สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 384 การใหญ่ในภายภาคหน้า
ตอนที่ 384 การใหญ่ในภายภาคหน้า
สายตาของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยความจริงใจ
ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจในทันที
จี้ถิงอวี๋คนของนางอาศัยอยู่บริเวณภูเขาหนิวเจี่ยว เซียวหรงเหยี่ยนจึงมาหานาง
ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองไปที่แผนที่คร่าวๆ ชี้นิ้วลงไปที่จุดหนึ่งพลางเอ่ยถาม
“การค้าของเซียวเซียนเซิงเกี่ยวข้องกับภูเขาเหล่านี้หรือเจ้าคะ”
เซียวหรงเหยี่ยนหยัดกายตรง มองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่ปิดบังคุณหนูใหญ่ ในภูเขาเหล่านี้มีเหล็กอยู่ขอรับ”
เขาสลัดความรู้สึกส่วนตัวทิ้งและไตร่ตรองอย่างละเอียดแล้ว คนของไป๋ชิงเหยียนแฝงตัวอยู่ละแวกนั้น หากเขาจะสร้างเหมืองเหล็กขึ้นที่นั่น ไม่มีทางปกปิดไป๋ชิงเหยียนได้แน่นอน
แทนที่ต้องมานั่งชิงไหวชิงพริบกับไป๋ชิงเหยียนพร้อมกับต่อสู้กับแคว้นอื่นไปด้วย ไม่สู้สารภาพออกไปตามตรง ผูกมิตรเพื่อผลกำไร ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายจะดีกว่า
ที่สำคัญหากมีไป๋ชิงเหยียนคอยดูแลปกป้องภูเขาเหล่านั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวราชสำนักต้าจิ้นจะตรวจพบ
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนนิ่งๆ
“แทนที่เซียวเซียนเซิงจะเรียกว่าการค้า ไม่สู้เรียกว่าเอาผลประโยชน์มาล่อดีกว่าเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าเซียวเซียนเซิงจะให้สิ่งใดเป็นการตอบแทนเจ้าคะ”
ภายใต้แสงไฟ ดวงตาของเซียวหรงเหยี่ยนสงบนิ่งราวกับสายน้ำ อ่อนโยน ทว่า ล้ำลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งของแววตา ชายหนุ่มมองสบตาคู่ที่ดูเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มของไป๋ชิงเหยียนซึ่งถือตะเกียงอยู่ในมือ ประหนึ่งว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของนางหมดแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ๆ เขาก็นึกถึงคืนก่อนจากกันที่เมืองหวั่นผิงขึ้นมา แสงของดวงจันทร์กลมโตกระทบลงบนใบหน้างดงามและลำคอเพรียวระหงของหญิงสาว ผิวขาวเนียนและเรือนรางที่สมส่วน ดวงตาคู่นั้นนิ่งขรึม ทว่า ใบหูขาวเนียนของหญิงสาวกลับแดงก่ำด้วยความเขินอาย ภาพเหล่านั้นยังตราตรึงอยู่ในสมองของเซียวหรงเหยี่ยน สลัดอย่างไรก็สลัดไม่หลุด
เซียวหรงเหยี่ยนจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่ง ก้าวเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิดอย่างอดไม่ไหว เสียงทุ้มต่ำกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
“เหยี่ยนอยากชนะไปพร้อมกับคุณหนูใหญ่ เหยี่ยนรู้ดีว่าเหตุใดคุณหนูใหญ่จึงให้คนซ่อนตัวอยู่กลางป่า แสร้งแสดงเป็นโจรป่าออกอาละวาด คุณหนูใหญ่รู้ดีใช่หรือไม่ขอรับว่าหากต้องการฝึกซ้อมกำลังทหารส่วนตัวในป่านั่น สิ่งที่จำเป็นคืออาวุธ ต้าเยี่ยนต้องการสร้างกองทัพที่แข็งแกร่ง ย่อมต้องการอาวุธเช่นเดียวกัน”
เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้จนเกินขอบเขตความพอดี ทว่า ไม่ได้มีท่าทีล่วงเกินแต่อย่างใด ชายหนุ่มเพียงจ้องนิ่งไปที่หญิงสาว แสงไฟนวลอ่อนส่องกระทบดวงตาดำขลับล้ำลึกของเขา แววตาอ่อนโยนและเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึก
