สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1318 ร้อนใจ
ตอนที่ 1318 ร้อนใจ
จงสิงเสี่ยวส่งคนของตัวเองไปสืบเรื่องนี้ เขาตั้งใจว่าจะนำของขวัญไปเยี่ยมเหล่าขุนนางที่สนับสนุนข้อเสนอของมู่หรงลี่ที่จวนของคนเหล่านั้นด้วยตัวเอง เขาจะพยายามทำให้เรื่องนี้สำเร็จลุล่วงอย่างสุดความสามารถของเขา
คนของเซียวหรงเหยี่ยนกลับมาเป็นกลุ่มแรก พวกเขารายงานว่าขุนนางส่วนใหญ่ในราชสำนักต้าโจวค่อนข้างเห็นด้วยกับการเดิมพันครั้งนี้ ดูเหมือนหลู่จิ้นจะช่วยโน้มน้าวขุนนางคนอื่นในราชสำนักให้เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ ต่งชิงผิงลุงของไป๋ชิงเหยียนกำลังลังเลว่าจะเห็นด้วยดีหรือไม่ หลู่ไท่เว่ยและเสิ่นซือคงดูเหมือนจะเห็นด้วย พวกเขามั่นใจว่าต้าโจวต้องชนะแน่นอน
เซียวหรงเหยี่ยนฟังรายงานจบจึงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ครู่ใหญ่ ไม่นานจึงกล่าวขึ้น
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้กั๋วจิ้วเหย่ช่วยนำของกำนัลไปเยี่ยมเยียนใต้เท้าหลู่จิ้นที่จวนหลู่ที ท่านจะได้ขอคำแนะนำจากใต้เท้าหลู่จิ้นได้ว่าต้าเยี่ยนของพวกเราควรทำเช่นไรต่อไป ส่วนขุนนางที่จงรักภักดีต่อจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอย่างมากอย่างพวกหลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคงควรรอไปก่อน ยังไม่ต้องรีบร้อนไปหาพวกเขาในตอนนี้…”
จงสิงเสี่ยวรีบลุกขึ้นทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยน
“ผู้สำเร็จราชการไม่ต้องเป็นห่วง กระหม่อมจะทำให้เต็มที่ที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านอ๋องเก้า หากข่าวที่ได้รับล้วนเป็นข่าวที่ขุนนางในราชสำนักต้าโจวค่อนข้างเห็นด้วยกับข้อเสนอของพวกเรา พวกเรามิสู้ตีเหล็กตอนร้อน เข้าวังไปขอเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเพื่อเสนอผลประโยชน์ให้ต้าโจวเป็นการส่วนพระองค์ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ บางทีเรื่องอาจสำเร็จอย่างง่ายดายก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ขุนนางที่ติดตามเซียวหรงเหยี่ยนมาต้าโจวก้าวไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
หน้ากากบนใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนปกปิดสีหน้าของชายหนุ่มจนผู้อื่นเดาอารมณ์ของเขาไม่ออก พวกเขามองเห็นแต่ดวงตาลึกล้ำและราบเรียบของชายหนุ่มเท่านั้น
จงสิงเสี่ยวเห็นเหตุการณ์จึงก้าวไปด้านหน้า
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อจักรพรรดินีแห่งต้าโจวดูเหมือนจะทรงเห็นด้วยกับข้อเสนอของพวกเราเหมือนกัน ท่านอ๋องเก้าลองไปเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเป็นการส่วนพระองค์สักครั้งดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ เช่นนี้พวกเราอาจมีโอกาสโน้มน้าวต้าโจวให้ตกลงมากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านอ๋อง…”
เสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนกำหมัดคารวะเซียวหรงเหยี่ยน
“ท่านอ๋องลองให้คนส่งสารไปสอบถามในวังหลวงก่อน หากจักรพรรดินีแห่งต้าโจวยอมพบท่านอ๋องแสดงว่าพวกเรามีโอกาสเจรจาสำเร็จ ทว่า หากจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่ยอมพบท่านอ๋องแสดงว่าพวกเราต้าเยี่ยนต้องพยายามให้มากกว่านี้ ท่านอ๋องมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนเคาะนิ้วลงบนที่วางแขนของเก้าอี้เป็นจังหวะราวกับกำลังใช้ความคิด ไม่นานจึงกล่าวขึ้น
