สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 596 อันตราย
ตอนที่ 596 อันตราย
ไป๋ชิงเหยียนเดาว่าฝูเหล่าไท่จวินอาจมีหลักฐานว่าฮองเฮากำลังหลอกใช้ฝูรั่วซีอยู่ในมือ หากฝูเหล่าไท่จวินสามารถมอบหลักฐานว่าก่อนที่ฮองเฮาจะแต่งงานเป็นพระชายาเอก นางเคยคบหาอยู่กับฝูรั่วซีให้แก่รัชทายาท ฮองเฮาคงไม่อาจแก้สถานการณ์ได้อีก
“ลุงผิง…” ไป๋ชิงเหยียนเรียก
หลูผิงก้าวไปด้านหน้า “คุณหนูใหญ่สั่งมาได้เลยขอรับ”
“ส่งคนสะกดรอยตามฝูเหล่าไท่จวินไป” ไป๋ชิงเหยียนสั่ง
“ขอรับ!” หลูผิงรับคำแล้วเดินออกไปสั่งการ
ตอนนี้คือช่วงปลายของยามโหย่ว[1] แสงสีเหลืองอ่อนคล้ายคราบน้ำชาที่ติดอยู่บนถ้วยชากระเบื้องเป็นเวลานานกระทบลงบนหลังคากระเบื้องและตึกซึ่งแกะสลักเป็นภาพวาดต่างๆ ในเมืองหลวง สะท้อนลงบนถนนสายยาว รถม้าที่แล่นสวนกันไปมา ทว่า มันเป็นแสงตะวันที่ใกล้จะลับขอบตา แสงจึงดูทึบ แม้กิจการร้านค้าตามท้องถนนจะเริ่มแขวนโคมไฟแล้ว ทว่า เมืองหลวงก็ยังไม่ดูสว่างจ้าเหมือนช่วงกลางวัน
เพราะเป็นเพียงแสงตะวันที่ใกล้ลับขอบฟ้าเท่านั้น…
ชุนเถาเห็นไป๋ชิงเหยียนยืนเอามือไขว้หลังนิ่งอยู่หน้าประตูจวน นางจึงหันกลับไปสั่งให้สาวใช้กลับไปเตรียมอาหารให้ไป๋ชิงเหยียน สาวใช้ผู้นั้นกล่าวขึ้น “แม่นางชุนเถาไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ฮูหยินสองสั่งให้โรงครัวเตรียมอาหารไว้ให้คุณหนูใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
ตั้งแต่ไป๋ชิงเหยียนกลับมาที่จวน หญิงสาวยังไม่ได้ดื่มน้ำและพักทานอาหารแม้แต่คำเดียว หญิงสาวกำลังทำเพื่อตระกูลไป๋ ฮูหยินสองรับรู้ดี นางช่วยเหลือหลานสาวเรื่องอื่นไม่ได้ ดังนั้นนางจึงใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้แทน
ชุนเถาได้ยินจึงรู้สึกขอบคุณฮูหยินสองมาก ชุนเถาถลกชายกระโปรงเตรียมเดินขึ้นบันไดไปเรียกไป๋ชิงเหยียนที่กำลังเหม่อลอยไปทานอาหาร
“แม่นางชุนเถา!”
