สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 459 จุดจบที่ดี
ตอนที่ 459 จุดจบที่ดี
ดังนั้นต่งฉางเซิงจึงรอให้น้องสาวทั้งสามกลับมาที่จวน เขาอยากพาพวกนางไปด้วย ทว่า ต่งถิงเจินกลับปฏิเสธ
ต่งฉางเซิงคิดว่าต่งถิงเจินยังเขินอายเรื่องที่เฉินเจาลู่มาสู่ขอ กลัวว่าจะบังเอิญพบกับชายหนุ่ม เขาจึงไม่บังคับน้องสาว
ต่งฉางหยวนก้มมองดูกระดานหมากตรงหน้า รู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าฉลองสักเท่าใด เขาเชื่อว่าท่านป้าไม่ยินดีให้ญาติผู้พี่นำชีวิตไปเสี่ยงที่สนามรบเพื่อแลกกับฐานะองค์หญิงเช่นนี้
ต่งถิงเจินนั่งอยู่หน้าโต๊ะประทินโฉม กำกำไลที่เหลียงอ๋องมอบให้แน่น หัวเราะออกมาราวกับคนไม่มีสติ
“คุณหนู! คุณหนู คุณหนูเปี่ยวมาเจ้าค่ะ” ไห่ถัง สาวใช้ข้างกายของต่งถิงเจินวิ่งเข้ามาด้านใน ทำความเคารพแล้วกล่าวขึ้น “คุณหนูเปี่ยวเข้ามาในเรือนแล้วเจ้าค่ะ”
“พี่หญิง?” ต่งถิงเจินรีบเก็บกำไลข้อมือลงในกล่องไม้สีแดง ลุกขึ้นยืนเดินออกไปต้อนรับ ไป๋ชิงเหยียนสวมเครื่องแต่งกายเรียบง่ายเดินเข้ามาในเรือนอย่างสง่างาม
“พี่หญิง!” ต่งถิงเจินยิ้มกำลังมีความสุขกับเรื่องดีๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้น หญิงสาวเดินเข้าไปคล้องแขนไป๋ชิงเหยียนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เพิ่งเจอกันเมื่อครู่ เหตุใดพี่หญิงถึงมาที่นี่เจ้าคะ”
“ให้สาวใช้ของเจ้าออกไปให้หมดเถิด พี่มีเรื่องอยากคุยกับเจ้า!” ไป๋ชิงเหยียนมองต่งถิงเจิน กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของไป๋ชิงเหยียน ต่งถิงเจินพยักหน้าให้ไห่ถังพาสาวใช้ทั้งหมดออกไปจากห้อง ปิดประตูหน้าต่างสนิท จากนั้นนั่งลงบนแหย่งไม้สักซึ่งอยู่ข้างเตียงพร้อมกับไป๋ชิงเหยียน
“พี่หญิงเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ” ต่งถิงเจินเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน
“คนในใจเจ้าคือ…เหลียงอ๋องอย่างนั้นหรือ”
ต่งถิงเจินถูกเปิดโปงความลับที่ซ่อนไว้ในใจ หญิงสาวชักมือที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ตัวเล็กกลับ บีบมือทั้งสองที่วางอยู่ตรงหน้าท้องแน่น กล่าวขึ้น “ในเมื่อพี่หญิงทราบแล้ว ข้าก็ไม่ขอไม่ปิดบังพี่หญิงเจ้าค่ะ ข้าและเหลียงอ๋องมีใจให้กันจริงๆ ก่อนหน้านี้เหลียงอ๋องทรงเข้าพระทัยผิดคิดว่าพี่หญิงคือข้าเมื่อตอนเป็นเด็กจึงต้องการสู่ขอพี่หญิงเจ้าค่ะ ข้าก็เคยคิดว่าหากข้ารับรักเหลียงอ๋อง จะเป็นการหักหน้าพี่หญิงหรือไม่ ทว่า…”
“ถิงเจิน ที่พี่มาวันนี้ไม่ใช่เพราะรู้สึกว่าเจ้าหักหน้าพี่และไม่ได้มาเพื่อหยุดยั้งเจ้า พี่แค่อยากเล่าเรื่องบางอย่างให้เจ้าฟัง เจ้าเป็นคนฉลาดย่อมแยกแยะทุกอย่างได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว เจ้าจะจัดการความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเหลียงอ๋องเช่นไรนั่นเป็นเรื่องของเจ้า พี่จะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวาย ดีหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
ต่งถิงเจินเป็นคนที่ฉลาดและอ่อนโยนที่สุดในบรรดาพี่น้อง เป็นคนที่น่าเป็นห่วงน้อยที่สุด
