สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 618 รักษาตัว
ตอนที่ 618 รักษาตัว
“คุณหนูใหญ่ต้องการช่วยชีวิตฝูรั่วซีหรือขอรับ” หลูผิงถาม
“ไม่ใช่ช่วยชีวิต ทว่า ข้าต้องการใช้งานเขา” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางทิศตะวันออกของเมือง แววตาลึกล้ำจนมองไม่เห็นความรู้สึกภายใน “ทหารสองหมื่นนายของค่ายผิงอันอยู่ที่นอกเมืองฝั่งตะวันออก นอกจากฝูรั่วซีแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถเรียกใช้พวกเขาให้เต็มใจทำตามคำสั่งได้อีกแล้ว”
“คุณหนูใหญ่” หลูผิงขมวดคิ้วแน่น พอจะเดาได้แล้วว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการทำสิ่งใด
เมืองหลวงกำลังจะเกิดความวุ่นวาย เดิมทีไป๋ชิงเหยียนอยากควบคุมสถานการณ์ในเมืองหลวงให้สงบอย่างน้อยสามปี ทว่า บัดนี้ซิ่นอ๋องและเหลียงอ๋องกำลังจะแย่งชิงกันครอบครองบัลลังก์ในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว
แทนที่จะปล่อยให้คนเหล่านี้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในภายหลัง มิสู้ถือโอกาสนี้กำจัดความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นให้สิ้นซากทีเดียวเลยดีกว่า
ไป๋ชิงเหยียนไม่ใช่ไม่เคยคิดว่าหากนางเปิดเผยความสามารถของตัวเองออกมา รัชทายาทอาจหวาดระแวงในตัวเอง
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนมีทางออกสำหรับเรื่องนี้แล้ว เหลียงอ๋องต้องการลอบสังหารนางไม่ใช่หรือ
จริงสิ ยังมีอีกคนที่อยากให้นางตาย ผู้นั้นก็คือหลี่หมิงรุ่ย บุตรชายของหลี่เม่า!
หลี่หมิงรุ่ย…ช่างเป็นบุคคลที่ร้ายกาจเสียจริง!
ไม่ว่าจะเป็นราชครูเทพหรือหอบูชาเก้าชั้น เขาล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับสองสิ่งนี้ทั้งสิ้น
หลังจากจบเรื่องนี้ องค์หญิงเจิ้นกั๋วไป๋ชิงเหยียนจะได้รับบาดเจ็บหนักกลับไปรักษาตัวที่ซั่วหยาง นอนซมอยู่แต่บนเตียง รัชทายาทคงวางใจขึ้นไม่น้อย
“วันนี้ลำบากลุงผิงแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถิด วันมะรืนพวกเราคงไม่มีเวลาพักแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
หลูผิงไม่เคยสงสัยในคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน คุณหนูใหญ่บอกเขาล่วงหน้าแล้วว่าจะมีสงครามเกิดขึ้น คุณหนูใหญ่คงแน่ใจแล้วว่าสงครามที่ว่าจะเกิดขึ้นในวันมะรืน
หลูผิงไม่ได้ฝืนร่างกาย เขารับคำแล้วเดินจากไป เขาพาทหารยอดฝีมือมาเพียงจำนวนหนึ่ง เขาต้องพักผ่อนให้เต็มที่ วันมะรืนจะได้คุ้มครองความปลอดภัยของคุณหนูใหญ่ได้เต็มที่
ยามโฉ่ว[1]
ไป๋ชิงเหยียนและชุนเถาที่นั่งอยู่กลางลานหญ้าเห็นควันไฟลอยอยู่กลางอากาศบริเวณทิศใต้ของเมืองหลวง
“คุณหนูใหญ่ ไฟไหม้ทางทิศใต้ของเมืองเจ้าค่ะ!” ชุนเถากล่าว
ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน คำนวณดูแล้วไฟคงมาจากคุกศาลต้าหลี่ คนของฮองเฮาและหลู่จิ้นคงเริ่มปะทะกันแล้ว คงต้องรอดูว่าองครักษ์ลับของราชวงศ์เหล่านั้นจะมีความสามารถพาฝูรั่วซีหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ใกล้ยามอิ๋น[2] ประตูเรือนชิงฮุยถูกเคาะ
