สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 298
แสร้งทำเป็นสร้างสถานการณ์เข้าช่วยเหลือ จากนั้นไปสู่ขอที่บ้าน เป็นแผนการที่ไม่เลวที่เดียว
ทว่า หลี่เม่าต้องการหลอกใช้ชุนซิ่งทำสิ่งใดกันแน่!
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนกำลังครุ่นคิด ชุนซิ่งจึงก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอีกครั้ง
“คุณชายหกแห่งจวนเสนาบดีกรมการคลังชอบบ่าว บ่าวก็ชอบคุณชายหกเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ! เรื่องนี้ไม่มีลับลมคมในใดๆ ทั้งสิ้นแน่นอนเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ได้โปรดอนุญาตบ่าวด้วยเถิดเจ้าค่ะ หากคุณหนูใหญ่ยอมอนุญาต ชาตินี้ชุนซิ่งจะไม่ลืมบุญคุณ และตอบแทนคุณหนูใหญ่ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตามเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองชุนซิ่งที่กำลังคุกเข่าคำนับแนบพื้น นึกไม่ถึงเลยว่าชุนซิ่งจะกล้ากล่าวว่า…เรื่องนี้ไม่มีลับลมคมในใดๆ ทั้งสิ้นออกมาเช่นนี้
นางดูถูกชุนซิ่งเกินไป ชุนซิ่งฉลาดกว่าที่นางคิดมาก ชุนซิ่งคงรู้ดีอยู่แก่ใจเช่นเดียวกัน
ในเมื่อชุนซิ่งเข้าใจ ก็ดีเหมือนกัน…นางเลือกทางเดินของตัวเอง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นางต้องรับให้ได้
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวต่อ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าขายตัวเป็นทาสแล้ว พ่อแม่ของเจ้าไม่มีสิทธิ์เข้ามาก้าวก่ายเรื่องการแต่งงานของเจ้า”
ร่างของชุนซิ่งสั่นเทิ้ม เงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนอย่างกล้าๆ กลัวๆ “คุณ…คุณหนูใหญ่!”
“เจ้าเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายของข้า ไม่ใช่สาวใช้ธรรมดา ทางหนึ่งคือหาคู่ครองที่เหมาะสมให้เจ้าแต่งงานออกเรือนไป อีกทางคือขายเจ้าเพราะเจ้าทำผิดต่อเจ้านาย การไว้ชีวิตเจ้าถือเป็นความเมตตาอย่างสูงสุดแล้ว”
“คุณหนูใหญ่?” ชุนซิ่งเดาความคิดของไป๋ชิงเหยียนไม่ออก
“ในเมื่อเจ้าต้องการไปเป็นอี๋เหนียงของผู้อื่น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าระหว่างนายและบ่าว ข้าจำต้องหาเหตุผลขายเจ้าออกไป ตอนนั้นเจ้าค่อยให้แม่ของเจ้ามาไถ่ถอนตัวเจ้าก็แล้วกัน ต่อจากนั้นเจ้าจะแต่งงานกับผู้ใดก็ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋อีก”
ไป๋ชิงเหยียนมองชุนซิ่งด้วยแววตาราบเรียบสงบนิ่ง
ชุนซิ่งเบิกตาโพลงอย่างตกตะลึง หากเป็นเช่นนั้น…นางก็จะไม่ใช่สาวใช้ใหญ่ข้างกายของจวิ้นจู่อีกต่อไป ที่สำคัญตอนแต่งงาน…คุณหนูใหญ่ไม่มีทางเตรียมสินเดิมให้นางแน่นอน!
