สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 267 ดูแล
ต้าจิ้นไม่มีทางตั้งชื่อจวนนี้ว่าจวนตัวประกัน ต้าจิ้นให้องค์ชายสี่ตั้งชื่อให้จวนของตัวเองเพื่อสื่อว่าองค์ชายสี่คือแขกกิตติมศักดิ์ที่แคว้นต้าจิ้นเป็นผู้เชิญมา
“องค์รัชทายาทช่างใส่ใจมาก!” มู่หรงอวี้พยักหน้ายิ้มๆ “โอรสของเราองค์นี้เอาแต่ใจตัวเองมาตั้งแต่เด็ก หากวันหน้าทำสิ่งใดเป็นการล่วงเกินไปบ้าง หวังว่าองค์รัชทายาทจะช่วยดูแลเขาด้วย!”
“ฝ่าบาททรงตรัสอันใดเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทกล่าวยิ้มๆ “ฝ่าบาทและองค์ชายสี่เพิ่งมาถึงคงเหนื่อยเต็มที ฝ่าบาทและองค์ชายสี่ทรงพักผ่อนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ พรุ่งนี้กระหม่อมจะมารับทั้งสองเข้าวังด้วยตัวเอง”
“ลำบากองค์รัชทายาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” มู่หรงลี่ทำความเคารพองค์รัชทายาท
“เฝิงเย่า ไปส่งองค์รัชทายาทแทนเราด้วย” มู่หรงอวี้กล่าวยิ้มๆ
ก่อนจากไป องค์รัชทายาทเงยหน้ามองดูจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนอีกครั้งหนึ่ง ช่างสง่างามสมคำร่ำลือจริงๆ เห็นได้ชัดว่าจีโฮ่วคงงดงามน่าตราตรึงมากจริงๆ สตรีที่มีใบหน้างดงามจนสามารถเทียบเคียงจีโฮ่วได้คงมีเพียง…
ในสมองขององค์รัชทายาทปรากฏภาพของไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาทันที
ที่จริงแล้วหากกล่าวตามตรง หากไป๋ชิงเหยียนไม่มีไอสังหารที่น่าหวาดกลัว หญิงสาวก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงงามที่ไม่ผู้ใดเทียบเทียมได้จริงๆ นางงดงามกว่าหญิงงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าอย่างหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูไม่รู้กี่เท่า
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนหยิ่งทะนง ผู้คนมักมองข้ามใบหน้าที่งดงามของนางเพราะรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวนาง
“เชิญองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ…”
น้ำเสียงแหลมเล็กของเฝิงเย่าขันทีข้างกายของมู่หรงอวี้ดังขึ้นข้างหูขององค์รัชทายาท องค์รัชทายาทจึงได้สติและพาคนจากไป
องค์รัชทายาทที่เดินออกไปด้านนอกพร้อมเฝิงเย่านึกถึงเซียวหรงเหยี่ยนขึ้นมาได้ เขาเดินไปพลางเอ่ยถามเฝิงเย่ายิ้มๆ “เรามีสหายคนหนึ่งนามว่าเซียวหรงเหยี่ยน ได้ยินว่าคุ้นเคยกับเฝิงกงกง…”
เฝิงเย่าตะลึง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ไม่ถือว่าคุ้นเคยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเก้าของกระหม่อมมีเมตตาเห็นว่ากระหม่อมดูแลจีโฮ่วและฝ่าบาทมาด้วยความลำบาก จึงแนะนำให้บ่าวทำการค้ากับเซียวเซียนเซิงเพื่อกำไรพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทพยักหน้ายิ้มๆ “หรงเหยี่ยนเล่าให้เราฟังเรื่องที่เขาพบกับท่านอ๋องเก้า นามของหรงเหยี่ยนเหมือนกับท่านอ๋องเก้าของพวกท่าน ทว่า พระองค์กลับไม่กล่าวโทษ ท่านอ๋องเก้าของพวกท่านช่างใจกว้างและมีเมตตาจริงๆ”
“ท่านอ๋องเก้าของกระหม่อมตรัสว่าอย่างไรเสียเซียวเซียนเซิงก็เป็นคนของแคว้นเว่ย พ่อแม่เป็นคนตั้งชื่อให้ มิใช่ความผิดของเซียวเซียนเซิง ถือว่าพระองค์และเซียวเซียนเซิงมีวาสนาต่อกันพ่ะย่ะค่ะ” เฝิงเย่าก้มหน้าอย่างสงบเสงี่ยม ท่าทีนอบน้อมจนไม่เหลือเค้าขันทีผู้ทรงอำนาจเมื่ออยู่ข้างกายจักรพรรดิต้าเยี่ยนสักนิด