ที่สำคัญ แม้ไป๋ชิงเหยียนและต่งถิงเจินจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทว่า พวกนางไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน นางไม่อาจนำวิธีที่จัดการบรรดาน้องสาวของตัวเองมาจัดการต่งถิงเจินและเหลียงอ๋องได้
เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนไม่ได้มีท่าทีแข็งกร้าว เพียงแค่ต้องการอธิบายเหตุผล ต่งถิงเจินกำผ้าเช็ดหน้าแน่นพลางพยักหน้า “ในสายตาของเจ้าเหลียงอ๋องคงเป็นคนน่าสงสารที่มักจะถูกผู้อื่นรังแกอยู่เสมอ เจ้าเป็นคนมีจิตใจเมตตา ตอนแรกคงแค่รู้สึกสงสารเขา ทว่า เหลียงอ๋องเห็นเจ้าเป็นทุกอย่างของชีวิต จากที่ไม่เคยหวั่นไหว เจ้าจึงเริ่มคิดอยากปกป้องเหลียงอ๋อง ไม่อยากให้ผู้อื่นรังแกเขาได้อีก พี่กล่าวถูกต้องหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถาม
“พี่หญิง เหลียงอ๋องน่าสงสารจริงๆ เจ้าค่ะ เหลียงอ๋อง…” ต่งถิงเจินนึกถึงชีวิตที่ผ่านมาของเหลียงอ๋อง ขอบตาของนางร้อนผ่าว
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “พี่รู้ สตรีที่มีใจเมตตาทุกคน หากได้ยินสิ่งที่เหลียงอ๋องเผชิญมาย่อมรู้สึกเห็นใจเป็นธรรมดา ทว่า พี่อยากจะเล่าให้เจ้าฟังเรื่องที่เหลียงอ๋องหลอกให้ชุนเหยียนสาวใช้ข้างกายของพี่นำจดหมายซึ่งอ้างว่าเป็นจดหมายรักไปวางในห้องหนังสือของท่านปู่”
ต่งถิงเจินกำผ้าเช็ดหน้าแน่น กัดริมฝีปากไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น
“เหลียงอ๋องอ้างว่าถูกหลอกให้ช่วยซิ่นอ๋องจึงวางแผนใส่ร้ายว่าท่านปู่พี่เป็นกบฏ โทษของกบฏคือการโดนประหารทั้งตระกูล เหลียงอ๋องไม่รู้จริงๆ หรือ ผู้ที่สามารถลอกเลียนแบบลายมือของผู้อื่นได้จะเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์อย่างนั้นหรือ ยิ่งไปกว่านั้น เกาเซิง องครักษ์ข้างกายของเหลียงอ๋องเป็นคนซ่อนตัวหลิวฮ่วนจางไว้ในเมืองหลวง ทว่า ถูกหรู่ซยงของพี่จับได้ เกาเซิงกลัวว่าหลิวฮ่วนจางจะทรยศจึงคิดกำจัดเขา! เจ้าคงจำเรื่องที่
หรู่ซยงของพี่นำตัวเกาเซิงและศพของหลิวฮ่วนจางไปตีกลองเติงเหวินร้องทุกข์ได้!”
“เกาเซิงมีวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม หรู่ซยงของพี่ร่วมมือกับองครักษ์ยอดฝีมือของตระกูลไป๋ยังสูญเสียกองกำลังไปกว่าครึ่งถึงจะจับกุมตัวเกาเซิงได้ คนเช่นนี้ยินดีติดตามรับใช้เหลียงอ๋อง เหลียงอ๋องเป็นเพียงคนไร้ความสามารถจริงๆ อย่างนั้นหรือ”
ต่งถิงเจินไม่กล่าวโต้ตอบ เหงื่อซึมขึ้นที่ฝ่ามือของหญิงสาว
“หรู่ซยงของพี่แสดงหลักฐานที่เป็นจดหมายซึ่งเขียนด้วยลายมือของเหลียงอ๋องหน้าท้องพระโรง เนื้อหาในจดหมายเด็ดขาดแน่วแน่ กล่าวว่าหากหลิวฮ่วนจางคิดทรยศเหลียงอ๋องและเปิดโปงเรื่องที่ร่วมมือกับเขา
เหลียงอ๋องจะส่งคนทั้งตระกูลของหลิวฮ่วนจางไปอยู่เป็นเพื่อนหลิวฮ่วนจางในปรโลก ที่สำคัญตั้งแต่บ่าวรับใช้ของเหลียงอ๋องไปรายงานเรื่องราวทั้งหมดที่จวนเหลียงอ๋อง ระยะเวลาที่เหลียงอ๋องใช้เขียนจดหมายและส่งจดหมายออกไปจากจวนเหลียงอ๋องไม่ถึงครึ่งชั่วยามเสียด้วยซ้ำ เมื่อถูกท่านย่าของพี่เค้นถาม เหลียงอ๋องก็ไม่เคยอธิบายว่าเขาเขียนจดหมายฉบับนั้นตามคำบอกเล่าของผู้อื่น หรือคิดและเขียนออกมาด้วยตัวเองกันแน่!”