ชุนเถาหันกลับไปจึงเห็นชุยปี้สาวใช้ข้างกายของไป๋จิ่นซิ่ววิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว นางทำความเคารพแล้วกล่าวขึ้น “อิ๋นซวงตื่นแล้ว ข้าจึงมาเรียนให้คุณหนูใหญ่ทราบ”
ชุนเถาพยักหน้าอย่างดีใจ “ได้ เดี๋ยวข้าจะเรียนให้คุณหนูใหญ่ทราบ”
“คุณหนูใหญ่ อิ๋นซวงตื่นแล้วเจ้าค่ะ!” ชุนเถาเดินไปหยุดอยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียน กล่าวเสียงแผ่วเบา
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินจึงพยักหน้าเล็กน้อย “ไปดูอิ๋นซวงกันเถิด”
ไป๋ชิงเหยียนเดินลงบันไดพลางกล่าวขึ้น “ให้โรงครัวเตรียมของหวานไว้ด้วย อิ๋นซวงชอบทาน”
“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ บ่าวให้โรงครัวเตรียมไว้แล้ว รอเพียงอิ๋นซวงตัวน้อยตื่นขึ้นมาเท่านั้นเจ้าค่ะ”
ชุนเถาตอบอย่างอารมณ์ดี นางเอื้อมมือไปช่วยประคองไป๋ชิงเหยียนลงจากบันไดด้วยความเคยชิน ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับชุนเถายิ้มๆ “ชุนเถา ข้าแข็งแรงขึ้นมากแล้ว ไม่ใช่คนป่วยอ่อนแอที่ต้องให้เจ้าคอยพยุงเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว”
ชุนเถายังคงยืนกรานที่จะช่วยพยุง “ที่นี่คือเมืองหลวง คุณหนูใหญ่อ่อนแอไว้เถิดเจ้าค่ะ”
ติดตามไป๋ชิงเหยียนมานาน ชุนเถาเคยเห็นไป๋ชิงเหยียนจงใจแต่งหน้าให้ดูซีดเซียวเพื่อไปพบรัชทายาทที่จวนรัชทายาท
แม้ก่อนหน้านี้ชุนเถาจะไม่เข้าใจว่าหญิงสาวทำไปเพราเหตุใด ทว่า บัดนี้ชุนเถาเข้าใจแล้วว่าไป๋ชิงเหยียนแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อลดความหวาดระแวงของรัชทายาท
ในเมื่อต้องการแสดงก็ควรแสดงให้สมจริงที่สุด
ไป๋ชิงเหยียนมองดูชุนเถาที่มีสีหน้าหนักแน่น หญิงสาวจึงพยักหน้า ปล่อยให้ชุนเถาประคองตนลงจากบันได
เมื่ออิ๋นซวงตื่นขึ้นก็ถามหาถุงใส่ลูกกวาดของตัวเองทันที จากนั้นนั่งรอคุณหนูใหญ่มาหาตนอยู่ที่ระเบียงทางเดินอย่างเรียบร้อย นางจะได้มอบลูกอมให้แก่คุณหนูใหญ่ ทว่า ตอนนี้นางอยากสักเม็ด…
ขณะที่อิ๋นซวงกำลังลังเลว่าจะทานสักเม็ดดีหรือไม่ นางก็เห็นชุนเถาประคองไป๋ชิงเหยียนเข้ามาในเรือน
“คุณหนูใหญ่!” อิ๋นซวงผุดลุกขึ้นยืนทันที ทว่า เมื่อคิดได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในวังหลวงนางถูกคุณหนูตระกูลฉินทั้งสองคนต่อว่าว่าไม่มีมารยาท ทำให้คุณหนูรองขายหน้า อิ๋นซวงจึงรีบทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน ทว่า นางรีบร้อนเกินไป ลูกกวาดจึงหล่นกระจายลงบนพื้น
อิ๋นซวงอุทานอย่างตกใจ รีบก้มลงเก็บลูกกวาดของตัวเอง
ชุยปี้มองไป๋ชิงเหยียนแวบหนึ่ง จากนั้นรีบก้มลงช่วยอิ๋นซวงเก็บลูกวาดพลางกล่าวขึ้น “อิ๋นซวง ลูกกวาดเหล่านี้สกปรกหมดแล้ว เจ้าเป็นเด็กดี เดี๋ยวพี่ชุยปี้จะทำให้เจ้าใหม่…”
ชุยปี้ยังกล่าวไม่จบก็เห็นอิ๋นซวงหยิบลูกกวาดเม็ดหนึ่งจากพื้นวิ่งไปหาไป๋ชิงเหยียน นางก้มเป่าลูกกวาดจนสะอาดแล้วยื่นให้ไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่…ทานลูกอมเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนมองดูอิ๋นซวงที่สูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง ทว่า ยังคงยิ้มให้นางอย่างสดใสร่าเริง ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกปวดใจมาก อิ๋นซวงสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตไป๋จิ่นซิ่วและวั่งเกอ
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองลูกกวาดในมือของอิ๋นซวง
ชุยปี้ตกใจรีบลุกขึ้นยืน เตรียมเข้าไปห้ามอิ๋นซวง อิ๋นซวงจะมอบลูกกวาดที่สกปรกเช่นนั้นให้คุณหนูใหญ่ทานได้อย่างไรกัน!
ผู้ใดจะคาดคิดว่านางยังไม่ทันได้เข้าไปห้ามอิ๋นซวง ไป๋ชิงเหยียนหยิบลูกกวาดใส่เข้าไปในปากเสียก่อน หญิงสาวกล่าวกับอิ๋นซวงยิ้มๆ “หวานมาก!”