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้เสนาบดีกรมการคลัง หงหลู่ซื่อชิงและหวังหานปิงไปเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวในวังหลวงก็พอ ข้าคงไม่ไปด้วยแล้ว”
“ผู้สำเร็จราชการ…”
จงสิงเสี่ยวได้ยินจึงรีบก้าวไปโค้งคำนับเซียวหรงเหยี่ยน
“ครั้งนี้พวกเราเดินทางมาที่นี่เพื่อขอร้องให้ต้าโจวยอมเห็นด้วยกับข้อเสนอของพวกเราดั่งที่ฝ่าบาทของพวกเราทรงกำชับก่อนพวกเราออกเดินทางมายังต้าโจว ต้าเยี่ยนควรแสดงท่าทีอ่อนน้อมต่อต้าโจวให้มาก ผู้สำเร็จราชการไม่ได้เป็นเพียงอ๋องของต้าเยี่ยนเท่านั้น พระองค์ยังเป็นผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนอีกด้วย ที่สำคัญครั้งนี้ผู้สำเร็จราชการเดินทางมายังต้าโจวด้วย ขุนนางต้าเยี่ยนเหล่านั้นจะเทียบกับพระองค์ได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
จงสิงเสี่ยวกล่าวพลางมองไปทางเหล่าขุนนางฝ่ายไทเฮาที่ติดตามมาในครั้งนี้ด้วย ขุนนางเหล่านั้นรีบก้าวไปด้านหน้าทันที
“ท่านอ๋อง กั๋วจิ้วเหย่กล่าวมีเหตุผลพ่ะย่ะค่ะ หากผู้สำเร็จราชการไม่ได้มาด้วยก็ว่าไปอย่าง ทว่า พระองค์เสด็จมาด้วย หากพระองค์ให้เสนาบดีกรมการคลัง หงหลู่ซื่อชิงและหวังหานปิงไปเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวโดยที่พระองค์ไม่ไปด้วย จักรพรรดินีแห่งต้าโจวและขุนนางของต้าโจวอาจคิดว่าพวกเราไม่จริงใจต่อต้าโจวได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ขุนนางผู้นั้นกล่าวจบจึงโค้งคำนับขุนนางคนอื่น
“ข้าไม่ได้จงใจดูถูกตำแหน่งของเสนาบดีกรมการคลัง หงหลู่ซื่อชิงและหวังหานปิง ทว่า เมื่อมีผู้สำเร็จราชการอยู่ พวกเราเทียบกับพระองค์ไม่ได้แม้แต่น้อย!”
เซียวหรงเหยี่ยนซึ่งสวมหน้ากากปิดบังใบหน้ายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ครั้งนี้ขุนนางฝ่ายไทเฮาเป็นคนบีบให้เขาไปพบอาเป่าเองนะ…เขาไม่ได้อยากไปด้วยตัวเอง
แม้เขาจะร้อนใจจนแทบทนไม่ไหวเช่นเดียวกันก็ตาม
เซียวหรงเหยี่ยนเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวขึ้น
“ให้คนไปจัดการได้ ข้าจะไปเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวด้วยตัวเอง!”
จงสิงเสี่ยวฟังออกว่าเซียวหรงเหยี่ยนไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าใดนัก เขายิ่งมั่นใจว่าการที่เขาให้เซียวหรงเหยี่ยนไปพบจักรพรรดินีแห่งต้าโจวด้วยตัวเองคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง เซียวหรงเหยี่ยนคงรู้ดีเช่นเดียวกันว่าตัวเองมีความสำคัญเพียงใดเขาจึงไม่อยากไปพบไป๋ชิงเหยียนเช่นนี้
จงสิงเสี่ยวรีบกล่าวต่ออย่างกลัวเซียวหรงเหยี่ยนจะทำไม่เต็มที่
“เช่นนั้นรบกวนเสนาบดีกรมการคลัง หงหลู่ซื่อชิงและหวังหานปิงซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่าบาทเดินทางไปกับท่านผู้สำเร็จราชการด้วย”
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้คัดค้าน เขาได้แต่นิ่งเงียบ
เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนไม่เอ่ยคัดค้านจงสิงเสี่ยวจึงหาข้ออ้างจากไปเตรียมของกำนัลให้หลู่จิ้น เมื่อจงสิงเสี่ยวกลับไปถึงห้องของตัวเอง เขาสั่งให้บ่าวรับใช้ปิดประตูห้องให้สนิท จากนั้นนั่งไตร่ตรองเรื่องทั้งหมดอยู่บนเก้าอี้
บ่าวรับใช้ก้าวไปด้านหน้า
“นายท่าน พวกเราจะไปพบใต้เท้าหลู่จิ้นเลยหรือไม่ขอรับ ให้ข้าเตรียม…”
“ยังไม่ต้องรีบร้อน!”