“ในเมื่อเจ้ากล่าวว่าที่จวนเสนาบดีกรมการคลังเลือกเจ้าเป็นอนุ ไม่ใช่เพราะเห็นว่าเจ้าเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายของข้า เรื่องนี้ไม่มีลับลมคมในใดๆ ทั้งสิ้น คุณชายหกเพียงแค่ชอบพอในตัวเจ้าเท่านั้น เช่นนั้น…ต่อให้เจ้าไม่ได้เป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายของข้า จวนเสนาบดีกรมการคลังก็คงยังอยากได้เจ้าอยู่ดี”
“แต่ว่าคุณหนูใหญ่เจ้าคะ หากบ่าวถูกขายออกไป…เท่ากับมีมลทินติดตัวนะเจ้าคะ” ชุนซิ่งรีบคลานเข้าไปด้านหน้าสองก้าว “คุณหนูใหญ่ได้โปรดเมตตาบ่าวด้วยเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนมองดูชุนซิ่งที่ปกติสงบเสงี่ยมไม่เคยเผยความฉลาดออกมาแม้แต่น้อย บัดนี้นางถึงได้รู้ว่า…ที่จริงแล้วชุนซิ่งรู้ดีอยู่แก่ใจทุกอย่าง แต่แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้ก็เท่านั้น
“ชุนซิ่ง เจ้าขายตัวมาเป็นทาส การที่พ่อแม่เจ้าเข้ามาก้าวก่ายเรื่องการแต่งงานของเจ้าก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรแล้ว! คนเราไม่อาจสมหวังในทุกเรื่องได้ เจ้าทั้งอยากปีนป่ายขึ้นไปอยู่ในที่สูง ทั้งยังอยากใช้ฐานะการเป็นสาวใช้ข้างกายของจวิ้นจู่ยกระดับของตัวเองอีกด้วย เรื่องดีๆ ในใต้หล้าจะตกเป็นของเจ้าผู้เดียวได้อย่างไร แม้ข้าจะปฏิบัติต่อสาวใช้ข้างกายเป็นอย่างดี ทว่า ข้าไม่อาจยอมให้สาวใช้ปีนเกลียวกับข้าได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่”
ร่างของชุนซิ่งสั่นเทา ลำคอร้อนผ่าว จู่ๆ นางก็นึกถึงชุนเหยียนขึ้นมา
ถ้าเทียบเรื่องความผูกพัน คุณหนูใหญ่ผูกพันกับชุนเหยียนมากกว่านางไม่รู้ตั้งกี่เท่า ทว่า เมื่อชุนเหยียนทำผิด นางยังถูกคุณหนูใหญ่จัดการจนสุดท้ายตายอยู่ในคุก ทว่า นางรอบคอบระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ไม่เคยทำเรื่องให้คุณหนูใหญ่ไม่พอใจ
การกระทำในครั้งนี้แม้จะเกินขอบเขตไปบ้าง แต่นางก็ไม่ได้ทำร้ายคุณหนูใหญ่ แค่อยากจะคงฐานะการเป็นสาวใช้ใหญ่ที่เคยรับใช้ข้างกายคุณหนูใหญ่เอาไว้ แค่นี้ก็ไม่ได้หรือ
เมื่อเห็นว่าชุนซิ่งไม่กล่าวสิ่งใด ไป๋ชิงเหยียนจึงเอ่ยเรียก “ถงหมัวมัว…”
ถงหมัวมัวรับคำพลางเดินเข้ามา “คุณหนูใหญ่…”
“ชุนซิ่ง ในเมื่อเจ้ามีความคิดของตัวเอง จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ของเราก็จะไม่รั้งเจ้าไว้! คืนนี้เจ้าไปนอนที่โรงเก็บฟืนสักคืน ข้าจะได้ไม่ต้องให้ถงหมัวมัวลำบากไปตามพ่อค้าทาสมาที่จวนแล้วให้พ่อแม่ของเจ้ามาซื้อตัวเจ้าต่อไปให้ยุ่งยาก พรุ่งนี้ถงหมัวมัวจะไปแจ้งให้พ่อแม่เจ้ามารับตัวเจ้ากลับไปแต่เช้าตรู่”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“คุณหนูใหญ่…คุณหนูใหญ่ได้โปรดไว้หน้าบ่าวสักนิดเถิดเจ้าค่ะ! คุณหนูใหญ่ได้โปรดไว้หน้าบ่าวสักนิดเถิดเจ้าค่ะ” ชุนซิ่งร้องไห้
“ศักดิ์ศรีคือเรื่องที่ต้องแย่งชิงมาเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นมอบให้ เจ้าไม่อยากเป็นภรรยาเอกของผู้อื่นให้ได้รับการย่องเชิดหน้าชูตา ตอนนี้จะต้องการศักดิ์ศรีของสาวใช้อันใดกัน” น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนราบเรียบ
“ข้าจะไม่บอกกับคนภายนอกว่าเจ้าทำผิดเรื่องใด ทว่า ข้าจะประกาศกับทุกคนว่าจวนเจิ้นกั๋วกงจะไม่ใช้เจ้า และครอบครัวของเจ้าอีก เจ้าดูแลตัวเองให้ดีแล้วกัน”
ชุนซิ่งอยากขอร้องต่อ ทว่า กลับถูกถงหมัวมัวลากออกไปด้านนอกเสียก่อน
ไป๋ชิงเหยียนมองดูชุนซิ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้นแต่กลับคลานเข้ามาหานางด้วยสายตาเย็นชา
“คุณหนูใหญ่ได้โปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ! คุณหนูใหญ่ได้โปรดเหลือทางรอดให้บ่าวสักทางนะเจ้าคะ!”