องค์รัชทายาทนั่งรถม้าออกมาจากถนนของจวนตัวประกัน มุ่งหน้าตรงไปยังวังหลวง
ก่อนหน้านี้ต้าเยี่ยนบอกว่าจะส่งโอรสมาเป็นตัวประกันให้ต้าจิ้น ทว่า ไม่เคยบอกว่าจะส่งโอรสที่เกิดจากฮองเฮามา องค์รัชทายาทต้องรีบเข้าวังไปทูลเรื่องนี้ให้จักรพรรดิแห่งต้าจิ้นทราบ…
เพราะว่าพรุ่งนี้คือวันคล้ายวันประสูติของจักรพรรดิแห่งต้าจิ้น คณะทูตจากทุกแคว้นที่เดินทางมาร่วมอวยพรต่างเดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว เมื่อได้ยินว่าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนมาถึงแล้ว ต่างก็นำของกำนัลมาให้จักรพรรดิต้าเยี่ยนที่จวนด้วยตัวเอง
เซียวหรงเหยี่ยนมีกิจการอยู่ที่ต้าเยี่ยน อีกทั้งทำการค้าร่วมกับขันทีใหญ่เฝิงเย่า ชายหนุ่มย่อมต้องนำของกำนัลไปให้ โดยชายหนุ่มเตรียมมาถึงสองชิ้น ชิ้นหนึ่งให้จักรพรรดิต้าเยี่ยน ชิ้นหนึ่งมอบให้ขันทีใหญ่เฝิงเย่า
ตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนไปถึง คณะทูตจากแคว้นต่างๆ ที่นำของกำนัลมาให้ยังไม่ได้จากไป เขารออยู่นอกจวนกว่าหนึ่งชั่วยาม เฝิงเย่าจึงเดินออกมาจากจวนอย่างไม่รีบร้อน
เซียวหรงเหยี่ยนเห็นดังนี้จึงรีบเข้าไปทำความเคารพ “หรงเหยี่ยนคารวะกงกงขอรับ”
เฝิงเย่าวางมาด กล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยนตามมารยาทประโยคหนึ่ง เซียวหรงเหยี่ยนจึงสั่งให้เยว่สือ
มอบกล่องไม้ที่มีบัญชีกิจการอยู่ในนั้นให้เฝิงเย่า กล่าวเสียงแผ่วเบา “เหตุใดผู้ที่มาในครั้งนี้คือเสี่ยวอาลี่”
“นายน้อยก็ทราบดีว่าองค์ชายสี่มีความคิดเป็นของตัวเองตั้งแต่เล็ก ครั้งนี้องค์ชายสี่ยืนกรานจะมาแทนองค์ชายรองให้ได้ขอรับ” เฝิงเย่ายังคงแสร้งทำเป็นสนทนากับเซียวหรงเหยี่ยนด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนเหมือนเดิม “นายน้อยไม่ต้องกังวลขอรับ องค์ชายสี่มีสติปัญญาและไหวพริบดีมาตั้งแต่เล็กขอรับ”
เรื่องมาถึงขึ้นนี้แล้ว เซียวหรงเหยี่ยนจะกล่าวสิ่งใดได้อีก
ชายหนุ่มเม้มปากเล็กน้อยพลางเอ่ยขึ้น “เมื่อครู่ข้าเห็นว่าทูตของหรงตี๋ก็มาด้วย…”
“ขอรบ ทว่า ฝ่าบาทไม่ทรงพบขอรับ”
“รบกวนเหล่าซูบอกเสด็จพี่ด้วยว่าสามารถลอบส่งคนไปพบทูตของหรงตี๋เป็นการส่วนตัวได้ ครั้งนี้ต้าเยี่ยนอาจถือโอกาสตอนที่หรงตี๋กำลังวุ่นวายยึดดินแดนสวรรค์สำหรับการเลี้ยงม้าอย่างหรงตี๋มาครอบครองได้ อีกทั้งเป็นการปูทางสำหรับโจมตีต้าจิ้นและต้าเหลียงในอนาคตด้วย! แม้ครั้งนี้อาจเสี่ยงอันตรายมาก ทว่า โอกาสดีๆ เช่นนี้หายาก หากเสด็จพี่กล้าเสี่ยง มันจะเป็นผลดีต่อต้าเยี่ยนมาก”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบก็โค้งคำนับเฝิงเย่ายิ้มๆ
เฝิงเย่าพยักหน้าให้ยิ้มๆ เอื้อมมือไปลูบกล่องที่ใส่บัญชีเหล่านั้น แสร้งทำเป็นเดินกลับเข้าไปในจวนอย่างพอใจ
ภายในที่พักรับรอง
เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยได้ยินว่าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนพาโอรสเดินทางมาถึงต้าจิ้นแล้ว ทว่า กลางวันนี้ไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงในวังหลวง ชายหนุ่มเม้มปากเล็กน้อย
