สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 537 เสียงฆ่าฟันดังกระหึ่ม
ตอนที่ 537 เสียงฆ่าฟันดังกระหึ่ม
ไป๋ชิงเหยียนสบตากับต่งฉางหลาน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่
“อาเป่าจะจากไปวันมะรืนนี้อยู่แล้ว ท่านพี่ควรให้อาเป่าอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ให้มากถึงจะถูก! เหตุใดถึงตามอาเป่าไปที่ห้องตำราอย่างรีบร้อนเช่นนี้กัน!” ชุยซื่อกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่น
สิ้นเสียงของชุยซื่อ ต่งเหล่าไท่จวินที่เพิ่งทานของว่างหมดหนึ่งชิ้นก็เอ่ยขึ้น “พวกเจ้าไปเถิด”
ต่งเหล่าไท่จวินรับผ้าขนหนูจากหวังหมัวมัวมาเช็ดทำความสะอาดมือ ยกชาร้อนขึ้นจิบ กล่าวยิ้มๆ “ท่านน้าสะใภ้และน้องสะใภ้ของเจ้าอยู่เป็นเพื่อนยายก็พอแล้ว ไปเถิด อย่ามัวเสียเวลาเลย!”
ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพต่งเหล่าไท่จวิน จากนั้นเดินออกจากห้องไปพร้อมกับต่งฉางหลาน
ต่งชิงเยว่เรียกไป๋ชิงเหยียนและต่งฉางหลานไปพบอย่างรีบร้อนเช่นนี้เพราะสายลับของเขามารายงานว่าขบวนเจ้าสาวของต้าเยี่ยนถูกหนานหรงโจมตีระหว่างทาง ขบวนของต้าเยี่ยนส่งคนมาขอความช่วยเหลือจากกองทัพเติงโจวและค่ายทหารผิงอันแล้ว บัดนี้ทหารที่มาขอความช่วยเหลืออยู่ในจวนต่ง
ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองแผนที่ที่ต่งชิงเยว่แขวนไว้กลางห้องตำรา ชี้ไปยังสถานที่ที่ขบวนส่งตัวเจ้าสาวของต้าเยี่ยนถูกหนานเยี่ยนโจมตี ขมวดคิ้วแน่น “ต้าเยี่ยนขอยืมใช้เส้นทางของต้าจิ้น เหตุใดถึงไม่เดินทางในเส้นทางของต้าจิ้นที่ติดกับแคว้นต้าเหลียง ผ่านภูเขาชุนมู่แล้วทะลุเข้าหรงตี๋ ทว่า กลับใช้เส้นทางอ้อมที่มีเขตแดนติดกับหนานหรงแล้วค่อยผ่านไปยังเป่ยหรงเช่นนี้ นี่เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้หนานหรงบุกโจมตีชัดๆ”
ไป๋ชิงเหยียนคิดอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจักรพรรดิต้าเยี่ยนและเซียวหรงเหยี่ยนจึงเลือกเดินทางในเส้นทางนี้ หรือว่าพวกเขาต้องการสำรวจกองทัพที่ชายแดนของต้าจิ้นอย่างละเอียดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับยึดครองต้าจิ้นในวันหน้าอย่างนั้นหรือ
ทว่า ตามหลักแล้ว หากต้าเยี่ยนต้องการครอบครองใต้หล้า ดูจากภูมิประเทศของต้าเยี่ยนแล้ว แคว้นที่ตอนนี้ต้าเยี่ยนต้องสำรวจให้ละเอียดที่สุดไม่ใช่ต้าจิ้นควรจะเป็นแคว้นเว่ยและซีเหลียง ต่อมาถึงจะเป็นต้าจิ้นและต้าเหลียงเป็นลำดับสุดท้ายไม่ใช่หรือ
ต้าเยี่ยนไม่มีทางเลือกโจมตีแคว้นต้าจิ้นก่อนจนทำให้ตัวเองถูกโจมตีจากสี่ทิศหรอก
เช่นนั้นก็คงเพราะอยากสำรวจกองกำลังของหนานหรง ต้าเยี่ยนอยากครอบครองทั้งเป่ยหรงและหนานหรงอย่างนั้นหรือ!
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นทันที หรือว่าต้าเยี่ยนต้องการสำรวจภูมิประเทศที่แน่นอนของหรงตี๋กันแน่!
