สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 140 ชะตากำหนด
ตอนที่ 140 ชะตากำหนด
จดหมายพวกนี้มาจากที่ใด ชาวบ้านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนรู้เห็นเป็นพยาน
ขนาดบ่าวรับใช้ข้างกายของเหลียงอ๋องยังโดนหลอกเช่นเดียวกัน บ่าวรับใช้ชายผู้นี้นึกว่าคือจดหมายรัก นึกว่าเหลียงอ๋องยอมทำลายชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่ไป๋เพื่อให้ได้แต่งงาน และรับนางเข้าไปอยู่ในจวนเหลียงอ๋อง เหลียงอ๋องหลงรักคุณหนูใหญ่ไป๋มากมายเช่นนี้ บ่าวรับใช้ชายยังรู้สึกเสียดายแทนเหลียงอ๋องอยู่เลย
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจดหมายเหล่านั้นจะกลายเป็นหลักฐานใส่ร้ายว่าจวนเจิ้นกั๋วกงทรยศบ้านเมือง หากสาวใช้ข้างกายของคุณหนูใหญ่อยากเป็นอนุของเหลียงอ๋องจนนำจดหมายเข้าไปวางไว้ในห้องหนังสือของท่านกั๋วกงได้จริงๆ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอันใดขึ้น!
ไม่เพียงวีรบุรุษตระกูลไป๋จะถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ สตรีที่เหลืออยู่ของตระกูลไป๋ก็คงเอาชีวิตไม่รอดเช่นเดียวกัน!
“มิน่าเหลียงอ๋องจึงกำชับไม่ให้ชุนเหยียนเปิดจดหมาย! ที่แท้ก็ต้องการทำลายล้างตระกูลไป๋นี่เอง! เดิมทีวันนี้ท่านย่าจะเข้าวังไปสละตำแหน่งเจิ้นกั๋วกงอยู่แล้ว ท่านย่าได้โปรดเข้าวังไปทวงคืนความยุติธรรมให้ตระกูลไป๋ ปกป้องสตรีที่เหลืออยู่ของตระกูลไป๋ให้ปลอดภัยด้วยนะเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะคำนับ
“อาเป่า เจ้าลุกขึ้นก่อนเถิด ย่าต้องปกป้องพวกเจ้าอยู่แล้ว!” องค์หญิงใหญ่น้ำตาคลอ กล่าวเสียงสะอื้น
สีหน้าของถงจี๋ซีดเผือด องค์ชายตรัสกับเขาว่านี่คือจดหมายรัก มันจะกลายเป็นจดหมายที่ท่านกั๋วกงเขียนไปมาหาสู่กับแคว้นศัตรูได้อย่างไรกัน!
เขาเก็บจดหมายเหล่านั้นไว้ในอกตลอดเวลา ยื่นให้ชุนเหยียนเองกับมือ!
“ไม่ใช่องค์ชายของข้า จดหมาย…ไม่ใช่จดหมายนั่น! ต้องเป็นพวกเจ้าแน่ๆ พวกเจ้าต้องการใส่ร้ายองค์ชายของข้า!” ถงจี๋ดิ้นรนสะบัดตัวพลางร้องตะโกนออกมา “จดหมายที่องค์ชายของข้าให้มาคือจดหมายรัก!”
“ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดโยนความผิดให้ผู้อื่นอย่างหน้าไม่อายเช่นนี้มาก่อนเลย! พวกข้าไปที่จวนของพวกเจ้าเพื่อบีบบังคับให้เหลียงอ๋องนำจดหมายมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงหรืออย่างไรกัน เจ้าเป็นคนมาที่ประตูข้างของจวนเพื่อลอบนัดพบกับสาวใช้ของจวน พวกข้าจะคาดเดา และเตรียมจดหมายที่ทำลายชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกงเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าหรืออย่างไรกัน!”
ไป๋จิ่นจื้อเดือดดาลถึงขีดสุด เสียดายที่นางไม่มีแส้จึงฟาดแส้ใส่สุนัขรับใช้ของเหลียงอ๋องไม่ได้
ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองถงจี๋ กล่าวเสียงเย็น
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราไปแก้ตัวกันที่ศาลต้าหลี่เถิด!”
กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนหันไปทำความเคารพชาวบ้านที่ยังไม่ได้จากไป
“มิทราบว่าผู้ใดยินดีจะเป็นพยานให้ข้าว่าบ่าวรับใช้ของจวนเจิ้นกั๋วกงไม่ได้ลอบสับเปลี่ยนจดหมายบ้าง ผู้ใดยินดีติดตามไปตีกลองฟ้องร้องเหลียงอ๋องที่ศาลต้าหลี่กับข้าบ้าง”
หญิงสาวไม่เคยกลัวที่จะทำให้เรื่องกลายเป็นเรื่องใหญ่ นางเป็นคนวางแผนเรื่องนี้ก็จริง ทว่า จดหมายมาจากจวนของเหลียงอ๋อง ต่อให้สืบอย่างละเอียด…ความผิดล้วนตกอยู่ที่เหลียงอ๋องทั้งสิ้น
“ข้ายินดีช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้ตระกูลไป๋” มีคนตะโกนออกมา
สตรีผู้หนึ่งกล่าวสำทับ “คุณหนูตระกูลสี่เปิดจดหมายอ่านต่อหน้าพวกเราทุกคน! พวกเราเห็นเหมือนกันหมด ยินดีเป็นพยานเจ้าค่ะ!”
“ข้าเห็นหมัวมัวผู้นี้นำคนบุกออกมาจากจวนแล้วจับกุมตัวบ่าวรับใช้ชาย และสาวใช้ผู้นี้ไว้ จากนั้นพามาที่นี่เลย จดหมายอยู่ในมือของสาวใช้ผู้นั้นตลอดเวลา ไม่มีผู้ใดสับเปลี่ยน ข้าเป็นพยานได้!”
“ข้าก็ยินดีเป็นพยาน! เหลียงอ๋องโหดร้ายอำมหิต บุรุษจวนกั๋วกงสละชีพเพื่อบ้านเมือง แต่เขากลับมาใส่ร้ายตระกูลไป๋เช่นนี้ ข้าว่าเหลียงอ๋องอาจสมคบคิดกับแคว้นศัตรูจนทำให้พวกท่านกั๋วกงตายก็ได้”
“พวกเราได้รับการปกป้องคุ้มครองจากคนตระกูลไป๋มาช้านาน ยินดีเป็นพยานยืนยันความบริสุทธิ์ให้ตระกูลไป๋ ต่อให้ข้าต้องโดนโบยสักร้อยครั้งพันครั้ง ก็จะไม่ยอมให้วีรุบุรุษตระกูลไป๋ถูกใส่ร้าย สตรีตระกูลไป๋แปดเปื้อนมลทินแน่นอน!”
ไป๋ชิงเหยียนมองเห็นคนผู้หนึ่งค่อยๆ เดินแยกออกไปจากกลุ่มของชาวบ้านที่กำลังเดือดดาล หญิงสาวหรี่ตาลงเล็กน้อย
เกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ คนของเหลียงอ๋องต้องกลับไปรายงานอยู่แล้ว
ชาติที่แล้วเหลียงอ๋องใช้จดหมายเหล่านี้ และหลิวฮ่วนจางในการใส่ร้ายตระกูลไป๋จนตระกูลไป๋ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศบ้านเมือง
ครั้งนี้นางใช้รายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งเสบียงอาหารไปยังหนานเจียงล่อเสือออกมาจากถ้ำ เหลียงอ๋องจึงร้อนใจรีบสั่งให้ชุนเหยียนถือโอกาสตอนที่ตระกูลไป๋กำลังวุ่นวายนำจดหมายไปวางไว้ในห้องหนังสือของท่านปู่
เพียงเท่านี้ไป๋ชิงเหยียนก็มั่นใจแล้ว ว่าหลิวฮ่วนจางไม่ได้อยู่ที่หนานเจียง แต่อยู่ในกำมือของเหลียงอ๋อง อยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้!
ชาติที่แล้วหากไม่มีหลิวฮ่วนจางฟ้องร้องว่าท่านปู่เป็นกบฏ ฮ่องเต้จะทรงใช้เหตุผลอันใดสั่งให้ทหารไปล้อมตระกูลไป๋ไว้ และกวาดล้างตระกูลไป๋ให้สิ้นซากกัน จดหมายเหล่านี้จะปรากฏออกมาต่อหน้าทุกคนได้อย่างไรกัน
นางสั่งถงหมัวมัวไว้ว่าเมื่อจับตัวชุนเหยียนได้แล้ว ให้อาละวาดต่อหน้าทุกคน นางต้องการให้เหลียงอ๋องรับรู้เรื่องนี้
เหลียงอ๋องและตู้จือเวยที่นางรู้จัก นางคาดเดาว่าหากเหลียงอ๋อง และตู้จือเวยรู้เรื่องนี้ พวกเขาไม่มีทางวางแผนอันใดได้มากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เช่นนี้หรอก นางมั่นใจว่าตู้จือเวยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกันเหลียงอ๋องออกจากเรื่องนี้
ทว่า บ่าวรับใช้ชายข้างกายของเหลียงอ๋องเป็นคนนำจดหมายเหล่านี้มา วิธีเดียวที่จะกันเหลียงอ๋องออกจากเรื่องนี้ได้ก็คือเหลียงอ๋องออกมาแก้ตัวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา จดหมายที่เหลียงอ๋องเขียนคือจดหมายรักจริงๆ จดหมายที่ให้ถงจี๋ก็คือจดหมายรัก เขาทำลงไปเพราะต้องการบีบให้คุณหนูใหญ่ไป๋แต่งงานกับเขา แก้ตัวว่าไม่รู้ว่าเหตุใดจดหมายที่ถงจี๋นำไปมอบให้ถึงกลายเป็นจดหมายเช่นนั้นไปได้
ส่วนถงจี๋ เขาถูกหลอกจนไม่รู้ว่าสิ่งใดคือสิ่งใดอยู่แล้ว!