“ฉินเต๋อเจาลอบสับเปลี่ยนเสบียงอาหารที่ส่งไปยังหนานเจียงทำให้กองทัพใหญ่ขาดแคลนเสบียงอาหาร แม้ในจดหมายที่เหลียงอ๋องเขียนจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ ทว่า จากเนื้อหาในจดหมายก็เดาได้ไม่ยากว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย!”
ไป๋ชิงเหยียนมองใบหน้าของต่งถิงเจินที่ค่อยๆ ซีดเผือดลงเรื่อยๆ เอ่ยถามเสียงเบาหวิว “ความรักระหว่างคนสองคนมีค่ามากที่สุด โดยเฉพาะความรักระหว่างบุรุษและสตรี มันไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในแผนการชั่วร้ายใดๆ ทั้งสิ้น ตระกูลต่งไม่ควรกลายเป็นเครื่องมือปูทางให้เหลียงอ๋องใช้แย่งชิงราชบัลลังก์ แม้การแต่งงานจะเป็นเรื่องของคนสองคน ทว่า มันเกี่ยวข้องกับคนทั้งตระกูลด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหากมีเรื่องการแย่งชิงราชบัลลังก์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ติดตามไม่เคยมีจุดจบที่ดีเลยสักคน หากพ่ายแพ้…จะกลายเป็นนักโทษทันที มีผู้ติดตามสักกี่คนที่มีจุดจบที่ดีกัน”
ต่งถิงเจินก้มหน้านิ่ง หญิงสาวไม่กล้าถามออกไปว่าเช่นนั้นเหตุใดพี่หญิงจึงยินดีติดตามรับใช้องค์รัชทายาท
“ข้าเข้าใจความกังวลของพี่หญิงเจ้าค่ะ ทว่า เหลียงอ๋องไม่ได้มีใจคิดแย่งชิงราชบัลลังก์นะเจ้าคะ” ต่งถิงเจินเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน “ที่สำคัญ ให้ใจไปแล้ว ยากจะถอนคืนเจ้าค่ะ! พี่หญิง ข้ามอบสร้อยนำโชคซึ่งเป็นของติดกายให้เหลียงอ๋องไปแล้ว เหลียงอ๋องนำของสิ่งนั้นเข้าวังไปทูลขอให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้แล้วเจ้าค่ะ”
กล่าวจบ น้ำตาของต่งถิงเจินไหลพราก
ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดแน่น เหตุใดต่งถิงเจินจึงเลอะเลือนจนมอบของติดกายของตนเองให้บุรุษอื่นเช่นนี้นะ!
ไป๋ชิงเหยียนหลับตาลง เมื่อสงบสติได้จึงกล่าวขึ้น “หากเจ้าคิดได้ พี่จะจัดการเรื่องที่เหลือให้เอง”
ต่งถิงเจินส่ายหน้า “พี่หญิง ข้ารู้ว่าพี่หญิงหวังดีต่อข้า ท่านเป็นคนใจกว้าง ตรงไปตรงมา ข้ารู้ดีว่าพี่หญิงกลัวว่าข้าจะถูกหลอกใช้จึงมาเตือนข้า ไม่ได้โกรธที่เหลียงอ๋องเคยรักพี่หญิงมาก่อน! ทว่า ข้าเป็นคนเลือกเหลียงอ๋องเอง บนโลกนี้สตรีไม่มีอำนาจตัดสินใจสักเท่าใดนัก ข้าได้เลือกการแต่งงานครั้งนี้ด้วยตัวเอง ข้ารู้สึกดีใจมากเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากแน่น
“ข้าอิจฉาพี่หญิงมาตั้งแต่เล็กเจ้าค่ะ” แววตาของต่งถิงเจินเปิดเผย “พี่หญิงเกิดในตระกูลไป๋ ได้รับการเลี้ยงดูสั่งสอนจากเจิ้นกั๋วอ๋องและองค์หญิงใหญ่ตั้งแต่เด็ก สามารถทำตามใจต้องการ สามารถฝึกวรยุทธ์ สามารถขี่ม้า สามารถแข่งขันกับบุรุษ สามารถสร้างกองทัพของตัวเองได้…”