“ชุนซิ่ง เจ้าหวังสูง ต้องการไปเป็นอี๋เหนียงให้คุณชายหกแห่งจวนเสนาบดี ข้าไม่ห้ามเจ้า ทว่า ในเมื่อพวกเจ้ารักใคร่ชอบพอกันทั้งสองฝ่าย ข้าจึงให้พ่อแม่มารับตัวเจ้ากลับไป เหตุใดตอนนี้เจ้ากลับไม่ยินยอม และขอให้ข้าเหลือทางรอดให้เจ้าล่ะ เห็นได้ชัดว่าเจ้ารู้ดีแก่ใจว่าเหตุใดจวนเสนาบดีกรมการคลังจึงเลือกเจ้าเป็นอนุ!”
ขาทั้งสองข้างของชุนซิ่งอ่อนแรง มองดูแวววตาเย็นชาของไป๋ชิงเหยียน เสียงร้องไห้หยุดชะงักลง
“ข้าไม่อาจปล่อยให้คนข้างกายของข้ามีใจเป็นอื่นได้ หากเจ้าไม่รู้เหตุผล ข้ายังพออภัยให้เจ้าได้ ทว่า เจ้ากลับแสร้งทำเป็นไม่รู้ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ เจ้าต้องการใช้ข้าเพื่อปูทางให้อนาคตของเจ้า! นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้…”
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ บ่าวไม่ได้คิดเช่นนั้นนะเจ้าคะ! คุณหนูใหญ่ได้โปรดไว้ชีวิตบ่าวเถิดเจ้าค่ะ!”
ถงหมัวมัวออกแรงดึงแขนทั้งสองข้างของชุนซิ่ง กัดฟันกรอดพลางลากตัวนางออกไปจากห้อง
“คุณหนูใหญ่! คุณหนูใหญ่ปล่อยบ่าวไปเถิดเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ได้โปรดเห็นแก่ที่บ่าวปรนนิบัติรับใช้คุณหนูอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง…”
“หากเจ้ายังโวยวายต่อไปจนรู้ไปถึงหูท่านแม่ของข้า ข้าคงทำได้เพียงตามพ่อค้าทาสเข้ามาแล้วนะ”
ไม่รอให้ชุนซิ่งกล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยขัดขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง ไม่ใจอ่อนสักนิด
ชุนซิ่งเงียบกริบทันที น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย
ทว่า ใจของไป๋ชิงเหยียนกลับเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม ชุนซิ่งผู้นี้เป็นคนฉลาดจริงๆ ด้วย ทว่า นางยิ่งฉลาดไป๋ชิงเหยียนก็ยิ่งรู้สึกผิดหวัง
นางรู้สึกว่านางปฏิบัติต่อสาวใช้ข้างกายอย่างมีเมตตา และใจกว้างมาโดยตลอด ทว่า กลับเลี้ยงคนอย่างชุนซิ่งและชุนเหยียนออกมา
ตอนนั้นชุนเหยียนโง่จริงๆ ถึงได้เรื่องที่โง่เง่าเพียงนั้น ทว่า ชุนเหยียนรักเหลียงอ๋องจากใจจริง
ทว่า ตอนนี้ชุนซิ่งเป็นคนฉลาดแต่กลับทำเรื่องที่โง่งม เพราะนางคิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่ นางมักใหญ่ใฝ่สูง
สาวใช้อย่างชุนซิ่งน่ารังเกียจกว่าชุนเหยียนและต้องคอยป้องกันมากกว่า
วันนี้นางให้ชุนซิ่งไปนอนที่โรงเก็บฟืน พรุ่งนี้ให้พ่อแม่ของนางมารับนางกลับไป จากนั้นป่าวประกาศออกไปว่าต่อจากนี้จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่จะไม่ใช้ชุนซิ่งและครอบครัวอีกต่อไป ต่อให้จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ไม่ได้บอกว่าชุนซิ่งทำผิดเรื่องใด ทว่า ผู้อื่นก็ต้องเดาได้ว่าชุนซิ่งทำผิดมหันต์
เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้จวนเสนาบดีกรมการคลังจะยังรับชุนซิ่งที่ถูกเจ้านายไล่ออกจากจวนไปเป็นอนุอยู่ นอกจากสืบเรื่องราวของนางจกชุนซิ่งแล้ว พวกเขาจะไม่ได้ประโยชน์สิ่งใดอีกทั้งนั้น
โชคดีที่ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เชื่อใจชุนซิ่งมากนัก เวลาทำเรื่องสำคัญมักหลีกเลี่ยงชุนซิ่งเสมอ
ไม่นานคนทั้งจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ก็รู้เรื่องที่ชุนซิ่งถูกถงหมัวมัวขังไว้ในโรงเก็บฟืน ทุกต่างถกเถียงกันว่าชุนซิ่งทำเรื่องผิดมหันต์อันใดลงไปกันแน่