มิเช่นนั้นหากบ่าวรับใช้ชายข้างกายของเหลียงอ๋องโดนข้อหาสมคบคิดกับหลิวฮ่วนจาง เหลียงอ๋องไม่มีทางรอดแน่นอน
เช่นนั้นแพะรับบาปที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือหลิวฮ่วนจาง
ไม่ว่าจะใช้การข่มขู่หรือเสนอผลประโยชน์ให้ เหลียงอ๋องต้องหาทางออกสักทาง ไม่ว่าจะไปด้วยตัวเองหรือสั่งให้คนไป อย่างไรก็ต้องตกลงกับหลิวฮ่วงจางให้รู้เรื่องให้ได้!
เช่นนั้น คนที่นางสั่งให้จับตาดูความเคลื่อนไหวของจวนเหลียงอ๋องไว้ ก็จะได้พบตัวหลิวฮ่วนจางในไม่ช้า และเข้าจับกุมตัวหลิวฮ่วนจางไว้ก่อนที่พวกเขาจะได้วางแผนรับมือกับเรื่องนี้
การเดินหมากของไป๋ชิงเหยียนในครั้งนี้ค่อนข้างเสี่ยง
นางเคยกล่าวกับไป๋จิ่นซิ่วว่า แผนการชั่วร้ายเหล่านี้มีไว้สำหรับใช้ในเมืองหลวง วางแผนอย่างรอบคอบโดยไม่มีช่องโหว่ คาดเดาใจของคนได้…ถึงจะกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด
หากเสียชีวิตลงด้วยดาบคมในสนามรบ นั่นคือสิ่งที่ชะตากำหนด เราทำอันใดไม่ได้!
ทว่า หากพ่ายแพ้เพราะแผนการชั่วร้ายในเมืองหลวง นั่นเรียกว่าโง่ ไม่คุ้มค่ากับการตาย
ยิ่งไปกว่านั้น นางอาศัยความเข้าใจที่นางมีต่อเหลียงอ๋องและตู้จือเวย หากนางยังไม่สามารถเอาชนะเหลียงอ๋อง และตู้จือเวยได้อีก ก็เสียแรงที่สวรรค์เมตตาให้นางได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง นางยังมีหน้ากล้าสาบานต่อหน้าดวงวิญญาณของท่านปู่ว่าจะปกป้องสตรีตระกูลไป๋ให้ปลอดภัยได้อย่างไรกัน!
ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองเซียวรั่วไห่ เห็นว่าสายตาเซียวรั่วไห่ซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนจ้องไปทางชายที่เดินจากไปอย่างรีบร้อนไม่วางตา
สองสายตาประสานกัน ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้เซียวรั่วไห่
เซียวรั่วไห่นำบ่าวรับใช้สิบกว่าคนของจวนกระจายตัวกันลอบติดตามบ่าวรับใช้ของจวนเหลียงอ๋องไปทางจวนเหลียงอ๋องอย่างรวดเร็ว
ชาวบ้านรู้สึกสะเทือนอารมณ์ไปตามๆ กัน ทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น อาสาเป็นพยานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ให้ตระกูลไป๋ เสียงอึกทึกครึกโครมดังก้องอยู่หน้าประตูของจวนเจิ้นกั๋วกง
ต่งซื่อรู้สึกประทับใจมาก จุกแน่นในลำคอ ขอบตาร้อนผ่าว ความรู้สึกมามากมายพุ่งพล่านอยู่ในใจจนแทบความคุมไม่ได้ ตระกูลไป๋ยินดีสละชีพเพื่อชาวบ้าน ชาวบ้านก็ยินดีช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้ตระกูลไป๋
ได้ใจของชาวบ้านเช่นนี้ ทั่วทั้งเมืองหลวงคงไม่มีตระกูลใดทำได้อีกแล้ว
“อาเป่า มอบจดหมายพวกนี้ให้ย่า ย่าจะเข้าวังไปกราบทูลให้ฮ่องเต้คืนความยุติธรรมให้ตระกูลไป๋!” องค์หญิงใหญ่กำจดหมายเหล่านั้นแน่น โทสะปะทุอยู่ในใจ มือที่กำไม้เท้าหัวพยัคฆ์ขาวซีด “เจี่ยงหมัวมัว เข้าวัง!”