ชุนเถาที่นั่งอยู่กลางลานหญ้ากับไป๋ชิงเหยียนสะดุ้งตกใจ รีบหันไปมองไป๋ชิงเหยียน
“ไปเปิดประตู” ไป๋ชิงเหยียนสั่ง
องครักษ์ลับคงพาฝูรั่วซีกลับมาแล้ว
ชุนเถาเดินไปเปิดประตู ผู้มาเยือนคือหัวหน้าขององครักษ์ลับ เขาอยู่ในชุดผู้คุมศาลต้าหลี่ที่ยังไม่มีเวลาผลัดเปลี่ยน เขาแบกฝูรั่วซีที่สลบไม่ได้สติและร่างเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นอับเข้ามาด้านใน วางฝูรั่วซีลงบนพื้น จากนั้นคุกเข่าทำความเคารพ “นายหญิง นำตัวฝูรั่วซีมาได้แล้วขอรับ คนที่เหลือกำลังล่อผู้คุมศาลต้าหลี่ไปทางอื่นขอรับ”
“มีคนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถาม
“เรียนนายหญิง พวกข้าปลอมตัวเป็นผู้คุมคุก ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย สหายเสียชีวิตไปสองคนขอรับ” องครักษ์ลับตอบ
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ลำบากพวกเจ้าแล้ว ไปพักผ่อนเถิด!”
“ขอรับ!”
หัวหน้าองครักษ์ลับจากไปได้ไม่นาน หลูผิงที่เพิ่งหลับได้ไม่นานก็ถูกปลุกขึ้นและมาที่เรือนชิงฮุยอีกครั้ง เขาได้รับข่าวความเคลื่อนไหวของจวนจงจึงตั้งใจมารายงานให้คุณหนูใหญ่ทราบ นึกไม่ถึงว่าเมื่อเดินเข้าไปในเรือนชิงฮุยจะเห็นฝูรั่วซีที่แขนขาดหนึ่งข้าง ผมเผ้ารุงรังนอนกองอยู่บนพื้น
หลูผิงตะลึงงันไปชั่วขณะ เบิกตาโพลง “คุณหนูใหญ่?”
“ชุนเถา ไปตามท่านหมอหงมา ลุงผิงช่วยพาฝูรั่วซีไปยังห้องรับรองก่อน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
หลูผิงและชุนเถารับคำอย่างรวดเร็ว ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง
หลูผิงวางฝูรั่วซีลงบนเตียงของห้องรับรอง เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยจึงหันไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ จวนจงมีความเคลื่อนไหวขอรับ! องครักษ์ลับที่ถูกส่งไปจับตาดูจวนจงกลับมารายงานว่าครึ่งชั่วยามที่ผ่านมาจงเส้าจ้งสวมชุดแต่งกายของบ่าวรับใช้ในจวนออกไปจากจวนทางประตูข้าง มุ่งหน้าไปยังหอนางโลมแห่งหนึ่งในเมืองหลวงขอรับ คนของเรารออยู่ด้านนอก ไม่นานบรรดาแม่ทัพกองทัพทหารรักษาพระองค์ที่เคยเป็นลูกน้องของจงเส้าจ้งต่างทยอยกันเข้าไปในหอนางโลมขอรับ ทว่า พวกเราไม่กล้าแหวกหญ้าให้งูตื่นเพราะคนของรัชทายาทเฝ้าอยู่ที่นั่นเช่นกันขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองเปลวไฟในตะเกียงบนโต๊ะ นี่คือสิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์ไว้แล้ว
ในเมื่อรัชทายาทรับรู้แล้วว่าจงเส้าจ้งลอบติดต่อกับลูกน้องเก่าในสังกัดกองทัพรักษาพระองค์ หากรัชทายาทฉลาดมากพอ ยอมฟังความเห็นของฉินซ่างจื้อ เขาก็ไม่ควรให้กลุ่มของจงเส้าจ้งออกมาจากหอนางโลมอย่างปลอดภัย
หลูผิงเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวต่อ “ส่วนจวนเหลียงอ๋อง ได้ยินว่าก่อนที่ศาลต้าหลี่จะเกิดเรื่องขึ้น เหลียงอ๋องเสด็จไปที่จวนซิ่นอ๋องขอรับ”
