สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1321 เสียใจ
ตอนที่ 1321 เสียใจ
“มิเป็นอันใด แม้ตอนที่ข้าคลอดก่อนกำหนดท่านจะไม่ได้อยู่ข้างกายข้า ทว่า หลังจากใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งสำเร็จท่านค่อยมาอยู่เคียงข้างข้าและลูกๆ เป็นการชดเชยให้พวกเราสามแม่ลูกแทนก็แล้วกัน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอีกเล็กน้อย เขาจรดหน้าผากแนบกับหน้าผากของหญิงสาว จากนั้นกล่าวออกมาทีละคำอย่างแน่วแน่ “เมื่อใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งสำเร็จข้าจะอยู่เคียงข้างอาเป่าและลูกทุกวัน หากข้าผิดคำสาบานขอให้ถูกฟ้าผ่าตาย!”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มกว้างกว่าเดิม หญิงสาวเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตริมฝีปากของเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นกล่าวเสียงเบาหวิว “ข้าตั้งใจจะให้ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน องค์ชายสองมู่หรงผิงและแม่ทัพใหญ่เซี่ยสวินอยู่เป็นตัวประกันที่ต้าโจวเพื่อโน้มน้าวให้เหล่าขุนนางในราชสำนักเห็นด้วยกับเดิมพันที่ต้าโจวดูจะได้ประโยชน์น้อยกว่า”
เซียวหรงเหยี่ยนตะลึง ไป๋ชิงเหยียนเห็นสีหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนจึงหัวเราะออกมาเบาๆ “ข้อเสนอแข่งขันด้วยระบอบการปกครองของต้าเยี่ยนมีประโยชน์ต่อต้าเยี่ยนมากกว่าต้าโจว ท่านคิดว่าต้าโจวจะยอมรับเรื่องนี้ได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ หากข้ายอมรับข้อเสนอนี้อย่างง่ายดายเหล่าขุนนางคงสงสัยในตัวข้าแน่ว่าข้าหลงเสน่ห์อันใดในตัวอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนหรือไม่”
“เจ้าอยากถือโอกาสนี้ให้ข้าอยู่ที่ต้าโจวต่ออย่างนั้นหรือ…” เซียวหรงเหยี่ยนกระชับแขนที่อุ้มบุตรสาวแน่นขึ้น จากนั้นก้มมองใบหน้าของลูกน้อยทั้งสองอีกครั้ง
“ท่านยังเป็นห่วงต้าเยี่ยนอยู่หรือ” ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าต้าเยี่ยนมีความหมายต่อเซียวหรงเหยี่ยนมากเพียงใด “หรือเป็นห่วงมู่หรงลี่”
“เป็นห่วงทั้งต้าเยี่ยนและอาลี่!” เซียวหรงเหยี่ยนขมวดคิ้วแน่น “ต้าเยี่ยนคือหยาดเหงื่อของเสด็จแม่ ท่านฝากแคว้นไว้กับเสด็จพี่ก่อนท่านจากไป เสด็จพี่ฝากแคว้นไว้กับข้า ส่วนอาลี่…หากข้าไม่อยู่ราชสำนักจะตกอยู่ในการควบคุมของพี่สะใภ้เพียงคนเดียว อาลี่เป็นเด็กกตัญญู ต่อให้ฉลาดมากเพียงใดก็คงรับมือพี่สะใภ้ได้ยากอยู่ดี”
“ที่สำคัญ อาเป่า…ข้าอยากแข่งขันกับเจ้า ไม่ใช่การแข่งขันในสนามรบแต่เป็นด้วยระบอบการปกครอง” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบจึงมองหน้าไป๋ชิงเหยียนนิ่ง “อาเป่า ก่อนใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งสำเร็จเกรงว่าข้าคงทำผิดต่อเจ้าและลูกๆ แล้ว”
