สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 613 ไอสังหาร
ตอนที่ 613 ไอสังหาร
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วมีใบหน้าที่เย้ายวนบุรุษจริงเสียจริง องค์ชายที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดของต้าเหลียงยอมสยบแทบเท้านาง บัดนี้ยังมาเดินเล่นกับพ่อค้าที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในใต้หล้าอีก กลัวผู้อื่นไม่รู้หรืออย่างไรว่านางยั่วยวนบุรุษเก่ง”
หลิ่วรั่วฟูกัดฟันกรอด ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
หลู่เป่าหวาขมวดคิ้วแน่น ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของหลิ่วรั่วฟู นางกล่าวโน้มน้าว “ตอนนั้นองค์ชายแห่งต้าเหลียงเข้าใจผิดไปเอง องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้จงใจทำให้เจ้าขายหน้า เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถิด ตอนนี้เจ้าไม่ต้องแต่งงานไปอยู่ต่างแดน สามารถอยู่ในเมืองหลวงได้ต่อ พวกเราสองคนอยู่เป็นเพื่อนกันเช่นนี้ต่อไปดีจะตายไป”
แม้องค์ชายแห่งต้าเหลียงจะไม่ใช่คู่ครองที่เหมาะสม ทว่า หลิ่วรั่วฟูยิ่งไม่อยากแต่งงานกับเหลียงอ๋อง
หากไม่ใช่เพราะตั้งครรภ์ หลิ่วรั่วฟูไม่มีทางแต่งงานกับคนอ่อนแออย่างเหลียงอ๋องแน่
คิดแล้วหลิ่วรั่วฟูก็ยกมือขึ้นทาบที่หน้าท้องของตัวเอง เสด็จพ่อของนางกล่าวว่าองค์รัชทายาทเป็นคนจัดฉากเรื่องนางกับเหลียงอ๋อง เหลียงอ๋องถูกกับดักโดยไม่ทันตั้งตัว ทว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความคิดของไป๋ชิงเหยียนหรอกหรือ
บัดนี้เสด็จพ่อวางแผนการทุกอย่างไว้หมดแล้ว บรรดาแม่ทัพของหนานตูเดินทางมายังเมืองหลวงโดยใช้ข้ออ้างว่ามาร่วมการแต่งงาน อีกไม่นานใต้หล้าแห่งนี้จะกลายเป็นของนาง แม้จะไม่เต็มใจสักเพียงใด ทว่า ตอนนี้นางได้แต่อดทนไว้เท่านั้น
เมื่อเห็นว่าข้างกายของไป๋ชิงเหยียนเป็นเพียงพ่อค้าฐานะต่ำต้อยของแคว้นเว่ย หลิ่วรั่วฟูจึงอยากระบายอารมณ์ หญิงสาวถลกชายกระโปรงเดินตรงเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน หลู่เป่าหวารั้งไว้ไม่ทันจึงได้แต่รีบพาสาวใช้เดินตามไป
ไป๋ชิงเหยียนเห็นหลิ่วรั่วฟูเดินตรงเข้ามาหานางอย่างฉุนเฉียวจึงชะงักฝีเท้าลง เซียวหรงเหยี่ยนก็หยุดลงเช่นเดียวกัน
“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว…” หลิ่วรั่วฟูทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ ทว่า แววตาไม่ได้ยิ้มตาม
ไป๋ชิงเหยียนยืนเอามือไขว้หลัง พยักหน้าให้เล็กน้อยอย่างวางมาด “หนานตูจวิ้นจู่มีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ”
“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!” หลู่เป่าหวารีบถลาเข้าไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเอื้อมมือไปรั้งตัวของหลิ่วรั่วฟู
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วรูปโฉมงดงามจนบุรุษมากมายยอมสยบแทบเท้าจริงๆ นะเพคะ ตั้งแต่องค์ชายของแคว้นอื่นไปจนถึงพ่อค้าของแคว้นอื่น องค์หญิงเจิ้นกั๋วล้วนไม่ปฏิเสธเลยหรือเพคะ” บัดนี้หลิ่วรั่วฟูกำลังตั้งครรภ์บุตรของเหลียงอ๋อง นางไม่เชื่อว่าไป๋ชิงเหยียนจะกล้าลงมือกับนาง
แม้ไป๋ชิงเหยียนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิง ทว่า นางไม่ใช่สายเลือดของราชวงศ์ ไป๋ชิงเหยียนจะกล้าทำลายสายเลือดของราชวงศ์อย่างนั้นหรือ
ที่สำคัญเป็นดั่งที่ท่านพ่อของนางกล่าว ขอเพียงครั้งนี้เหลียงอ๋องอาศัยช่วงที่องค์รัชทายาทกำลังสู้รบกับฮองเฮาทำเรื่องนี้สำเร็จ ภายภาคหน้าเด็กในครรภ์ของหลิ่วรั่วฟูก็จะกลายเป็นองค์รัชทายาท เหลียงอ๋องเป็นคนควบคุมง่าย ต่อไปแคว้นต้าจิ้นจะกลายเป็นของนาง นางจำเป็นต้องกลัวสตรีที่ไม่อาจมีบุตรได้อย่างไป๋ชิงเหยียนด้วยหรือ!
