สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 549 ภาวะเสื่อมถอย
ตอนที่ 549 ภาวะเสื่อมถอย
เซียวหรงเหยี่ยนคำนวณเวลาที่แม่ทัพหน้ากากผีปรากฏกายขึ้น เพลงดาบและการยิงธนูที่ไม่ธรรมดาของเขา อีกทั้งเมื่อไป๋ชิงเหยียนถามเรื่องนี้จากเขาในคืนนั้นเสร็จก็รีบร้อนจากไปทันที เซียวหรงเหยี่ยนจึงพอจะเดาได้ลางๆ แล้ว
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไป๋ชิงเหยียนก็ไม่คิดปิดบัง แววตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “อาจจะใช่เจ้าค่ะ ข้าส่งคนไปสืบที่หนานหรงแล้ว”
“เหยี่ยนขอแสดงความยินดีกับคุณหนูใหญ่ล่วงหน้าด้วยขอรับ!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจากใจจริง
ทายาททุกคนของตระกูลไป๋ล้วนมีความสามารถโดดเด่น ตอนอยู่รวมกันในแคว้นต้าจิ้นยังไม่ชัดสักเท่าใด บัดนี้คนหนึ่งอยู่ในต้าจิ้น อีกคนอยู่ที่หนานเจียง จึงเห็นอย่างชัดเจนถึงความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละคนในตระกูล
เซียงหรงเหยี่ยนอดเสียดายไม่ได้ หากคนเหล่านี้เกิดในแคว้นต้าเยี่ยน…คงจะดีไม่น้อย
“บัดนี้หนานหรงทำสงครามกับเป่ยหรง ต้าเยี่ยนอยู่ฝ่ายเป่ยหรง คงเลี่ยงการปะทะกับแม่ทัพหน้ากากผีไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากองค์หญิงหมิงเฉิงเสียชีวิตลง แม่ทัพเซี่ยสวินคงอยู่ร่วมโลกกับแม่ทัพหน้ากากผีไม่ได้” เซียวหรงเหยี่ยนชะงักฝีเท้าลง โค้งกายให้ไป๋ชิงเหยียน “ดังนั้นเหยี่ยนอยากขอให้คุณหนูใหญ่ไป๋ช่วยชีวิตองค์หญิงหมิงเฉิง ทำให้องค์หญิงหมิงเฉิงได้อยู่รักษาตัวต่อที่เติงโจวได้หรือไม่ขอรับ”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างอ้อนวอน องค์หญิงหมิงเฉิงยอมแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อแคว้นต้าเยี่ยน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็อยากช่วยชีวิตนางไว้ให้ได้
ทว่า ที่นี่คือเติงโจว เซียวหรงเหยี่ยนยังไม่ได้ส่งคนแฝงกายอยู่ที่นี่ เขาจึงไม่อาจทำตามใจต้องการได้
ทว่า นี่คือตระกูลฝ่ายมารดาของไป๋ชิงเหยียน หญิงสาวลงมือได้คล่องตัวกว่าเขามากนัก
ไป๋ชิงเหยียนยืนอยู่เบื้องหน้าเซียวหรงเหยี่ยน มองดูสีหน้าเว้าวอนของชายหนุ่มพลางเอ่ยขึ้น “แม้องค์หญิงหมิงเฉิงจะเป็นคนของแคว้นต้าเยี่ยน ทว่า ข้านับถือในความกล้าหาญที่องค์หญิงหมิงเฉิงเสนอตัวไปแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อแคว้นด้วยตัวเอง นับถือในความจงรักภักดีต่อแคว้นของนาง! ทว่า หากปล่อยให้นางอยู่รักษาตัวต่อที่นี่ หากองค์หญิงเป็นอันใดขึ้นมา ฮ่องเต้ต้องโทษว่าเป็นความผิดของท่านน้าชาย! ข้าไม่กลัวที่จะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ทว่า ข้าไม่อาจให้ท่านน้าชายของข้าแบกรับความผิดได้ ท่านเข้าใจใช่หรือไม่”
เซียวหรงเหยี่ยนหยัดกายตรงมองไปทางไป๋ชิงเหยียน เขารู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนกล่าวถูกต้อง