เป็นเรื่องที่คาดเดาไว้แล้วเช่นกัน เหลียงอ๋องจะแต่งงานในวันที่สิบห้านี่แล้ว ฮองเฮาไม่ยอมลงมือ เหลียงอ๋องย่อมยั่วยุให้ซิ่นอ๋องลงมืออย่างแน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “หากมีข่าวอันรีบมารายงานได้ตลอด ให้รัชทายาท เหลียงอ๋องและซิ่นอ๋องวุ่นวายกันเองก็แล้ว”
ไม่นานชุนเถาที่ช่วยแบกกล่องยาให้หมอหงก็วิ่งเข้ามาในเรือนชิงฮุย
หมอหงถูกปลุกให้ตื่นกลางคัน ชายชราไม่ได้รังเกียจกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นไม่พึงประสงค์บนตัวของฝูรั่วซี เขานั่งลงตรวจชีพจรให้ฝูรั่วซีท่ามกลางแสงไฟ จากนั้นกล่าวขึ้น “ไม่เป็นอันใดมาก น่าจะถูกคนตีจนสลบขอรับ”
หมอหงกล่าวพลางหยิบถุงหนังที่เก็บเข็มทองเอาไว้ออกมาจากกล่องยา เขาหยิบเข็มออกมาหนึ่งเล่ม ยื่นไปรนไฟในตะเกียงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเล็ก จากนั้นฝังเข็มลงไปบริเวณขมับของฝูรั่วซี
ฝูรั่วซีลืมตาขึ้นทันที เขาสูดหายใจเข้าปอดลึก สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาไม่ใช่เพดานสูงและดำในคุกศาลต้าหลี่ เขาตะลึงไปชั่วขณะ หันไปมองจึงเห็นไป๋ชิงเหยียนยืนเอามือไขว้หลังอยู่ข้างเตียงของเขา
ฝูรั่วซีใช้มือข้างหนึ่งหยัดกายขึ้นจากเตียง กวาดสายตามองไปยังหลูผิงและสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างไป๋ชิงเหยียน จากนั้นหยุดสายตาอยู่ที่หมอชราที่กำลังเก็บเข็มทองของตัวเอง “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว…”
ฮองเฮาเป็นคนส่งคนมาสังหารเขาในคุกศาลต้าหลี่ไม่ใช่หรือ หรือว่าจะเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วกันแน่
ท่ามกลางแสงไฟในห้องรับรอง แววตาเย็นชาและลึกล้ำของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางฝูรั่วซีนิ่ง จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ “ท่านไม่ต้องคาดเคา ฮองเฮาส่งคนไปสังหารท่านในคุกจริงๆ คนของข้าถึงมีโอกาสช่วยท่านออกมา”
ฝูรั่วซีตกตะลึง “ทว่า องค์หญิงเจิ้นกั๋วช่วยกระหม่อมออกมาเช่นนี้ คนในตระกูลฝูคงเดือดร้อนทั้งตระกูล…”
ฝูรั่วซีอยากลุกขึ้นมาจากเตียง ทว่า เขากลิ้งตกลงมาจากเตียง เขาจับขอบเตียงแล้วก้มศีรษะคำนับแนบพื้น “องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดส่งกระหม่อมกลับไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
“ไม่เลว ยังรู้จักคิดถึงชีวิตของคนในตระกูลฝู ถือว่าการตายของฝูเหล่าไท่จวินไม่เสียเปล่า” ไป๋ชิงเหยียนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าฝูรั่วซี โน้มกายพยุงเขาให้ลุกขึ้น จากนั้นกล่าวขึ้น “ในเมื่อแม่ทัพฝูเป็นห่วงความปลอดภัยของตระกูลฝู ข้าจะให้โอกาสแม่ทัพฝูทำดีไถ่โทษอีกครั้ง บางทีครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยชีวิตคนทั้งตระกูลฝูเอาไว้ได้ อาจช่วยชีวิตท่านได้ด้วย”
ดวงตาของฝูรั่วซีไหววูบ มือที่เหลือเพียงข้างเดียวกำแน่น ขบกรามแน่น เขากล่าวโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “องค์หญิงเจิ้นกั๋วเชิญรับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”
[1] ยามโฉ่ว เวลาระหว่าง 01.00-03.00 นาฬิกา
[2] ยามอิ๋น เวลาระหว่าง 03.00-05.00 นาฬิกา