหยี่ยนไม่มีทาง…”
“ไทเฮา ใจของคนเรายากแท้หยั่งถึง ต่อให้ผู้สำเร็จราชการอ๋องเก้าไม่ได้มีความคิดเช่นนี้!”
จงสิงเสี่ยวเหลือบมองไปรอบกายแวบหนึ่ง จากนั้นขยับเข้าไปใกล้ไทเฮาอีกนิด
“ถึงแม้อ๋องเก้าไม่ได้มีความคิดเช่นนี้ ทว่า ไทเฮาลองคิดดูนะพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ราชสำนักแบ่งออกเป็นฝ่ายของไทเฮาและผู้สำเร็จราชการ ขุนนางเหล่าอาจนั้นใช้เรื่องที่ฝ่าบาทนำแคว้นไปพนันกับต้าเยี่ยนเป็นข้ออ้างในการดึงฝ่าบาทลงมาจากบัลลังก์แล้วสนับสนุนผู้สำเร็จราชการขึ้นนั่งบัลลังก์แทนก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ไทฮาแทบอยากบอกความจริงเรื่องที่สามีของนางยกบัลลังก์ให้อาเหยี่ยนให้พี่ชายของตัวเองรับรู้ ทว่า นางยังไม่ลืมคำกำชับของสามีและของอาลี่ที่คอยย้ำนางอยู่ตลอดเวลาว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องที่อาเหยี่ยนคือเซียวหรงเหยี่ยนให้คนอื่นนอกเหนือจากที่รู้อยู่แล้วรู้อีกแม้แต่คนเดียว
หลักจากที่อาเหยี่ยนแต่งงานกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวในฐานะเซียวหรงเหยี่ยนและแกล้งตายเพื่อกลับมายังต้าเยี่ยน อาลี่ยิ่งกำชับนางมากกว่าเดิมว่าให้ลืมเรื่องที่มู่หรงเหยี่ยนคือเซียวหรงเหยี่ยนไปให้หมด
ไทเฮาเม้มปากแน่นไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น นางนึกถึงสายตาที่ขุนนางฝ่ายอาเหยี่ยนมองมาที่นางกับอาลี่ราวกับอยากดึงอาลี่ลงมาจากบัลลังก์และให้อาเหยี่ยนขึ้นครองบัลลังก์แทนให้ได้
แม้แต่เฝิงเย่าที่เคยรับใช้อยู่ข้างกายของสามีของนางยังย้ายไปรับใช้อาเหยี่ยนทันทีที่สามีของนางเสียชีวิต…
“ไทเฮา หากว่ากันตามจริงแล้ว กระหม่อมคิดว่าวิธีของฝ่าบาทคือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับต้าเยี่ยนในตอนนี้จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
จงสิงเสี่ยวเดินไปยังตำหนักของไทเฮาพร้อมกับไทเฮาอย่างไม่รีบร้อน
“ตอนนี้ผู้สำเร็จราชการไม่เห็นด้วยกับวิธีของฝ่าบาท กระหม่อมกลัวว่าผู้สำเร็จราชการจะถูกขุนนางเหล่านั้นเกลี้ยกล่อมจนตัดสินใจปลดฝ่าบาทลงจากบัลลังก์และขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์เองจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ด้วยอำนาจของผู้สำเร็จราชการในตอนนี้หากเขาทำเช่นนั้นขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดหยุดยั้งเขาได้พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่มีทาง…” ไทเฮาจิกเล็บลงบนฝ่ามือ
“ไทเฮาเคยตรัสกับกระหม่อมว่าทรงเชื่อพระทัยในตัวอ๋องเก้า เชื่อว่าเขารักไทเฮาและฝ่าบาท เช่นนั้นไทเฮาได้โปรดช่วยโน้มน้าวให้อ๋องเก้าเห็นด้วยกับความคิดของฝ่าบาททีเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
จงสิงเสี่ยวกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
“มิเช่นนั้นหากต้าเยี่ยนผลัดเปลี่ยนจักรพรรดิในตอนนี้เกรงว่าคงไม่เป็นผลดีต่อชาวบ้านต้าเยี่ยนแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“ทว่า หาก…หากอาเหยี่ยนไม่ตกลงจะทำเช่นไร”
จู่ๆ ไทเฮาก็เกิดไม่มั่นใจขึ้นมา หากอาเหยี่ยนเกิดคิดว่าอาลี่วู่วามเกินไป ไม่คู่ควรเป็นจักรพรรดิของต้าเยี่ยน หากเขาคิดแทนที่อาลี่ขึ้นมาจะทำเช่นไร