ต่งชิงเยว่ซึ่งถือถ้วยน้ำชาอยู่ในมือเงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียนและต่งฉางหลานที่ยืนอยู่หน้าแผนที่ “พวกเจ้ามีความเห็นเช่นไร คิดว่าควรช่วยดีหรือไม่”
“ข้าคิดว่าควรช่วยขอรับ บัดนี้โอรสของต้าเยี่ยนอยู่เป็นตัวประกันที่ต้าจิ้น ครั้งนี้พวกเขามอบของกำนัลให้เรามากมายเพื่อขอใช้เส้นทางผ่านไปยังหรงตี๋ก็เพราะต้องการความคุ้มครองจากเราด้วย หากครั้งนี้ท่านพ่อไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ หากสองแคว้นบาดหมางกันขึ้นมา ฮ่องเต้อาจโทษว่าเป็นความผิดของท่านพ่อได้ขอรับ!” ต่งฉางหลานหันกลับไปมองต่งชิงเยว่ “ท่านพ่อไม่ต้องห่วงขอรับ ข้าจะนำกำลังออกไปช่วยเหลือเองขอรับ”
ที่ปรึกษาจวนต่งซึ่งนั่งอยู่ในห้องตำราพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ช่วยองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนมาให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยส่งม้าเร็วนำฎีกาไปสอบถามฮ่องเต้ว่าควรทำเช่นไรต่อ เช่นนี้ต้าเยี่ยนจะได้ติดหนี้บุญคุณของพวกเราด้วยขอรับ”
“อาเป่ามีความเห็นเช่นไร” ต่งชิงเยว่มองดูร่างผอมเพรียวของหลานสาว เอ่ยถามออกมา
“ช่วยเจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนหมุนตัวกลับไปจ้องหน้าต่งชิงเยว่นิ่ง “หากไม่ช่วย จะรู้จุดประสงค์ของต้าเยี่ยนได้เช่นไรกันเจ้าคะ ข้าจะพาองครักษ์ไป๋ไปพร้อมกับฉางหลานเจ้าค่ะ”
สถานการณ์คับขัน ต่งชิงเยว่ออกคำสั่งให้ออกนอกเมืองไปช่วยเหลือ ต่งฉางหลานจึงมุ่งหน้าไปคัดเลือกทหารที่ค่ายอย่างรวดเร็ว
ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้คนไปแจ้งให้องครักษ์ไป๋เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดเกราะแล้วรอนางอยู่หน้าจวนต่ง ไป๋ชิงเหยียนกลับไปที่เรือนของต่งเหล่าไท่จวิน สั่งให้ชุดเถานำชุดเกราะมาให้ หญิงสาวบอกต่งเหล่าไท่จวิน ชุยซื่อและเสี่ยวชุยซื่ออย่างคร่าวๆ ว่าจะออกนอกเมืองไปช่วยเหลือคน จากนั้นจึงกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของตัวเอง ปลดถุงทรายที่พันอยู่รอบลำตัวออก ให้ชุนเถาใส่ชุดเกราะให้
เมื่อต่งเหล่าไท่จวินได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวว่าจะออกไปช่วยเหลือคนออกมาจากน้ำมือของหรงตี๋ที่นอกเมืองก็ร้อนรนขึ้นทันที
แม้ไป๋ชิงเหยียนจะรบชนะกลับมาจากสงครามที่หนานเจียงและเป่ยเจียง ทว่า ต่งเหล่าไท่จวินก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี นางรีบจับมือของชุยซื่อและเสี่ยวชุยซื่อเดินออกไปด้านนอก
หวังหมัวมัวรีบแหวกม่านให้ต่งเหล่าไท่จวินเดินออกมาจากห้อง ไป๋ชิงเหยียนในชุดเกราะที่กำลังผูกเกราะที่ลำแขนเดินออกมาจากห้องพอดี
แสงแดดสีส้มอ่อนยามเย็นส่องกระทบลงบนร่างในชุดเกราะที่เยือกเย็นของไป๋ชิงเหยียน ทุกฝีก้าวของหญิงสาวเต็มไปด้วยไอสังหาร นั่นคือไอสังหารซึ่งคนที่ผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นถึงจะมี แม้จะดูสงบนิ่ง ทว่า มีความคมกริบแฝงตัวอยู่ ทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน
ต่งเหล่าไท่จวินเพิ่งเคยเห็นไป๋ชิงเหยียนที่ร่างเต็มไปด้วยไอสังหารเช่นนี้เป็นครั้งแรก นางตะลึงจนกล่าวสิ่งใดไม่ออกไปชั่วขณะ
หญิงสาวผูกเกราะที่ข้อมือเสร็จจึงหันกลับไปทำความเคารพต่งเหล่าไท่จวิน จากนั้นหมุนตัวเดินออกไปจากเรือน
เสี่ยวชุยซื่อมองตามแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียน มือที่จับแขนต่งเหล่าไท่จวินอยู่กระชับแน่นโดยไม่รู้ตัว
“ยามพี่หญิงไปออกรบ…เป็นเช่นนี้นี่เองนะเจ้าคะ”
ต่งเหล่าไท่จวินได้สติ รีบถือไม้เท้าเดินไปด้านหน้าสองก้าว ตะโกนตามหลังไป๋ชิงเหยียน “อาเป่า ระวังตัวด้วย!”