หลู่เป่าหวาเบิกตาโพลงทันทีที่ได้ยินคำกล่าวของหลิ่วรั่วฟู หลิ่วรั่วฟูเสียสติไปแล้วหรืออย่างไรกัน
หลู่เป่าหวารีบกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “ขอประทานอภัยเพคะองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เมื่อครู่หนานตูจวิ้นจู่ดื่มสุราอยู่กับหม่อมฉัน นางน่าจะเมาแล้ว องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงอย่างใส่พระทัยเลยนะเพคะ”
ไม่ว่าอย่างไรไป๋ชิงเหยียนก็เป็นองค์หญิงที่ฝ่าบาทพระราชทานแต่งตั้งด้วยองค์เอง แม้หลิ่วรั่วฟูกำลังจะแต่งงานกับเหลียงอ๋อง ทว่า ก่อนแต่งงานนางก็เป็นเพียงจวิ้นจู่เท่านั้น
ไป๋ชิงเหยียนยืนเอามือไขว้หลัง สายตาที่มองหลิ่วรั่วฟูราวกับกำลังมองคนเสียสติคนหนึ่ง หญิงสาวเตรียมกล่าวขึ้น ทว่า ได้ยินเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขึ้นเสียก่อน “จวิ้นจู่ ระวังส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์นะขอรับ”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างจริงใจ
สีหน้าของหลิ่วรั่วฟูซีดเผือดลงทันที นางรีบยกมือกุมท้องของตนเอง หลู่เป่าหวานิ่งอึ้ง รีบหันไปตวาดเซียวหรงเหยี่ยน “เซียวเซียนเซิง แม้ท่านจะเป็นเพียงพ่อค้า ทว่า ท่านสนิทสนมกับองค์รัชทายาท ข้าจึงเห็นท่านเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง เหตุใดท่านจึงกล้ากล่าววาจาให้ร้ายทำลายชื่อเสียงของหนานตูจวิ้นจู่ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้กันเจ้าคะ!”
“เช่นนั้นหนานตูจวิ้นจู่สามารถลบหลู่พระเกียรติขององค์หญิงเจิ้นกั๋วโดยไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงต่อหน้าคนมากมายได้อย่างนั้นหรือ!” เซียวหรงเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าเย็นชา ความหนาวเหน็บราวกับงูกำลังเลื้อยรัดปลายเท้าของหลู่เป่าหวาจนหญิงสาวรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่าง หลู่เป่าหวาถอยหลังหนีเล็กน้อยอย่างหวาดกลัว
ไป๋ชิงเหยียนปรายตามองหลู่เป่าหวาแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “จวิ้นจู่ควรตระหนักไว้ว่าโลกนี้ไม่มีกำแพงที่ไม่มีรู ในเมื่อตัวเองมีแต่ความลับเต็มไปหมดก็อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยดีกว่า มิเช่นนั้นเรื่องร้ายอาจย้อนกลับไปหาจวิ้นจู่เองได้”
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะลำพองได้อีกกี่วันกันเชียว!” หลิ่วรั่วฟูกล่าวเสียงรอดไรฟัน
มือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังของไป๋ชิงเหยียนกระชับแน่น หญิงสาวรู้สึกว่ามีความนัยแฝงอยู่ในคำกล่าวของหลิ่วรั่วฟู
หลู่เป่าหวาหันไปมองหลิ่วรั่วฟูซึ่งมีสีหน้าซีดลงถนัดตา นางเข้าใจในทันทีว่าสิ่งที่เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวมาคือความจริง หญิงสาวเบิกตาโพลงจ้องไปทางหลิ่วรั่วฟู
มิน่าสุดท้ายหลิ่วรั่วฟูถึงเลือกแต่งงานกับเหลียงอ๋อง ที่แท้เพราะนางตั้งครรภ์นี่เอง…
หากเรื่องที่หลิ่วรั่วฟูท้องก่อนแต่งหลุดลอดออกไป ชื่อเสียงของหลิ่วรั่วฟูไม่เพียงจะเสื่อมเสียคนเดียว ช่วงนี้หลิ่วรั่วฟูอาศัยอยู่ที่จวนหวัง ชื่อเสียงของสตรีตระกูลหวังคงพลอยเสื่อมเสียไปด้วย
เซียวหรงเหยี่ยนมองดูสีหน้าของหลิ่วรั่วฟูก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวไม่กล้าหาเรื่องไป๋ชิงเหยียนอีก ชายหนุ่มผายมือให้ไป๋ชิงเหยียน “เชิญองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ….”