เดิมทีหากไม่ประมาทควรกำหนดระยะเวลาแข่งขันหลายปี ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนใจร้อน อยากกลับมาอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนกับลูกๆ โดยเร็วที่สุด เขาจึงกำหนดเวลาเพียงสามปีเท่านั้น
“ข้าเข้าใจ!” ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยนเสียงเบา “ข้าเสนอเงื่อนไขนี้ขึ้นมาเพื่อทำให้ต้าเยี่ยนและท่านลำบากใจเท่านั้น พี่สะใภ้ของท่านจะได้รู้ว่าต่อให้ท่านเดินทางมาต้าโจวเองก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย”
“อาเป่า” ขอบตาของเซียวหรงเหยี่ยนร้อนผ่าว เขาและอาเป่าต่างรู้ดีว่ายิ่งเซียวหรงเหยี่ยนอยู่ในต้าโจวอย่างยากลำบากเพียงใด กลับไปต้าเยี่ยนพี่สะใภ้ของเขาก็จะยิ่งเชื่อใจเขามากขึ้นเท่านั้น ตอนเขาจัดการเรื่องในราชสำนักพี่สะใภ้จะได้ไม่เข้ามาขัดขวางหรือสร้างปัญหาให้เขาอีก
อาเป่าคิดแทนและทำแทนเขาเรียบร้อยแล้ว…
อาเป่าไม่ได้ต้องการกักตัวเขาไว้เป็นตัวประกันที่ต้าโจวอย่างที่นางเสนอเงื่อนไขออกไปจริงๆ
“ทว่า ข้าต้องการตัวมู่หรงผิงและเซี่ยสวินมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวจริงๆ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงเบา “ข้าไม่เชื่อใจพี่สะใภ้ของท่าน หากถึงเวลานั้นต้าเยี่ยนพ่ายแพ้ขึ้นมา พี่สะใภ้ของท่านอาจคิดว่าต้าเยี่ยนแข็งแกร่งขึ้นแล้ว อยากลุกขึ้นทำสงครามกับต้าโจวก็ได้”
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า จากนั้นกล่าวขึ้น “ในเมื่อต้าเยี่ยนต้องส่งตัวประกันมาต้าโจว เช่นนั้นต้าโจวก็ควรส่งตัวประกันไปต้าเยี่ยนเพื่อแสดงความจริงใจเช่นเดียวกัน!”
ทั้งสองคนยืนอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขนพลางหันหน้าเข้าหากัน เป็นท่าทางที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันที่สุด ทว่า กลับสนทนาเรื่องจริงจังกันโดยมีจุดยืนของตัวเอง
“ต้าโจวจะยกเมืองอวิ๋นจิงที่ได้มาให้แก่ต้าเยี่ยนเพื่อแสดงความจริงใจ ทว่า จะไม่ส่งตัวประกันไปยังต้าเยี่ยนเด็ดขาด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงจริงจัง “เดิมทีต้าโจวสามารถเริ่มยึดครองต้าเยี่ยนได้ตั้งแต่ตอนนี้ ทว่า ต้าเยี่ยนกลับยื่นข้อเสนอให้แข่งขันกันด้วยระบอบการปกครอง ต้าเยี่ยนจึงต้องส่งตัวประกันที่เก่งกาจในการรบมาอยู่ที่ต้าโจวเพื่อแสดงความจริงใจว่าต้าเยี่ยนจะไม่ผิดคำสัญญากับต้าโจวในวันหน้า”
เซียวหรงเหยี่ยนถามไป๋ชิงเหยียนกลับ “หากต้าเยี่ยนส่งตัวประกันให้ต้าโจว ต้าเยี่ยนจะมีสิ่งใดรับประกันว่าต้าโจวจะไม่ผิดคำสัญญา”
“อ๋องเก้า ผู้ที่ผิดสัญญาและแทงข้างหลังแคว้นพันธมิตรของตัวเองตอนยังเป็นแคว้นพันธมิตรกันไม่ใช่ต้าโจวแต่เป็นต้าเยี่ยน…” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มน้อยๆ “ตอนที่สองแคว้นเป็นพันธมิตรกันต้าโจวทำทุกอย่างเท่าที่แคว้นพันธมิตรจะทำได้อย่างเต็มที่แล้ว หากต้าเยี่ยนต้องการให้ต้าโจวยอมรับข้อเสนอของต้าเยี่ยนมีเพียงการส่งตัวประกันมายังต้าโจวเท่านั้น หากไม่เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเจรจาเรื่องนี้กันอีก!”
