สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1313 สุขสบาย
ตอนที่ 1313 สุขสบาย
เมื่อคดีของซือหม่าเหล่าไท่จวินถูกตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนขอลาออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน
เหตุผลที่ซือหม่าเหยี่ยนลาออกเป็นเพราะเขารู้สึกผิดและอยากเดินทางไปดูแลมารดาที่ถูกเนรเทศไปยังเมืองกันดารด้วยตัวเอง เขากลัวว่ามารดาของเขาที่แก่มากแล้วจะเดินทางไปไม่ถึงที่นั่น
ซือหม่าเยี่ยนก้มศีรษะคำนับขอร้องไป๋ชิงเหยียนกลางที่ประชุมว่าราชการตอนเช้า
ไป๋ชิงเหยียนรั้งให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อ ทว่า ซือหม่าเยี่ยนตัดสินแน่วแน่แล้ว เขาโขกศีรษะจนแดงช้ำ เอาแต่กล่าวว่าอยากลาออกไปดูแลมารดาที่ถูกเนรเทศ เขาไม่อาจเสพสุขอยู่ที่เมืองหลวงโดยปล่อยให้มารดาไปตกระกำลำบากคนเดียวได้
ไป๋ชิงเหยียนลอบชมว่าซือหม่าเยี่ยนฉลาดอยู่ในใจ แม้การทำเช่นนี้จะกระทบต่อหน้าที่การงานของเขา ทว่า เขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรกตัญญู วันหน้ามีแต่จะส่งผลดีต่อตำแหน่งของบุตรชายทั้งสามคนของเขา
ดูเหมือนว่าซือหม่าเยี่ยนจะเข้าใจประโยคที่นางบอกว่าให้ความสำคัญกับซือหม่าผิงแล้ว
“ในเมื่อใต้เท้าซือหม่าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว…เราก็จะทำตามความต้องการของใต้เท้าซือหม่า” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
“ขอบพระทัยฝ่าบาทมากพ่ะย่ะค่ะ” ซือหม่าเยี่ยนก้มศีรษะคำนับอีกครั้ง
ข่าวเรื่องที่ซือหม่าเยี่ยนลาออกจากตำแหน่งเพื่อเดินทางไปดูแลมารดาของตัวเองที่ถูกเนรเทศแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงในระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ทุกคนรับรู้ว่าซือหม่าเหล่าไท่จวินบีบมารดาของเซียงเสียจวิ้นจู่จนฆ่าตัวตาย ทั้งยังส่งคนไปฆ่าปิดปากเซียงเสียจวิ้นจู่เพราะต้องการแย่งการแต่งงานของเซียงเสียจวิ้นจู่กับเซวียเหรินอี้บัณฑิตจอหงวนในปีนี้มาให้ตระกูลของตัวเอง แม้แต่เรื่องที่นางทอดทิ้งบุตรบุญธรรมของตัวเองอย่างไร้คุณธรรมหลังจากตั้งครรภ์บุตรของตัวเองได้ก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนในเมืองหลวงต่างรังเกียจการกระทำของมารดาของซือหม่าเยี่ยนมาก
ทว่า เมื่อทุกคนรู้ว่าผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนลาออกจากตำแหน่งเพราะรู้สึกผิดที่ตนไม่รู้การกระทำเลวร้ายของมารดาตัวเองทั้งๆ ที่เป็นถึงผู้ช่วยผู้ตรวจการ อีกทั้งต้องการลาออกไปดูแลมารดาของตัวเองที่ถูกเนรเทศ ชาวบ้านที่หลายวันก่อนเคยก่นด่าตระกูลซือหม่าจึงเปลี่ยนความคิดในทันที พวกเขาต่างคิดว่าซือหม่าเยี่ยนผู้นี้เป็นคนดีคนหนึ่ง