หลูผิงซึ่งอยู่ในชุดเกราะพาองครักษ์ตระกูลไป๋ยืนรอไป๋ชิงเหยียนอยู่ข้างม้าที่หน้าจวนต่ง เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนในชุดเกราะถือธนูเซ่อรื้อเดินนำทหารที่จะไปช่วยเหลือต้าเยี่ยนออกมาจากจวนต่ง หลูผิงจึงถลาเข้าไปด้านหน้าทันที “คุณหนูใหญ่ องครักษ์ไป๋อยู่ที่นี่หมดแล้วขอรับ!”
“ขึ้นม้า! ไปรวมตัวกับกองทัพเติงโจวที่นอกเมือง!” ไป๋ชิงเหยียนเดินลงจากบันไดจวนต่งอย่างรวดเร็ว ก้าวขึ้นไปบนหลังม้า ควบม้าทะยานออกไปทันที
“องครักษ์ไป๋! ขึ้นหลังม้า! ออกนอกเมือง!” หลูผิงตะโกนพลางก้าวขึ้นหลังม้า ควบม้าตามหลังไป๋ชิงเหยียนไปติดๆ
นอกเมืองเติงโจว ทหารกองทัพเติงโจวหนึ่งพันนายที่ต่งฉางหลานคัดเลือกให้ติดตามไปด้วยมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ขบวนของต้าเยี่ยนถูกโจมตีพร้อมกับองครักษ์ไป๋และไป๋ชิงเหยียน
ท้องฟ้าทางภูเขาตะวันตกเหลือเพียงแสงสีส้มอ่อนๆ ท้องฟ้าเหนือทุ่งหญ้าเริ่มมีดวงดาวขึ้นระยิบระยับ ดูเงียบงันและลึกลับ ในเวลาเดียวกันที่บริเวณชายแดนของต้าจิ้นซึ่งติดกับหนานหรง องครักษ์ที่เซียวหรงเหยี่ยนพามาด้วยกำลังต่อสู้อยู่กับทหารของหนานหรงอย่างเอาเป็นเอาตาย
รถม้าเจ้าสาวขององค์หญิงต้าเยี่ยนซึ่งประดับด้วยผ้าไหมสีแดงกำลังลุกไหม้ เปลวเพลิงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม้ของตัวรถม้าถูกเผาจนดำเป็นเถ้าถ่าน
ความมืดค่อยๆ คืบคลานท้องฟ้าจนมืดมิดเกือบหมด
เสียงลูกธนู ดาบ โล่และเสียงฆ่าฟันดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ
ทหารยอดฝีมือของหนานหรงสามพันนายปะทะกับขบวนส่งตัวเจ้าสาวของต้าเยี่ยน ทหารยอดฝีมือสามร้อยนายของต้าเยี่ยนได้รับบาดเจ็บและล้มตายกว่าครึ่ง องครักษ์ลับที่เยว่สือพามาด้วยกำลังต่อสู้ด้วยแรงกำลังทั้งหมดที่มี
ร่างของเยว่สือโชกไปด้วยเลือด ของเหลวสีแดงติดตามเครื่องแต่งกายของเขาจนเปื้อนไปทั่ว ลำแขนของเขาหนักอึ้งจนแทบไม่มีแรงยกดาบ ทว่า เขายืนหยัดด้วยสัญชาตญาณทั้งหมดที่มี พยายามฝ่าบุกออกไปให้ได้
ถูกทหารยอดฝีมือสามพันนายของหนานหรงห้อมล้อมเอาไว้ ขอบเขตของพวกเขาถูกกำจัดให้แคบลงทุกที ลูกธนูไฟพุ่งลอดผ่านโล่ของพวกเขาทะลุเข้าไปทางหน้าต่างรถม้าที่องค์หญิงต้าเยี่ยนประทับอยู่ สะเก็ดไฟจากลูกธนูหล่นลงบนพื้น ลูกธนูที่ติดไฟค่อยๆ ลุกลามรถม้าราวกับคนแก่ที่ค่อยๆ กัดกินอาหาร
ผ้าม่านที่ถูกลูกธนูพุ่งทะลุเข้าไปไร้ความเคลื่อนไหวอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นไฟลุกโหมขึ้นทันที หมัวมัวซึ่งอยู่ภายในรถม้ากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
ลมหนาวของทุ่งหญ้าพัดจากทิศใต้มาทางทิศเหนือ ผ้าม่านของรถม้าที่กำลังถูกเผาไหม้เลิกขึ้นเล็กน้อย…