“ทว่า หากต้องการให้องค์หญิงหมิงเฉิงอยู่รักษาตัวต่อที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้ข้าออกหน้าเกลี้ยกล่อมท่านน้าชายของข้าด้วยซ้ำ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงสงบนิ่ง “องค์หญิงหมิงเฉิงยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานกับท่านอ๋องแห่งเป่ยหรง นางยังเป็นองค์หญิงของต้าเยี่ยนอยู่ โอรสของต้าเยี่ยนเป็นตัวประกันอยู่ที่ต้าจิ้น สองแคว้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ขอเพียงพวกท่านยอมลดตัวขอร้องต้าจิ้นให้องค์หญิงหมิงเฉิงอยู่รักษาตัวต่อที่เติงโจว มอบผลประโยชน์ให้ฮ่องเต้แห่งต้าจิ้น โดยที่ผลประโยชน์นี้ต้องดีมากจนท่านน้าชายของข้าไม่อาจปฏิเสธแทนฮ่องเต้ได้”
เซียวหรงเหยี่ยนขมวดคิ้วคิดตาม
“หากต้าเยี่ยนทำเช่นนี้ ท่านน้าชายของข้าจะได้ไม่ต้องลำบากใจ ต้าเยี่ยนยื่นผลประโยชน์ที่ท่านน้าชายไม่อาจปฏิเสธได้ ท่านน้าชายต้องถวายฎีกาไปรายงานฮ่องเต้ ถึงแม้ฮ่องเต้จะไม่ทรงอนุญาต ทว่า ระหว่างรอฎีกาไปกลับก็คงผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว ขอเพียงต้าเยี่ยนยอมแลกผลประโยชน์เพื่อองค์หญิงหมิงเฉิงคนนี้ก็พอ”
เซียวหรงเหยี่ยนเคยคิดที่จะสละดินแดนบางส่วนให้ต้าจิ้นเพื่อขอให้ต้าจิ้นช่วยรักษาองค์หญิงหมิงเฉิงเช่นกัน เพราะสูญเสียดินแดนยังพอแย่งชิงกลับมาได้ ทว่า หากคนเสียชีวิต เท่ากับทำสิ่งใดไม่ได้อีกแล้ว
ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนไม่ใช่ไป๋ชิงเหยียน เขาไม่รู้จักต่งชิงเยว่ดีพอ กลัวว่าหากต้าเยี่ยนเสนอดินแดนแลกเปลี่ยนกับการให้ต้าจิ้นช่วยรักษาองค์หญิงหมิงเฉิงอาจทำให้เรื่องแย่ลงกว่าเดิม ทำให้ต่งชิงเยว่คิดว่าต้าเยี่ยนมีจุดประสงค์แอบแฝง ต้องการลอบสำรวจเมืองเติงโจว ต่งชิงเยว่คงไม่ยอมให้พวกเขาอยู่ต่อ
เพราะไม่เคยมีแคว้นใดยอมสละดินแดนเพื่อแลกกับชีวิตขององค์หญิงที่เดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีเพียงคนเดียวมาก่อน เซียวหรงเหยี่ยนจึงกลัวว่าต่งชิงเยว่จะเกิดความหวาดระแวง
ทว่า หากไป๋ชิงเหยียนยินดีช่วยเหลือ เซียวหรงเหยี่ยนก็จะตัดสินใจทำตามนั้น
เซียวหรงเหยี่ยนโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนสุดตัว “ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่ไป๋ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือขอรับ ครั้งนี้ไม่ว่าองค์หญิงหมิงเฉิงจะมีชีวิตรอดหรือไม่ เหยี่ยนจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้ในใจไม่มีลืม เหยี่ยนจะให้แม่ทัพเผยของต้าเยี่ยนเสนอดินแดนแลกเปลี่ยนกับการให้ใต้เท้าต่งอนุญาตให้องค์หญิงหมิงเฉิงรักษาตัวที่เติงโจวต่อ ไม่มีทางทำให้ใต้เท้าต่งลำบากใจแน่นอนขอรับ”
“เซียวเซียนเซิงเกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้เล็กน้อย “ยอมเสียสละดินแดนของตัวเองเพื่อองค์หญิงเชื่อมไมตรี ไป๋ชิงเหยียนนับถือแคว้นต้าเยี่ยนยิ่งนักเจ้าค่ะ!”
เซียวหรงเหยี่ยนหยัดกายขึ้น มองไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่ง กล่าวขึ้น “บนโลกใบนี้ ใจที่จงรักภักดีควรได้รับการตอบแทนขอรับ!”
