สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 556 มีชีวิตอยู่
ตอนที่ 556 มีชีวิตอยู่
ต่งฉางหลานดึงต่งฉางเม่าให้ลุกขึ้น จากนั้นเคารพไป๋ชิงเหยียน “ขอบพระคุณพี่หญิงที่เมตตาขอรับ”
ต่งฉางเม่าได้รับการปกป้องจากต่งฉางหลาน ในใจรู้สึกอบอุ่นมาก เขามองไปทางพี่ชายของตัวเองอย่างซาบซึ้ง
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องลงโทษหลัวอี๋เหนียงแล้ว บอกให้หลัวอี๋เหนียงกลับไปสำนึกผิดที่เรือนของตัวเองและกักบริเวณตัวเองเถิด!” ต่งชิงเยว่วางถ้วยชาในมือลง จากนั้นลุกขึ้นยืนทำความเคารพต่งเหล่าไท่จวิน
ทุกคนเดินออกมาจากห้องของต่งเหล่าไท่จวิน ไป๋ชิงเหยียนพาชุนเถากลับไปที่ห้องของตัวเอง ดวงตาของชุนเถายังคงบวมก่ำ
ไป๋ชิงเหยียนมองดูชุนเถาที่สะอื้นตัวโยน ทว่า ยังคงนำน้ำเข้ามาให้ตนล้างทำความสะอาดมือ กล่าวขึ้น “ต่อไประวังของใช้ส่วนตัวของตัวเองให้ดี โดยเฉพาะเมื่ออยู่ด้านนอกเช่นนี้ มันไม่ปลอดภัยเหมือนอยู่ที่จวนตัวเอง อาจมีคนอิจฉาริษยาใช้วิธีสกปรกทำร้ายเจ้าได้!”
ชุนเถาพยักหน้าอย่างแรง “ชุนเถาไม่ดีเองเจ้าค่ะ ชุนเถาสร้างปัญหาให้คุณหนูใหญ่แล้ว!”
“เจ้ากล่าวอันใดเช่นนี้ ผู้อื่นมาหาเรื่องเจ้า ไม่ใช่เจ้าสร้างปัญหาให้ข้า” ไป๋ชิงเหยียนล้างมือพลางมองไปทางชุนเถาที่น้ำตาอาบหน้า หญิงสาวรับผ้าขนหนูจากชุนเถามาเช็ดมือ “เอาล่ะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว ข้าว่าพอเฉินชิ่งเซิงกลับมาข้าควรขอให้ท่านแม่จัดการแต่งงานของพวกเจ้าโดยเร็ววันแล้ว ชุนเถาของเรางามขึ้นทุกวัน ผู้อื่นอาจหลงรักเข้าได้!”
“คุณหนู!” ชุนเถาที่กำลังร้องไห้อยู่หน้าแดงจัดในทันที นางถือกะละมังน้ำที่ไป๋ชิงเหยียนล้างมือเสร็จเดินย่ำเท้าออกไปด้านนอกทันที
ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะออกมาเบาๆ ทว่า ตั้งใจจะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่รู้ว่าจิ่นถงจะกลับมาจากทะเลเมื่อใด นางไม่ได้ส่งจดหมายกลับมานานแล้ว เสมือนว่าวที่สายเชือกขาด ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก
ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่าง หยิบตำราขึ้นมา ทว่า ยังไม่ทันเปิดอ่าน ชุนเถาที่เมื่อครู่เดินหน้าแดงก่ำออกไปเดินกลับเข้ามาด้านในอย่างร้อนรน ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวขึ้น “คุณหนูใหญ่ หลูผิงพาคนกลับมาแล้วเจ้าค่ะ เขาขอพบคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนผุดลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปด้านนอกทันที หลูผิงกลับมาแสดงว่าเขานำข่าวของอาอวี๋กลับมาด้วย
“ช้าหน่อยเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่!” ชุนเถารีบวิ่งตามหลังไป๋ชิงเหยียนไปติดๆ
ไป๋ชิงเหยียนรีบเดินไปถึงประตูเรือนหลังของจวนต่ง หญิงสาวเห็นหลูผิงยืนอยู่หน้าประตูในเครื่องแต่งกายที่มอมแมมไปด้วยฝุ่น เมื่อหลูผิงเห็นไป๋ชิงเหยียน ดวงตาของเขาร้อนผ่าวทันที เขารีบถลาเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน กำหมัดคำนับ ลำคอจุกแน่นจนกล่าวสิ่งใดไม่ออก ทว่า สีหน้าของหลูผิงทำให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้ว่า…แม่ทัพหน้ากากผีคืออาอวี๋อย่างแน่นอน!