ชุยปี้มองไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่อยากเชื่อ นางกลืนคำทั้งหมดลงคอทันที
อิ๋นซวงฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาว นางดูมีความสุขมาก
พี่ชิงจู๋เคยบอกกับนางว่าคุณหนูใหญ่มีชีวิตอย่างยากลำบาก อิ๋นซวงอยากให้คุณหนูใหญ่มีความสุขกว่านี้
ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือไปลูบศีรษะของอิ๋นซวงอย่างแผ่วเบา จูงมืออิ๋นซวงเข้าไปในห้อง หันไปสั่งชุนเถา “ไปนำของว่างมา…”
เมื่ออิ๋นซวงเข้าไปด้านในแล้ว ชุนเถาสั่งให้สาวใช้ไปนำของว่างจากโรงครัวมาให้อิ๋นซวง
เมื่อเห็นอิ๋นซวงทานของว่างอร่อยมากมาย ไป๋ชิงเหยียนยื่นผ้าเช็ดหน้าให้อิ๋นซวงเช็ดมือยิ้มๆ เอ่ยถาม “อิ๋นซวง หลังจากนี้เจ้าอยากอยู่กับท่านหมอหงหรือไม่”
อิ๋นซวงกลือนเค้กในปากลงคอ รับผ้ามาจากไป๋ชิงเหยียน มองอย่างงุนงง “คุณหนูใหญ่บอกให้ข้าตามติดคุณหนูรองไม่ให้ห่างไม่ใช่หรือเจ้าคะ”
คิดอยู่ครู่หนึ่ง อิ๋นซวงกล่าวต่อ “ในจวนไม่ต้อง นอกจวนต้องติดตาม อิ๋นซวงจำได้เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ใช่แล้ว เจ้าทำได้ดีมาก ดังนั้นข้าถึงอยากถามเจ้าว่าเจ้าอยากตามท่านหมอหงกลับไปซั่วหยางกับข้าหรือไม่”
ดวงตาของอิ๋นซวงเป็นประกาย นางเกือบหลุดคำว่าอยากออกมา ทว่า กลับกลืนลงคอไปอีกครั้ง เอ่ยถาม “เช่นนั้นผู้ใดจะดูแลวั่งเกอกับคุณหนูรองเจ้าคะ หากอิ๋นซวงไม่อยู่แล้วมีคนเลวถีบท้องคุณหนูรอง ต้องการจะใช้มีดแทงท้องคุณหนูรองอีกจะทำเช่นไรเจ้าคะ”
ใจของไป๋ชิงเหยียนกระตุกวูบ ไป๋จิ่นซิ่วไม่ได้เล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้นในวังให้นางฟัง นางรู้ดีว่าไป๋จิ่นซิ่วไม่อยากให้นางเป็นกังวล ทว่า เมื่อได้ยินอิ๋นซวงกล่าวเช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนก็รู้ทันทีว่าสถานการณ์ในตอนนั้นอันตรายมากเพียงใด
ไป๋ชิงเหยียนกัดฟันกรอด แววตาเคร่งขรึม
อิ๋นซวงกล่าว “พี่ชิงจู๋บอกว่าหากข้าช่วยดูแลคุณหนูรอง คุณหนูใหญ่จะสบายใจ ข้าอยู่ดูแลคุณหนูรองและวั่งเกอที่นี่ต่อดีกว่าเจ้าค่ะ…”
ชุยปี้ได้ยินคำกล่าวที่แสนจะซื้อบื้อของอิ๋นซวง ดวงตาของนางแดงก่ำ “เด็กโง่อิ๋นซวง ข้าและพี่ชุยอวี้ของเจ้าดูแลคุณหนูรองได้อยู่แล้ว!”
“พี่ไม่เก่งเหมือนข้า!” อิ๋นซวงกล่าวอย่างจริงจัง
“เจ้าคนเดียวดูแลทั้งคุณหนูรองและวั่งเกอไม่ไหวหรอก ที่สำคัญตอนนี้เจ้าขี้แซวราวกับลูกแมวอีกด้วย!” ชุยปี้กล่าวยิ้มๆ “หากเจ้านอนหลับตอนออกไปข้างนอกกับคุณหนูรองจะทำเช่นไร ตอนคุณหนูรองเผชิญอันตรายยังต้องมาคอยปกป้องเจ้าอีก เจ้าว่าจริงหรือไม่”
อิ๋นซวงคิดแล้วพยักหน้า “ข้าทำตามคำสั่งของคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ไปอยู่กับท่านหมอหงเถิด อีกสองสามวันเดินทางกลับซั่วหยางพร้อมกันข้า เจ้าจะได้อยู่ใกล้ๆ พี่ชิงจู๋ของเจ้าด้วย!”
[1] ยามโหย่ว เวลาระหว่าง 17.00-19.00 นาฬิกา