ไป๋ชิงเหยียนกระชับมือที่ถือตะเกียงแน่น กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากกายของเซียวหรงเหยี่ยนลอยปะทะลมหายใจของหญิงสาวเล็กน้อย หญิงสาวหลบสายตา ก้มหน้าลง สายตาของหญิงสาวหยุดอยู่ที่ผ้าผูกเอวอันหรูหราและบริเวณเหนือเอวของชายหนุ่ม จากนั้นหมุนกายหลบสายตาของเซียวหรงเหยี่ยน หันไปจ้องมองแผนที่อย่างละเอียด
“ดังนั้นเซียวเซียนเซิงต้องการทำการค้าใดกับข้าเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามนิ่งๆ
“เหยี่ยนไม่ได้มีรากฐานที่เหนี่ยวแน่นอยู่ในแคว้นต้าจิ้นจึงขาดกำลังคน ทว่า ตระกูลไป๋เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีรากฐานที่มั่นคง ดังนั้นแทนที่เหยี่ยนจะเสียเวลาสรรหาคนที่มีความสามารถและส่งมายังต้าจิ้น ไม่สู้ร่วมมือกับคุณหนูใหญ่ เหยี่ยนซื้อภูเขา คุณหนูใหญ่สร้างเหมือง คุณหนูใหญ่จะได้ส่วนแบ่งสามส่วนขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
ความจริงแล้วการไป๋ชิงเหยียนลงแรงเปิดเหมือง ได้ส่วนแบ่งสามส่วนถือเป็นข้อเสนอที่เย้ายวนมากแล้ว
เซียวหรงเหยี่ยนมาหาไป๋ชิงเหยียนในเวลานี้ แสดงให้เห็นว่าเขารับรู้ปัญหาหนักใจของไป๋ชิงเหยียนดี
การฝึกฝนทหารต้องการเสบียงและอาวุธ
การฝึกฝนชาวบ้านเป็นทหารในเมืองซั่วหยางสามารถหาซื้อของเหล่านั้นได้อย่างเปิดเผย ตอนนี้คนของจี้ถิงอวี๋ยังน้อยอยู่สามารถรับมือได้ ทว่า หากภายภาคหน้ามีคนเพียงพอแล้วล่ะ ไหนยังมีอาเจวี๋ยที่อยู่ไกลออกไป แม้ทุกที่จะมีแม่ทัพของตระกูลไป๋คอยให้การช่วยเหลือ ทว่า สิ่งของมีจำกัด หากมากไป…ราชสำนักอาจระแวงสงสัยได้
“หากตระกูลไป๋สร้างเหมืองแร่ ข้าต้องป้องกันไม่ให้ราชสำนักล่วงรู้เรื่องนี้เด็ดขาด หากถูกจับได้จะต้องโทษประหารทั้งตระกูล…” ไป๋ชิงเหยียนชี้นิ้วไปยังแผนที่หนังแกะ
“เซียวเซียนเซิงกล่าวง่าย ทว่า หากลงมือทำ ตระกูลไป๋เป็นคนที่เสี่ยงที่สุดนะเจ้าคะ”
“เหยี่ยนเป็นพ่อค้า คนทำการค้ามีคติประจำใจอย่างหนึ่งคือต้องเสี่ยงถึงจะได้มา” เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองใบหน้าด้านข้างของไป๋ชิงเหยียน ใบหูและลำคอด้านข้างที่เนียนละเอียดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของหญิงสาวอย่างอดไม่ได้ เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า
“คุณหนูใหญ่เป็นคนประเภทเดียวกันกับเหยี่ยน ในเมื่อมีแผนการในใจแล้ว ไม่มีทางไขว้เขวเด็ดขาด”
ไป๋ชิงเหยียนกำมือแน่น รู้สึกคันเล็กน้อยบริเวณใบหู สองคนอยู่ใกล้ชิดกันมาก ไหล่ของนางแทบแนบชิดกับแผ่นอกของเซียวหรงเหยี่ยน ขณะกล่าวแผงอกของชายหนุ่มขยายขึ้นจนอยู่ใกล้เพียงคืบ
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น พื้นกระเบื้องของศาลาถูกน้ำฝนสาดกระเซ็นจนมันวาว หมอกกลางทะเลสาบก่อตัวหนาขึ้น
ไป๋ชิงเหยียนพยายามควบคุมสติของตัวเอง วางตะเกียงในมือลง หันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับเซียวหรงเหยี่ยนด้วยสีหน้าจริงจัง กล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “ตระกูลไป๋สร้างเหมืองเหล็ก หลอมเหล็กเป็นอาวุธมอบให้เซียวเซียนเซิง ตระกูลไป๋ไม่เอาเปรียบเซียวเซียนเซิง แบ่งกันคนละห้าส่วนเจ้าค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนมองสบตาไป๋ชิงเหยียนด้วยรอยยิ้ม มือลูบไปยังขอบโต๊ะหิน ขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด “คุณหนูใหญ่น่าจะรู้ว่า สามส่วนเจ็ดส่วน…เหยี่ยนยอมให้มากที่สุดแล้วขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ถอยแม้แต่น้อย “ต้าเยี่ยนมีพื้นที่มากมาย ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสถานที่ทำเหมืองแร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้าเยี่ยนยึดหนานเยี่ยนกลับคืนมาได้ ทรัพยากรของต้าเยี่ยนยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม หากเหยี่ยนเดาไม่ผิด ที่เซียวเซียนเซิงต้องการสร้างเหมืองบริเวณชายแดนของต้าจิ้นเป็นเพราะต้องการส่งมอบอาวุธไปให้กองทัพต้าเยี่ยนที่อยู่ในหรงตี๋ใช่หรือไม่เจ้าคะ แทนที่จะส่งเหล็กไปยังหรงตี๋ จากนั้นจัดหาคนที่ไว้ใจได้สร้างอาวุธขึ้นบริเวณแถบชายแดนของหรงตี๋ ไม่สู้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตระกูลไป๋ทั้งหมดจะดีกว่า เพราะไม่ว่าจะส่งเหล็กหรืออาวุธที่ประกอบเสร็จแล้วไปยังหรงตี๋ล้วนเสี่ยงเท่ากันอยู่ดี หากตระกูลไป๋รับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมด เซียวเซียนเซิงจะได้ให้คนที่ไว้ใจได้ของต้าเยี่ยนไปทำเรื่องอื่นที่มีประโยชน์ สร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้าแทนเจ้าค่ะ”
สำหรับการใหญ่ในภายภาคหน้าอย่างนั้นหรือ…
เซียวหรงเหยี่ยนหายใจแรงขึ้นเล็กน้อย ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจเขามากจริงๆ
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จต้องมองการณ์ไกล ไม่เห็นแก่ประโยชน์เพียงเล็กน้อยตรงหน้า
หากคำนึงถึงต้าเยี่ยน ขอเพียงเซียวหรงเหยี่ยนร่วมมือกับไป๋ชิงเหยียน ภายภาคหน้าต้าเยี่ยนจะมีโอกาสแย่งชิงใต้หล้ามาครอบครอง บางทีอาจเชิญไป๋ชิงเหยียนมาร่วมมือวางแผนด้วยก็ได้
เซียวหรงเหยี่ยนไม่เคยลืมว่าไป๋ชิงเหยียนเคยกล่าวว่า…ตระกูลไป๋ปกป้องชาวบ้าน ไม่ใช่ราชวงศ์หลิน
“ตกลงขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนตอบตกลงด้วยความหนักแน่น ทว่า ไม่มีท่าทีจะถอยห่างออกไปแม้แต่ก้าวเดียว ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวนิ่งอยู่อย่างนั้น
ไป๋ชิงเหยียนกำมือแน่น กลิ่นกายของเซียวหรงเหยี่ยนรบกวนสมาธิของนางยิ่งนัก หญิงสาวกล่าวขึ้น “หากเซียวเซียนเซิงไม่มีธุระอันใดแล้ว เหยียนขอตัวก่อนนะเจ้าคะ เมื่อเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย เหยียนจะให้ผู้ดูแลไปแจ้งให้ผู้ดูแลของเซียวเซียนเซิงทราบเจ้าค่ะ”
หญิงสาวไม่อยากสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ทว่า นางไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนเป็นบุรุษที่มีเสน่ห์มากๆ คนหนึ่ง
แม้ใบหน้าของชายหนุ่มจะไม่ได้โดดเด่นจนได้สมญานามว่าบุรุษงามอันดับหนึ่งเหมือนดั่งพี่ชายของเขา ทว่า ภายใต้หน้ากากอันอบอุ่นของเขาคือใบหน้าที่หล่อเหลาคมคาย คมกริบและลึกลับซึ่งได้มาจากประสบการณ์และความเจ้าวางแผนของเขาซึ่งสั่งสมมาหลายปี ทว่า ความลึกลับเหล่านี้ล้วนเต็มไปความสุขุม และเสน่ห์ที่น่าค้นหา
พ่อค้าแห่งแคว้นต้าเว่ยเซียวหรงเหยี่ยน แม้จะมีฐานะต่ำต้อย ทว่า ความรู้ความสามรถ และรัศมีของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ใดทั้งสิ้น แม้จะดูเหมือนเป็นลูกเป็นในฝูงหงส์ยามที่อยู่ท่ามกลางบรรดาคุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ ทว่า กลับมีคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์จำนวนไม่น้อยที่หลงใหลชอบพอในตัวของชายหนุ่ม
ลมหนาวพัดพาไอฝนเข้ามาในศาลาอย่างแรง โคมไฟที่แขวนอยู่ใต้หลังคาศาลาสะบัดอย่างแรงจนเกิดเสียง แผนที่ซึ่งกางอยู่บนโต๊ะหินปลิวขึ้น ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนรีบยื่นมือไปจับไว้
พริบตานั้น หญิงสาวเซเข้าไปปะทะอ้อมกอดของเซียวหรงเหยี่ยนอย่างแรง หน้าผากแนบโดนริมฝีปากร้อนของชายหนุ่ม
ใบหูเต็มไปด้วยเสียงฝนกระทบทะเลสาบ โคมไฟสะบัดแกว่งไปมา ปลาคาร์ปแหวกว่ายและโผล่พ้นน้ำจนเกิดเสียงดังเป็นบางคราว