สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 628 ด้านหลัง
ตอนที่ 628 ด้านหลัง
หลูผิงมองไปทางคุณหนูใหญ่ของตัวเองแวบหนึ่ง เมื่อเห็นคุณหนูใหญ่พยักหน้า เขาจึงพาองครักษ์ไป๋ถอยห่างออกไปสิบก้าว
เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน ดวงตาล้ำลึกของชายหนุ่มจ้องไปยังใบหน้างดงามเกลี้ยงเกลาของไป๋ชิงเหยียน เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการล่อทหารกองทัพหนานตูที่กำลังมุ่งหน้ามายังจวนไป๋ไปทางอื่น ดังนั้นสถานการณ์ของเจ้าจะอันตรายยิ่งกว่าจวนไป๋ มีคนปกป้องเจ้ามากขึ้นเท่าใด เจ้าก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ข้า คุณหนูเจ็ดไป๋และฮูหยินสองจะได้คลายกังวลลง ถ้าเจ้าไม่พาคนไปให้มากพอ หากเจ้าได้รับบาดเจ็บฮูหยินสองและคุณหนูเจ็ดไป๋จะไม่ร้อนใจอย่างนั้นหรือ”
ไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนกล่าวสิ่งใด เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวต่อขึ้นก่อน “หากเจ้าเชื่อใจข้า จงพาองครักษ์ลับไปทั้งหมด ข้าปกป้องฮูหยินสองและคุณหนูเจ็ดให้ปลอดภัย หากพวกเขาเป็นอันใดไปแม้แต่น้อย ข้าจะชดใช้ให้เจ้าด้วยชีวิต!”
ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าเมื่อนางล่อทหารจากไปทางอื่น จวนไป๋จะปลอดภัยมากขึ้น นางให้คนเฝ้าอยู่ที่จวนไป๋เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยเท่านั้น
เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่คิดปฏิเสธอีก “ให้องครักษ์ลับลอบติดตามข้าไป ท่านและเยว่สืออยู่ที่จวนไป๋ หากเกิดสิ่งใดขึ้นให้เยว่สือหรือลุงผิงรีบมารายงานข้าทันที!”
“เจ้าไม่ต้องห่วง!” เซียวหรงเหยี่ยนอยากรั้งไป๋ชิงเหยียนเข้ามากอด ทว่า มีคนมากมายกำลังจ้องมาทางพวกเขาเช่นนี้ เซียวหรงเหยี่ยนจะแสดงท่าทีล่วงเกินและทำลายชื่อเสียงของไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ ชายหนุ่มได้แต่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ไป๋โปรดระวังตัวด้วยขอรับ เหยี่ยนจะช่วยคุ้มครองจวนไป๋แทนคุณหนูใหญ่เองขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนไม่เคนเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้ใดมากเท่านี้มาก่อน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าสตรีที่เขาหลงรักจะออกไปเสี่ยงอันตรายในด่านหน้า ส่วนตัวเขาทำได้เพียงมองอย่างกังวลอยู่ด้านหลังเช่นนี้
ไป๋ชิงเหยียนโค้งคำนับเซียวหรงเหยี่ยนเช่นเดียวกัน “เช่นนั้นไป๋ชิงเหยียนขอฝากจวนไป๋ไว้กับเซียวเซียนเซิงด้วยนะเจ้าคะ!”
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า
“ลุงผิง…” ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางหลูผิง
หลูผิงรับคำพลางก้าวไปด้านหน้า “คุณหนูใหญ่รับสั่งมาได้เลยขอรับ”
“วันนี้ทุกคนในจวนไป๋จงฟังคำสั่งของเซียวเซียนเซิง คำสั่งของเขาคือคำสั่งของข้า ห้ามขัดขืนเด็ดขาด!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
หลูผิงมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอยากประหลาดใจแวบหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่จะฝากความปลอดภัยของจวนไป๋ไว้ที่เซียวหรงเหยี่ยน ทว่า ชายหนุ่มคือผู้มีพระคุณของตระกูลไป๋ หลูผิงมองออกว่าเซียวหรงเหยี่ยนเป็นคนมีแผนการและรอบคอบ ที่สำคัญชายหนุ่มเดินทางไปยังแคว้นต่างๆ ย่อมพบกันอันตรายและอุปสรรคมากมาย เขาเดินมาถึงทุกวันนี้ได้แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนมีความสามารถ
“หลูผิงน้อมรับคำสั่งขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนทำความเคารพหลูผิง
ไม่นาน มีคนมารายงานว่าแม่ทัพคนหนึ่งของกองทัพหนานตูพาทหารเข้ามาใกล้ซอยของจวนไป๋แล้ว
ถนนของเมืองหลวงในวันนี้ว่างเปล่า ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆหนาทึบ ดูหม่นหมองมาก
ไป๋ชิงเหยียนหันไปมององครักษ์ไป๋สิบคนที่ชูคบเพลิงสูง หญิงสาวยืนกำหมัดคาราวะทุกคนอยู่บนบันไดสูง “วันนี้รบกวนทุกท่านออกไปเสี่ยงอันตรายกับไป๋ชิงเหยียนด้วย!”