จงสิงเสี่ยวยกมือห้ามบ่าวรับใช้ จากนั้นครุ่นคิดต่อด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“รอคนของเรากลับมาก่อน หากรายงานที่เขาได้รับเหมือนกับคนของผู้สำเร็จราชการ พวกเราค่อยไปก็ยังไม่สาย! เจ้าไปเตรียมของกำนัลไว้ก่อนก็แล้วกัน ยิ่งล้ำค่าเท่าใดยิ่งดี!”
“ขอรับ” บ่าวรับใช้คนสนิทของจงสิงเสี่ยวรับคำ จากนั้นเดินออกไปเตรียมของกำนัลให้ขุนนางของต้าโจวทันที
ไม่นานข่าวจากวังหลวงก็ถูกส่งกลับมาว่าจักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนอนุญาตให้ผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนเข้าเฝ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น
จงสิงเสี่ยวมองส่งเซียวหรงเหยี่ยนเดินออกไปจากที่พัก จากนั้นรีบให้คนไปสืบว่าจักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนส่งผู้ใดมาส่งข่าวให้เซียวหรงเหยี่ยน ท่าทีของคนผู้นั้นเป็นเช่นไรบ้าง
เมื่อได้ยินว่าผู้ที่มาส่งข่าวคือทหารรักษาพระองค์ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีแม้แต่รถม้ามาให้เซียวหรงเหยี่ยน ใจของจงสิงเสี่ยวกระตุกวูบทันที เขาเริ่มรู้สึกกังวลมากกว่าเดิม จักรพรรดินีแห่งต้าโจวปฏิบัติต่อผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเช่นนี้ไม่ใช่สัญญาณที่ดีแม้แต่น้อย
เมื่อคนของจงสิงเสี่ยวกลับมารายงานข่าวที่เหมือนกับคนของเซียวหรงเหยี่ยนไม่มีผิดเพี้ยน จงสิงเสี่ยวจึงให้คนเตรียมรถม้าเดินทางไปยังจวนของหลู่จิ้นทันที
วังหลวง
ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้แม่นมอุ้มลูกน้อยทั้งสองมารอที่ตำหนักหมิงอันนานแล้ว เว่ยจงไล่นางกำนัลและขันทีทั้งหมดออกไปจากตำหนัก เหลือเพียงชุนเถาและชุนจือเท่านั้น
เว่ยจงรู้ฐานะที่แท้จริงของเซียวหรงเหยี่ยนเป็นอย่างดี เขาเห็นเซียวหรงเหยี่ยนสวมหน้ากากสีเงินเดินตรงมายังตำหนักหมิงอันด้วยท่าทีน่าเกรงขาม ใบหน้าของเว่ยจงจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เว่ยจงก้าวไปด้านหน้าเล็กน้อย เขาหยุดยืนอยู่ข้างโคมไฟนกกระเรียนที่แกะสลักราวกับมีชีวิตจริง จากนั้นโค้งกายคำนับเซียวหรงเหยี่ยน
“ท่านอ๋องเก้า…”
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้าให้เว่ยจงเล็กน้อย แสงไฟส่องกระทบหน้ากากสีเงินของชายหนุ่ม ใจของเซียวหรงเหยี่ยนเต้นรัวอย่างรุนแรง ภรรยาและลูกของเขารอเขาอยู่ในตำหนักหมิงอัน เขาแทบอยากติดปีกบินมาหาหญิงสาวและลูกตั้งแต่เดินทางออกจากต้าเยี่ยน เขาต้องพยายามคุมสติของตัวเองไม่ให้วู่วามด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี
แม้วันนี้จะมองเห็นกันเพียงไกลๆ ทว่า ก็ถือได้ว่าพบหน้ากันแล้ว ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนยังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพออยู่ดี