ไป๋ชิงเหยียนน้ำตาคลอทันที หญิงสาวพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูฉุยฮวาครู่หนึ่ง จากนั้นเลิกชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อยเดินแล้วก้าวข้ามประตูออกไป เหงื่อบริเวณฝ่ามือเปื้อนชุดกระโปรงของหญิงสาวจนยับยู่ยี่
หญิงสาวมองดูหลูผิงที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า พยายามเบิกตาโตไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ทว่า เมื่อเอ่ยปาก น้ำตากลับไหลรินลงมาก่อนสิ่งใด
“คุณหนูใหญ่ คือคุณชายขอรับ…” เสียงของหลูผิงแหบพร่า บุรุษอกสามศอกอย่างเขา ระหว่างทางกลับมาน้ำตาไหลรินไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทว่า เมื่อเห็นหน้าคุณหนูใหญ่ของตัวเอง น้ำตาของเขาไหลรินออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
ไป๋ชิงเหยียนกัดฟันแน่น น้ำตาไหลพราก หญิงสาวไม่ได้กล่าวสิ่งใด โน้มตัวไปพยุงให้หลูผิงลุกขึ้น มือที่กุมมือของหลูผิงสั่นระริก น้ำเสียงแหบพร่าอย่างควบคุมไม่อยู่ “เขาไม่ได้กลับมาหรือ”
หลูผิงรีบล้วงหยิบแผนที่หนังแกะออกมาจากอก ไป๋ชิงเหยียนกำแผนที่หนังแกะไว้ในมือแน่น พยักหน้า ทว่า ไม่ได้รีบร้อนเปิดดู ทำเพียงเอ่ยถามหลูผิง “เขาสบายดีหรือไม่ พวกเจ้ากล่าวสิ่งใดกันบ้าง”
“ข้าได้พบหน้าคุณชาย ทว่า ทหารหนานหรงต่างจ้องมองดูจึงไม่มีโอกาสสนทนากันขอรับ คุณชายเพียงหาโอกาสยัดแผนที่หนังแกะให้ข้าได้เท่านั้น คุณชายสบายดีขอรับ ข้าเห็นบาดแผลไฟไหม้ที่ตัวของคุณชาย ดวงตาของเขาเหมือนคุณหนูใหญ่ไม่มีผิดเพี้ยน ข้าจึงบังอาจเดาว่าเขาคงเป็นคุณชายห้าขอรับ!” หลูผิงกล่าวถึงตรงนี้ จมูกของเขาร้อนผ่าว เขารีบใช้มือปาดน้ำตาที่ใบหน้าทิ้ง
นางรู้ดี นางรู้ดีที่สุดว่านั่นคืออาอวี๋…
นั่นคืออาอวี๋อย่างแน่นอน
ลำคอของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าวอย่างรุนแรง หญิงสาวพยักหน้า “เขา…แข็งแรงดีใช่หรือไม่”
หลูผิงพยักหน้า ยิ้มทั้งน้ำตา ตบไปที่อกของตัวเอง “หมัดของคุณชายชกมาที่อกของข้าจนเจ็บช้ำไปหมด เขาน่าจะแข็งแรงดีขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน หญิงสาวกำแผ่นที่ในมือแน่นพลางพยักหน้า
ท่านปู่และท่านพ่อต้องคอยคุ้มครองอาอวี๋อยู่แน่นอน อาอวี๋ถึงได้ยังมีชีวิตอยู่เช่นนี้!
“ลำบากลุงผิงแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับหลูผิง
หลูผิงพยักหน้า กำหมัดคาราวะแล้วเดินจากไป ไป๋ชิงเหยียนเดินเข้าในศาลาที่เงียบสงบ จากนั้นกางแผนที่หนังแกะออกดูอย่างละเอียด
นี่คือวิธีการวาดแผนที่ของกองทัพไป๋ เขาระบุเส้นทางที่ใกล้ที่สุด แหล่งน้ำ สถานที่ที่อันตรายลงในแผนที่หนังแกะอย่างละเอียด
ลายมือที่จดบันทึกบนแผนที่คือลายมือของไป๋ชิงอวี๋!
ไป๋ชิงเหยียนฝึกไป๋ชิงอวี๋คัดลายมือด้วยตัวเอง นางจะจำลายมือของน้องชายไม่ได้ได้อย่างไรกัน!
ไป๋ชิงเหยียนลูบไปที่ลายมือบนแผนที่อย่างเบามือ น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย หากท่านแม่รู้ว่าอาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ว่านางจะดีใจสักเพียงใด!
ไม่นาน ไป๋ชิงเหยียนหยิบแผนที่หนังแกะไปส่องกับแสงอาทิตย์ ในใจเริ่มคาดเดาบางสิ่งขึ้นได้ หญิงสาวไม่รอช้า รีบสั่งให้คนไปบอกต่งชิงเยว่และต่งฉางหลานว่านางมีแผนที่ที่ละเอียดที่สุดของหนานหรงอยู่ในมือ
ต่งชิงเยว่ให้คนมาเชิญไป๋ชิงเหยียนไปที่ห้องหนังสือ
ไป๋ชิงเหยียนหยิบแผนที่ออกมา กล่าวกับต่งชิงเยว่ “ท่านน้าชายให้คนคัดลอกแผนที่นี้ไว้เถิดเจ้าค่ะ ข้ายังมีเรื่องต้องแผนที่ฉบับนี้อีก”
“ข้าทำเองขอรับ!” ต่งฉางหลานนั่งคัดลอกแผนที่อยู่บนโต๊ะหนังสือ
“หลูผิงเป็นคนนำกลับมาอย่างนั้นหรือ” ต่งชิงเยว่ยืนอยู่ด้านหลังต่งฉางหลาน มองสำรวจแผนที่อย่างละเอียด “เจ้าให้หลูผิงไปที่หนานหรงเพื่อสิ่งนี้อย่างนั้นหรือ”
ภายในห้องหนังสือมีเพียงต่งชิงเยว่ ต่งฉางหลานและไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนจึงบอกอย่างไม่ปิดบัง “อาอวี๋เป็นคนมอบแผนที่นี้ให้ลุงผิงเจ้าค่ะ ท่านน้าชาย อาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่เจ้าค่ะ”
ติงชิงเยว่ตะลึง เขาหยัดกายตรง เบิกตาโพลงมองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่อยากจะเชื่อด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ต่งฉางหลานก็เบิกตาโพลงเช่นเดียวกัน “อาอวี๋…ยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ ท่านพ่อ! อาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่ขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนไม่รู้ว่าตนเองกำลังร้องไห้หรือยิ้มอยู่ ลำคอของนางร้อนผ่าว พยักหน้าอย่างจริงจัง “ยังมีชีวิตอยู่เจ้าค่ะ อาอวี๋เป็นคนมอบจดหมายฉบับนี้ให้ลุงผิงเจ้าค่ะ”
ต่งชิงเยว่คว้าแผนที่หนังแกะมาพิจารณาลายมือบนแผนที่อย่างละเอียด ต่งชิงเยว่จำลายมือของไป๋ชิงอวี๋ได้ เขามองไปที่แผนที่นิ่ง ดวงตาแดงก่ำ พยักหน้าเบาๆ “เป็นอาอวี๋จริงๆ ด้วย!”
“ตอนนี้อาอวี๋อยู่ที่ใดขอรับ ปลอดภัยดีหรือไม่ ได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่ขอรับ” ต่งฉางหลานถามอย่างร้อนใจ
“อาอวี๋คือแม่ทัพหน้ากากผีของหนานหรง”
ไป๋ชิงเหยียนไม่คิดปิดบัง เติงโจวมีเขตแดนติดกับหนานหรง วันหน้าหากเกิดสงครามขึ้น ท่านน้าชายและต่งฉางหลานอาจต้องเผชิญหน้ากับอาอวี๋…