“ยินดีติดตามรับใช้คุณหนูใหญ่จนตายขอรับ!”
“ยินดีติดตามรับใช้คุณหนูใหญ่จนตายขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จับดาบที่เอวแน่น กล่าวเสียงเคร่งขรึม “เปิดประตู!”
องครักษ์เฝ้าประตูของจวนไป๋เปิดประตูใหญ่สีแดงเคลือบทองออก องครักษ์ไป๋ซึ่งถือคบเพลิงเดินออกจากจวนเป็นกลุ่มแรกแล้วก้าวขึ้นไปบนหลังม้า ไป๋ชิงเหยียนเดินตามออกไปจากจวนอย่างไม่รีบร้อน
เซียวหรงเหยี่ยนที่ยืนอยู่กลางลานหญ้ากำหมัดแน่น เขามองดูเสื้อคลุมกันลมของไป๋ชิงเหยียนที่สยายตามแรงลมนิ่ง รู้สึกเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา
เสียงเกือกม้าและเสียงกระทบกันของชุดเกราะของบรรดาทหารยามเคลื่อนไหวไปบนพื้นดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางถนนสายยาวที่ว่างเปล่า ดูน่าหวั่นเกรงยิ่งนัก
เยว่สือได้ยินเสียงนั้นจึงมองไปนอกกำแพง จากนั้นหันกลับไป๋มองไป๋ชิงเหยียนที่มีสีหน้าสงบนิ่งและหนักแน่นอย่างเป็นห่วง
เซียวหรงเหยี่ยนกำหมัดแน่น มองร่างที่สูงโปร่งและผอมเพรียวของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวเสียงรอดไรฟัน “ปิดประตู!”
ประตูสองข้างของจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วถูกปิดสนิท เซียวหรงเหยี่ยนหันไปทางหลูผิง น้ำเสียงทุ้มกล่าวสั่งอย่างรวดเร็วและรีบร้อน “รบกวนองครักษ์หลูสั่งให้บ่าวรับใช้ขนเหล้าที่มีอยู่ทั้งหมดในจวนมาเตรียมพร้อมไว้ด้วย เรียกตัวองครักษ์ไป๋ที่มีฝีมือในการยิงธนูมาที่นี่ครึ่งหนึ่ง ผู้ใดถนัดการต่อสู้ระยะประชิดตัวให้ไปคุ้มกันอยู่ด้านนอกเรือนของฮูยินสองและคุณหนูเจ็ด ให้บ่าวรับใช้ที่ร่างกายแข็งแรงและมีพละกำลังมากคุ้มกันอยู่ที่ลานหญ้าของเรือน ปิดประตูเรือนให้แน่นหนา พลธนูประจำอยู่บนกำแพง บัดนี้ไม่ต้องคำนึงถึงความแต่งต่างระหว่างชายหญิง องค์รักษ์ที่มีฝีมืออยู่คุ้มกันในห้องสักสองสามคน คุ้มกันประตูไว้ให้ดี!”
หลูผิงได้ยินเซียวหรงเหยี่ยนจัดการเรื่องทุกอย่างอย่างมีระเบียบแบบแผนจึงเลิกคิ้วสูง ในใจเริ่มเกิดความสงสัย
แม่ทัพเสี่ยงหวังขี่ม้าอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน เขามองเห็นแต่ไกลว่ามีองครักษ์ขี่ม้าชูคบเพลิงสูงอยู่หน้าจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว มีร่างของสตรีในชุดนักรบเกราะสีเงินสะพายธนูเซ่อรื้อไว้ทางด้านหลัง เกราะสีเงินสะท้อนกับแสงไฟจากคบเพลิงให้ความรู้สึกเยือกเย็นขึ้นมาทันที
แม่ทัพเสี่ยวหวังลอบสบถอยู่ในใจ เขาชักดาบออกมาจากเอว ตะโกนลั่น “ซิ่นอ๋องมีรับสั่ง ผู้ใดสังหารองค์หญิงเจิ้นกั๋วได้ มอบเงินรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงและบรรดาศักดิ์ให้! อย่าให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วหนีไปได้เป็นอันขาด บุก!”