หลู่เป่าหวาเป็นคนรู้จักขอบเขต นางเม้มปากแน่น กุมมือของหลิ่วรั่วฟูให้หลีกทางให้คนทั้งคู่
หลิ่วรั่วฟูกัดฟันกรอด ดวงตาแดงฉาน ถลึงตามองตามไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนเขม็ง ทว่า นางไม่คิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะหันหลังกลับมามอง…
แววตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารของหลิ่วรั่วฟูสบกับดวงตาลึกล้ำนิ่งขรึมของเซียวหรงเหยี่ยน ลำคอของหญิงสาวร้อนผ่าว ใจกระตุกเล็กน้อย หญิงสาวรีบเบนสายตาหนี
หลู่เป่าหวารั้งกายของหลิ่วรั่วฟูขึ้นไปบนรถม้าโดยไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น เมื่ออยู่บนรถม้าจึงถามเสียงเบาหวิว “เจ้าอย่าปิดบังข้านะ เจ้าตั้งครรภ์จริงหรือไม่ เด็กในท้องคือบุตรของเหลียงอ๋องอย่างนั้นหรือ”
หลิ่วรั่วฟูขมวดคิ้วแน่น น้ำตาไหลพรากออกมาทันที นางจะเล่าเรื่องแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกัน จะให้นางบอกหลู่เป่าหวาว่านางและเหลียงอ๋องถูกองค์รัชทายาทจัดฉากอย่างนั้นหรือ
“เหลียงอ๋องข่มเหงเจ้าอย่างนั้นหรือ เหลียงอ๋องดูไม่ใช่คนชอบใช้กำลังเช่นนั้นนี่นา พวกเจ้ามีใจให้กันทั้งสองฝ่ายใช่หรือไม่” หลู่เป่าหวาซักไซ้อย่างร้อนรน เมื่อคิดทบทวนอย่างละเอียดก็รู้สึกว่าก่อนหน้านี้หลิ่วรั่วฟูดูไม่ได้เต็มใจอยากแต่งงานกับเหลียงอ๋อง
หลิ่วรั่วฟูถูกหลู่เป่าหวาซักไซ้จึงยิ่งรู้สึกโกรธแค้นไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซียวหรงเหยี่ยนที่เป็นคนเปิดโปงเรื่องนางตั้งครรภ์
เป็นเพียงพ่อค้าจากแคว้นเว่ย องค์รัชทายาทยกย่องเข้าหน่อยจึงคิดว่าตัวเองเป็นบุคคลสำคัญหรืออย่างไรกัน!
รออีกสองวันหลังจากองค์รัชทายาทถูกเตะลงมาจากตำแหน่ง เซียวหรงเหยี่ยนจะหยิ่งยโสต่อไปได้อย่างไรกัน
ส่วนไป๋ชิงเหยียนผู้นั้น เสด็จพ่อกล่าวว่าเก็บนางไว้ไม่ได้ รออีกแค่สองวันเท่านั้น นางจะกำจัดไป๋ชิงเหยียนให้สิ้นซาก
หลิ่วรั่วฟูกำหมัดที่แนบอยู่ข้างลำตัวแน่น ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยไอสังหาร
“ยังมีอีกเรื่อง เดิมทีข้าอยากบอกเจ้าตอนไปถึงหน้าคุกของศาลต้าหลี่…” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “เหลียงอ๋องไปที่สำนักม่อซู ขอให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนช่วยเขาสังหารเจ้า กล่าวว่าเจ้าคืออุปสรรคในการขึ้นครองราชย์ของเขา”
“ถูกต้อง” ไป๋ชิงเหยียนรับคำ “เขากล่าวถูกแล้ว ข้าไม่มีทางยอมให้เขาขึ้นครองบัลลังก์แน่นอน”
“คนของสำนักม่อซูกล่าวว่าต้องรายงานให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนทราบก่อนถึงจะตัดสินใจได้ ข้ากะจะยื้อเวลาไว้เช่นนี้ ทว่า เจ้าอยู่ในเมืองหลวง ข้ากลัวว่าเหลียงอ๋องอาจมีแผนการอื่นอีก เจ้าต้องระวังตัวให้มากด้วย” เซียวหรงเหยี่ยนเตือน
“ข้าจะระวังตัว ท่านไม่ต้องกังวล” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าส่งยิ้มให้เซียวหรงเหยี่ยนอย่างที่ไม่ค่อยทำสักเท่าใด