เมื่อซือหม่าเยี่ยนได้ยินบ่าวรับใช้มารายงานว่าสถานการณ์ในเมืองหลวงเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้มีเสียงด่าทอตระกูลซือหม่าเหมือนเมื่อหลายวันก่อนอีกแล้ว ซือหม่าเยี่ยนจึงคลายกังวลลง
เขาเสียสละอนาคตของตัวเองคนเดียวไม่เป็นไรเพราะเขาอายุมากแล้ว สิ่งสำคัญคืออนาคตของเด็กทั้งสามคนโดยเฉพาะซือหม่าผิง ในเมื่อฝ่าบาทตรัสแล้วว่าเห็นความสำคัญของซือหม่าผิง วันหน้าฝ่าบาทต้องให้ความสำคัญกับซือหม่าผิงแน่นอน ฝ่าบาทคือจักรพรรดินีของแคว้นแล้ว นางไม่มีความจำเป็นต้องโกหกเขา
ซือหม่าเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ช้าๆ เขาคิดว่าตัวเองลาออกจากตำแหน่งก็ดีเหมือนกัน เขาจะเดินทางไปเป็นเพื่อนมารดาซึ่งถูกเนรเทศ เมื่อเขาดูแลมารดาจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้วเขาค่อยกลับมาสอนหลานของเขาหัดเขียน ปลูกต้นไม้ดอกไม้ ใช้ชีวิตเช่นนี้ก็สุขสบายดีเหมือนกัน
ขอเพียงชื่อเสียงของตระกูลซือหม่าไม่เสื่อมเสีย อนาคตของบุตรชายทั้งสามของเขาต้องอีกยาวไกลแน่นอน
เขากำชับเรื่องทุกอย่างกับบุตรชายคนโตหมดแล้ว ตอนนี้เขาต้องเขียนจดหมายถึงบุตรชายคนที่สองและซือหม่าผิง
เมื่อคิดได้ดังนี้ซือหม่าเยี่ยนจึงหยิบพู่กันออกมาเขียนจดหมายสองฉบับ จดหมายที่เขียนถึงซือหม่าผิงค่อนข้างหนาเพราะซือหม่าผิงคือบุตรชายคนโปรดของเขา อีกประการคือไป๋ชิงเหยียนให้ความสำคัญกับซือหม่าผิงมาก เขาจึงต้องกำชับบุตรชายคนเล็กให้มากหน่อย
ไม่นานคดีของไป๋ชิงสือและไป๋ชิงฝานก็ได้รับการตัดสินจากศาลต้าหลี่เช่นเดียวกัน
นอกจากไป๋ชิงสือจะโดนเนรเทศแล้ว ปู่ของไป๋ชิงสือและขุนนางที่มีส่วนเกี่ยวข้องการเรื่องสับเปลี่ยนตัวนักโทษทั้งหมดล้วนถูกจับขังคุกเพื่อลงโทษตามกฎหมายต่อไป
คุณหนูรองฉินที่ไป๋ชิงฝานช่วยสับเปลี่ยนตัวออกมาถูกเนรเทศเหมือนเดิม ไป๋ชิงฝานถูกจับขังคุกเนื่องจากติดสินบนขุนนางเพื่อสับเปลี่ยนตัวนักโทษ
คดีของไป๋ชิงสือและไป๋ชิงฝานส่งผลกระทบต่อตระกูลบรรพบุรุษไป๋ ไป๋ฉีเหอจึงขับไล่คนทั้งสองออกจากตระกูล
วันที่สาม เดือนห้าคือวันที่นักโทษกลุ่มนี้จะถูกเนรเทศออกจากเมืองหลวง ผู้คุมนักโทษต่างรู้สึกเหลือเชื่อไปตามๆ กัน นักโทษกลุ่มนี้ล้วนเป็นคนจากตระกูลสูงศักดิ์ ทว่า พวกเขากลับไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี มิน่าถึงได้มีจุบจดเช่นนี้
ซือหม่าเยี่ยนจอดรถม้ารอเดินทางไปพร้อมขบวนเนรเทศนักโทษของมารดาอยู่ที่นอกเมือง ขบวนรถม้าของทูตต้าเยี่ยนเดินทางเข้าไปในเมืองหลวงในวันเดียวกัน
ซือหม่าเยี่ยนสวมชุดนายท่านจากตระกูลมั่งคั่งธรรมดายืนรออยู่ข้างรถม้า ด้านหลังคือองครักษ์ บ่าวรับใช้และหมออีกสองคน ซือหม่าเยี่ยนมองเห็นขบวนรถม้าของต้าเยี่ยนกำลังเคลื่อนที่เข้าไปในเมืองหลวง เขาเห็นองครักษ์ที่มีแผลเป็นบนฝ่ามืออยู่ในกลุ่มของต้าเยี่ยน ซือหม่าเยี่ยนรู้สึกคุ้นหน้าองครักษ์ผู้นั้นอย่างบอกไม่ถูก ทว่า เขานึกไม่ออกว่าเคยพบหน้าคนผู้นั้นที่ใด