เมื่อหมอทำแผลให้ชายหนุ่มเสร็จแล้วเดินออกไปจากห้อง หลี่จือเจี๋ยแต่งกายให้เรียบร้อย หันไปสั่งลู่เทียนจัว “เจ้าเตรียมของกำนัลสักชิ้นแล้วส่งไปให้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยน”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ลู่เทียนจัวรับคำพลางเดินออกไปจากห้อง
หลี่จือเจี๋ยแต่งกายเสร็จเรียบร้อย เขายกชาขึ้นจิบ จากนั้นเรียกคนเข้ามา “ไปบอกองค์หญิงว่าวันนี้ให้นางพักผ่อนอย่างเต็มที่อยู่ในที่พัก เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานเฉลิมพระชนมพรรษาของจักรพรรดิต้าจิ้นในวันพรุ่งนี้ พวกเราไม่ไปร่วมงานเลี้ยงวันนี้แล้ว”
ในเมื่อจักรพรรดิต้าจิ้นไม่ได้เชิญจักรพรรดิต้าเยี่ยนที่เดินทางมาถึงเมืองหลวงเข้าร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ แสดงว่าคงเป็นงานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะของต้าจิ้น หากพวกเขาไปร่วมงาน…มีแต่จะโดนย่ำยีมากขึ้นกว่าเดิม ไม่สู้อ้างว่าเขาป่วยหนัก องค์หญิงร่างกายอ่อนแอ จึงไม่ไปร่วมงานเสียดีกว่า
ค่อยให้องค์หญิงแห่งซีเหลียงทำให้ทุกคนตกตะลึงในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของจักรพรรดิต้าจิ้นดีกว่า
เพราะว่าพรุ่งนี้คืองานเฉลิมพระชนมพรรษาของจักรพรรดิต้าจิ้น งานเลี้ยงตอนกลางวันในวันนี้จึงเป็นไปอย่างเรียบง่าย จักรพรรดิเชิญครอบครัวของขุนนางที่มีความดีความชอบในสงครามหนานเจียงครั้งนี้มาร่วมงาน
จักรพรรดิต้าจิ้นได้ยินว่าเหยียนอ๋องและองค์หญิงแห่งซีเหลียง คนหนึ่งอ้างว่าป่วยหนัก อีกคนอ้างว่าร่างกายอ่อนแอ ขอไม่ร่วมงานเลี้ยงในวันนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานในวันพรุ่งนี้ เขารู้สึกว่าซีเหลียงยังรู้ขอบเขตของตัวเองดี
เมื่อได้ยินว่าโอรสที่จักรพรรดิต้าเยี่ยนพามาคือโอรสที่เกิดจากฮองเฮา เขาตะลึงไปครู่ใหญ่ จากนั้นรู้สึกว่าต้าจิ้นมีบารมีไปทั่วทุกแคว้น จักรพรรดิต้าเยี่ยนจึงพาโอรสองค์ที่สองที่เกิดจากฮองเฮามาแสดงไมตรีต่อต้าจิ้นเช่นนี้
ตอนนี้แคว้นต้าเยี่ยนเป็นเพียงแคว้นยากจนเล็กๆ เท่านั้น ต่อให้ยึดหนานเยี่ยนกลับคืนไปได้ ทว่า คงไม่กล้าเปิดศึกกับต้าจิ้นอีกครั้งแน่นอน!
อารมณ์ของฮ่องเต้ดีกว่าเมื่อเช้ามากนัก กล่าวกำชับองค์รัชทายาท “ในเมื่อต้าเยี่ยนส่งโอรสที่เกิดจากฮองเฮามาเป็นตัวประกันเพื่อแสดงความจริงใจถึงเพียงนี้ ต้าจิ้นของเราจะเสียมารยาทไม่ได้เด็ดขาด ช่วงที่องค์ชายของต้าเยี่ยนอยู่ที่เมืองหลวง หากเมืองหลวงมีเรื่องสนุกอันใด เจ้าจงพาเขาไปเปิดหูเปิดตาด้วย บอกกับบรรดาคุณชายเจ้าสำราญพวกนั้นว่าอย่ามาหาเรื่ององค์ชายสี่เด็ดขาด”
“ลูกทราบดีพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อทรงวางพระทัยได้” องค์รัชทายาทประคองจักรพรรดิต้าจิ้นออกมาจากห้องด้านใน “วันที่หก เดือนสี่ เสด็จลุงสามทรงจัดการแข่งม้าและเชิญลูกไปดู เวลานั้นลูกจะพาองค์ชายสี่แห่งต้าเยี่ยนไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะช่วยให้เขาคุ้นเคยกับเมืองหลวงโดยเร็ว ให้บรรดาคุณชายเจ้าสำราญที่มีหลู่หยวนเผิงเป็นแกนนำสนิทสนมกับองค์ชายสี่ให้มากพ่ะย่ะค่ะ”
อยู่ในสิ่งแวดล้อมเช่นไรก็จะกลายเป็นคนเช่นนั้น สนิทสนมกับบรรดาคุณชายเจ้าสำราญ…