ใจที่จงรักภักดีควรได้รับการตอบแทนอย่างนั้นหรือ…
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยย้ำถ้อยคำนี้ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจางๆ
นั่นสินะ ผู้กล้าที่มีใจจงรักภักดีบนโลกใบนี้ควรได้รับการตอบแทน น่าเสียดายที่ราชวงศ์ต้าจิ้นไม่เข้าใจเรื่องนี้ พวกเขาทำผิดต่อใจที่ภักดีของตระกูลไป๋ ทำลายความไว้ใจของขุนนางผู้ภักดีอีกมากมาย
ดังนั้นราชวงศ์ต้าจิ้นในตอนนี้จึงตกอยู่ในภาวะเสื่อมถอยแล้ว
แคว้นที่เคยแข็งแกร่งยิ่งใหญ่อยู่เหนือทุกแคว้น บัดนี้ค่อยๆ เสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ
ส่วนแคว้นต้าเยี่ยนซึ่งขุนนางและจักรพรรดิมีใจเป็นหนึ่งเดียว จักรพรรดิยอมเสียสละดินแดนเพื่อสตรีที่เสียสละเพื่อแคว้นจะได้ใจของคนทั่วทั้งแผ่นดิน ผลักดันแคว้นให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งหลังจากยุคของจีโฮ่ว
วันนั้น นอกจากแม่ทัพเผยแห่งต้าเยี่ยนจะมอบของล้ำค่าให้ต่งชิงเยว่แล้ว เขายังเสนอแบ่งดินแดนซึ่งติดกับหู้อี้อีกสี่ดินแดนให้ต้าจิ้นแลกกับการให้องค์หญิงหมิงเฉิงอยู่รักษาตัวที่เติงโจวต่อด้วย
ต่งชิงเยว่คาดไม่ถึงว่าต้าเยี่ยนจะใช้ไม้นี้ เขาไม่กล้าปฏิเสธในทันที เขาตัดสินใจเรียกที่ปรึกษาจวนต่ง ต่งฉางหลานและไป๋ชิงเหยียนไปปรึกษาที่ห้องตำรา
การต้าเยี่ยนยอมสละดินแดนที่อุดสมบูรณ์แถบหู้อี้ให้ต้าจิ้นอย่างใจกว้างเพื่อแลกกับการให้องค์หญิงหมิงเฉิงรักษาตัวอยู่ที่เติงโจวทำให้ต่งชิงเยว่เริ่มสงสัยว่าต้าเยี่ยนจงใจนำผลประโยชน์มาล่อเพื่ออยู่สำรวจแผนผังเมืองเติงโจวต่อ
“หากเราให้คนของต้าเยี่ยนและหนานหรงถอยออกจากเมืองเติงโจวแล้วองค์หญิงหมิงเฉิงเป็นอันใดขึ้นมา ต้าจิ้นคงไม่อาจหาคำอธิบายให้พวกเขาได้”
“ทว่า ต้าเยี่ยนยอมสละเมืองสี่เมืองให้ต้าจิ้น หากใต้เท้าบอกปฏิเสธไปโดยพลการ ฮ่องเต้อาจไม่พอพระทัยได้ขอรับ ถึงแม้ฮ่องเต้ไม่อาจตำหนิที่ใต้เท้าไม่ยอมรับเมืองทั้งสี่เมืองของต้าเยี่ยนมาได้ ทว่า พระองค์อาจตำหนิที่ใต้เท้าไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นขอรับ!”
ที่ปรึกษาสองคนขมวดคิ้วแน่น
ต่งฉางหลานก็รู้สึกหงุดหงิดใจมาก ต้าเยี่ยนโยนของร้อนมาให้พวกเขาเช่นนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าควรรับไว้ดีหรือไม่ “สิ่งที่ยากที่สุดคือจะประคองความสัมพันธ์ของสองแคว้นไว้ได้อย่างไร เราไม่อาจให้ต้าเยี่ยนลอบเข้ามาสำรวจแผนผังของเมืองเติงโจวได้ ทว่า ไม่อาจปฏิเสธไม่รับเมืองทั้งสี่แทนฮ่องเต้ได้เช่นกัน”
“ไหนบอกว่าองค์หญิงหมิงเฉิงจะไม่รอดแล้วมิใช่หรือ” ที่ปรึกษาคนหนึ่งกล่าวขึ้น “เช่นนั้นก็ยื้อไว้ก่อน รอจนกว่าองค์หญิงหมิงเฉิงจะทนไม่ไหว เช่นนี้เรื่องทุกอย่างก็จะจบลง”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองถ้วยชากระเบื้องตรงหน้า ปิดฝาถ้วยชาเบาๆ วางถ้วยชาลงบนโต๊ะด้านข้างแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านน้าชาย เรื่องนี้จัดการไม่ยากเจ้าค่ะ ต้าเยี่ยนมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เราเช่นนี้ ท่านน้าชายถวายฎีกาให้ฮ่องเต้ทรงทราบก็พอเจ้าค่ะ ให้พระองค์ทรงชั่งน้ำหนักผลประโยชน์ด้วยตัวเอง ทูลว่าท่านน้าชายไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจของต้าเยี่ยนแทนฮ่องเต้ ทว่า กลัวว่าหากยอมรับเมืองแล้วให้องค์หญิงหมิงเฉิงอยู่ที่เติงโจวต่อ ต้าเยี่ยนอาจลอบสืบจนรู้แผนผังเมืองเติงโจวได้! ดังนั้นท่านน้าชายจึงทำได้เพียงให้ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงพำนักอยู่ในเติงโจวชั่วคราว ให้คนจับตาดูพวกเขาเอาไว้ จากนั้นส่งมาเร็วไปยังเมืองหลวงเพื่อให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยเจ้าค่ะ”