สิ้นเสียง บรรดาทหารต่างฮึกเหิมขึ้นมาทันที พากันตะโกนกึกก้อง
“สังหารองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ลุย!”
“สังหาร!”
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเสียงตะโกนว่าต้องการสังหารนางของทหารดังใกล้เข้ามาเรื่อย หญิงสาวไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย หยิบธนูเซ่อรื้อออกมา ควบม้าด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหยิบลูกธนูออกมาจากกระบอกทางด้านหลัง จากนั้นหันกลับไปมองแม่ทัพเสี่ยวหวังด้วยแววตาเย็นชาสงบนิ่ง แม้ยังไม่ได้เข้าไปใกล้ ทว่า ไอสังหารแผ่ไปถึงแล้ว สายตาเยือกเย็นราวกับลมพายุในฤดูหนาวและน้ำค้างแข็ง
หญิงสาวปล่อยธนูออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
แม่ทัพเสี่ยวหวังยังไม่ทันได้สติ ลูกธนูพุ่งผ่านคบเพลิงขององครักษ์ไป๋ ลูกธนูติดไฟพุ่งทะลุเกราะเงินของแม่ทัพเสี่ยวหวัง ทะลุผ่านไหปลาร้าของชายหนุ่มไป
แม่ทัพเสี่ยวหวังร้องออกมาอย่างเจ็บปวด กระตุกบังเหียนในมืออย่างแรงจนม้าร้องออกมาอย่างหงุดหงิด ม้าชูข้าทั้งสองข้างขึ้นกลางอากาศจนแม่ทัพเสี่ยวหวังเกือบพลัดตกลงมาจากหลังม้า เขารีบใช้มือทั้งสองข้างกำบังเหียนไว้แน่น ควบคุมม้าให้สงบลง จากนั้นเงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่ควบม้าจากไปไกลแล้ว
แม่ทัพเสี่ยวหวังไม่มีเวลาสนใจบาดแผลจากธนูบริเวณไหปลาร้าที่เจ็บจนชาไปครึ่งร่าง เขารู้เพียงว่าจะปล่อยให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วออกจากเมืองไปไม่ได้เด็ดขาด เขาตะโกนลั่น “ตาม! ห้ามให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วออกจากเมืองไปได้เด็ดขาด ครึ่งหนึ่งตามข้ามา อีกครึ่งไปดักรอที่ประตูทิศตะวันออก!”
กล่าวจบ แม่ทัพเสี่ยวหวังควบม้าจากไปทันที
กองทัพหนานตูถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขารีบแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งตามแม่ทัพเสี่ยวหวังไปไล่ตามไป๋ชิงเหยียน อีกกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าไปยังประตูทิศตะวันออกเพื่อดักสังหารไป๋ชิงเหยียนที่นั่น
ทหารที่แม่ทัพเสี่ยวหวังพามาทั้งหมด มีเพียงหัวหน้าทหารเท่านั้นที่ขี่ม้า ทหารที่เหลือล้วนเดินเท้า พวกเขาจะไล่ตามไป๋ชิงเหยียนและองครักษ์ไป๋ที่ขี่ม้าทันได้อย่างไรกัน
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินดังนั้นจึงหันไปสั่งองครักษ์ไป๋ข้างกายของตัวเอง “เจ้าอ้อมซอยด้านหน้าวกกลับไปสังเกตการณ์ประตูทิศตะวันออกไว้ หากมีความเคลื่อนไหวรีบมารายงานทันที!”
“ขอรับ!” องครักษ์ไป๋รับคำ จากนั้นหันหลังกลับ ทิ้งม้าแล้วปีนกำแพงไปยังจวนอื่น
เซียวหรงเหยี่ยนที่ยืนอยู่กลางลานหญ้าของจวนไป๋เห็นแสงไฟจากคบเพลิงและเสียงฝีเท้าไล่ติดตามไป๋ชิงเหยียนไปจนหายลับไปจากซอยของจวนไป๋