“ไทเฮาสามารถใช้จีโฮ่วมาโน้มน้าวอ๋องเก้าได้พ่ะย่ะค่ะ หากอ๋องเก้าไม่ยอมตกลงไทเฮาควรบอกให้เขาเชื่อใจในระบอบการปกครองของจีโฮ่วพ่ะย่ะค่ะ” จงสิงเสี่ยวนิ่งคิดครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อ “ที่สำคัญเรายังไม่รู้ว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะเห็นด้วยกับวิธีการของฝ่าบาทหรือไม่ ตอนนี้ต้าโจวแข็งแกร่งกว่าพวกเรา อีกทั้งคุมกองทัพหลักของพวกเราไว้ที่ซีเหลียงได้แล้ว ฝ่าบาทส่งคนไปยังต้าโจวเพราะต้องการแสดงให้คนทั้งใต้หล้าเห็นว่าเขาเป็นจักรพรรดิที่ยอมสละอำนาจได้เพื่อชาวบ้านของแคว้น หากต้าโจวไม่ตกลง ผู้ที่จะถูกใต้หล้าตำหนิและวิจารณ์จะกลายเป็นต้าโจวทันที ถึงเวลานั้นหากต้องทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ กำลังใจของพวกเราไม่มีทางแพ้ต้าโจวแน่นอน ชาวบ้านต้าเยี่ยนต้องร่วมมือร่วมใจกันต่อต้านต้าโจวสุดกำลังแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อฟังการวิเคราะห์ของพี่ชายจบไทเฮาจึงก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเองพลางพยักหน้าให้เล็กน้อย เงาของจี้ที่แกว่งไปมาตรงปลายเท้าของนางเหมือนกับใจของนางที่กำลังสั่นคลอนในตอนนี้
“ท่านพี่จงบอกข้ามาตามตรง หากต้าเยี่ยนและต้าโจวแข่งขันกันด้วยระบอบการปกครองขึ้นมาอย่างที่อาลี่เสนอจริงๆ ท่านคิดว่าต้าเยี่ยนหรือต้าโจวจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่”
ไทเฮาพอรู้นิสัยของไป๋ชิงเหยียนมาบ้างนางจึงอดเป็นกังวลไม่ได้
ตอนที่สามีของนางยังมีชีวิตอยู่เขาเคยกล่าวกับนางว่าคนตระกูลไป๋มีคุณธรรมสูงส่ง เป็นตระกูลที่มีคุณธรรมและซื่อสัตย์ที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเห็นมาในชีวิตนี้ ดังนั้นไทเฮากลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะเห็นด้วยกับความคิดของอาลี่
นางต้องมั่นใจว่าต้าเยี่ยนสามารถเอาชนะต้าโจวได้!
การเดิมพันครั้งนี้คือการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่เหมือนดั่งที่อาเหยี่ยนกล่าว พวกเขาเดิมพันด้วยแคว้นต้าเยี่ยนและต้าโจว ผู้ใดชนะจะได้เป็นคนครอบครองใต้หล้าแห่งนี้ ผู้ใดแพ้จะสูญสิ้นทุกอย่างทันที นางกลัว…
นางกลัวว่าหากตอนนี้นางรวบรวมความกล้าไปเกลี้ยกล่อมให้อาเหยี่ยนเห็นด้วย หากวันหน้าต้าเยี่ยนพ่ายแพ้ขึ้นมา นางไม่รู้จะมีหน้าไปพบสามีที่รักของนางหลังจากนางตายไปแล้วได้อย่างไร
น้ำตาอของไทเฮาคลออยู่ในดวงตา นางมองไปทางพี่ชายของตัวเองเป็นพักๆ หวังจะได้คำตอบที่แน่ชัดจากพี่ชายของตน
จงสิงเสี่ยวคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นกล่าวขึ้น
“ระบอบการปกครองของต้าเยี่ยนในตอนนี้คือระบอบการปกครองของจีโฮ่ว ตอนที่พวกเรานำการปกครองนี้มาใช้มันสามารถทำให้ชาวบ้านมั่งคั่งขึ้นในระยะเวลาอันสั้นได้จริง”
“ส่วนต้าโจว…” จงสิงเสี่ยวคิดต่อพลางกล่าวขึ้น “สายลับของพวกเรารายงานระบอบการปกครองใหม่ของต้าโจวมาให้พวกเรารับรู้ไม่ขาดสาย แม้กระหม่อมจะไม่ได้สนใจมากนัก ทว่า ก็เคยอ่านผ่านตาอยู่บ้าง กระหม่อมคิดว่าแม้ระบอบการปกครองใหม่ของต้าโจวจะดูน่าสนใจและมีการผลักดันอย่างมากมาย ทว่า มันไม่มีทางเห็นผลได้ในระยะเวลาอันสั้นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ยกตัวอย่างเรื่องการอนุญาตให้สตรีเข้าร่วมการสอบขุนนางเพื่อเป็นขุนนางในราชสำนัก ไทเฮาคิดว่าตอนนั้นจีโฮ่วไม่ได้ลองใช้การปกครองนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ สุดท้ายผลเป็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ…มันไม่ประสบความสำเร็จ”
“ดังนั้นท่านคิดว่าต้าโจวไม่น่าประสบความสำเร็จอย่างนั้นหรือ” ไทเฮารีบเอ่ยถาม
จงสิงเสี่ยวพยักหน้า
“กระหม่อมคิดเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่ากฎหมายหลายข้อของระบอบการปกครองของต้าโจวเลียนแบบมาจากการปกครองของจีโฮ่ว ทว่า มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเท่านั้น”
ไทเฮาพยักหน้า นางเคยอ่านการปกครองของต้าโจวผ่านตามาบ้างเหมือนกัน นางพบว่ากฎหมายหลายข้อของต้าโจวคือกฎหมายที่จีโฮ่วเคยทดลองใช้ในตอนนั้น ทว่า ล้มเหลวไม่เป็นชิ้นดี