ภรรยาของซือหม่าเยี่ยนยืนน้ำตาคลออยู่ข้างกายซือหม่าเยี่ยน “แม้ท่านพี่จะไม่ใช้รถม้า ทว่า ควรเตรียมไปเผื่อไว้ด้วย หากท่านแม่หรือท่านพี่เวียนศีรษะหรือเป็นอันใดขึ้นมาจะได้ขึ้นไปพักผ่อนบนรถม้าได้ บนรถม้ายังมีเสื้อผ้าของท่านแม่และท่านพี่ที่ข้าเตรียมไว้ให้อยู่ ข้ายังเตรียมอาหาร ขนม ยาสามัญ ยารักษาบาดแผลไปให้ด้วยจะได้สะดวกเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงของภรรยาซือหม่าเยี่ยนจึงได้สติ เขาหันไปมองภรรยาของตัวเองพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้นางด้วยความอ่อนโยน “เอาเถิด ต่อไปคงต้องฝากเจ้าเป็นคนดูแลเรื่องทุกอย่างในจวนด้วย ข้าไล่ลูกอกตัญญูและแม่ของนางไปยังจวนนอกแล้ว อีกทั้งกำชับคนที่นั่นแล้วว่าแค่ไม่ปล่อยให้พวกนางอดตายก็พอ หากนางส่งคนมาขอร้องเจ้าโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของข้าเจ้าห้ามปล่อยนางเข้าไปในจวนเด็ดขาด แค่อย่าปล่อยให้พวกนางอดตายก็พอ ไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ เจ้าไม่มีทางเลือกเหมือนกัน!”
ภรรยาของซือหม่าเยี่ยนดีทุกอย่าง ทว่า นางสนใจชื่อเสียงภายนอกมากเกินไป บุตรสาวอนุเห็นจุดอ่อนของนางในข้อนี้จึงกล้าใช้ความตายบีบบังคับนาง
ดังนั้นซือหม่าเยี่ยนจึงจัดการเรื่องทุกอย่างไว้หมดแล้ว หากผู้ใดในจวนไม่ว่าจะเป็นบุตรชายคนโต ลูกสะใภ้ พ่อบ้านหรือบ่าวรับใช้ในจวน หากผู้ใดกล้ารับสินบนจากแม่ลูกคู่นั้นจะถูกโบยจนตายทันที!
ซือหม่าเยี่ยนไม่รู้ว่าตัวเองจะจากไปนานเพียงใด เขาจึงต้องวางแผนเรื่องทุกอย่างอย่างรอบคอบที่สุด
“ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้ารู้ขอบเขตดีเจ้าค่ะ” หลี่ซื่อกุมมือของสามีที่กำลังเช็ดน้ำตาให้นางอยู่พลางกำชับ “ท่านพี่อยู่ด้านนอกต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ หากท่านพี่ขาดเหลือสิ่งใดก็ให้คนส่งจดหมายมาให้ข้า ข้าจะส่งไปให้ท่านพี่ที่นั่นเจ้าค่ะ”
ซือหม่าเยี่ยนพยักหน้า “คนของต้าเยี่ยนเดินทางมาถึงแล้ว พวกเขาคงมาให้คำตอบเรื่องที่ทรยศต้าโจวแล้ว อาผิงคงใกล้กลับมาแล้วเหมือนกัน อาผิงอายุถึงวัยแต่งงานแล้ว หากเจ้ามีสตรีที่เหมาะสมก็จัดงานแต่งให้อาผิงเป็นฝั่งเป็นฝาเสีย ให้คนส่งจดหมายมาบอกข้าก็พอ เรื่องที่เหลือเจ้าจัดการตามความเหมาะสมได้เลย”
ซือหม่าเยี่ยนกล่าวพลางขยับเข้าไปใกล้ภรรยาอีกนิด จากนั้นกล่าวเสียงเบาลงกว่าเดิม “ทว่า จงจำไว้ว่าอนาคตของอาผิงยังอีกยาวไกล เจ้าต้องเลือกตระกูลภรรยาของอาผิงให้ดี ต้องช่วยเขาในราชสำนักได้ ไม่ต้องคิดว่าอาผิงคือบุตรภรรยาเอกต้องคู่กับบุตรภรรยาเอกเท่านั้น ขอเพียงเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นบุตรภรรยาเอกหรืออนุล้วนได้ทั้งสิ้น!”