เซียวหรงเหยี่ยนเถียงต่อไม่ได้ ไป๋ชิงเหยียนกล่าวถูกต้อง ต้าเยี่ยนแทงข้างหลังแคว้นต้าโจวที่ดูแลแคว้นต้าเยี่ยนเป็นอย่างดี นี่คือเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
ถึงแม้ภายหลังเขาจะชดเชยให้ต้าโจว ทว่า การทรยศก็คือการทรยศ ไม่มีสิ่งใดสามารถแก้ต่างได้
“ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่ต้าเยี่ยนต้องคิดก็คือจะใช้สิ่งใดแลกเปลี่ยนตัวผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนกลับไป…” รอยยิ้มของไป๋ชิงเหยียนกว้างขึ้นกว่าเดิม “ในเมื่ออ๋องเก้าเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว ต้าโจวไม่มีทางปล่อยท่านกลับไปอย่างง่ายดายแน่นอน มารอดูกันว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนและไทเฮาจะยอมใช้สิ่งใดแลกเปลี่ยนตัวท่านกลับไป”
แววตาของไป๋ชิงเหยียนแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ราวกับว่าหากจักรพรรดิต้าเยี่ยนและไทเฮาไม่ยอมแลกตัวเซียวหรงเหยี่ยนกลับไปก็เข้าทางนางพอดี
เซียวหรงเหยี่ยนเห็นสีหน้าของไป๋ชิงเหยียน แววตาดำขลับของเขาแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่น เขาอยากเอื้อมมือไปรั้งตัวไป๋ชิงเหยียนมากอดไว้ในอ้อมกอด ทว่า กลัวจะอุ้มบุตรสาวด้วยแขนข้างเดียวไม่ไหว จึงได้แต่ก้มหน้าจรดปลายจมูกลงบนปลายจมูกของหญิงสาว จากนั้นประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของนางพลางขยับกายเข้าไปใกล้อีกนิด
สี่เล่อในอ้อมกอดของไป๋ชิงเหยียนขยับกายเล็กน้อย จากนั้นส่งเสียงร้องไห้ออกมาทันที…
เซียวหรงเหยี่ยนคิดว่าตัวเองเบียดโดนลูกจึงรีบถอยหลังออกห่างพลางมองไปทางสี่เล่อในอ้อมแขนของไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ทว่า นึกไม่ถึงว่าคังเล่อในอ้อมแขนของเขาจะร้องไห้ตามพี่ชายด้วยอีกคน
เซียวหรงเหยี่ยนมองหน้าลูกน้อยอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างขอความช่วยเหลือ
ชายหนุ่มเห็นไป๋ชิงเหยียนอุ้มบุตรชายด้วยมือข้างเดียวอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นยื่นนิ้วไปที่ริมฝีปากของบุตรชายอย่างหยั่งเชิง ไม่นานจึงกล่าวยิ้มๆ “ดูเหมือนว่าจะหิวแล้ว”
“ชุนเถา…” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกชุนเถาที่อยู่ทางด้านนอก
ชุนเถารับคำ จากนั้นพาชุนจือเดินเข้ามาในตำหนัก “ดูจากเวลาองค์ชายและองค์หญิงน้อยคงจะหิวแล้วเจ้าค่ะ บ่าวจะพาคุณหนูทั้งสองไปหาแม่นมก่อนนะเจ้าคะ”
“ได้…” ไป๋ชิงเหยียนส่งสี่เล่อในอ้อมแขนให้ชุนเถา
ชุนจือก้าวไปด้านหน้า จากนั้นยื่นมือเตรียมรับคังเล่อมาจากเซียวหรงเหยี่ยน “นายท่านเขย ส่งคุณหนูน้อยให้บ่าวเถิดเจ้าค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนไม่อยากส่งตัวลูกน้อยให้ ทว่า เขาทนเห็นนางร้องไห้ต่อไปเช่นนี้ไม่ได้เหมือนกัน เขาจึงได้แต่ส่งลูกน้อยให้ชุนจืออย่างระมัดระวัง จากนั้นกำชับเสียงเบา “ระวังด้วย!”
“นายท่านเขยไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ” ชุนจือเหลือบมองเซียวหรงเหยี่ยนที่เพิ่งเคยทำหน้าที่พ่อเป็นครั้งแรกจึงมีสีหน้าตื่นตระหนกแวบหนึ่งพลางลอบยิ้มออกมา